คือทวดเรามีเงินได้มา2ทางคือ1เล่นไพ่2.ลูกแกให้ แล้วอยากทราบว่าทวดเอาเงินไปเล่นไม่หมดแต่อยากทราบว่าถ้าทวดให้เงินเราแบบว่าเอาเงินเล่นไพ่ซัก50%เงินลูกแกซัก50%เอามาให้เราแต่เราไม่รู้ว่านี่เป็นเงินเล่นไพ่ หรือเป็นเงินที่ลูกแกให้ อย่างนี้หากเอาเงินจำนวนนี้มาทำบุญจะเรียกว่าวัตถุทานบริสุทธ์หรือไม่ครับ???
อย่างนี้ถือว่าเป็น วัตถุทานบริสุทธ์ รึป่าวครับ
เริ่มโดย usr23724, Jul 25 2008 10:55 AM
มี 10 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 25 July 2008 - 10:55 AM
#2
โพสต์เมื่อ 25 July 2008 - 12:34 PM
ไม่ว่าเงินนั้นจะได้มาอย่างไม่บริสุทธิ์บางส่วน หรือ ได้มาแบบไม่บริสุทธิ์ทั้งหมดเลย แต่หากนำมาให้เรา (โดยที่เราไม่รู้เลยว่า นี่คือ เงินไม่บริสุทธิื์) อย่างนี้ ถือว่า วัตถุบริสุทธิ์สำหรับเราครับ เพราะเราได้มาอย่างบริสุทธิ์ คือ เขาให้เรามา
แต่ถ้าเรารู้ แล้วยังยินดีรับเงินนั้น วัตถุไม่บริสุทธิ์ขึ้นมาทัีนทีครับ สำหรับเราู้
แต่ถ้าเรารู้ แล้วยังยินดีรับเงินนั้น วัตถุไม่บริสุทธิ์ขึ้นมาทัีนทีครับ สำหรับเราู้
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#3
โพสต์เมื่อ 25 July 2008 - 01:27 PM
ขอบคุณครับสาธุ
#4
โพสต์เมื่อ 25 July 2008 - 02:26 PM
อืม ขอถามคุณเจ้าของกระทู้นะครับ สมมุติว่าคุณเจ้าของกระทู้ไม่เคยมีรถมาก่อนและอยากได้รถมาไว้ใช้งานเป็นอย่างมาก แล้วอยู่ๆมีคนมายกรถมือ2ให้คุณเจ้าของกระทู้ โดยที่รถคันนั้นสภาพยังดีอยู่หรือใช้งานไม่ถึง10000กม.แต่เขาเคยนำไปใช้จนเปื้อนโคลนทั้งคันโดยที่คุณเจ้าของกระทู้ไม่ทราบมาก่อน ถามว่า เมื่อคุณเจ้าของกระทู้ได้รถคันนั้นมา คุณค่าของรถคันนั้นเปรียบเหมือนกับคุณเจ้าของกระทู้ได้รถคันใหม่ไหมครับ ผมมั่นใจว่าคุณเจ้าของกระทู้ต้องดีใจเหมือนได้รถคันใหม่แน่นอน ฉันใดฉันนั้น วัตถุทานแม้จะผ่านมือคนอื่นมาและไม่ว่าเขาจะนำไปใช้ทำอะไรมาบ้างโดยที่เราไม่รู้ เมื่อเขานำมาให้เราคุณค่าวัตถุทานนั้นก็จะเป็นของใหม่สำหรับเราเหมือนรถที่ว่านี่แหล่ะครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#5
โพสต์เมื่อ 25 July 2008 - 05:04 PM
ธนบัตรใบหนึ่ง ถูกนำไปซื้อยาเสพติด คนขายยาเสพติดนำไปซื้อข้าวกับแม่ค้า แม่ค้านำมาทอนให้เรา
เราได้ธนบัตรไปนั้นมาโดยบริสุทธิ์หรือไม่?
ลุงผมเป็นนักการเมือง มีคนนำเงินมาติดสินบน ท่านเอาเงินนั้นมาแจกลูกหลาน ลูกหลานผิดด้วยหรือไม่
เราได้ธนบัตรไปนั้นมาโดยบริสุทธิ์หรือไม่?
