ไปช่วยงานตักบาตรกลับมารู้สึกหนักใจ
#1
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 01:32 PM
เหตุการณ์เกิดขึ้นในงานตักบาตรเยาวราชที่ผ่านมา... พอดีได้ไปเป็นเจ้าหน้าที่ช่วยงานดูแลสาธุชนและต้นกฐิน
ในวันนั้น ตอนกำหนดการพระภิกษุสงฆ์เดินเข้าพื้นที่เพื่อแปรแถวเตรียมรับบิณฑบาตร ก็จะมีพิธีกรประกาศให้ทุกท่านทราบว่า "ให้ทุกท่านตักบาตรพร้อมกัน อย่าพึ่งตักบาตร ณ ตอนที่ท่านเดินแปรแถว"
แต่ตรงจุดที่ดิฉันรับผิดชอบอยู่ (ซึ่งอยู่แกวที่นั่งพระภิกษุสงฆ์ ประมาณแถวที่ 40 ถ้าจำไม่ผิด) ก็มีกลุ่มผู้ใจบุญกลุ่มหนึ่งพยายามนำของตักบาตรพระที่กำลังเดินเข้าขบวนแปรแถว (ก่อนเริ่มพิธี) ดิฉันก็เลย กล่าวบอกท่านกลุ่มนั้นไปว่า อย่าพึ่งตักบาตรเดี๊ยวให้ท่านเข้าพื้นที่เสียก่อน เพราะว่ากว่าจะเดินเข้าพื้นที่ได้ท่านคงถือของหนักแน่ ๆ อีกอย่างเราจะได้ตักบาตรพร้อมกันทุกคนดีกว่าไหมคะ ซึ่งครั้งแรกก็ดูเหมือนจะฟังค่ะ แต่อีกสักพัก ก็เริ่มที่ชวนผู้ใจบุญท่านอื่นนิมนต์พระในแถวให้หยุดเพื่อรับของบิณฑบาตรอีก ขณะที่พระเดินเข้าแปรแถวอีกครั้ง ดิฉันกับเพื่อน ๆที่ดูแลงาน เลยบอกกลุ่มผู้ใจบุญอีกครั้ง ในประโยคเดิม แต่ทว่าเจ้ากรรม สงสัยทำให้ไม่พอใจ กลุ่มผู้ใจบุญกลุ่มนี้จึงตัดสินใจลุกออกจากพื้นที่เลิกตักบาตรเลย
คำถาม
1. แบบนี้การหวังดีเพื่อจะให้งานออกมาดี และอยากให้ผู้ใจบุญกลุ่มนี้รับบุญไปพร้อม ๆ กัน แต่กลับเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ดิฉันกลับเพื่อน ๆ จะมีบาปหรือไม่ เพราะกลุ้มใจมาก ๆ และก็หวังให้ผู้มีบุญกลุ่มนี้เข้าใจและอโหสิกรรมให้ถ้าทำให้ไม่พอใจในขั้นตอนการทำงานของดิฉันและเพื่อน ๆ
ขอคำชี้แจงจากลูกพระธรรมผู้มีบุญ ทำให้ใจใสสว่างเหมือนเดิม เพื่อเตรียมไปช่วยงานที่อื่นด้วยค่ะ
#2
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 01:41 PM
#3
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 02:10 PM
#4
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 02:34 PM
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#5
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 02:35 PM
เข้าใจความรู้สึก จขกท. คะ
ในมุมคนอื่นที่เข้าใจเรา ดิฉันว่ามีคนชื่นชม จขกท. เยอะนะคะ
แต่เราก็ต้องยอมรับน่ะคะ ว่า "ไม่มีใครจะเข้าใจเราได้ครบทุกอย่าง ทุกเรื่อง"
การกระทำของเขา อาจทำให้เราหมอง
แต่เราต้องรู้ให้ทัน เขา น่ะคะ
ทริคมันอยู่ที่ว่า "ใจเรายังใสอยู่หรือเปล่า"
ใครยังไม่เข้าใจ ก็ปล่อยเขาไปเถอะคะ
หากแต่คราวหน้า เราก็ต้องระวังคำพูดให้ตรงลักษณะ 5 ประการดังนี้ค่ะ
1. พูดถูกกาล
2. พูดความจริง
3. พูดเป็นประโยชน์
4. พูดอ่อนหวาน
5. พูดด้วยความเมตตา
เรื่อง บางเรื่องน่ะคะ ต่อให้เราพูดครบทั้ง 5 ประการนี้ แต่คนฟังยังไม่เข้าใจ
