ช่วยหาทางออกให้หน่อยซิคะ
#1
โพสต์เมื่อ 11 December 2009 - 11:10 PM
เครียดจังเลย นอนไม่หลับ
เฮ้อ............
#2
โพสต์เมื่อ 12 December 2009 - 08:18 AM
มีงานวิจัยวัดผลการทดสอบการนอนไม่เพียงพอ
ผู้ทดสอบนอนหลับเพียงวันละ 4 ชม เป็นเวลา 6 วัน
ผลปรากฏว่า ระดับน้ำตาลในเม็ดเลือดเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ
เช่นเดียวกับการเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งทำให้ผู้นอนไม่เพียงพอเกิดโรคอ้วน
นอกจากนี่ยังส่งผลเสียต่อระบบปราสาท เพราะสารเลปตินที่สั่งการอิ่มเมื่อรับประทานอาหารเกิดภาวะขาดสมดุล ทำให้การกินอาหารอยากทานมากขึ้นหรือน้อยลง
การนอนไม่เพียงพอยังส่งผลให้ผิวเกิดสภาะวะเสื่อมโทรมลง
สังเกตได้จากผิวที่ดูคล้ำและขอบตาดำขึ้น
เนื่องจากตอนกลางคืนเป็นเวลาที่ผิวปรับสภาพและซ่อมแซมตัวเอง
นอกจากนี้ การนอนไม่เพียงพอทำให้ภูมิคุ้มกันของเม็ดเลือดขาวอ่อนแอลง
ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย เช่น เป็นหวัด มีไข้ ตัวร้อน กระสับกระส่าย
หากเป็นผู้หญิงจะเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านมเพิ่มมากขึ้น
เราจึงควรนอนพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชมต่อวันสำหรับเด็ก และ 6 ชมอย่างต่ำสำหรับผู้ใหญ่
และดื่มน้ำให้มาก รวมถึงเลี่ยงการนอนโดยเปิดไฟทิ้งไว้ เพราะจะทำให้ผิวเสียเร็วขึ้น
สำหรับผู้มีปัญหาเรื่องผิวสามารถใช้โยเกิร์ตพอกหน้าทิ้งไว้หรือใช้แตงกวาที่สะอาดและสดปิดลงบนผิวหน้าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น
เอ๊ะ!!! เกี่ยวกันมั้ยเนี้ย.....
#3
โพสต์เมื่อ 12 December 2009 - 09:39 AM
ดูdmc
เกิดมาทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี
#4
โพสต์เมื่อ 12 December 2009 - 10:13 AM
#5
โพสต์เมื่อ 12 December 2009 - 12:16 PM
http://www.dmc.tv/pr...gang-mirumo.wmv
ผมเคยทำแล้ว รู้สึกสบายใจ หายเครียดได้เยอะทีเดียว แถมยังได้ออกกำลังกายอีกด้วย
#6
โพสต์เมื่อ 12 December 2009 - 03:13 PM
#7
โพสต์เมื่อ 12 December 2009 - 05:10 PM
#8
โพสต์เมื่อ 12 December 2009 - 08:17 PM
คือ เรื่องการนวดใบหู ช่วยให้ผ่อนคลาย สบายอารมณ์ ทำให้หลับง่ายครับ
กระทู้เก่าที่เกี่ยวข้องกับการนอน
วิธีหลับให้เป็นสุข, อยากนอนให้หลับสนิท
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=15644
นอนอย่างไรให้ตื่นอย่างสดชื่น
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=3353
ตัวอย่าง
ก็มุ่งไปที่การ ฝึกจิต ด้วยการเจริญเมตตาภาวนาครับ
ส่วนในทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ ก็มีคำแนะนำ เช่น
