สรุปกรณีศึกษากฎแห่งกรรม
วันจันทร์ที่ 1 พฤษภาคม 2549
วันจันทร์ที่ 1 พฤษภาคม 2549
พ่อและแม่ของเจ้าของเคสเป็นคนจีน มีลูกทั้งหมด 10 คน เจ้าของเคสเป็นลูกสาวคนโต พ่อของเจ้าของเคสจึงไม่ให้เรียนหนังสือตามความเชื่อของคนจีนที่ลูกสาวจะต้องช่วยพ่อและแม่ทำงาน ทำให้เจ้าของเคสต้องช่วยเหลือครอบครัวตั้งแต่อายุ 4 ขวบ โดยจะต้องตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อช่วยแม่ทำกับข้าวไว้ให้ทุกคนในครอบครัว ทำงานบ้านทั้งหมด รวมถึงเลี้ยงดูน้องๆ ทุกคน
เจ้าของเคสทำอยู่อย่างนี้จนอายุได้ 20 ปี ก็เริ่มมีชายหนุ่มมาติดพัน แต่ก็จะถูกพ่อของเจ้าของเคสกีดกันและไล่กลับไปทุกครั้งไป พ่อของเจ้าของเคสเป็นคนดุ มีอุปนิสัยโมโหร้าย ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบเจ้าของเคสอีกเลย ต่อมาพ่อของเจ้าของเคสก็ได้บังคับให้เจ้าของเคสแต่งงานกับผู้ชายที่พ่อหาให้ โดยบอกกับเจ้าของเคสว่าผู้ชายคนดังกล่าวเป็นคนดี ขยัน ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และเนื่องจากเจ้าของเคสไม่เคยรู้จักชายคนดังกล่าวมาก่อน จึงรู้สึกไม่พอใจจนมีปากเสียงกับพ่ออยู่หลายครั้ง แต่เพราะทนความโมโหร้ายของพ่อไม่ไหว อีกทั้งยังไม่ต้องการให้พ่อต้องเสียใจ เจ้าของเคสจึงยอมแต่งงานตามที่พ่อของเจ้าของเคสต้องการ
เมื่อแต่งงานแล้ว เจ้าของเคสก็ได้ย้ายออกไปอาศัยอยู่กับครอบครัวของสามี พ่อของสามีเป็นคนขยัน มีน้ำใจ แต่ก็เป็นดุ มีอุปนิสัยโมโหร้าย ชอบทำบุญไหว้พระตามศาลเจ้า และชอบทำบุญแบบสังคมสงเคราะห์ทั่วไป ต่อมาพ่อของสามีของเจ้าของเคสก็ล้มป่วยเป็นโรคความดันสูง และก็ไม่ยอมไปรักษาตัวในโรงพยาบาล แต่กลับซื้อยามากินเองที่บ้านเป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งร่างกายซีกขวาก็เริ่มไม่มีแรง ใช้การไม่ได้ ไม่สามารถเดินได้อีก ต้องให้ลูกหลานคอยดูแลอยู่หลายปี จนกระทั่งเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 67 ปี
แม่ของสามีของเจ้าของเคสเป็นคนใจดี แต่มีนิสัยตระหนี่ ทำบุญตามประเพณี ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะทำตามศาลเจ้า และสังคมสงเคราะห์ทั่วไป แม่ของสามีของเจ้าของเคสเสียชีวิตด้วยโรคชราด้วยวัย 86 ปี ครอบครัวของสามีมีพี่น้องทั้งหมด 6 คน สามีของเจ้าของเคสเป็นคนที่สาม ทั้งหมดอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวใหญ่ ครอบครัวของสามีประกอบอาชีพทำขนมปังปี๊ปขาย โดยไม่มีการจ้างลูกจ้าง แต่จะแบ่งหน้าที่กันทำเองทั้งหมด และจะไม่มีค่าจ้างเพราะถือว่ากินอยู่ด้วยกันทั้งหมด
