ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

Dhamma for the week 1-7/10


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 4 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ThDk

ThDk
  • Members
  • 259 โพสต์
  • Location:Struer, Denmark
  • Interests:จุดมุ่งหมายของการประพฤติพรรหมจรรย์ เพื่อสำรอกราคะ... เพื่อละสังโยชน์... เพื่อถอนอานุสัย.. เพื่อรู้รอบสังสารวัฎอันยืดยาว... เพื่อความสิ้นอาสวะ... เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งผลคือ วิชชาและวิมมุติ... เพื่อญาณทัศนะ... เพื่อปรินิพพาน อันปราศจากอุปทาน.

โพสต์เมื่อ 02 October 2006 - 10:16 AM

1 ตุลาคม อนาคตของดารานักแสดง: ดารานักแสดงที่ให้ความบันเทิงแก่ผู้อื่นด้วยคำจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง นั้น ตายแล้วจะไปเกิดในสุคติหรือทุคติ ?

พระพุทธเจ้าทรงห้ามมิให้หัวหน้านักแสดงนามว่าตาลปุฏะถามคำถามนั้น ถึง ๓ ครั้ง แต่นายตาลปุฏะก็ยังคะยั้นคะยอจะเอาคำตอบให้ได้

พระพุทธองค์ จึงตรัสตอบว่า

พุทธดำรัส ตอบ “ดูก่อนหัวหน้านักแสดง แท้จริงเราไม่ได้ อนุญาตให้ท่านถามปัญหานี้ เรากล่าวว่า อย่าเลย หัวหน้านักแสดง เรื่องนี้หยุดไว้เสียเถิด อย่าถามปัญหานี้กะเราเลย แต่เอาเถอะ เราจะตอบปัญหาแก่ท่าน
“ดูก่อนหัวหน้านักแสดง สัตว์ทั้งหลายยังไม่ปราศจากราคะ ถูกราคะผูกมัดไว้ ยังไม่ปราศจากโทสะ ถูกโทสะผูกมัดไว้ ยังไม่ปราศจากโมหะ ถูกโมหะผูกมัดไว้ อยู่ก่อนแล้ว นักแสดงยิ่งนำเข้ามาซึ่งธรรมอันส่งเสริม ราคะ ส่งเสริมโทสะ ส่งเสริมโมหะแก่ชนเหล่านั้นในท่ามกลางเวที ท่ามกลางโรงมหรสพให้มี ราคะ โทสะ โมหะ มากยิ่งขึ้น บุคคลนั้นตนเองก็ประมาทมัวเมาอยู่แล้ว ยังทำให้คนอื่นประมาทมัวเมาอีก เบื้องหน้าแต่ตายเพราะแตกทำลาย ย่อมเกิดในนรกชื่อปหาส....
“ถ้าเขามีความเห็นอย่างนี้ว่า นักแสดงคนใดทำให้คนหัวเราะ รื่นเริงตามคำจริงบ้าง คำเท็จบ้าง ในท่ามกลางเวที ผู้นั้นเบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก ทำลาย ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชื่อปหาส ความเห็นของเขานั้นเป็นความเห็นผิด....”
2 ตุลาคม อนาคตของนักรบอาชีพ

คำถามนี้ ประธานชุมชน (นายบ้าน) ผู้เป็นนักรบอาชีพทูลถามพระพุทธเจ้า ๓ ครั้ง พระพุทธองค์ก็ไม่ทรงตอบ แต่ในที่สุดก็จำต้องตอบว่า

