ประพฤติ ผิดในกาม กับ ผิดในพรหมจรรย์
#2
โพสต์เมื่อ 09 July 2008 - 11:04 PM
ส่วนศีลข้อ3ในศีล8 ต่างกันคือให้งดเว้นจากกามเลยแม้จะเป็นเมียเราก็ตาม
#3
โพสต์เมื่อ 10 July 2008 - 08:31 AM
ศีลข้อ3ของศีล8 ประพฤติทางกามกับสามี-ภรรยาตัวเองไม่ได้แล้ว ทำเองด้วยตนเองก็ไม่ได้ด้วยครับ
#4
โพสต์เมื่อ 10 July 2008 - 10:27 AM
วิบากกรรมจะส่งผลรุนแรง แตกต่างกันอย่างไร?
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#5
โพสต์เมื่อ 10 July 2008 - 05:08 PM
เพราะเหมือนกับคำถามว่า ถ้าตั้งใจรักษาศีล 5 แล้วศีลขาด เทียบกับตั้งใจรักษาศีล 8 แล้วศีลขาด บาปรุนแรงเท่ากันหรือไม่ ตรงนี้เราอาจเห็นไม่ชัด งั้นผมเพิ่มคำถามไปอีกว่า แล้วถ้าตั้งใจรักษาศีล 5 หรือ 8 เทียบกับตั้งใจรักษาศีล 227 (บวชเป็นพระ) แล้วศีลขาด บาปรุนแรงเท่ากันหรือไม่
พอถึงตรงนี้ คงเห็นภาพชัดขึ้นนะครับว่า เป็นพระศีล 227 หากผิดศีล ย่อมบาปกว่า ชาวบ้านธรรมดา(ศีล 5) ที่ผิดศีล
ดังนั้น หากอุบาสก หรืออุบาสิกาศีล 8 ผิดศีล ย่อมบาปกว่า ฆราวาสธรรมดาผิดศีลครับ
#6
โพสต์เมื่อ 10 July 2008 - 05:15 PM
วิบากกรรมจะส่งผลรุนแรง แตกต่างกันอย่างไร?
ผมว่า..
อะไรที่ตั้งใจมาก ทำแล้วให้คุณ(ประโยชน์)มาก
อันนั้นแหล่ะ ระวังให้ดี อย่าให้พลาด ถ้าพลาด..
ก็โทษมหันต์ สวรรค์ปิด นรกเปิด เลยทีเดียว..
รบกวนท่านผู้รู้บอกถึงความแตกต่างในศีลข้อ ๓ ในการปฏิบัติเวลาถือศึล ๕ ปกติ กับ ถือศีล ๘ ครับ
ผมว่า..
ความแตกต่างคือ ขนาดของความตั้งใจในการรักษาศีล และอานิสงค์ผลบุญก็ได้รับแตกต่างกันด้วยครับ..
#8
โพสต์เมื่อ 11 July 2008 - 02:45 PM
พระเวลาทำบุญอะไรก็ได้บุญมากกว่าโยม
คนรักษาศีลแปดเวลาทำบุญย่อมได้บุญมากกว่าคนรักษาศีลห้า
เวลาทำบาป พระก็บาปมากกว่าโยม
คนรักษาศีลแปด เวลาทำบาปก็บาปกว่าคนรักษาศีล 5
ศีลแปดเป็นศีลจัดชุดคือต้องรักษาทั้งแปดข้อ ขาดข้อใดข้อหนึ่งก็ถือว่าขาดทั้งแปดข้อ และเมื่อรับศีลแล้วต้องรักษาจนกว่าจะถึงอรุณรุ่งของวันรุ่งขึ้นจึงจะถือว่าสมบูรณ์ ศีลแปดเป็นศีลของผู้นำ คนที่รักษาศีลแปดได้จะมีบารมีพิเศษที่สามารถนำพาหมู่คณะได้
แต่ศีลห้าเป็นศีลค้าปลีก คือ ให้รักษาเป็นข้อๆ ศีลขาดข้อใดก็ถือว่าขาดเฉพาะข้อนั้น เป็นเหมือนปราการศิลาป้องกันมิให้ตกต่ำจากความเป็นมนุษย์