สามีของเจ้าของเคสเป็นกำลังหลักในการทำงานของครอบครัว โดยจะรับหน้าที่เกือบทุกอย่างตั้งแต่ยกปี๊บขนมปัง ขายและส่งของให้ลูกค้า ที่สามีของเจ้าของเคสจะต้องทำงานหนักมากก็เพราะพี่ชายของสามีไม่ยอมช่วยงานใดๆ เลย คอยเอาเปรียบสามีของเจ้าของเคสอยู่เสมอ แต่สามีของเจ้าของเคสก็ไม่เคยบ่นให้ใครฟัง ในช่วงที่พ่อของสามีป่วยเป็นอัมพฤกษ์ พี่ๆ ของสามีต่างก็แยกตัวออกไปอยู่ที่อื่น เพราะกลัวที่จะต้องรับภาระหนี้สินที่พ่อของสามีไปหยิบยืมผู้อื่นมาเพื่อให้ในการค้าขาย รวมทั้งใช้ในการส่งลูกๆ เรียน ทำให้สามีของเจ้าของเคสต้องรับภาระหนักขึ้นไปอีก
ในเวลาต่อมาการค้าขายก็ดีขึ้น มรกำไรมากขึ้นจนสามีของเจ้าของเคสสามารถเก็บเงินใช้หนี้ของพ่อของสามีได้ทั้งหมด ทั้งยังมีฐานะดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ทั้งเจ้าของเคสและสามีก็ยังคงต้องทำงานหนักอยู่เหมือนเดิม เจ้าของเคสและสามีจึงมีความคิดที่จะเปลี่ยนอาชีพเพื่อใหม่ที่ไม่ต้องเหนื่อยและทำงานหนักเช่นนี้ ทั้งยังไม่ต้องการให้ลูกมาทำงานหนักเช่นเดียวกับตนเอง เจ้าของเคสและสามีจึงได้ตัดสินใจย้ายครอบครัวไปประกอบอาชีพทำน้ำแข็งขายอยู่ที่หาดใหญ่ ซึ่งก็ทำได้อยู่ 4 ปี ก็ประสบปัญหาคนงานทะเลาะกัน และพากันลาออกไปจนหมด ในช่วงเดียวกันเจ้าของเคสยังถูกโขมยขึ้นบ้าน เอาทรัพย์สินไปได้หลายหมื่นบาท
จากนั้นเจ้าของเคสและสามีจึงได้เปลี่ยนมาประกอบอาชีพขายเครื่องดื่มในสถานศึกษาแห่งหนึ่ง ซึ่งก็ทำให้เจ้าของเคสและสามีสบายขึ้น ไม่ต้องทำงานหนักเช่นเดิม วันหนึ่งขณะเปิดร้าน สามีของเจ้าของเคสก็จะเปิดเตาแก๊สเพื่อต้มน้ำทำเครื่องดื่มตามปกติ แต่ไฟไม่ติด สามีของเจ้าของเคสจึงถอดหัววาล์วของถังแก๊สมาตรวจสอบ และในขณะเดียวกัน เจ้าของเคสซึ่งไม่ทันสังเกตสามีก็ได้จุดไฟขึ้น ทำให้เกิดไฟลุกไหม้ เจ้าของเคสและสามีจึงถูกไฟไหม้จนต้องพักและเข้ารับการรักษาเป็นระยะเวลาหลายเดือน
ลูกชายคนสุดท้องของเจ้าของเคสได้มีโอกาสบวชธรรมทายาทจากการชักชวนของชมรมพุทธฯ ที่มหาวิทยาลัย และหลังจากบวชลูกชายของเจ้าของเคสก็ได้ทำหน้าที่กัลยาณมิตรโดยชักชวนเจ้าของเคสและสามีให้มาร่วมสร้างบุญบารมีกับหมู่คณะอยู่เสมอ ครั้งหนึ่งขณะที่ลูกชายเจ้าของเคสเรียนอยู่ชั้นปีที่สาม เกิดพายุฝนตกติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน โดยเช้าวันนั้นลูกชายของเจ้าของเคสลงมาปิดประตูและส่งเจ้าของเคสและสามีไปขายของตอนเช้ามืด ซึ่งขณะนั้นน้ำได้เอ่อล้นในระดับข้อเท้า แต่เจ้าของเคสและลูกชายก็ไม่ได้เอะใจ เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อฝนตกหนักเช่นนี้ จนกระทั่งเมื่อลูกชายของเจ้าของเคสเดินลงไปชั้นล่างเพื่อไปเรียนหนังสือ ก็พบว่าน้ำได้ท่วมถึงระดับเอว และก็ท่วมสูงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงชั้นสองของบ้าน ทำให้ลูกชายของเจ้าของเคสติดอยู่ในบ้านไม่สามารถออกไปไหนได้เลย การติดต่อสื่อสารก็ถูกตัดขาด เรือของทางการก็ไม่สามารถเข้ามาได้เนื่องจากน้ำสูงและไหลแรงมาก ลูกชายของเจ้าของเคสต้องติดอยู่ในบ้านถึงสองวัน โดยมีอาหารเพียงเล็กน้อย