ก็สุดแล้วแต่บุญของเขาแล้วจริงไหมคะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ ทำดี ย่อมได้ดีเสมอคะ
อนุโมทนาบุญคะ
#6
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 02:39 PM
แม้พระพุทธเจ้าก็ยังต้องเผชิญ สรรเสริญ นินทา
อย่าให้บุญหกหล่น ไปกว่านี้เลยค่ะ ไม่งั้น เสียที มาร 2 ต่อ
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ
สุนทรพ่อ
#7
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 03:02 PM
แต่ถือว่าเป็นประสบการณ์ในการทำงาน ได้เรียนรู้ ได้พัฒนาตนเองคะ สู้ๆ น่ะคะ
อยู่กับคนเยอะ ๆ ต้องใช้คำพูดง่าย ๆ เข้าใจง่ายๆ สั้นๆ พร้อมชูใจสาธุชนคะ แล้วก็คงต้องเหมือนคุณหรรษาบอกคะ
เรื่องน้ำเสียงสำคัญน่ะ เพราะคนเรานานาจิตตัง
ตอนสุดท้ายเหมือนถามผู้ใจบุญกลุ่มนี้เลยน่ะคะ พอลงท้ายด้วยคำถาม ผู้ใจบุญกลุ่มนี้ เค้าก็คงต้องการใส่บาตรตอนนี้เป็นไปได้น่ะคะ
สงสัยต้องทำใบปลิวแจกจ่ายแก่ผู้ร่วมมาใส่บาตรแล้วมั่งคะ ข้อแนะนำในการใส่บาตร ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร
เพราะบางท่าน ท่านก็ไม่เคยร่วมงาน แล้วก็ไม่ค่อยฟัง บางท่านก็ใจร้อน อย่างน้อยๆ เวลานั่งรอประกอบพิธี น่าจะมีเวลาอ่านใบปลิว ก็น่าจะเข้าใจ และทำให้เจ้าหน้าที่,อาสาสมัครทุกท่าน ได้เหนื่อยน้อยลงอีกนิด และผู้ร่วมใส่บาตรก็เข้าใจไปพร้อมๆกัน แล้วเค้าก็จะเตือนกันเองคะ
#8
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 03:10 PM
#9
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 04:04 PM
#10
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 04:17 PM
#11
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 04:36 PM
การพูดเป็นศิลปชั้นสูงครับ
ลองศึกษาวิธีของคุณครูไม่ใหญ่ซิครับ สอนเหมือนไม่ได้สอน สั่งเหมือนไมไ่ด้สั่ง
#12
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 05:12 PM
#13
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 05:15 PM
ยังไม่รู้จะทำอย่างไรเลย พวกเรา(อุปัฏฐากแก้ว)ก็ช่วยกันบอกแล้วบอกเล่า สาธุชนฟังบ้างไม่ฟังบ้าง สาเหตุคงเกิดจาก
สาธุชนที่มาตักบาตรไม่สามารถเข้าไปพื้นที่ชั้นในได้ (พ.ท.ชั้นในคือพ.ท.ปูพรมขาวแดง) เพราะแน่นไปหมด สาธุชนจึง
อออยู่บริเวณสองข้างที่พระนั่งรอแปรแถว รอไปรอมา(คงนาน)ก็เลยพยายามที่ใส่บาตรก่อน ถ้าเราปล่อยให้ใส่ได้คนหนึ่ง
คนอื่นคงแย่งกันใส่เต็มไปหมด ทุกคนพยายามห้ามแล้ว แต่พอถึงเวลาพระแปรแถว รู้สึกจะห้ามไม่อยู่นะ พระ(บางรูป)
ก็รับบาตรด้วย เลยยุ่งกันไปใหญ่ หลวงพี่ที่มาจากเขาแก้วเสด็จเล่าให้ฟังว่า ยังไม่ทันแปรแถวเดินเข้าพื้นที่เลย ข้าวของ
เต็มบาตรไปหมดแล้ว เลยรับบาตรอยู่ด้านหลังไม่ได้เข้าพื้นที่ ไปรับตามตรอกซอกซอยก็มี รับบุญกันทั้งพระทั้งโยมปิติ
