สิกขัง ปัจจักขามิ คีหีติ มัง ธาเรถะ
#1
โพสต์เมื่อ 20 February 2010 - 09:15 PM
หยาดน้ำตาสุดกลั้นปล่อยให้ไหล
พระอาจารย์ดึงสังฆาฎิออกจากกาย
แสนเสียดายแต่จำใจต้องอำลา
ด้วยเวลาขอมาบวชครบกำหนด
สุดรันทดนึกถึงวันบวชครั้งหน้า
จะหาทางออกตำรวจบวชอีกครา
บวชครั้งหน้าบวชยาวๆให้สะใจ
ขอนิมนต์พระทุกรูปบวชรุ่นนี้
โปรดปราณีอยู่ต่ออย่าไปไหน
อยู่เป็นเนื้อนาบุญให้ชื่นใจ
อยู่เป็นร่มโพธิ์ไทรไทยร่มเย็น
ขอพระเดชคุณทุกรูปรับนิมนต์
อยู่คลายทุกข์ผองชนดับทุกเข็ญ
อยู่ดับร้อนฟื้นพระศาสน์ชาติร่มเย็น
ดุจจันทร์เพ็ญส่องสว่างกลางนภา
การมาบวชครั้งนี้สำคัญนัก
ทุกรูปคือเสาหลักพระพุทธศาสนา
คือที่พึ่งเนื้อนาบุญปวงประชา
คือทัพหน้าขุนรบพระนิพพาน
ทุกรูปคืออนาคตของโลกหล้า
ทุกรูปคือแหล่งเนื้อนาบุญไพศาส
คือความหวังสันติภาพแห่งจักรวาล
อยากให้บวชนานๆขอกราบอาราธนา
#2
โพสต์เมื่อ 20 February 2010 - 09:29 PM
ซึ้งมาก ๆ ไม่รู้จะพูดยังงัยเลยค่ะ
ซึ้งมาก ๆ จากหัวใจ
เราคงไปอยู่ที่ไหนแล้วไม่รู้
บาปใหม่ๆ คงทำไปเพราะขาดครู
บาปเก่าๆ ก็ไม่รู้จะแก้ไง
*ขอยืมจาก กลอนกลั่นใจ ของ tomorow *
#3
โพสต์เมื่อ 20 February 2010 - 09:49 PM
ที่กำลังแสวงหาสุขที่แท้จริง
คิดดีบ้าง ไม่ดีบ้างเคล้ากันไป
ใจสุดท้ายคิดว่า....สาธุอย่าสึกเลย
...........................................
น้องขอขอบพระคุณ คุณตำรวจรักบุญ เป็นอย่างสูง
.....หน่อเนื้อเขื้อไขแห่งธรรมกาย..............
คงไปขยายร่มโพธิ์ให้เมืองลพบุรี ให้ความร่มเย็นสงบสุขเกิดที่นั่น
.............................................................................
สาธุ (ด้วยความเหงา)
#4
โพสต์เมื่อ 20 February 2010 - 10:11 PM
#5
โพสต์เมื่อ 21 February 2010 - 04:53 AM
หยาดน้ำตาสุดกลั้นปล่อยให้ไหล
พระอาจารย์ดึงสังฆาฎิออกจากกาย
แสนเสียดายแต่จำใจต้องอำลา
ชอบท่อนนี้มากครับ ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยนะครับ :-) สาธุ สาธุ
"ตรึกในจิตกลางดวงใสที่่ชัดแจ่ม ใจขอแน่วแน่ตั้งจิตอธิฐาน
บวชครั้งหน้าข้าขอตั้งปฎิธาน ผ้าผืนพานผืนสุดท้ายในภพเอย"
#6
โพสต์เมื่อ 21 February 2010 - 11:19 AM
"อัสสุชลรินไหลอาบใบหน้า
หยาดน้ำตาสุดกลั้นปล่อยให้ไหล
พระอาจารย์ดึงสังฆาฎิออกจากกาย
แสนเสียดายแต่จำใจต้องอำลา"
ก็ขออนุโมทนาบุญ กับพี่ตำรวจรักบุญ ที่ได้เคยห่มครองผ้ากาสาวพัตร รักษาศีลพระวินัย ๒๒๗ ข้อ ให้เป็น พระแท้
และผมก็เข้าใจทันทีเลยว่า ทำไม...ทำไม๊...พระที่บวชวัดพระธรรมกาย ทำไม...ถึง บวช แล้ว ไม่ค่อยสึกกันเลย เข้าใจจริง ๆ เลยครับ
เพราะ เนื้อนาบุญในวงบุญหมู่คณะ มีหน้าที่อันยิ่งใหญ่ ที่จะสร้างสันติสุขภายในสู่มหาชนทั่วโลก
สา...ธุ และขออนุโมทนาบุญด้วย ผมอธิฐานจิตทุกครั้งที่ทำบุญ ขอให้ผมได้บวชอีกครั้ง และครั้งหน้า...จะอยู่ไปยาววววววววเลยครับ
#7
โพสต์เมื่อ 21 February 2010 - 12:45 PM
หยาดน้ำตาสุดกลั้นปล่อยให้ไหล
พระอาจารย์ดึงสังฆาฎิออกจากกาย
แสนเสียดายแต่จำใจต้องอำลา
ดลใจ...เพราะเคยผ่านเหตุการณ์นี้มาเมื่อปี พ.ศ.2528
#8
โพสต์เมื่อ 21 February 2010 - 01:52 PM
กราบอนุโมทนาบุญงามกับ นรอ ตำรวจรักบุญ ด้วยนะครับ
#9
โพสต์เมื่อ 21 February 2010 - 04:18 PM
#10
โพสต์เมื่อ 21 February 2010 - 09:01 PM
#11
โพสต์เมื่อ 21 February 2010 - 09:58 PM
กับการบวชครั้งประวัติศาสตร์
แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ...แต่บุญกุศลที่
บังเกิดขึ้นไม่น้อยแน่นอนครับพี่ตำรวจ
สา........ธุ
ถ้าอยากได้"จริง"จะได้...แต่ตอนจะได้ไม่"อยาก"
#12
โพสต์เมื่อ 21 February 2010 - 10:37 PM
#14
โพสต์เมื่อ 21 February 2010 - 11:56 PM
ตอบลาสิกขาต้อง ปลงอาบัติ กล่าวคำ ลาสิกขา พระอาจารย์ดึงสังฆาฏิ
ผมเองน้ำตาซึมตั้งแต่กล่าวลาสิกขาแล้วละครับ
ขอร่วมอนุโมทนาบุญในบุญบวชของเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ
#15
โพสต์เมื่อ 22 February 2010 - 11:19 AM
#16
โพสต์เมื่อ 22 February 2010 - 05:45 PM
#17
โพสต์เมื่อ 22 February 2010 - 07:27 PM
#18
โพสต์เมื่อ 06 March 2010 - 08:10 PM
เราพรางคนอื่นได้ แต่เราพรางตนเองไม่ได้
#19
โพสต์เมื่อ 08 March 2010 - 12:30 PM