ในวันที่สามลูกชายของเจ้าของเคสจึงตัดสินใจขึ้นไปบนดาดฟ้า และหยิบเอาห่วงยางซึ่งไม่ได้ใช้งานมานานแล้ว แต่ก็ยังพอใช้งานได้ และว่ายลอยน้ำออกมาเพื่อไปยังบ้านพี่ชายของเจ้าของเคสซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 10 กิโลเมตร เมื่อลัดเลาะตามกระแสน้ำมาได้ระยะหนึ่งจนถึงที่ที่มีกระแสน้ำแรงมาก ลูกชายของเจ้าของเคสรู้สึกหมดเรี่ยวแรง จึงตัดสินใจใช้แรงเท่าที่มีพยายามฝ่ากระแสน้ำออกไป แต่ก็ถูกน้ำพัดไปกระแทกกับก้อนหิน จนเป็นแผลยาวตั้งแต่ต้นขาถึงน่อง แต่ในที่สุดลูกชายของเจ้าของเคสก็สามารถพาตัวเองมาถึงบ้านพี่ชายของเจ้าของเคสได้ โดยใช้เวลาทั้งหมดถึง 7 ชั่วโมง ต่อมามีพระอาจารย์รูปหนึ่งได้มาทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้กับลูกชายของเจ้าของเคส จนลูกชายของเจ้าของเคสได้เข้ามาทำหน้าที่อยู่ภายในวัด
น้องชายของเจ้าของเคสเป็นคนทีนิสัยค่อนข้างเกเร คบเพื่อนที่เป็นคนพาล ชอบสูบบุหรี่ และติดยาเสพติด สร้างความทุกข์ใจให้กับญาติๆ เป็นอันมาก ต่อมาน้องสาวของเจ้าของเคสได้พยายามชักชวน จนน้องชายของเจ้าของเคสได้มีโอกาสมาบวชธรรมทายาทเมื่อปี 2547 และยังคงบวชอยู่จนถึงปัจจุบัน
QUOTE
หลับตา ฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาวหนึ่งที แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรา
Q: บุพกรรมใดทีทำให้เจ้าของเคสต้องถูกบังคับให้แต่งงานกับคนที่ไม่รู้จัก ทั้งๆ ที่เจ้าของเคสก็ไม่เต็มใจ และน้องๆ คนอื่นก็ไม่มีใครถูกบังคับให้แต่งงานเช่นเดียวกับเจ้าของเคสเลย
[attachmentid=4311][attachmentid=4312]
A: เพราะวิบากกรรมในอดีตที่เกิดในสังคมเกษตรกรรม ได้เคยบังคับลูกหลานให้แต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก อีกทั้งเจ้าของเคสและสามีก็เคยเป็นสามีภรรยาและได้ร่วมกันสร้างบุญกันมาในอดีต พี่น้องคนอื่นของเจ้าของเคสไม่ถูกบังคับให้แต่งงานเพราะไม่มีวิบากกรรมดังกล่าว
Q: พ่อของเจ้าของเคสเสียชีวิตเพราะกระเพาะปัสสาวะแตกกะทันหัน ส่วนแม่ของเจ้าของเคสเสียชีวิตเพราะโรคเบาหวาน พ่อและแม่ของเจ้าของเคสตายแล้วไปไหน ได้รับบุญสร้างองค์พระและบุญทุกบุญที่เจ้าของเคสและลูกหลานทำอุทิศไปให้หรือไม่
[attachmentid=4313][attachmentid=4314]
A: พ่อของเจ้าของเคสเสียชีวิตเพราะกระเพาะปัสสาวะแตกกะทันหันเพราะบุพกรรมในอดีตเป็นคนเจ้าโทสะ ได้มีเรื่องทะเลาะกับเพื่อนบ้าน และได้ทำร้ายร่างกายเพื่อนบ้านจนกระเพาะปัสสาวะแตกเช่นเดียวกันมาส่งผล ตายแล้วไปเกิดเป็นภุมมะเทวาสายยักษ์ด้วยความมักโกรธ ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้วทำให้มีสภาพที่ดีขึ้น
[attachmentid=4315][attachmentid=4316]
แม่ของเจ้าของเคสเสียชีวิตด้วยโรคเบาหวานเพราะกรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารทั้งในอดีตและปัจจุบันมาส่งผล ตายแล้วไปเกิดเป้นภุมมะเทวาที่ศาลเจ้าแห่งหนึ่งเพราะความตระหนี่และอุปนิสัยที่ชอบไหว้เจ้าตามประเพณี ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้วทำให้มีสภาพที่ดีขึ้น
