ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

คำว่า หนึ่งกัป


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 8 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ดุสิตาเทวบุตร

ดุสิตาเทวบุตร
  • Members
  • 213 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 July 2010 - 10:41 PM

ในความเข้าใจของผม 1กัป มี4อสงไขย 1อสงไขย มี64อัตรกัป 1อันตรกัปคือระยะเวลาที่มนุษย์มีอายุมากสุด ลดจนเหลือ10ปี แล้วเพิ่มขึ้นจนมีอายุมากสุดอีกครั้ง




....ระยะเวลาที่มนุษย์มีอายุมากสุด คือ 10ยกกำลัง1000000...(เลขศูนย์140ตัว) ทุก100ปีลด1ปี.....


ทั้งหมดนี่ผมเข้าใจถูกไหมครับ

แสดงว่า กัปมากกว่าอสงไขย แต่ทำไมครูไม่ใหญ่ถึงว่า "ยี่สิบอสงไขยกับเศษแสนมหากัป"

ทำไมใช้คำว่า"เศษ"ครับ

#2 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 03 July 2010 - 10:27 AM

คำว่า กัป,มหากัป คือ ระยะเวลา , ช่วงเวลาหนึ่งถึงอีกช่วงเวลาหนึ่ง
เช่น ระยะเวลาตั้งแต่โลกหรือจักรวาลก่อตัวขึ้น ตั้งอยู่ มีสิ่งมีชีวิต สรพพสัตว์อาศัยอยู่ได้ ถึงกาลสลายไป

ส่วน คำว่า อสงไขย คือ หน่วยนับ เช่น หนึ่ง สิบ ร้อย ... ล้าน โกฏิ .... อสงไขย
ซึ่งคัมภีร์และอรรถกถาจารย์ ขยายความให้พอทราบพอสังเขปว่า
๑ อสงไขย = ๑๐ คูณ ๑๐ ยกกำลัง ๑๔๐ หรือ (10^140)

ดังนั้นการเทียบว่า กัป,มหากัป มากกว่า/น้อยกว่า , สั้น/ยาวกว่า อสงไขย นั้น ยังไม่ถูกต้องครับ

ส่วนความเข้าใจว่า

QUOTE
1 อันตรกัปคือระยะเวลาที่มนุษย์มีอายุมากสุด ลดจนเหลือ10ปี แล้วเพิ่มขึ้นจนมีอายุมากสุดอีกครั้ง

ถูกต้องแล้วครับ

ส่วนคำว่า เศษ นั้น
บางพระสูตร ใช้คำว่า กำไร
เช่น ๒๐ อสงไขย กำไรแสนกัป(มหากัป) หรือ ๒๐ อสงไขยกับเศษแสนมหากัป

ความหมายก็คือ การสร้างบารมียาวนาน ๒๐ อสงไขย ของพระบรมโพธิสัตว์แบบปัญญาญิกพุทธเจ้า
ก็มากพอที่จะตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณเองโดยชอบ ได้แล้ว

ส่วนที่เกินมาอีก แสนมหากัป นั้น
อุปมาเหมือน เป็นเสบียงไว้เผื่อแผ่พุทธสาวก สาวิกา รุ่นหลัง ๆ

เช่น สร้างทานบารมี ๒๐ สองไขย ก็พอสำเร็จโพธิญาณแล้ว
แต่อีกเศษ หรือ กำไรอีก แสนมหากัป ท่านสร้างไว้เผื่อพุทธสาวก

ยกตัวอย่าง
ภิกษุในหลังพุทธกาล เช่นยุคเรานี้ แม้ยังไม่มีคุณวิเศษ คุณธรรม สร้างคุณประโยชน์อะไรมากนัก
แต่ด้วยพระพุทธคุณ ๙ และผ้ากาสาวพัตร์ที่ครองไว้ ก็ทำให้มีคนมาใส่บาตร ด้วยความนอบน้อม

ลองนึกดูนะครับว่า
ระหว่าง ชายทั่วไป เดินผ่านมา หรือ ยืนขออาหาร จะมีสักกี่คน ที่เชื้อเชิญให้รับอาหาร
กับ ชาย(ภิกษุ ,สามเณร) ที่ครองผ้าสากาสาวพัตร์ เดิน(บิณฑบาต) ผ่านมา จะมีกี่คน เชื้อเชิญให้รับอาหาร
ซึ่งแน่นอนว่า ใครอยากให้(ใส่บาตร,ถวายภัตตาหาร) แก่ภิกษุ , สามเณร มากกว่า
จริงไหมครับ

นี่ก็เป็นอานิสงส์แห่งทานบารมี ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงบำเพ็ญไว้มาก กำไรแสนมหากัป
จึงเผื่อแผ่มาถึง พุทธสาวกในรุ่นหลัง ๆ ทุกวันนี้ได้

