การปฏิบัติธรรม และการ ดูดวง
#1
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 10:41 AM
และในขณะเดียวกันคนผู้นั้นก็เป็นผู้ที่มีศีลธรรม และปฏิบัติธรรมอย่างสม่ำเสมอ จึงอยากทราบว่า การปฏิบัติธรรม และ เรียนวิชาดูดวง พยากรณ์ จะมีความขัดแย้งกันหรือไม่ (ครูไม่ใหญ่เคยพูดถึงหรือป่าวครับ) ที่ถามมา ก็ทราบดีครับ ว่าการดูดวงเป็นเรื่องศิลป์และสถิติ ไม่ควรไปยึดติดอะไรมากมาย แต่ผู้ปฏิบัติธรรม หรือคนจำนวนไม่น้อย ก็ยังมีความสนใจ ยังมีความอยากรู้เรื่องอนาคตของตนเองอยู่ (หรือว่าไม่จริง)
#2
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 11:05 AM
แต่ที่ยังดูดวงอยู่ ก็คิดว่าน่าจะเป็นคนที่ยังไม่เข้าใจว่าเบื้องหลังของชีวิตนั้นขึ้นอยู่กับบุญและบาปมากกว่า ก็เลยเอาดวงเป็นที่พึ่ง แล้วก็ไม่ยอมทำอะไร รอให้บุญหล่นทับ
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#3
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 11:56 AM
#4
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 12:36 PM
#5
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 01:13 PM
เมื่อปฏิบัติธรรมได้ดีในระดับหนึ่ง ฤทธิ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นเอง (ie หูทิพย์, ตาทิพย์)
แต่คุณครูท่านไม่ให้ไปติดและไปสนใจ เพราะจะทำให้ผลการปฏิบัติธรรมไม่ก้าวหน้า.
ฉนั้นเรื่องดูดวง... เราก็นั่งหลับตาดูดวงบุญในตัวเรากันดีกว่า
#6
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 02:17 PM
ัมันก็ไม่ได้ขัดแย้งกันหรอกนะ เพียงแต่มันไปด้วยกันค่อนข้างยาก อย่างที่คุณ Niwat กล่าวไว้น่ะแหล่ะค่ะ "จะทำให้ผลการปฎิบัติธรรมไม่ก้าวหน้า"
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#7
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 04:14 PM
แม้ผู้ที่มีศีล ผู้ที่ปฎิบัติธรรม ไปเรียนวิชาดูดวง ถึงจะนำไปใช้โดยสุจริต แต่ก็จะมั่นใจได้อย่างไร วิชาที่เรียนมาถูกต้อง ที่ทำนายไปนั้นจะถูกต้อง ขนาดเคส ที่หลวงพ่อฝัน เป็นเด็กฝาแฝดแท้ๆ แต่ชะตาชีวิต ยังต่างกันราวฟ้ากับดิน
ในความเห็นส่วนตัวนะคะ ถ้าเป็นคนที่สามารถฝันในฝันได้ สามารถดูอดีต อนาคต ของตนเองและผู้อื่นได้แม่นยำ ก็น่าจะพอดูให้กับคนใกล้ชิดได้ แต่ต้องไม่เป็นไปเพื่อลาภยศแก่ตน