สำหรับศีลของพระภิกษุและภิกษุนีจะมีความแตกต่างออกไป คือ จะมีศีลที่มีบทโทษแตกต่างออกไปตามชนิดความผิดเช่น
ถ้าภิกษุทำผิดศีลในกลุ่มปาราชิก4(ฆ่าคน,ลักทรัพย์,เสพเมถุนกับมนุษย์ผู้หญิง,ทำสังฆเภท)
ให้ถือว่าขาดจากความเป็นพระทันที หรืออาจกล่าวได้ว่า ศีลทั้ง227ข้อขาดหมด
ถ้าภิกษุกระทำความผิดในกล่มสังฆาทิเสส13(เป็นพ่อสื่อ,เสพกามกับอมนุษย์,ฯ) ให้อยู่ปริวาสกรรมจึงจะเป็นภิกษุต่อไปได้
ความผิดอื่นๆจะมีบทลงโทษที่เบากว่า ไปตามลำดับ
นอกจากนี้พระภิกษุ/ภิกษุนี ยังเป็นเหมือนสัญลักษณ์/ตัวแทนของพระพุทธศาสนา หากกระทำผิดศีลหรือทำสิ่งที่ไม่สมควรก็ทำให้ประชาชนไม่เลื่อมใสในพระศาสนาจึงเป็นบาปอีกอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกับการกระทำผิดนั้นๆด้วย
#9
โพสต์เมื่อ 11 July 2008 - 11:36 PM
ระหว่างคนที่รักษาศีลห้า กับคนธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้ตั้งใจรักษาศีลห้า ในกรณีที่ทำผิดนี่ จะบาปเท่ากันรึเปล่าคะ
#10
โพสต์เมื่อ 14 July 2008 - 12:31 PM
ในขณะที่ศีล 8 และศีล 227 ก็การพัฒนาตนเองให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ดังนั้น หากไม่ได้ตั้งใจรักษาศีล 8 หรือศีล 227 ย่อมสามารถผิดศีล 8 และ 227 ได้ ไม่มีปัญหาอะไร เช่น ไม่ได้คิดรักษาศีล 8 เย็นนี้ก็ทานข้าวปรกติ อย่างนี้ไม่มีปัญหาครับ
แต่แม้ไม่ได้ตั้งใจรักษาศีล 5 แต่ถ้ายุงกัด ตบผัวะให้มันตาย อย่างนี้ผิดศีล 5 ครับ
ดังนั้น หากจะถามว่า หากตั้งใจรักษา เทียบกับไม่ตั้งใจรักษา แล้วผิดศีล 5 อย่างนี้ต้องดูเ้ป็นกรณีๆ ไป ไม่แน่เสมอไปว่า ตั้งใจ จะบาปมากกว่า ไม่ตั้งใจครับ
เช่น แม่ตั้งใจรักษาศีล 5 แต่พอลูกป่วย หมอบอกต้องกินปลาถึงจะหาย ด้วยความรักลูก แม่จึงไปจับปลามาทำอาหารให้ลูก แม้รู้ว่าผิดศีล ก็จำใจทำ ผิดกับคนที่ตกปลา โดยที่ไม่ได้ตั้งใจรักษาศีล 5 เขาก็มีเจตนาฆ่าเต็มที่เลยก็มี (อย่างนี้ ไม่ตั้งใจ บาปกว่า ตั้งใจ)
กับอีกกรณี คนที่ไม่รู้เรื่องศีล 5 ก็เลยดื่มเหล้า ด้วยใจปรกติ เพราะเข้าใจว่า ไม่มีปัญหาอะไร ผิดกับคนเพิ่งเริ่มตั้งใจรักษาศีล 5 แต่อดเหล้าไม่ไหว จึงดื่มไปดื่มไป ด้วยจิตใจเศร้าหมองมากๆ ที่ตนผิดศีล อย่างนี้ก็มี (อย่างนี้ ตั้งใจ บาปกว่า ไม่ตั้งใจ เป็นต้น)