วิธีการดูแลตัวเอง เพื่อให้นอนหลับฝันดีไปตลอดทั้งคืน
1. เริ่มแรก ต้องค้นหาสาเหตุ และกำจัดสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับก่อน
ถ้าเจ็บป่วยด้วยโรคทางกาย หรือโรคทางจิตเวช ก็ต้องรักษาโรคเหล่านั้นให้ดีขึ้น
อาจ ใช้ยาช่วยให้นอนหลับในช่วงเริ่มต้น และใช้ยาเป็นระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
เมื่อความเจ็บป่วยทางร่างกายหรือความเจ็บป่วยทางจิตเวชดีขึ้น อาการนอนไม่หลับก็จะหมดไป และสามารถนอนหลับได้ดีขึ้น
2. การดื่มน้ำ ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วจะช่วยให้ระบบทำงานต่าง ๆ ในร่างกายดีขึ้น
แต่ก่อนนอนไม่ควรดื่มมากนะเดี๋ยวจะต้องตื่นมาเข้าห้องน้ำกลางดึก
โดยอาจจะเป็นการดื่มนมอุ่นๆ 1 แก้ว หรือ รับประทานกล้วย 1 ผล ก็อาจช่วยให้หลับได้ดีขึ้น
3. ห้องนอน ควรใช้สีอ่อน ๆ ดูสบายตาในการตกแต่ง อย่าง สีโทน Pastel
จัด ห้องนอนให้เหมาะแก่การนอนหลับ เช่น ไม่ร้อนเกินไป ไม่หนาวหรือเย็นเกินไป ไม่ให้มีเสียงดังอึกทึก
ควรมีบรรยากาศที่สงบเงียบ อาจมีเสียงเพลงเบาๆ เป็นต้น
และควรใช้ห้องนอนสำหรับการนอนเท่านั้น ไม่ใช้ห้องนอนทำกิจกรรมอื่นๆ
เช่น รับประทานอาหาร เล่นเกมส์ต่างๆ ร่วมกัน
4. มื้อเย็นที่ควรหลีกเลี่ยง อาหารรสเผ็ดจัด มิฉะนั้นอาจเกิดอาการจุดเสียดปวดท้องและทำให้นอนไม่หลับได้
5. การออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนักในตอนเย็น หรือตอนก่อนนอน
ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอในตอนเช้า สัปดาห์ละ 3-4 วัน วันละ 20-30 นาที
จะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น และหลับได้ดีขึ้นในตอนกลางคืน
ซึ่งการออกกำลังกายแต่พอเหมาะจะทำให้ดีต่อสุขภาพและช่วยให้หลับสบาย
แต่ทางที่ดีควรทำให้เสร็จก่อนนอนซัก 3 ชั่วโมงนะ ไม่งั้นอาจทำให้ประสาทตื่นตัวและนอนไม่หลับได้
6. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่กระตุ้นสมอง เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลมที่มีสีดำ (เช่น เป๊ปซี่ โคล่า)
เครื่องดื่มชูกำลังต่าง ๆ ในตอนบ่าย ตอนเย็น หรือช่วงก่อนนอน
แน่ นอนว่าเครื่องดื่มเหล่านี้มีส่วนทำให้นอนไม่หลับเนื่องจากมีคาเฟอีนอยู่ คนที่นอนไม่ค่อยหลับ
ไม่ควรดื่มแต่ถ้าห้ามใจไม่ได้ก็ดื่มแบบไม่มีคาเฟอีนดีกว่านะ
7. วิตามิน ซี ดี บีรวม และแคลเซียมมีผลต่อระบบประสาท ทั้งยังช่วยลดความกระวนกระวายได้
8. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ทั้งสุรา เหล้า เบียร์ ไวน์ อย่างต่อเนื่องทุกวัน
