[color=#FF0000]
ทุกสิ่งเป็นของไม่มีอะไรจริง
เป็นของสมมติทั้งหมด
ไม่มีอะไรแน่นอน
ย่อมสลายตัวไปหมด
ไม่มีอะไรเป็นที่พึ่ง
ต้องพลัดพรากจากกันหมด
(หนังสือ"พ่อรักลูก พิเศษ" โดย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
www.Luangpor.com "ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า"
โคตรภูของอรหัตมรรค
เริ่มโดย Kimm, Jan 04 2006 07:38 PM
มี 8 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 04 January 2006 - 07:38 PM
#2
โพสต์เมื่อ 04 January 2006 - 08:00 PM
สาธุ... สาธุ... สาธุ...
เป็นความจริงที่เลี่ยงไม่ได้ เพราะความสูญเสียเป็นเที่ยง
เป็นความจริงที่เลี่ยงไม่ได้ เพราะความสูญเสียเป็นเที่ยง
เมื่อไหร่หนอจะได้พบทหารหาญ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
สุนทรพ่อ
muralath2@hotmail
#3
โพสต์เมื่อ 04 January 2006 - 08:14 PM
สิ่งที่เที่ยงแท้ในวัฏฏะมีอยู่นั่นคือ เราทุกคนต้องตายแน่แท้ จะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#4
โพสต์เมื่อ 04 January 2006 - 11:06 PM
โคตรภูของพระอรหันต์แปลว่าไรครับ
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#5
โพสต์เมื่อ 05 January 2006 - 12:40 AM
QUOTE
โคตรภูของพระอรหันต์แปลว่าไรครับ
คำถามดีมากๆๆๆๆ ครับขออนุญาตตอบแทนเจ้าของกระทู้นะครับ
[๑๓๗] ชื่อว่าโคตรภู เพราะอรรถว่า ออกจากความเกิดขึ้นออกจากความเป็นไป ...
ออกจากสังขารนิมิตภายนอก ชื่อว่าโคตรภู เพราะอรรถว่าแล่นไปสู่นิพพานอันไม่มีความเกิดขึ้น
แล่นไปสู่นิพพานอันไม่มีความเป็นไป ฯลฯแล่นไปสู่นิพพานอันเป็นที่ดับ ชื่อว่าโคตรภู เพราะ
อรรถว่า ออกจากความเกิดขึ้นแล้ว แล่นไปสู่นิพพานอันไม่มีความเกิดขึ้น ออกจากความเป็นไปแล้ว
แล่นไปสู่นิพพานอันไม่มีความเป็นไป ออกจากสังขารนิมิตภายนอกแล้ว แล่นไปสู่นิพพานอันเป็น
ที่ดับ ชื่อว่าโคตรภู เพราะอรรถว่า หลีกออกจากความเกิดขึ้นหลีกออกจากความเป็นไป ฯลฯ
หลีกออกจากสังขารนิมิตภายนอก ชื่อว่าโคตรภูเพราะอรรถว่า แล่นไปสู่นิพพานอันไม่มีความเกิด
ขึ้น แล่นไปสู่นิพพานอันไม่มีความเป็นไป ฯลฯ แล่นไปสู่นิพพานอันเป็นที่ดับ ชื่อว่าโคตรภู
เพราะอรรถว่าหลีกออกจากความเกิดขึ้นแล้ว แล่นไปสู่นิพพานอันไม่มีความเกิดขึ้น ออกจาก
ความเป็นไปแล้ว แล่นไปสู่นิพพานอันไม่มีความเป็นไป ฯลฯ หลีกออกจากสังขารนิมิตภายนอก
แล้ว แล่นไปสู่นิพพานอันเป็นที่ดับ ฯ
[๑๓๘] โคตรภูธรรมเท่าไร ย่อมเกิดขึ้นด้วยอำนาจแห่งสมถะ โคตรภูธรรมเท่าไร
ย่อมเกิดขึ้นด้วยอำนาจแห่งวิปัสสนา โคตรภูธรรม ๘ ย่อมเกิดขึ้นด้วยอำนาจแห่งสมถะ โคตร
ภูธรรม ๑๐ ย่อมเกิดขึ้นด้วยอำนาจแห่งวิปัสสนา ฯ
[๑๓๙] โคตรภูธรรม ๘ เป็นไฉน ย่อมเกิดขึ้นด้วยอำนาจแห่งสมถะ ฯ
ชื่อว่าโคตรภู เพราะอรรถว่า ครอบงำนิวรณ์เพื่อได้ปฐมฌาน ๑ ครอบงำวิตกและวิจาร
เพื่อได้ทุติยฌาน ๑ ครอบงำปีติเพื่อได้ตติยฌาน ๑ ครอบงำสุขและทุกข์เพื่อได้จตุตถฌาน ๑ ครอบงำ
รูปสัญญา ปฏิฆสัญญา นานัตตสัญญาเพื่อได้อากาสานัญจายตนสมาบัติ ๑ ครอบงำอากาสานัญ