ลองค้นคว้า ศึกษา เรื่อง กัป มหากัป อสงไขย พระสูตรต่าง ๆ หรือ วิชาจักวาลวิทยา ของ DOU ก็ได้ครับ
จะเข้าใจภาพรวมมากขึ้น

http://main.dou.us/v...ent.php?s_id=73

http://main.dou.us/l...nt.php?id_mag=5

http://main.dou.us/v...?s_id=57&page=1

***

ป.ล. ๑

กัปปสูตร
ว่าด้วยอสงไขย ๔ แห่งกัป
[๑๕๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อสงไขย (คือระยะกาลที่นานนับไม่ได้)
แห่งกัป ๔ นี้ อสงไขย ๔ เป็นไฉน คือ
๑. สังวัฏกัป คือระยะกาลเมื่อกัปเสื่อม ยากที่จะนับว่าเท่านั้นปี
เท่านั้นร้อยปี เท่านั้นพันปี หรือเท่านั้นแสนปี
๒. สังวัฏฏัฏฐายีกัป คือระยะกาลเมื่อกัปอยู่ในระหว่างพินาศก็ยาก
ที่จะนับว่าเท่านั้นปี เท่านั้นร้อยปี เท่านั้นพันปี หรือเท่านั้นแสนปี
๓. วิวัฏกัป คือระยะกาลเมื่อกัปกลับเจริญ ก็ยากที่จะนับว่าเท่านี้ปี
เท่านั้นร้อยปี เท่านั้นพันปี หรือเท่านั้นแสนปี
๔. วิวัฏฏัฏฐายีกัป คือระยะกาลเมื่อกัปอยู่ในระหว่างเจริญ ก็ยากที่
จะนับว่าเท่านั้นปี เท่านั้นร้อยปี เท่านั้นพันปี หรือเท่านั้นแสนปี
ภิกษุทั้งหลาย นี้แล อสงไขย ๔ แห่งกัป.

อสงไขย ที่มีเบื้องปลายอันใคร ๆ ตามไปไม่รู้
มี ๔ คือ หมู่สัตว์ ๑ อากาศ ๑ จักรวาลที่ไม่มีที่สุด ๑
พระพุทธญาณ ที่ประมาณมิได้ ๑ อสงไขยเหล่านั้น
ใคร ๆ ก็ไม่อาจรู้ได้.

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิกาต เล่มที่ ๒

ป.ล. ๒
จากหนังสือชื่อ ศาสตร์ว่าด้วยการเป็นพระพุทธเจ้า (มุนีนาถทีปนี)
โดย พระเทพมุนี วิลาส ญาณวโร
(ตำแหน่งสุดท้ายที่ พระพรหมโมลี ,อดีตเจ้าอาวาสวัดยานนาวา กรุงเทพฯ)


ขยายความ คำว่า อสงไขย

ในที่นี้ หมายถึง การนับจำนวนของมหากัป เป็นอสงไขย


ดังนั้น
๒o อสงไขย + ๑oo,ooo มหากัป
จึงเท่ากับ ๒o อสงไขยมหากัป + ๑oo,ooo มหากัป


หรือที่เรียกกันว่า มีเศษ / มีกำไรอีก ๑oo,ooo มหากัป

ป.ล. ๓

อุคฆฏิตัญญูโพธิสัตว์ บำเพ็ญบารมีเพื่อตรัสรู้เป็น พระปัญญาธิกพุทธเจ้า
ใช้เวลา ๒o อสงไขย(มหากัป) + ๑oo,ooo มหากัป

วิปจิตัญญูโพธิสัตว์ บำเพ็ญบารมีเพื่อตรัสรู้เป็น พระสัทธาธิกพุทธเจ้า
ใช้เวลา ๔o อสงไขย(มหากัป) + ๑oo,ooo มหากัป

ไนยโพธิสัตว์ บำเพ็ญบารมีเพื่อตรัสรู้เป็น พระวิยิยาธิกพุทธเจ้า
ใช้ระยะเวลา ๘o อสงไขย(มหากัป) + ๑oo,ooo มหากัป


QUOTE
พระปัจเจกพุทธเจ้า บำเพ็ญบารมี อสงไขย + แสนมหากัป
พระอัครสาวก บำเพ็ญบารมี อสงไขย + แสนมหากัป
พระอสีติมหาสาวก บำเพ็ญบารมี แสนมหากัป
ในระดับพระอรหันตสาวกตามปกติ จะไม่มีระยะเวลาการบำเพ็ญบารมีระบุไว้

ที่มา By นักเรียนอนุบาล hk_girlza

: http://www.dmc.tv/fo...showtopic=14284


กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
ความหมาย ของ อสงไขย , กัป , มหากัป
http://dmc.tv/forum/...?showtopic=7848


ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#3 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 July 2010 - 04:03 PM

ผมเข้าใจว่า
20อสงไขยเศษแสนมหากัป=20อสงไขยมหากัป(มหากัปx(10^140))+100,000มหากัป

#4 จีวร

จีวร
  • Members
  • 149 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 July 2010 - 09:59 PM

อ่า สาธุคับ

#5 มองอย่างแมว

มองอย่างแมว
  • Members
  • 722 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:NYC

โพสต์เมื่อ 04 July 2010 - 07:53 AM

ผมว่าที่ทำให้ จขกท สับสนก็เพราะว่า

1 มหากัป มี 4 "อสงไขยกัป"