Q: พ่อและแม่ของสามีตายแล้วไปไหน ได้รับบุญสร้างองค์พระและบุญทุกบุญที่เจ้าของเคสและลูกหลานทำอุทิศไปให้หรือไม่ และมีสภาพเป็นอย่างไร
[attachmentid=4317]
A: พ่อและแม่ของสามีตายแล้วไปเกิดเป็นภุมมะเทวาที่ศาลเจ้าอยู่ด้วยกัน ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้วทำให้มีสภาพที่ดีขึ้น โดยดูหนุ่มสาวมากขึ้น มีเสื้อผ้า อาหารทิพย์ ที่อยู่อาศัยดีขึ้นกว่าเดิม
Q: เพราะบุพกรรมใดที่ทำให้เจ้าของเคสต้องทำงานหนักตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่ชีวิตก็ดีขึ้นในช่วงวัยกลางคน และต้องทำอย่างไรจึงจะพ้นจากวิบากกรรมนี้
[attachmentid=4318]
A: เพราะกรรมตระหนี่ในอดีตมาส่งผล รวมทั้งเคยเกิดในสังคมที่มีความเชื่อว่าลูกผู้หญิงไม่ต้องเรียนหนังสือ ให้ช่วยงานอย่างเดียว ซึ่งในชาตินั้นก็ได้บังคับลูกหลานผู้หญิงให้ทำอย่างที่ตนต้องการ อีกทั้งยังขาดบุญเรื่องการสนับสนุนการศึกษา
[attachmentid=4319]
ที่มีสภาพที่ดีขึ้นก็เพราะบุญที่เคยทำมาบ้างมาส่งผล จะแก้ไขให้เจ้าของเคสทำบุญทุกบุญให่สม่ำเสมอ ให้มีปิติยินดีในบุญทั้งก่อนทำ ขณะทำ และหลังทำ
Q: กรรมใดที่ให้เจ้าของเคสและสามีต้องถูกไฟไหม้ตามร่างกาย จะต้องทำอย่างไรจึงจะพ้นจากวิบากกรรมดังกล่าวได้
[attachmentid=4320][attachmentid=4321]
A: เพราะเศษกรรมในอดีตที่เคยปิ้งย่างสัตว์เป็นๆ มาส่งผล โดยเจ้าของเคสและสามีมีกรรมมาคล้ายๆ กัน ให้หมั่นทำบุญทั่งทาน ศีล ภาวนา รวมทั้งปล่อยสัตว์ปล่อยปลา และอุทิศส่วนกุศลไปให้สัตว์เหล่านั้น และจะต้องไม่ทำกรรมเช่นนี้เพิ่มเติมอีก
Q: กรรมใดที่ทำให้สามีของเจ้าของเคสมักจะถูกเอารัดเอาเปรียบจากคนในครอบครัวของสามี และกรรมใดที่ทำให้เจ้าของเคสถูกโขมยขึ้นบ้าน จะต้องทำอย่างไรจึงจะพ้นจากวิบากกรรมดังกล่าว
[attachmentid=4322][attachmentid=4323]
A: เพราะกรรมในอดีตมี่เคยเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น อีกทั้งยังขาดบุญสงเคราะห์ญาติ ที่ถูกโขมยยกเค้าเพราะวจีกรรมในอดีตที่ทำกับญาติคนหนึ่งซึ่งถูกโขมยขึ้นบ้าน โดยเจ้าของเคสได้เยาะเย้ย ถากถาง สมน้ำหน้า ทั้งยังแช่งให้โดนยกเค้าอีกหลายๆ ครั้ง วจีกรรมดังกล่าวมาส่งผลให้โดนโขมยขึ้นบ้าน ให้สั่งสมบุญทุกบุญ และอฐิษฐานให้พ้นจากวิบากกรรมดังกล่าว
Q: กรรมใดที่ทำให้ลูกชายคนสุดท้องต้องติดอยู่ในบ้านเพียงคนเดียว ทั้งยังต้องอดอาหารและน้ำขณะที่น้ำท่วม และเพราะเหตุใดจึงรอดชีวิตมาได้
[attachmentid=4324][attachmentid=4325]
A: เพราะกรรมในอดีตที่เลี้ยงสัตว์แล้วกักขังไว้ในกรง และลืมให้อาหารและน้ำเป้นเวลาหลายวัน อีกทั้งยังเคยโยนลูกหมาลงไปในแม่น้ำเพื่อหัดให้ลูกหมาว่ายน้ำ ทั้งยังแกล้งกดให้จมน้ำ แต่ในที่สุดก็ช่วยให้ลูกหมาพ้นจากน้ำ วิบากกรรมดังกล่าวมาประมวลรวมกันส่งผล แต่เนื่องจากไม่ได้ทำให้ลูกหมาตายจึงทำให้รอดชีวิตมาได้