ลุงผมเป็นนักการเมือง มีคนนำเงินมาติดสินบน ท่านเอาเงินนั้นมาแจกลูกหลาน ลูกหลานผิดด้วยหรือไม่
#6
โพสต์เมื่อ 25 July 2008 - 05:11 PM
ไม่ทราบว่า คุณ feyhong ย้อนถามเจ้าของเคส หรือ ถามคนทั่วๆไปนะครับ แต่ถ้าถามคนทั่วๆไป ก็คือ เรา และลูกหลานไม่ผิดครับ หากไม่รู้
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#7
โพสต์เมื่อ 25 July 2008 - 06:48 PM
ที่มาของเงิน เป็นทางสุจริต วัตถุก็จะบริสุทธิ์
เหมือนของที่เปื้อนแล้วมาถูกโดนของอื่น ของอื่นก็พลอยเลอะไปด้วย ทั้งที่อย่างอื่นนั้นสะอาดอยู่แล้ว
อย่างเช่น ขนมตกพื้น แม่ค้าหยิบขึ้นมาใส่ถาดวางขายเหมือนเดิม ลูกค้าก็นึกกังวล ไม่ค่อยกล้าซื้อกับแม่ค้าเจ้านั้น
เพราะเมื่อทำบุญไปแล้ว ไม่อยากให้เกิดนึกแหนงแคลงใจด้วยว่าวัตถุไม่บริสุทธิ์ ใจจะร้อนรุ่ม ไม่ปิติเต็มที่
แต่ถ้าเคยทำบุญด้วยวัตถุต้องสงสัย(ว่าไม่บริสุทธิ์) อดีตผ่านมาแล้วก็แล้วกันไป ไม่ควรไปเฝ้านึกแล้วสงสัยหรือเสียดาย ลืมที่ไม่ดีทิ้งไป แล้วเริ่มใหม่ใสๆดีกว่า
เหมือนของที่เปื้อนแล้วมาถูกโดนของอื่น ของอื่นก็พลอยเลอะไปด้วย ทั้งที่อย่างอื่นนั้นสะอาดอยู่แล้ว
อย่างเช่น ขนมตกพื้น แม่ค้าหยิบขึ้นมาใส่ถาดวางขายเหมือนเดิม ลูกค้าก็นึกกังวล ไม่ค่อยกล้าซื้อกับแม่ค้าเจ้านั้น
เพราะเมื่อทำบุญไปแล้ว ไม่อยากให้เกิดนึกแหนงแคลงใจด้วยว่าวัตถุไม่บริสุทธิ์ ใจจะร้อนรุ่ม ไม่ปิติเต็มที่
แต่ถ้าเคยทำบุญด้วยวัตถุต้องสงสัย(ว่าไม่บริสุทธิ์) อดีตผ่านมาแล้วก็แล้วกันไป ไม่ควรไปเฝ้านึกแล้วสงสัยหรือเสียดาย ลืมที่ไม่ดีทิ้งไป แล้วเริ่มใหม่ใสๆดีกว่า
ขออนุโมทนาบุญนะคะ สาธุ
#8
โพสต์เมื่อ 26 July 2008 - 09:46 AM
แล้วถ้าเราสงสัยว่าจะเป็นเงินที่เล่นไพ่มาให้เราเพราะเมื่อคืนแกเล่นไพ่ชนะหละครับ
ปล.ก็จำนวนเงินที่ทวดเล่นชนะเท่ากับจำนวนเงินที่เอามาให้เรา
ปล.ก็จำนวนเงินที่ทวดเล่นชนะเท่ากับจำนวนเงินที่เอามาให้เรา
#9
โพสต์เมื่อ 26 July 2008 - 11:26 AM
ที่มีปัญหา ก็เพราะเรารู้ ที่มาของเงินแล้วสินะจ๊ะ
ก็ใจเรา บันทึกไปแล้ว ว่าที่มาของเงินน่าสงสัยจากการพนัน ที่เรารู้ว่าไม่บริสุทธิ์
ใจก็เลยไม่ค่อยสบายนัก แก้ยากจ้ะ ที่ว่าให้เลิกคิดไปเฉยๆ
เพราะไม่บริสุทธิ์จริงๆ
แก้ปัญหาอย่างนี้ดีไหม
ส่วนที่ท่านให้มา ถ้าอยากนำไปทำบุญ ขอบคุณท่านแล้ว ก็บอกท่านว่า ขอไปทำบุญให้ในชื่อท่านนะ