เพราะมีสารเคมีที่ออกฤทธิ์ต่อสมองทำให้นอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิทได้ในกรณีที่ดื่มติดต่อกันนานๆ
ถ้าทำได้อาจช่วยให้ง่วงและนอนหลับได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าดื่มจะส่งผลต่อประสาทและอาจทำให้ฝันร้ายได้นะ
9. จิตใจฟุ้งซ่าน ย่อมทำให้นอนไม่หลับ ลองนั่งสมาธิ หรือทำให้โยคะดูจะช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น
หรือจะนอนนับแกะก็ได้นะ
10. หลีกเลี่ยงการดูภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ หรือเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ ที่ตื่นเต้นในช่วงก่อนเข้านอน
11. ถ้าเข้านอนไปแล้วประมาณ 20-30 นาที ยังนอนไม่หลับ ไม่ควรข่มตาให้หลับ
ควรจะลุกออกจากเตียงไปทำกิจกรรมเบาๆ ที่ส่งเสริมให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น
เช่น อ่านหนังสือผ่อนคลายสมอง อ่านหนังสือบันเทิง ฟังเพลงเย็นๆ อ่านหนังสือธรรมะ ฟังเทปธรรมะ เป็นต้น
คนที่โกรธหรือหงุดหงิดเพราะตัวเองนอนไม่หลับนั้น ไม่ควรที่จะข่มตาตัวเองให้หลับอีกต่อไป
แต่ควรลุกขึ้นมาเปิดไฟ ออกจากห้องนอน หาอะไรอย่างอื่นทำ ไม่ควรทำอะไรที่ทำให้ตาสว่างมาก
เมื่อ รู้สึกง่วงจึงกลับ ไปนอนที่เตียง (เตียงมีไว้สำหรับนอนเท่านั้น ไม่ควรอ่านหนังสือหรือดูทีวีบนเตียง)
แล้วลุกขึ้นจากเตียงตามเวลาปกติ ไม่ว่าจะหลับได้น้อยเพียงใด
12. พยายามตื่นนอนให้เป็นเวลาเดียวกันทุกวัน รวมถึงวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดต่างๆ ด้วย
วิธีนี้จะช่วยให้วงจรการหลับ-การตื่นของคนเราให้ทำงานได้ดี ไม่เกิดปัญหา
13. ยาช่วยให้นอนหลับ ควรรับประทานเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ไม่ควรใช้ยาต่อเนื่องนานเกิน 2-6 สัปดาห์
เพราะอาจทำให้ติดยา เกิดภาวะดื้อยา ต้องพึ่งยาตลอดไป อาจทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อม หรือความจำถดถอยลงได้
ถ้าอยากนอน หลับสบายทั้งคืน คุณต้องลองสังเกตและลดพฤติกรรมที่เสี่ยงต่ออาการนอนไม่หลับ
ถ้าคุณปฏิบัติได้คุณจะมีสุขภาพที่ดีได้ ไม่ยากเลย.....
คู่มือสุขภาพดีดียังมีอีกมาฝากคุณอีกมากมายติดตามได้ที่นี่ค่ะ www.thaihealth.or.th
หรือลองวิธีของพี่ โน๊ต อุดม แต้พานิช ที่เฮฮาดีครับ
นอนไม่หลับ ~ อุดม แต้พานิช~, แก้ด้วยสมาธิ
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=15367
#9
โพสต์เมื่อ 12 December 2009 - 10:26 PM
แต่ละวิธีของเพื่อนๆในบอร์ดละเอียดชัดเจนมากครับ
แต่อยากจะลองเสริมอีกสักวิธีนึง
ก่อนจะนอนให้ลองเอาน้ำอุ่นสัก 1 กะละมังมา...แล้วก็แช่เท้าทั้ง 2 ลงไป
ระหว่างที่แช่น้ำอุ่นให้ลองนั่งหลับตาพริ้มๆ ทำหน้ายิ้มๆ