ก็เคยเห็นอยู่นะคะ คือ มีแม่ชีรูปหนึ่ง(ไม่ใช่ที่วัดพระธรรมกาย) ท่านได้อนุเคราะห์ผู้ที่มาทำบุญ คือ มี่พี่คนนึงเค้าไปอยู่ถือ ศีล8 ที่วัด เป็นเวลา 1 อาทิตย์ พอก่อนกลับ ก็ไปให้แม่ชีช่วยดูทีว่า ธุรกิจที่ทำจะเป็นอย่างไร ระยะนี้ไม่ค่อยสบายใจเลย แถม ตอนมาอยู่วัด แหวนเพชรหาย คนที่บ้านโทรบอก ก็ยิ่งไม่สบายใจหนักเข้าไปอีก แม่ชีท่านก็ให้ นั่งสมาธิไปพร้อมกัน นานเป็นชั่งโมงล่ะค่ะ ไม่ใช่จะดูให้ง่ายๆ พอออกจากสมาธิ ท่านก็ว่า แหวนไม่ได้หายไปไหน กลับไปก็จะเจอเอง แล้วท่านบอกต้องแก้กรรมต่อไปจึงจะดีขึ้น ท่านให้ไปซื้อไก่เป็นๆก่อนที่จะถูกเชือด มาหนึ่งตัว แล้วก็มาทำพิธี ปล่อยให้ ยังไม่ทันจะกลับบ้าน คนที่บ้านก็โทรมาบอกว่า หาแหวนเพชรเจอแล้ว แม่ชีท่านก็ไม่ได้รับเงินทองอะไรจากพี่คนนั้น แต่ย้ำให้ต้องนั่งสมาธิทุกวัน เอ... อย่างนี้เข้าข่ายดูดวงหรือป่าว ก็ไม่ทราบนะคะ ถ้าดูดวง ก็ดวงในตัวล่ะค่ะ
#8
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 04:44 PM
ถ้าได้สร้างกรรมดีมากๆ ชีวิตก็จะดีขึ้นๆ แม้ว่าผลการดูดวงจะเป็นอย่างไรก็ตาม
ตรงข้าม ถ้ารับคำทำนายว่าชีวิตจะรุ่งโรจน์ แต่ไปทำกรรมชั่ว
ทำชั่วมากๆเข้า ความชั่วก็ส่งผล ความรุ่งโรจน์ในคำทำนายก็เป็นแค่กระดาษใบนึง
คนที่สนใจศาสตร์นี้มักฝักใฝ่เรื่องดวง นึกคิดวนเวียนแต่เรื่องนี้ ไม่ออกไปไหน
จนลืมไปว่า ของใหม่(กรรมที่กำลังจะสร้าง)ก็ได้ทำ และจะส่งผล
ตำราจะตรง-หรือไม่ตรงอย่างไร ...ชีวิตก็ต้องดำเนินไปอยู่ดี
ใครทำนายไว้ว่าอย่างไร ...ชีวิตก็ต้องเจอสิ่งต่างๆ ที่ต้องเจอจริงๆ นั้นอยู่ดี
ควรดูดวงในตัวเอง ดูจนสว่าง ใส ...ดูดวงจนถึงองค์พระ
จะได้สร้างสิ่งดีๆ ไว้รอตัวเอง
ทำกรรมดี ได้ผลดี ชีวิตรุ่งเรืองอย่างแน่นอน (รับประกันว่าแม่น 100 %)
#9
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 05:13 PM
เท่าที่จำได้จากพระไตรปิฏก ก็มีตอน
1. ท่านโกณทัณญะ พยากรณ์เจ้าเจ้าสิทธิธัทถะ ว่าจะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแน่นอน เลยออกบวชตามคอยปรนนิบัติเป็น ปัญจวัคคี
2. โหรหลวง พยากรณ์ การเกิดของอหิงสกะ ว่า เกิดฤกดิ์ดาวโจร ต่อไปจะเป็นโจรร้าย ให้ฆ่าเสีย ซึ่งต่อมา กลายเป็นองคุลีมาล
3. โหรหลวง ทำนาย โอรสพระเจ้าพิมพิสารว่าต่อไปจะฆ่าพ่อ แต่พระเจ้าพิมพิสาร ไม่ฆ่า แต่ตั้งชื่อให้ว่า อชาติศัตรู ซึ่งแปลว่า ไม่เป็นศัตรูกับผู้ให้กำเนิด (มั๊ง ใครรู้จริงแปลให้หน่อย) เพื่อแก้เคล็ด ซึ่งต่อมาก็เป็นไปดังคำทำนายจริง
ส่วนที่ทำนายฝัน ก็มีหลายตอน เช่น
1. ทำนายฝันของ พระนางสิริมหามายา
2. พระพุทธเจ้า ทำนายฝัน ของพระเจ้าปเสนธิโกศล
แต่ก่อน ผมมีความเชื่อว่า มื่อศึกษาธรรมะ แล้ว ไม่ควรไปดูดวง แต่ตอนนี้ คิดใหม่ ว่า จริงๆแล้วมันก็ไม่ได้ขัดแย้งกันครับ เพราะชีวิตเรา มีกรรมเป็นตัวกำหนด ซึ่งถ้าหาก หมอดูดูแม่น ก็คือ เขาสามารถรู้วิบากกรรมของเรานั่นเอง ตอนนี้หมอดูที่ดูแม่นที่สุด มีท่านเดียวครับ ท่านดูให้ตอน สามทุ่มทุกวันครับ แถมดูฟรีด้วยครับ แค่เขียนไปถามแค่นั้นเอง