พุทธดำรัส ตอบ “ดูก่อนนายบ้าน แท้จริงเราไม่ได้อนุญาตให้ท่านถามปัญหานี้ เรากล่าวว่า อย่าเลย นายบ้าน เรื่องนี้พักไว้เสียเถิด อย่างถามปัญหานี้กะเราเลย แต่เอาเถอะ เราจะตอบปัญหาแก่ท่าน
“ดูก่อนนายบ้าน นักรบอาชีพคนใด อุตสาหพยายามในสงคราม จิตของเขาเป็นสภาพต่ำ ชั่ว ตั้งไว้ไม่ดีก่อนแล้วว่าขอสัตว์เหล่านั้นจงถูกฆ่า จงถูกแทง จงขาดสูญ จงพินาศ หรือว่าอย่าได้มีอยู่เลย ดังนี้บุคคลอื่นย่อมฆ่า ย่อกำจัดเขาที่กำลังอุตสาหพยายามอยู่นั้น เมื่อเขาตายเพราะกายแตกทำลายย่อมยังเกิดในนรกชื่อสรชิต...
“ถ้าเขามีความเห็นอย่างนี้ว่า นักรบอาชีพคนใดอุตสาหพยายามในสงคราม ผู้นั้นเมื่อตายไปเพราะกายแตกทำลาย ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาเหล่าสรชิตดังนี้ไซร้ ความเห็นของผู้นั้นเป็นความเห็นผิด ดูก่อนนายบ้าน ก็เราย่อมกล่าวคติ ๒ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ นรก หรือกำเนิดสัตว์เดียรัจฉานของบุคคลผู้มีความเห็นผิด....”


3 ตุลาคม พิธีส่งวิญญาณไปสวรรค์ของพราหมณ์

นายบ้านชื่อสิพันธกบุตร ทูลถามพระพุทธเจ้าว่าพวกพราหมณ์ชาวปัจฉาภิ ผู้ถือหม้อน้ำคล้องพวงมาลัยดอกไม้ ผู้ล้างบาปด้วยน้ำ ผู้บูชาไฟ สามารถทำพิธีปลูกคนตายที่ถึงวาระสุดท้ายแล้วให้เป็นขึ้นทำไม เขารู้ตัวแล้วส่งเขาขึ้นสวรรค์ พระผู้มีพระภาคเจ้าสามารถทำได้เช่นนั้นหรือไม่ ?

พุทธดำรัส ตอบ “ดูก่อนนายคามณี ถ้าอย่างนั้น เราจักย้อนถามท่านในปัญหาข้อนี้ ท่านจะเป็นความข้อนั้นอย่างไร บุรุษในโลกนี้ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อมากไปด้วยอภิชฌา มีจิตพยาบาท มีความเห็นผิด หมู่มหาชนมาประชุมกันแล้ว พึงสวดวิงวอนสรรเสริญประนมมือเดินเวียนผู้นั้น กล่าวว่า ขอบุรุษผู้นี้เมื่อตายไป จงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ท่านจะเห็นความข้อนั้นอย่างไร บุรุษผู้นี้เมื่อตายไป พึงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะเหตุการณ์สวดวิงวอน.... การสรรเสริญ หรือการประนมมือเดินเวียนรอบนั้นหรือ ?”
“ไม่ใช่อย่างนี้ พระเจ้าข้า”
“ดูก่อนนายคามณี เปรียบเหมือนบุรุษโยนหินก้อนหนาใหญ่ลงในห้วงน้ำลึก หมู่มหาชนพึงมาประชุมกันแล้วสวดวิงวอน ว่า ขอจงลอยขึ้นมาเถิดท่านก้อนหิน ท่านจะคิดเห็นอย่างไรก้อนหินนั้นถึงจะลอยขึ้นเพราะเหตุการณ์สวดวิงวอนของหมู่มหาชนบ้างหรือ ?”
“ไม่ใช่อย่างนี้ พระเจ้าข้า”
“ดูก่อนนายคามณี ฉันนั้นเหมือนกัน บุคคลใดฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ฯลฯ แม้หมู่มหาชนพึงมาประชุมกันแล้วสวดวิงวอนว่า ขอบุรุษผู้นี้เมื่อตายไป จงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ก็ตาม แต่บุรุษนั้นเมื่อตายไป พึงเข้าถึงอบาย ทุคติวินิบาต นรกโดยแท้....”


4 ตุลาคม การแสดงธรรมแบบต่าง ๆ แก่คนประเภทต่าง ๆ

พระพุทธเจ้าทรงมีพระมหากรุณาแก่สัตว์ทั้งปวง แต่เหตุไฉนจึงทรงแสดงธรรมด้วยดีแต่คนบางพวก ไม่ทรงแสดงธรรมด้วยดีแก่คนบางพวก ?