จายตนสัญญาเพื่อได้วิญญาณัญจายตนสมาบัติ ๑ ครอบงำวิญญาณัญจายตนสัญญาเพื่อได้อากิญ
จัญญายตนสมาบัติ ๑ ครอบงำอากิญจัญญายตนสัญญาเพื่อได้เนวสัญญานาสัญญายตนสมาบัติ ๑
โคตรภูธรรม ๘ นี้ ย่อมเกิดขึ้นด้วยอำนาจแห่งสมถะ ฯ
[๑๔๐] โคตรภูธรรม ๑๐ เป็นไฉน ย่อมเกิดขึ้นด้วยอำนาจแห่งวิปัสสนา ฯ
ชื่อว่าโคตรภู เพราะอรรถว่า ครอบงำความเกิดขึ้น ความเป็นไป นิมิตกรรมเครื่อง
ประมวลมา ปฏิสนธิ คติ ความบังเกิด อุบัติ ชาติ ชรา พยาธิมรณะ ความเศร้าโศก ความ
ร่ำไร ความคับแค้นใจ สังขารนิมิตภายนอกเพื่อได้โสดาปัตติมรรค ๑ ครอบงำความเกิดขึ้น
ความเป็นไป นิมิต กรรมเครื่องประมวลมา ปฏิสนธิ เพื่อโสดาปัตติผลสมาบัติ ๑ ฯลฯ เพื่อได้
สกทาคามิมรรค ๑ เพื่อสกทาคามิผลสมาบัติ ๑ เพื่อได้อนาคามิมรรค ๑ เพื่ออนาคามิผลสมาบัติ ๑
ครอบงำความเกิดขึ้น ความเป็นไป นิมิต กรรมเครื่องประมวลมาปฏิสนธิ คติ ความบังเกิด
อุบัติ ชาติ ชรา พยาธิ มรณะ ความเศร้าโศกความร่ำไร ความคับแค้นใจ สังขารนิมิตภายนอก
เพื่อได้อรหัตมรรค ๑ ครอบงำความเกิดขึ้น ความเป็นไป นิมิต กรรมเครื่องประมวลมา ปฏิสนธิ
เพื่ออรหัตผลสมาบัติ ๑ เพื่อสุญญตวิหารสมาบัติ ๑ และเพื่อสมาบัติ ๑ โคตรภูธรรม ๑๐ นี้ย่อม
เกิดขึ้นด้วยอำนาจแห่งวิปัสสนา ฯ
[๑๔๑] โคตรภูธรรมเป็นกุศลเท่าไร เป็นอกุศลเท่าไร เป็นอัพยากฤตเท่าไร โคตร
ภูธรรมเป็นกุศล ๑๕ เป็นอัพยากฤต ๓ เป็นอกุศลไม่มี ฯ
[๑๔๒] โคตรภูญาณ ๘ คือ โคตรภูญาณที่มีอามิส ๑ ไม่มี
อามิส ๑ มีที่ตั้ง ๑ ไม่มีที่ตั้ง ๑ เป็นสุญญตะ ๑ เป็น
วุฏฐิตะ ๑ เป็นอวุฏฐิตะ ๑ เป็นปัจจัยแห่งสมาธิ โคตรภู
ญาณ ๑๐ เป็นโคจรแห่งวิปัสสนาญาณ โคตรภูธรรม ๑๘
เป็นปัจจัยแห่งวิโมกข์ ๓ โคตรภูธรรมมีอาการ ๑๘ นี้
พระโยคาวจรอบรมแล้วด้วยปัญญา พระโยคาวจรเป็นผู้ฉลาด
ในโคตรภูญาณ อันเป็นเครื่องหลีกไปและในโคตรภูญาณ
อันเป็นเครื่องออกไป ย่อมไม่หวั่นไหวเพราะทิฐิต่างๆ
ฉะนี้แล ฯ
ที่มา : พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค (มีคำจำกัดความอีกเยอะมากเลยครับกลัวจะอ่านกันไม่ไหวหนะ)
สรุปง่าย ๆ ก็คือ โคตรภูของอรหันตมรรค คือ หนทางหรือวิธีการปฏิบัติเพื่อหลุดออกจากสังขารนิมิตภายนอก หลุดจากความไม่เที่ยงจากสิ่งแวดล้อมภายนอก (ขันธโลก,ภพ3,ชาติ,ชรา,มรณะ) เข้าไปสู่ความดับของกิเลสอาสวะ(นิพพาน) นั่นเองครับ
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#6 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 06 January 2006 - 01:14 PM
บัณฑิตเมื่อรู้ว่าทุกสิ่งที่ประสบอยู่นั้นล้วนไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่ใช่ตัวตนแล้วย่อมแสวงหาสิ่งที่ตรงกันข้ามเสมอ คือ เที่ยงแท้ เป็นบรมสุข และเป็นตัวตนที่แท้จริง
#7
โพสต์เมื่อ 30 June 2006 - 12:41 AM
สาธุ สาธุ สาธุ
...
...
#8
โพสต์เมื่อ 23 October 2006 - 04:58 PM
ดียิ่งแลค่ะพี่บุมหนูก็ยังไม่รุ้กะจะถามพี่ถามแทนสะแล้วโอเคค่ะอนุโมทนาค่ะ
"ด้วยใจกล้าอาสา พัฒนาไม่หยุดยั้ง"
น้ำฝนลูกพระธัมฯ
#9
โพสต์เมื่อ 17 March 2007 - 11:26 AM
สาธุ