#10
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 08:44 PM
#11
โพสต์เมื่อ 04 August 2006 - 11:00 AM
การที่พระพุทธเจ้าทรงบอกเรื่องราวในอนาคตบางเรื่องได้นั้น ทรงใช้หลักวิชา คนละแบบกลับการผูกดวงครับ ซึ่งคุณครูไม่ใหญ่เคยพูดไว้ ว่าพระองค์ทรงดูดวงบุญ ดวงบาปในตัวคนคนนั้น หรือชาวเมืองทั้งหมด ซึ่งจะเห็นไปเป็นเรื่องราวของดวงบุญนี้จะให้ผลอย่างนี้ในอนาคต ดวงบาปนั้น จะให้ผลอย่างนั้นในอนาคต ทำให้พระองค์ทรงพยากรณ์อนาคตที่จะเกิดขึ้นแน่นอนได้น่ะครับ
เช่น พระทีปังกรพุทธเจ้า ดูดวงบุญบารมีในตัวสุเมธดาบส เห็นชัดเจน เพราะบารมีเต็มเปี่ยมแล้ว ก็ทรงพยากรณ์ว่า จะได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต
หรือพระพุทธเจ้าของเราทำนายฝันของพระเจ้าปเสนทิโกศล ก็ทรงตรวจดูดวงบุญ บาปของสรรพสัตว์แต่ละยุค แล้วทำนายออกมา
แต่ ตอนที่พระพุทธเจ้าของเราเกิดเป็นเจ้าหญิงสุมิตรานั้น พระพุทธเจ้าในอดีตก็ไม่ทรงพยากรณ์ให้ครับ เมื่อทรงดูดวงบุญแล้วเห็นว่ายังไม่แน่นอน โดยทรงบอกให้ไปรอถามพระพุทธเจ้าองค์หน้า
สรุปก็คือ การพยากรณ์อนาคตนั้น สามารถพยากรณ์ได้บางเรื่อง เฉพาะอนาคตที่แน่นอนชัดเจนเท่านั้น โดยดูจากดวงบุญดวงบาป แล้วเห็นการให้ผลเป็นฉากๆ ไปในอนาคต แต่ถ้าอนาคตยังไม่แน่นอน พระพุทธองค์จะไม่ทรงพยากรณ์ครับ ซึ่งหลักวิชาที่ใช้ ก็จะเป็นคนละแบบกับการดูดวงของวิทยาธร
การดูดวงสามารถทำได้ เช่นเดียวกับการเหาะ แต่ขอให้ฝึกจิตไปให้ถึงขั้น และดูด้วยวิธีการที่ถูกหลักวิชชา ครับ ไม่ใช่ว่า ห้ามทำเลย เพราะเห็นว่าเป็นวิชาของวิทยาธร เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น การเหาะ การเดินบนน้ำ การหายตัว ฯลฯ ต้องห้ามทำเลย เนื่องจากก็เป็นวิชาของวิทยาธร
แต่ความจริงนั้นไม่ใช่ เพราะการเหาะ การหายตัว การดูดวงโดยหลักวิชาของวิทยาธรนั้น เป็นคนละแบบกับการเหาะ การหายตัว และการดูดวงของผู้มีฌานน่ะครับ
#12
โพสต์เมื่อ 04 August 2006 - 10:52 PM
มีเพลง ชีวิตเรา เราลิขิต มิใช่พรหม หรือ ใคร นะครับ
เราแต่ละคนมีกรรมเป็นของตน
คุณครูไม่ใหญท่านเป็นห่วงพวกเรา
ปรารถนาดีให้พวกเราได้มีการออกแบบชีวิตที่ดีขึ้น โดยการทำทาน รักษาศีล
และเจริญภาวนา นะครับ
อย่าไปสนใจดวงเลยนะครับ
บุญต่างหากนะครับ ที่เราควรสนใจครับ
#13
โพสต์เมื่อ 04 August 2006 - 11:31 PM
#14
โพสต์เมื่อ 05 August 2006 - 01:58 PM
จริงอย่างที่ คุณ สุรัตน์ และ Phrd Dhamma Son ว่านั่นล่ะค่ะ ดูดวงในตัวเราเองดีกว่านะคะ