ถ้าท่านได้บุญอนุโมทนาโดยตรง เงินก็จะบริสุทธิ์ขึ้นบ้าง โดยเจตนาของผู้ให้เพิ่มเข้ามา
ส่วนตัวเราได้บุญทั้งโดยตรง และทางอ้อม
ส่วนบุญของเราเอง เราใช้เงินที่หามาสะอาดๆ ทำแทนดีกว่า
ใจเราก็จะปลื้มจากที่เราหามาได้ยากด้วย ได้ตัดความตระหนี่ให้หมดไปจากใจมากกว่า
ใจจะผ่องใสกว่า วัตถุบริสุทธิกว่า
ที่สำคัญ ทำแล้วให้ใจเรา สบาย ไว้เสมอ ใจจึงจะ ปลื้ม ได้
ก็ใจเรา บันทึกไปแล้ว ว่าที่มาของเงินน่าสงสัยจากการพนัน ที่เรารู้ว่าไม่บริสุทธิ์
ใจก็เลยไม่ค่อยสบายนัก แก้ยากจ้ะ ที่ว่าให้เลิกคิดไปเฉยๆ
เพราะไม่บริสุทธิ์จริงๆ
แก้ปัญหาอย่างนี้ดีไหม
ส่วนที่ท่านให้มา ถ้าอยากนำไปทำบุญ ขอบคุณท่านแล้ว ก็บอกท่านว่า ขอไปทำบุญให้ในชื่อท่านนะ
ถ้าท่านได้บุญอนุโมทนาโดยตรง เงินก็จะบริสุทธิ์ขึ้นบ้าง โดยเจตนาของผู้ให้เพิ่มเข้ามา
ส่วนตัวเราได้บุญทั้งโดยตรง และทางอ้อม
ส่วนบุญของเราเอง เราใช้เงินที่หามาสะอาดๆ ทำแทนดีกว่า
ใจเราก็จะปลื้มจากที่เราหามาได้ยากด้วย ได้ตัดความตระหนี่ให้หมดไปจากใจมากกว่า
ใจจะผ่องใสกว่า วัตถุบริสุทธิกว่า
ที่สำคัญ ทำแล้วให้ใจเรา สบาย ไว้เสมอ ใจจึงจะ ปลื้ม ได้
#10
โพสต์เมื่อ 26 July 2008 - 09:12 PM
- เป็นวัตถุทานบริสุทธิ์...เพราะที่มาของเงินคือทวดให้เรา(ด้วยความบริสุทธิ์ใจ...เอ็นดูเหลนรักน่ะ)
- กรอบของเราในฐานะผู้ให้...วัตถุทานบริสุทธิ์...เนื้อนาบุญเป็นผู้รับ
- กรอบของเราในฐานะผู้รับ...วัตถุทานบริสุทธิ์...ทวดท่านให้
- กรอบของทวดในฐานะเป็นผู้รับ...วัตถุทานบริสุทธิ์...ลูกท่านให้
- จึงไม่ควรนำไปคิดเชิงซ้อนหรือปนว่า...ทวดได้เงินมาจากอบายมุข50%+ลูก50%...เดี๋ยวใจหมอง
- ที่คุณอริย 072 แนะนำ...ดีแล้ว...สบาย+ปลื้ม
- กรอบของเราในฐานะผู้ให้...วัตถุทานบริสุทธิ์...เนื้อนาบุญเป็นผู้รับ
- กรอบของเราในฐานะผู้รับ...วัตถุทานบริสุทธิ์...ทวดท่านให้
- กรอบของทวดในฐานะเป็นผู้รับ...วัตถุทานบริสุทธิ์...ลูกท่านให้
- จึงไม่ควรนำไปคิดเชิงซ้อนหรือปนว่า...ทวดได้เงินมาจากอบายมุข50%+ลูก50%...เดี๋ยวใจหมอง
- ที่คุณอริย 072 แนะนำ...ดีแล้ว...สบาย+ปลื้ม
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC
#11
โพสต์เมื่อ 29 July 2008 - 12:09 PM
ถูกต้องแล้วครับ วิธีการได้มาของเงินนี้ คุณได้มาอย่างบริสุทธิ์ อย่าไปคิดถึงที่มาก่อนหน้านั้นให้กังวล นั่นมันเป็นกรณีเพื่อการพิจารณาการได้มาของคนก่อนหน้า