กันทั่วหน้าครับ รุ่งขึ้นหลวงพี่มีปัจจัยนำไปถวายหลวงกันทุกรูป อย่าคิดมากครับ สาธุชนมามากยาวเยียดเป็นลูกเขียดคา
เลยเป็นอย่างน้องๆ เห็น อนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ......สาธุ****
#14
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 05:48 PM
สาเหตุหลัก ผมเข้าใจเหมือนคุณ พิซซ่า ครับ
และคำตอบจากเพื่อนกัลยาณมิตรทั้งหลาย ก็ขยายไว้ชัดเจนดีแล้ว
ผมเคยเห็นภาพ ที่อาม่า เดินใส่บาตร พระที่นั่งเก้าอี้ ระหว่างพิธีกรรม
คงเพราะเรื่องสุขภาพและไม่คิดว่า การตักบาตรจะรอคอยนาน หรือมีธุระ ฯลฯ
สรุปว่า
งานขนาดใหญ่ ใช้เวลา คนจำนวนมหาศาล ความเข้าใจและความคุ้นเคยพิธีตักบาตร ต่างกัน
ก็ย่อมมีเรื่องกระทบใจบ้าง เป็นธรรมดา ครับ
หน้าที่ของเรา รับบุญไป รักษาอารมณ์ที่แจ่มใส และรักษาความเบิกบานใจไป
ดูแลกลาง (ศกก.) ทุกอย่างจะสำเร็จอย่างเปี่ยมสุข ครับ
#15
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 06:11 PM
มาอ่านคำถามของกองพิธีการ ที่นักเรียนอนุบาล pundit_tuy ค้นมา
และนี่เป็นคำตอบ จากพระเดชพระคุณคุณครูไม่ใหญ่จ้า
การทำหน้าที่พิธีกรรม บางครั้งกระทบกระทั่งกับเจ้าภาพ เช่น เวลาปิดโต๊ะเป็นรูปตัว T พอเจ้าหน้าที่พิธีกรรมไปแสดงเหตุผล ก็ทำให้เจ้าภาพบางคนเกิดความหงุดหงิด ถือซองปัจจัยกลับไปเลย ทำให้ตัวลูกเกิดความไม่สบายใจกลัวว่าจะมีวิบากกรรมนั้น
ก็อย่าไปกังวลใจไปเลย ตัวลูกทุกคนได้ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเป็นอย่างดี ไม่มีวิบากกรรมอะไร มีแต่จะได้บุญบารมีเพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องให้มีศิลปะในการแนะนำ ต้องยิ้มแย้มแจ่มใส นึกถึงบุญใสๆเอาไว้ อย่าไปกังวลใจ
ส่วนตัวเจ้าภาพ ก็เป็นเพียงบางคนซึ่งอาจเป็นคนใหม่ ยังไม่คุ้นเคยกับธรรมเนียมปฏิบัติของหมู่คณะ ก็คงต้องให้โอกาสและเวลาที่จะเรียนรู้ธรรมเนียมนี้ เพราะที่ตัวลูกทุกคนในช่วงนั้นต่างรู้ว่า ครูไม่ใหญ่มีเวลาจำกัด จะต้องมีภารกิจอีกมากมาย ซึ่งแบ่งภาคไม่ได้ และยังมีกิจกรรมอีกหลายอย่างต้องทำภายหลังจากนั้นอีก จึงต้องทำดังนั้น ทั้งๆที่ใจจริง ครูไม่ใหญ่ก็อยากรับปัจจัยด้วยตนเองทุกครั้งกับทุกคน แต่ก็ทำไม่ได้ด้วยเหตุผลดังกล่าว
เรื่องเจ้าหน้าที่ ที่ต้องดูแลระเบียบคนไทย ไม่ว่าหน่วยงานไหนๆ คงต้องเหนื่อยใจเป็นปกติหน่อย
เพราะเราอยู่ในประเทศที่ล้าหลังมาก เรื่องการปฎิบัตตามระเบียบวินัย
อย่าว่าแต่ขอร้องเลย ผิดกฎหมาย หรือกฎจราจร ก็ยังมีคนจำนวนมากกระทำอย่างไม่อายตลอดเวลา
...
ดังนั้น ส่วนตัวแล้วควรให้น้ำหนัก ระเบียบปฎิบัตจ้ะ
เจ้าหน้าที่เอง ถ้าเราบอกด้วยกริยาที่อ่อนโยน ในเชิงขอร้อง แล้วเขายัง ดื้อ กระทำตรงข้าม หรือ เดินกลับออกจากพิธี
ก็ให้วางเฉยเสีย ยิ้มๆ ผ่องใสเข้าไว้
ไม่ต้องว่ากล่าวเขาอีก หรือ พูดสิ่งใดอีก คนอื่นๆ ที่อยู่แถวนั้นจะเข้าใจเองจ้ะ
...