พุทธดำรัส ตอบ “ดูก่อนนายคามณี ถ้าอย่างนั้น เราจักย้อนถามท่านในข้อนี้ ท่านพึงพยากรณ์ปัญหานั้นตามที่ท่านเห็นสมควร ดูก่อนนายคามณีท่านจะเห็นความข้อนั้นอย่างไร นาขอคฤหบดีชาวนาในโลกนี้มี ๓ ชนิด คือ ชนิดหนึ่งเป็นนาดี ชนิดหนึ่งเป็นนาปานกลาง ชนิดหนึ่งเป็นนาเลว มีดินแข็งดินเค็ม มีเนื้อดินเลว คฤหบดี ต้องการจะหว่านพืช จะพึงหว่านในนาไหนก่อน ?
“พึงหว่านในนาดีก่อน แล้วพึงหว่านในนาปานกลาง ในนาเลว พึงหว่านบ้าง ไม่หว่านบ้าง เพราะเหตุไร เพราะในที่สุด จักเป็นเพียงอาหารโค
“ดูก่อนนายคามณี เปรียบเหมือนนาดีฉันใด เราย่อมแสดงธรรมอันงานในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งความหมาย (อรรถะ) และตัวอักษร (พยัญชนะ) บริสุทธิ์ บริบูรณ์ สิ้นเชิง แก่ภิกษุและภิกษุณีของเราเหล่านั้นก่อนฉันนั้น ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะภิกษุ และภิกษุณีเหล่านี้ มีเราเป็นที่พึ่ง มีเราเป็นที่หลบภัย มีเราเป็นเครื่องป้องกันมีเราเป็นสรณะ.”
“ดูก่อนนายคามณี เปรียบเหมือนนานปานกลางฉันใด เราย่อมแสดงธรรม
แก่อุบาสก อุบาสิกา ของเราเหล่านั้นฉันนั้น ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะอุบาสกอุบาสิกาเหล่านั้นมีเราเป็นที่พึ่ง.....” “ดูก่อนนายคามณี นาเลว มีดินแข็ง มีดินเลว ฉันใด เราย่อมแสดงธรรม แก่อัญญเดียรถีย์ สมณะ พราหมณ์ และปริพาชกเหล่านั้นฉันนั้น ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะถ้าอัญญเดียรถีย์ สมณะ พราหมณ์ และปริพาชก จะพึงรู้ทั่วถึงธรรมนั้นแม้บทเดียวความรู้นั้นพึงเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่เขา สิ้นกาลนาน...”

5 ตุลาคม พิธีอุทยคามินีของพราหมณ์

นายคามณี อสิพันธกบุตรกราบทูลพระพุทธเจ้าว่า นิครนถ์นาฏบุตรสอนว่า ใครก็ตามที่ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม และพูดเท็จ จะต้องเข้าถึงอบายและนรกอย่างแน่นอน กรรมใดที่คนทำเป็นส่วนมากจนเป็นนิสัย จะนำเขาเข้าสู่นรก พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเห็นอย่างไร ?