Q: ลูกชายคนสุดท้องของเจ้าของเคสจะสามารถสร้างบารมีอยู่ในวัดได้ตลอดหรือไม่ เคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไร จะมีโอกาสได้บวชตลอดชีวิตอย่างที่ตั้งใจหรือไม่
[attachmentid=4326][attachmentid=4327]
A: พุทธันดรที่ผ่านมาลูกชายคนสุดท้องของเจ้าของเคสเกิดเป็นทหารของพระราชา แต่มาเป็นทหารตอนที่รบเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงไม่มีกรรมปาณาติบาต และได้ออกบวชตามพระราชาจนตลอดชีวิต ทำหน้าที่เผยแผ่ มีผลการปฏิบัติธรรมได้เข้าถึงพระธรรมกาย
[attachmentid=4328]
สามารถประคองตัวกลับดุสิตบุรี วงบุญพิเศษได้ ลูกชายคนสุดท้องมีผังบวชตลอดชีวิตอยู่ ถ้าตั้งใจจริงและไม่ประมาทในการใช้ชีวิตก็จะสามารถบวชได้ตลอดรอดฝั่ง
Q: พระอาจารย์ที่เป็นกัลยาณมิตรให้ลูกชายของเจ้าของเคสมีความเกี่ยวข้องกันมาอย่างไร เคยสร้างบารมีมาอย่างไร
[attachmentid=4329][attachmentid=4330]
A: เคยเป็นทหารของพระราชา และได้ออกบวชตามพระราชา โดยเป็นก่อนลูกชายของเจ้าของเคส เมื่อบวชแล้วก็ได้ทำหน้าที่เป็นพระพี่เลี้ยงคอยแนะนำลูกชายของเจ้าของเคสในอดีตชาติ ได้ออกบวชตามพระราชาจนตลอดชีวิต ทำหน้าที่เผยแผ่ มีผลการปฏิบัติธรรมได้เข้าถึงพระธรรมกายภายใน กลับดุสิตบุรี วงบุญพิเศษได้
Q: เพราะบุพกรรมใดที่ทำให้ก่อนบวช น้องชายของเจ้าของเคสมีนิสัยเกเร คบคนพาล ติดยาเสพติด เคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะมาอย่างไร และจะสามารถสร้างบารมีได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่
[attachmentid=4331][attachmentid=4332]
A: เพราะกรรมในอดีตที่ชอบคบคนพาล ทำให้มีนิสัยนักเลงในอดีตติดมา ทำให้ตกอยู่ในวงจรของคนพาล น้องชายของเจ้าของเคสเคยสร้างบารมีมาแบบกองเสบียงแต่ประมาทในการดำเนินชีวิต จึงพลัดพรากจากหมู่คณะบ้าง เคยพลัดไปในอบายหลายครั้ง ให้ตั้งใจบวช และทำหน้าที่ให้เต็มที่ อย่าได้ถอยหลังในการสร้างบารมี
Q: เจ้าของเคส สามีและลูกชายทั้งสองเคยสร้างบามีมากับหมู่คณะอย่างไร เพราะเหตุใดลูกสาวคนที่สองและลูกชายคนที่สามจึงไม่สนใจมาสร้างบารมีกับหมู่คณะ จะต้องทำอย่างไรจึงจะทำให้ทั้งสองกลับมาสร้างบารมีกับหมู่คณะได้อีก
[attachmentid=4333]
A: เจ้าของเคส สามีและลูกชายทั้งสองเคยสร้างบารมีมาแบบกองเสบียง ลูกสาวคนที่สองและลูกชายคนที่สามก็มีสายบุญกับหมู่คณะ เมื่อถึงเวลาก็จะกลับมาสร้างบุญบารมีเช่นเดิม ให้เจ้าของเคสคอยประคับประคองให้ดี
ชาตินี้เมื่อมาเจอกันแล้วก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีในทุกๆ บุญอย่างเต็มที่
และอฐิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรี อย่าได้พลัดกันอีกเลย
และอฐิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรี อย่าได้พลัดกันอีกเลย