ก็ให้วางอุเบกขาเสีย นึกแผ่เมตตา สงสารเขาที่มีปัญญาไม่เพียงพอที่จะได้ร่วมบุญใหญ่ ทั้งที่มาถึงที่แล้วเชียว
กลับไปนำเอาทิฐิถือตัวผิดๆ มาใช้ตัดโอกาสบุญตนเอง และสร้างวิบากกรรมให้ตนเองที่เป็นเหตุ ให้เจ้าหน้าที่เสียกำลังใจ
เขาสิที่มีวิบาก ไม่ใช่คุณ
ก็อย่าลืมอโหสิกรรมให้เขานะจ๊ะ
...
เพราะ คนใหม่ หรือเก่าแล้วแต่ อินทรีย์ยังอ่อน
อีกหน่อยเขาเห็นหมู่คณะ ยังคงถือปฎิบัตต่อเนื่อง แล้วปัญญาเกิด
ก็จะเข้าใจไปเอง
ขอให้กำลังใจ และอนุโมทนาดังๆ สาธุ สาธุ สาธุ
#16
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 06:21 PM
อย่าไปถือสาเลยครับ
มีคนชื่นชมคุณกันทั่วโลกนะ
ทำไมคุณไม่ดีใจล่ะ
เหตุใดจึงต้องมาเสียใจ
เพียงคนคนเดียว
รักษาใจให้ใสๆครับ...
#17
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 07:05 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#18
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 08:02 PM
อนุโมทนา สาธุกับทุกกำลังใจนะคะ
#19
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 08:36 PM
ไม่เป็นไร กระทู้นี้อยากตอบอ่ะ อยากให้กำลังใจ..
ท่านอริย 072 ตอบได้แจ่มแจ้ง.. เราเห็นตามนั้นเหมือนกัน
คุณเจ้าของกระทู้อย่ากังวลไปเลย หากเราคิดดี ทำดี พูดดี แล้ว.. ผลย่อมดี.. จริงไหม..
รักษาใจให้ใสๆเอาไว้ ปีติในบุญที่เราทำมาทั้งหมด แล้วดีเอง..
ส่วนท่านผู้นั้น.. ติดวิบากกรรมไปแล้วแน่นอน.. ทำตัวเองแท้ๆ..
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะเก็บเอามากังวล..
อย่าคิดว่าคุณเป็นเหตุให้เขาติดวิบากกรรม..
เพราะคุณไม่ได้บอกเขาทำนองว่า.. อย่าตักบาตรนะ จงกลับบ้านไป.. แต่เขาเกิดโทสะกลับบ้านไปเอง..
คุณทำหน้าที่จัดระเบียบ เพื่องานบุญของมหาชน คนหมู่มาก..
และเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย สง่างาม สะดวกสบาย ของหมู่สงฆ์ที่มารับบาตร..
บุญที่ได้นั้นมหาศาลเชียวนะ.. จะมัวคิดมากไปทำไม..
ฟังแบบนี้แล้ว.. คราวต่อไปก็สบายใจนะจ๊ะ..
ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาได้อย่างสบายใจ เต็มที่ในบุญ แล้วผลบุญก็จะเต็มที่กับคุณ..
กราบอนุโมทนาบุญของท่านเจ้าของกระทู้ด้วยจ้า.. สาธุ สาธุ สาธุ..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..