มันมาสับสนกับคำว่า อสงไขย ที่เป็นหน่วยนับกับ "กัป" (เป็นที่เรียกกับย่อๆของ มหากัป)

จขกท
1 มหากัป (ระยะเวลา) มีค่าเท่ากับ 4 "อสงไขยกัป" (ระยะเวลา)

คุณครูไม่ใหญ่
20 อสงไขย (จำนวน) กับแสน มหากัป(ระยะเวลา)

สรุปแล้วมันงงตรงคำว่า อสงไขยกัป มันอาจจะแปลได้สองอย่างขึ้นอยู่กับว่า "อสงไขยกัป" ที่เป็็นคำๆเดียว
หรือ อสงไขยกัป ที่เป็นสองคำคือ อสงไขย + (มหา)กัป
"ฉุดมันเอาไว้ หยุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันรวนเร ต้องหยุดนิ่งสุดใจ หยุดมันเอาไว้ ฉุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันซวนเซ ต้องฉุดให้ใจหยุด"
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)

#6 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 06 July 2010 - 12:48 PM

ถ้าลองเปรียบเทียบกับสิ่งที่เข้าใจได้ง่ายๆ อาจจะช่วยให้หาย งง ได้กระมังครับ

1 มหากัป มากกว่า 1 กัป(เฉยๆ) เพราะ มหากัป มี 4 อสงไขยกัป
1 อสงไขยมหากัป เลยมากกว่า 1 อสงไขยกัป(เฉยๆ)

เหมือน 1 บาท ย่อมมาก 1 สตางค์
1 ล้านบาท ย่อมมากกว่า 1 ล้านสตางค์ เป็นต้น
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#7 Love Boon

Love Boon
  • Members
  • 176 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 06 July 2010 - 06:41 PM

สุดยอดมากๆเลย ชาวdmc เก่งๆกันทั้งนั้นเลย
แต่เอ่อ แบบว่าข้าพเจ้า งง งง มึน มึน ค่ะ

#8 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 07 July 2010 - 05:16 PM

คือ อย่างนี้ครับ คุณเลิฟบุญ

ปรกติแล้ว มหากัป หนึ่ง ก็คือ ระยะเวลาที่โลกเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และแตกทำลายไป แบ่งเป็น 4 ช่วงได้แก่
1. วิวัฏฏะอสงไขยกัป ได้แก่ ระยะเวลาที่โลกเริ่มถูกทำลาย
2. วิวัฏฏะฐายีอสงไขยกัป ได้แก่ ระยะเวลาที่โลกถูกทำลายเรียบร้อยแล้ว
3. สังวัฏฏะอสงไขยกัป ได้แก่ ระยะเวลาที่โลกใหม่ก็ฟอร์มตัวเกิดขึ้น
4. สังวัฏฏะฐายีอสงไขยกัป ได้แก่ ระยะเวลาที่โลกเจริญ มีสิ่งมีชีวิตมาบังเกิดขึ้นบนโลก

นักวิชาการบางท่าน ก็เลยพูดย่อๆ ว่า 1 มหากัป เท่ากับ 4 อสงไขยกัป
เพราะมีคำว่า อสงไขยกัปอยู่ใน 4 ส่วนของ มหากัป นี่เอง ทำให้หลายคน งง

เนื่องจาก คำว่า อสงไขย มีการนำไปใช้ในอีกความหมายหนึ่ง คือ หมายถึง ล้านล้านล้าน....(พูดคำว่าล้านไป 23 ครั้ง)...
เช่น อสงไขยบาท หมายถึง เงินจำนวน ล้านล้านล้าน...(พูดคำว่าล้านไป 23 ครั้ง)...ล้านบาท
หรือ อสงไขยวินาที หมายถึง ระยะเวลา ล้านล้านล้าน...(พูดคำว่าล้านไป 23 ครั้ง)...ล้านวินาที

อสงไขยมหากัป ก็เลยหมายถึง ล้านล้านล้าน....(พูดไป 23 ครั้ง)...ล้านมหากัป หรือ โลกเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป อสงไขยครั้ง นั่นเอง
ดังนั้น หากได้ยินคำว่า พระพุทธเจ้าสร้างบารมี ยี่สิบอสงไขย กำไรแสนมหากัป ย่อมหมายถึง สร้างบารมี ยี่สิบอสงไขยมหากัป รวมเศษเข้าไปอีก แสนมหากัป นั่นเองครับ

คล้ายๆ กับคำว่า 20 ล้าน 1 แสนบาท นั่นแหละครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#9 usr36801

usr36801
  • Members
  • 1 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 September 2010 - 05:49 PM

๑ อสงไขย = 10140 (สิบยกกำลังร้อยสี่สิบ)

100,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000

อ่านเป็นภาษาไทยว่า
ร้อยล้านล้านล้านล้านล้านล้านล้านล้านล้านล้านล้านล้านล้านล้านล้านล้านล้านล้านล้าน
(ร้อย + ล้าน ๒๓ คำ)