คนมีความรักและไม่มีเข้ามาครับ
#1
โพสต์เมื่อ 06 July 2008 - 08:10 PM
แต่เพราะมันยังคงอยู่ต่างหาก
ถ้าวันนี้คนสองคน ต่างหมดรักกันไป คงไม่มีใครต้องเสียใจมากนัก
แต่กลับเป็นเพราะรักที่ยังอยู่ในใจคุณนั่นเอง
ที่ทำให้คุณปล่อยวางลงไม่ได้
ธรรมชาติของรัก มักไม่ให้โทษแก่ใคร
เพียงแต่อาจปรุงแต่งให้หัวใจพองฟูจนลืมนึกถึงความจริงที่ว่า...
มีวันที่รักมา ก็อาจมีวันที่รักไปได้
ความรักเป็นสิ่งสวยงาม หลายคนจึงอดหลงไหลได้ปลื้มกับมันไม่ได้
ในยามที่มันอยู่ เรามักหลอกตัวเองว่า...
เพราะเรารักเขามาก เขาคงเห็นความดีความตั้งใจของเรา
และรักเราตอบบ้าง ไม่มากก็น้อย
และเมื่อเขาตอบรับรักของเรา
ความฟูของหัวใจ มักทำให้เราก้าวล่วงไปถึงการรู้สึกยึดมั่น
ว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของเรา เป็นเหมือนทรัพย์สินส่วนตัวทางใจอย่างหนึ่ง
ที่จะต้องอยู่กับเราทุกครั้งที่เราต้องการ นานเท่าที่เราปรารถนา
ความรู้สึกอันนี้แหละ คือจุดเริ่มของความเจ็บปวดทั้งมวล
เพราะมันฝืนกฎธรรมชาติ
ไม่ได้บอกว่า ... รักต้องลงเอยด้วยความเศร้าเสมอไป
เพียงแต่ถ้าเขาจะอยู่ เขาจะไป
จะรักคุณมากขึ้น คงเดิม หรือหดน้อยถอยลง
ก็จะเป็นเพราะคนสองคน
ไม่ใช่ความต้องการของเราฝ่ายเดียว หรือเขาฝ่ายเดียว
ชีวิตเป็นเรื่องซับซ้อนเข้าใจยาก ... แต่ในความซับซ้อนนั้น
มันก็เรียบง่ายอย่างที่เรานึกไม่ถึง
เพราะไม่ว่าสิ่งไหน เรื่องอะไรสารพัดสารพัน
ทุกอย่างล้วนแต่อยู่ในกฎเดียวกัน
มันจะ เกิดขึ้น ... ตั้งอยู่ ... แปรสภาพ แล้วก็จบลง
รักที่สมหวังอยู่กันจนแก่เฒ่า ก็หนีไม่พ้นกฏข้อนี้
เพราะวันหนึ่ง ไม่เราก็เขาก็ต้องตายจากกัน
สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า ... วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่า ... ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี ... ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้
ถึงวันนี้จะยังร้องไห้ ก็คงไม่กระไร เพราะชีวิตก็เป็นแบบนี้
มีวันที่เลวร้าย มีวันที่สวยงาม มีวันที่ว่างเปล่า
สุขก็อยู่กับเราไม่นาน ทุกข์ก็อยู่กับเราไม่นาน
สุขเคยแวะผ่านมาแล้วก็ไป
ทุกข์ก็เป็นเฉกเช่นกัน
ร้องไห้แล้วก็อย่าร้องเปล่า ๆ
มองให้เข้าใจสัจธรรมของชีวิตไปด้วย
#2
โพสต์เมื่อ 06 July 2008 - 08:33 PM
จะดีใจ เสียใจ ไปทำไม
สิ่งทั้งหลาย ก็คล้ายความฝัน
ตื่นขึ้นมา ก็พลันหายไป
ดังของ ที่ขอยืมมา
ในไม่ช้า ต้องคืนเขาไป
ชีวิต ที่ผ่านมา
เหมือนภาพลวงตา กลางทะเลทราย