พุทธดำรัส ตอบ “ดูก่อนนายคามณี นิครนถ์นาฏบุตรแสดงธรรมแก่พวกสาวกว่า กรรมใดมาก กรรมนั้นย่อมนำบุคคลไป เมื่อเป็นเช่นนั้น จักไม่มีใครไปอบาย ตกนรกตามคำของนิครนถ์นาฏบุตร
“ดูก่อนนายคามณี ท่านจะเห็นความข้อนั้นเป็นอย่างไร บุรุษผู้ฆ่าสัตว์ ถือเอาของที่เขามิได้ให้ ประพฤติผิดในกาม เป็นผู้กล่าวเท็จ ในกลางคืนก็ดี ในกลางวันก็ดี รวมทั้งสมัยและมิใช่สมัยก็ดี เวลาไหนมากกว่า ? เวลาฆ่าสัตว์ หรือเวลาไม่ฆ่าสัตว์?
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เวลาที่เขาฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จน้อยกว่า เวลาที่เขาไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดประเวณี ไม่พูดเท็จมากกว่าโดยแท้”
“ดูก่อนนายคามณี เมื่อเป็นเช่นนี้จักไม่มีใครไปสู่อบาย ตกนรกตามคำของนิครนถ์นาฏบุตร ที่ว่ากรรมใด ๆ มีมาก เขาจักถูกกรรมนั้นนำไป....
“ดูก่อนนายคามณี ส่วนพระตถาคตอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ทรงตำหนิการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม และพูดเท็จ และตรัสว่า จงงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การประพฤติผิดในกาม การพูดเท็จ โดยอเนกปริยายสาวกผู้เลื่อมใสในพระศาสดานั้น ย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า พระผู้มีพระภาคทรงตำหนิปาณาติบาต และตรัสว่า จงเว้นจากปาณาติบาต สัตว์ที่เราฆ่ามีอยู่มากมาย ข้อนั้นไม่ดีไม่งาม เราพึงเดือดร้อนเพราะข้อนั้นเป็นปัจจัย บาปกรรมนั้นจักเป็นอันยกเลิกไม่ได้ เขาพิจารณาเห็นดังนี้แล้ว ย่อมละปาณาติบาตนั้นด้วย ย่อมงดเว้นจากปาณาติบาตต่อไปด้วย เป็นอันว่าเขาละบาปกรรมก้าวล่วงบาปกรรมได้ด้วยประการอย่างนี้”

6 ตุลาคม การบิณฑบาตไม่ใช่เบียดเบียนชาวบ้าน

นายคามณี อสิพันธกบุตรกราบ ทูลถามพระพุทธองค์ตามคำแนะนำของนิครนถ์นาฏบุตรว่า ขณะที่หมู่บ้านนาฬันทคามเกิดข้าวยากหมากแพง ประชาชนเลี้ยงชีพโดยฝืดเคือง ต้องจับจ่ายด้วยบัตรปันส่วน ไฉนพระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์ จึงยังคงจาริกไปเพื่อภิกษาในนาฬันทคาม จะไม่เป็นการเบียดเบียนชาวบ้านหรือ ?

พุทธดำรัส ตอบ “ดูก่อนนายคามณี แต่ภัทรกัปนี้ไป ๙๑ กัปที่เราระลึกได้ เราไม่รู้สึกว่าเคยเบียดเบียนครอบครัวไหน ๆ ด้วยการถือเอาภักษาที่สุกแล้วเลย
“อนึ่งเล่า ครอบครัวใดมีฐานะมั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีโภคะมาก มีเงินและทองมาก มีทรัพย์คืออุปกรณ์มาก มีทรัพย์คือข้าวเปลือกมาก ครอบครัวทั้งปวงนั้นเจริญขึ้นเพราะการให้ทาน เพราะมีสัจจะ เพราะมีสำรวมระวัง
“ดูก่อนนายคามณี มีเหตุปัจจัย ๘ อย่างเพื่อความคับแค้นแห่งครอบคัวทั้งหลาย คือ สกุลทั้งหลายถึงความคับแค้นจากพระราชา ๑ จากโจร ๑ จากไฟ ๑ จากน้ำ ๑ ทรัพย์ที่เก็บไว้เคลื่อนไปจากที่ ๑ ทรัพย์วิบัติไปเพราะประกอบการงานชั่ว ๑ คนทำลายทรัพย์แห่งสกุล ผู้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยทำลาย กำจัดโภคะเหล่านั้น เกิดขึ้นในครอบครัว ๑ ความไม่เที่ยงแท้แน่นอนเป็นปัจจัย ๘
“ดูก่อนนายคามณี ทั้งที่เหตุปัจจัย ๘ อย่างเหล่านี้มีอยู่ ผู้ใดพึงกล่าวหาเราอย่างนี้ว่า พระผู้มีพระภาคปฏิบัติเพื่อให้ครอบครัวขาดสูญ เพื่อให้ครอบครัวเสื่อม เพื่อให้ครอบครัวคับแค้น ดังนี้ ผู้นั้น หากไม่ละวาจานั้น ไม่ละความคิดนั้น ไม่ละความเห็นนั้น ต้องดิ่งลงในนรกแน่แท้...”