หรืออาจจะเปิดเพลงบรรเลงเบาๆคลอไปด้วยยิ่งดีเลย
ถ้าอยากได้"จริง"จะได้...แต่ตอนจะได้ไม่"อยาก"
#10
โพสต์เมื่อ 13 December 2009 - 08:57 AM
บุญนั้นไม่มีขายอยากจะได้ก็ต้องทำเอง บารมีเช่นเดียวกันครับหาซื้อที่ไหนไม่ได้อยากจะได้ก็ต้องเจอด้วยตัวเอง :-)
อยู่ในบุญมากๆนะครับ
#11
โพสต์เมื่อ 13 December 2009 - 10:13 AM
- ไม่ดื่มชากาแฟ มากเกินไป
- ไม่ทานอาหารมากเกินพอดี
- ออกกำลังกาย ให้เหงื่อออกบ้าง
ด้านสุขภาพใจ
- ทำใจหยุดใจนิ่ง ไม่ฟุ้งซ่าน
#12
โพสต์เมื่อ 13 December 2009 - 12:40 PM
#13
โพสต์เมื่อ 13 December 2009 - 01:45 PM
- กินยานอนหลับคงเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ
- ใช้ปัญญามองย้อนกลับไปแก้ที่ต้นตอ...ถ้าทำได้ แล้วนำไปสู่โจทย์ของการระวังป้องกัน
อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด...บาปอกุศล(ในความคิด)อย่าได้ก่อเชื้อปะทุ...นึกถึงบุญตามที่คุณ Kissy ได้ตั้งใจทำ...ทำเรื่อยๆทับทวีจนบาปชิงช่วงไม่ทัน...จนเข้าถึงธรรมอันวิจิตร ทั้งรู้ ทั้งเห็น เหตุอันใกล้และไกล นั้นแหล่ะคือ ชัยชนะ ที่คุณมีโอกาสเพราะมีลมหายใจ
ขอให้นอนหลับในอู่ทะเลบุญครับ
ไฟล์แนบ
#14
โพสต์เมื่อ 13 December 2009 - 05:07 PM
ไม่ได้พะวงเลย ไม่ได้คิดถึงด้วยซ้ำ ลืมไปแล้ว ก็ด้วยคำแนะนำ และการสั่งสอนที่ดี ของ สมาชิก dmc ก็เลย ลืมเรื่องนั้นไปแล้ว ตอนนี้ก็มีการดำเนินชีวิต ที่ถูกต้องและดีมากที่สุดด้วยคะ ไปเป็นเจ้าภาพ ภัตราหาร ที่ธุดง ทุกวันอาทิตย์เลย บางอาทิตย์ ก็หลายครั้ง
คิดว่า การนอนไม่หลับ เกิดจาก คนรอบข้างนะ มีคนมาสร้างความกดดันให้ชีวิต ก็เลยอยากจะ หลบ ไปพ้น ๆ
#15
โพสต์เมื่อ 13 December 2009 - 06:30 PM
#16
โพสต์เมื่อ 13 December 2009 - 07:12 PM
- ถอยมา 1ก้าวสร้างภูมิคุ้มกันก็เป็นอีก 1วิธี
- เพราะจะได้ทราบวิธีหลบ(ใจ)เข้าหลุมหลบภัย ป้องกันแรงกดดันจากคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี
ฟื้นตัวเร็วไวเด้อ...
#17
โพสต์เมื่อ 13 December 2009 - 10:45 PM
ตอบ.. ไม่ต้องออกไปหรอก อยู่ตรงนั้นแหละ ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด ยืน เดิน นั่ง นอน อยู่ตรงนั้นแหละ ไม่ต้องไปไหน..
.................................................................................................................................................
ตอบ.. สัมมา อะระหัง ไปเรื่อยๆ จะหายเครียด หลับสบายจ้ะ
....................................................................................................................................................