#20
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 09:32 PM
#21
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 11:14 PM
ก็อย่างที่หลวงพ่อท่านตอบนะคะ คุณทำดีที่สุดแล้วค่ะ แต่ว่าทิฐฐิของคนไม่เท่ากัน บางคนอาจมาเพราะไม่ได้ตั้งใจจะมานะคะ แต่มาเพราะถูกขอร้องให้มาเพื่ออยากให้เขาได้บุญใหญ่ อย่างเช่น ลูกๆของดิฉันเป็นตัวอย่างค่ะ แต่ที่ดิฉันทราบก็คือ เขาไม่ได้ตักบาตรนะคะ คว้าข้าวของซึ่งมีทั้งอาหารแห้งและเครื่องใช้ที่จำเป็นออกมาถวายสังฆทานแก่วัดแถวๆพระราม 3 ใกล้บ้าน โดยมีเหตุผลว่า ทำไมต้องให้นั่ง ก็มันไม่มีที่ก็ต้องยืน ก็เลยหงุดหงิด แล้วก็คว้าข้าวของออกมา
ดิฉันเองนี่ตกใจเหมือนกันหลังจากที่ได้ทราบเพราะอยู่กันคนละซีกโลกนะคะ ดิฉันก็ไม่ทราบว่าคุณ จขกท. จะไปเจอเหตูการณ์นี้กับใคร แต่ก็ขอเล่าสู่กันฟังเพื่ออาจช่วยให้ใจสบายขึ้นนะคะ อย่าไปคิดมากเลยนะคะ อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
ทุกท่านล้วนเป็นผู้มีบุญทั้งนั้น ที่มีโอกาสได้ทำ เห็น ร่วมปลื้มๆๆๆๆ
ดิฉันได้แต่ปลื้มอยู่อีกซีกโลกหนึ่งนะคะ ใจใสๆนะคะ บุญใหญ่อย่างนี้ต้องปลื้มอย่างเดียวค่ะ
สาธุ สาธุ
#22
โพสต์เมื่อ 12 August 2008 - 12:31 AM
#23
โพสต์เมื่อ 12 August 2008 - 01:32 AM
พูดแล้วก็เก็บมาใจขุ่นซะเอง
ชีวิตอาสาสมัคร 55
#24
โพสต์เมื่อ 12 August 2008 - 11:30 AM
วันหน้า ถ้าไปทำหน้าที่ หรือติดต่องานอะไร ให้อารธนาหลวงปู่สด หลวงพ่อธรรมชโย คุณยายอาจารย์จันทร์ ที่กลางท้อง ให้ท่านช่วยซิคะ
เคล็ดลับนี้สามารถแก้ปัญหาได้ผลทุกครั้งเลยค่ะ ลองดูนะคะ
สาธุ อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
#25
โพสต์เมื่อ 12 August 2008 - 07:37 PM
จัดงานตักบาตรทุกที ก้อจะมีอย่างนี้แหละ คิดว่า เค้ามีธุระ ลองหลับตา บ้างนะ พอพระรับบาตรเสร็จเรียบร้อย ก้อ ให้อุบาสก เข้าไปถ่ายอาหารใส่ถุงไว้เลยเท่านั้นเองนะ ไม่เห็นจะง่ายเลยจิงปะ
#26
โพสต์เมื่อ 12 August 2008 - 08:35 PM
มีกำลังใจในการทำงานบุญใหญ่ ๆ อีกเยอะเลยคะ
ก็เอาบุญมาฝากทุก ๆ คนนะคะ
สาธุ
#27
โพสต์เมื่อ 13 August 2008 - 08:30 AM
นั่นคือรักษาภาพพิธีตักบาตร ให้เรียบร้อยงดงาม ตามเยี่ยงอย่างอริยประเพณีที่ดีงามของชาวพุทธเรามาแต่พุทธกาล
ขออนุโมทนากับคุณ usr22723 ด้วยใจจริง
และประสบการณ์นี้ จะทำให้คุณได้ทำงานใหญ่ๆยิ่งขึ้นไปในอนาคต อย่างเรียบร้อยงดงามเสมอๆจ้ะ
#28
โพสต์เมื่อ 13 August 2008 - 09:04 AM
#29
โพสต์เมื่อ 13 August 2008 - 11:58 AM
ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
สาธุ
#30
โพสต์เมื่อ 13 August 2008 - 04:01 PM
- ควรนำมาศึกษาว่า...ผู้มีบุญกลุ่มนี้...ยังฝึกตบะมาน้อย...อาจมีพื้นฐานของความเป็นใหญ่ในสังคม...เมื่อไม่ทันใจ...ใจจึงขุ่นมัวง่าย...เปิดโอกาสให้โทสะเข้าแทรก...ทำให้ตนและเพื่อนในกลุ่มพลาดโอกาส...ทั้งๆที่มีโอกาสน้อยมากที่จะได้สร้างบุญใหญ่ร่วมกัน
- โอกาสเป็นของทุกท่าน...หากบางท่านปล่อยโอกาสให้หลุดลอย...เพราะใจขุ่นมัวอดทนน้อย...ก็คงได้บุญเพียงบุพเจตนา...แต่ผลบุญสาธารณะที่เกิดขึ้นยังคงเป็นของสาธุชนและผู้มีความปรารถนาดี...อย่ากลุ้มใจหรือหนักใจเลย...ทำดีแล้ว...ทำดีต่อไปจนถึงที่สุด...สาธุ