7 ตุลาคม พระภิกษุกับการรับเงินและทอง

ราชบริษัทในเมืองราชคฤห์สนทนากันว่า เงินและทองเป็นสิ่งควรแก่พระภิกษุ พระภิกษุยังยินดีในเงินและทอง และย่อมรับเงินและทองได้ นายบ้านนามว่ามณีจูฬกะได้ยินเช่นนั้น จึงปฏิเสธคำกล่าวหานั้นแล้วภายหลังได้ไปเฝ้าพระพุทธเจ้า กราบทูลเรื่องนี้ให้ทรงทราบ และทูลถามว่าที่เขาปฏิเสธไปนั้นถูกต้องหรือไม่ ?

พุทธดำรัส ตอบ “ดีละ นายคามณี เมื่อท่านตอบอย่างนั้นเป็นอันกล่าวตามที่เรากล่าว ไม่กล่าวตู่เราด้วยคำไม่จริง และคราวตอบธรรมถูกต้องเหมาะสม ... เพราะว่าทองและเงินไม่ควรแก่สมณศากยบุตร สมณศากยบุตรย่อมไม่ยินดีในเงินและทอง ห้ามเสียซึ่งเพชรนิลจินดาและทอง ปราศจากเงินและทอง
“ดูก่อนนายคามณี กามคุณทั้ง ๕ ควรแก่ผู้ใด เงินและทองย่อมควรแก่ผู้นั้นท่านพึงจำข้อนี้ไว้อย่างเด็ดขาดเถิด ว่า ข้อนั้นไม่ใช่สมณธรรม ไม่ใช่ธรรม ของสมณศากยบุตร นายคามณี เรากล่าวยืนยันอย่างนี้ว่า ผู้ต้องการหญ้าพึงแสวงหาหญ้า ผู้ต้องการไม้พึงแสวงหาไม้ ผู้ต้องการหาเกวียนพึงแสวงหาเวียน ผู้ต้องการบุรุษจึงแสวงหาบุรุษ แต่เรามิได้กล่าวโดยปริยายใด ๆ เลยว่า พระศากยบุตรพึงยินดีและแสวงหาเงินและทอง....”

โลกอยู่ภายใต้การครอบงำของชรา ก้าวเข้าไปสู่ชรา ไม่ยั่งยืน

โลกไม่มีผู้ต้านทาน ไม่มีผู้เป็นใหญ่

โลกไม่มีอะไรเป็นของตน จำต้องละทิ้งสิ่งทั้งปวง

โลกพร่องอยู่เป็นนิจ ไม่รู้จักอิ่ม เป็นทาสแห่งตัณหา.

- สละโลกได้ ก็พ้นทุกข์ได้


#2 iMac24

iMac24
  • Members
  • 437 โพสต์
  • Location:Dmoc
  • Interests:เกิดมาสร้างบารมี

โพสต์เมื่อ 02 October 2006 - 11:00 PM

ดีมากๆเลยครับ 7 วัน 7 อย่าง
จงสู้และอย่าท้อ ลูกเอย
ต้องถึงธรรมอย่างเสบย แน่แท้
ให้ทำอย่างที่เคย สอนสั่ง
นั่ง บ่ มีข้อแม้ จักได้ธรรมครอง

สุนทรพ่อ

มาร่วมกันสร้างสันติสุขให้กับโลกกันเถอะ

#3 น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14

น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14

    เราคือ นักรบกล้าอาสาสมัคร กองทัพธรรม

  • Members
  • 1961 โพสต์
  • Gender:Female
  • Interests:ช่วยงานบุญที่วัด ให้ถึงที่สุดกำลัง ตราบวันที่ชีวิตจะสิ้นลมหายใจ

โพสต์เมื่อ 04 October 2006 - 11:05 AM

ได้รับทางเมล์เช่นกันค่ะ
"ด้วยใจกล้าอาสา พัฒนาไม่หยุดยั้ง"

น้ำฝนลูกพระธัมฯ

#4 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 11 October 2006 - 11:54 AM

ทำไมไม่มีใครส่งมาให้บ้างอ่ะ
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี

#5 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 27 March 2007 - 01:06 PM

ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