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#18
โพสต์เมื่อ 14 December 2009 - 08:59 AM
#19
โพสต์เมื่อ 14 December 2009 - 01:14 PM
หากนอนไม่หลับครั้งต่อไป ก็ให้นั่งอ่านคำสอนของคุณยายไปเรื่อยๆ ค่ะ อ่านไปอ่านมา เดี๋ยวเจอ ที่โดนใจ เรื่องที่กำลังเป็นกังวลหรือไม่สบายใจจะมีคำอธิบายเป็นแน่แท้ แถม หากวันหลัง เกิดปัญหาแบบปัจจุบันทันด่วน คำสอนต่างๆ ของคุณยาย จะผุดขึ้นมาในใจของเราอัตโนมัติ ใจเราก็จะผ่อนทุกข์ไปได้เยอะเลยค่ะ ถ้าวันไหนนอนไม่หลับอีก ทำอย่างนี้น่ะค่ะ
อนุโมทนาบุญกับน้อง และชีวิตในแนวใหม่ ที่มีความสุขกว่าวันวานค่ะ
#20 *sky noi*
โพสต์เมื่อ 14 December 2009 - 02:27 PM
เพราะโลตัสมีทางออก (EXIT) **555
แต่พี่ว่าหาไม่เจอก็ออกทางเข้าก็ได้นะ
เวลาจะนอนก็ให้ปล่อยทุกอย่างวางทุกสิ่ง
ยังไงหลับไป ตื่นมาก็ยังเจอมันอยู่ดี เราไม่ต้องคิดมันตอนจะนอนหรอกนะ
#21
โพสต์เมื่อ 15 December 2009 - 10:43 PM
#22
โพสต์เมื่อ 16 December 2009 - 12:21 AM
ลองฟังเพลงนี้ดูนะคะ แต่งโดยหลวงพ่อครูไม่ใหญ่
noproblem.JPG 19.87K 39 ดาวน์โหลด
นาทีที่ 14.21 ของทบทวนฝันในฝันวันที่ 7 กรกฎาคม 2552 คลิก
จงมองปัญหา อย่าให้เป็นปัญหา
มันเป็นเหมือนภาพลวงตา เหมือนไอแดดที่แผดเผา
หลับตาให้สบาย อย่าเอามือก่ายหน้าผากของเรา
ปัญหาไม่ได้มีให้เศร้า แต่มีให้เราแก้มันด้วยปัญญา (แก้มันแก้มันด้วยปัญญา)
เราจะเป็นลูกแกะที่ยืนสั่นเทาต่อหน้าราชสีห์
หรือจะให้เราชสีห์สั่นเทาหน้าเราด้วยความหวาดผวา
นกนางนวลตัวน้อย ที่เหิรลอยอยู่ในนภา
ล้วนแต่มีปัญญา โบยบินข้ามมหานที
บางตัวนั้นมองการณ์ไกล คาบกิ่งไม้ไว้ในปากของมัน
อีกหลายตัวต่างขบขัน มองดูมันว่าบ้าหรือดี
ต่างบินข้ามทะเลไกล บินไม่ไหวก็ร่วงลงนที
ที่ถูกมองว่าบ้าหรือดีต่างก็มีกิ่งไม้พึ่งพา
นอกนั้นต่างจมน้ำตาย แสนเสียดายที่ไม่ใช้ปัญญา
บ้านแสนหลังไม่มีปัญหา ถ้าใช้ปัญญาปัญหาจะหมดไป
จงใช้ปัญญา ปัญหาจะหมดไป
เอามาฝากโดยเฉพาะเลยนะ ทำเป็น mp3 ให้ด้วย...แต่..upload ขึ้นไม่ได้ ไฟล์ใหญ่กว่า 2MB นิดนึง
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#23
โพสต์เมื่อ 16 December 2009 - 05:12 AM
ประมาณว่า เมื่อกี้นี้ เพิ่งบอกว่า เราทำถูกแล้ว พอผ่านไป แป๊ป นึง มาว่า เราทำผิด ทั้ง ๆ ที่ เมื่อกี้นี้ บอกว่า ถูก
ก็เลยเครียดนิดหน่อย เพราะเวลา บอกว่าเราผิด จะมีการติ แบบไม่ไว้หน้าเลย เหตุผล ที่ถูกมองว่าผิดเสมอ
ไม่ว่าจะทำอะไร ก็จะบอกว่า เป็นเด็กเป็นเล็ก ทำไมทำแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ สิ่งที่ทำ มันถูกต้องแล้ว แต่โดนมองอีกด้านนึง
แต่ ก็ไม่เป็นไร kissy อดทนต่อคำติ เพราะ kissy คิดว่า อยู่ ดี ๆ ก็ได้สร้างความอดทนเพิ่ม
#24
โพสต์เมื่อ 16 December 2009 - 10:30 AM