สักวัน ต้องไปสู่จุดสลาย
ทำไมจะต้องไปผูกพัน
ไม่มี ทางเลือกอื่นใด
นอกจากคลาย ความผูกพัน
ปล่อยวางได้ ใจก็จะสบาย
สบายอย่างที่ไม่เคยเป็น
ไม่ช้า ใจจะใสบริสุทธิ์
หยุดนิ่ง อยู่กลางกาย
จะเข้าถึงความสุขที่ยิ่งใหญ่.. ไม่มีประมาณ
ชีวิต.. จะเบิกบาน.. ด้วยตัวของเราเอง
#3
โพสต์เมื่อ 07 July 2008 - 07:35 AM
#4
โพสต์เมื่อ 07 July 2008 - 09:35 AM
เอ้อ..........มันก็เรื่องเดิมๆ พลอตเรื่องคล้ายๆกัน
เขาแสดงมาไม่รู้กี่ครั้งๆแล้ว ซ้ำไปซ้ำมา
เพียงแต่เปลี่ยนตัวนักแสดงเท่านั้นแหละ
ตอนนี้อยู่ที่ว่าใครจะรับบทไหน
เลือกที่จะรับบทบาทได้นะ
#5
โพสต์เมื่อ 07 July 2008 - 12:07 PM
เรามีความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้
เรามีความเจ็บเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไปได้
เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้
เราจะต้องพลัดพรากจากสิ่งที่รักสิ่งที่ชอบทั้งสิ้น
เรามีกรรมเป็นของของตน ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
#6
โพสต์เมื่อ 07 July 2008 - 12:49 PM
เรามีความแก่เป็นธรรมดา.....
....
เรามีกรรมเป็นของตน ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
#7
โพสต์เมื่อ 07 July 2008 - 01:33 PM
---อันว่ารักด้วยราคะนั้นมีทุกข์
---อันว่ารักด้วยเมตตานั้นมีสุข
---ความสุขและความปรารถนาดีต่อทุกคน
---ก็จะแผ่กว้างไปอย่างไม่มีประมาณ..รวมถึงตัวตน
#8
โพสต์เมื่อ 07 July 2008 - 02:15 PM
แต่เราหากมีรัก ก็รักให้เป็น
รักให้เป็นอย่างไร ก็เรารักตัวเองก่อนใคร
รักตัวเองอย่างไร ก็ทำใจให้เห็นใจตัวเอง
เห็นใจตังเอง โดยการหยุดใจ
หยุดใจให้เข้าถึงความสุขภายใน
และมีความสุขตลอดไป จะแบ่งปันให้คนอื่นเลยทีเดียว
จุ๊..ๆ.. แอบรักคนอ่านบทความนี้นะ ....จุ๊ ๆ อย่าเอะไป
#9
โพสต์เมื่อ 07 July 2008 - 03:41 PM
ประการที่หนึ่งคือ เคยอยู่ร่วมกันมาในอดีตชาติ
ประการที่สองคือ ชาตินี้ได้เกื้อกูลกัน
นั่นแหละ ความรักอย่างลึกซึ้งถึงจะเกิดขึ้นได้
และหลักความจริง หญิงชาย ต่างท่องเที่ยวไปในสังสารวัฎ ตามลำพังทั้งนั้น
และต่าง ก็ผลัดเปลี่ยนเวียนจับคู่กันและกัน ด้วยความผูกพันมากบ้างน้อยบ้าง
แล้วก็ถอยฉากออกจากกันไปหาคนใหม่ คนนั้นบ้าง คนนี้บ้าง หาคู่แท้ถาวรไม่มี..
ดังนั้น ให้หลีกเลี่ยง ความยึดถือ ผูกพัน เพราะไม่จากเป็น ก็จากตาย
หลีกไม่ได้ รักไปแล้ว ก็จูงมือชวนกันเข้าวัดทำความดี เอาไว้ป้องกันชีวิตคู่ในภพนี้ ด้วยกุศลกรรมดี ทาน ศีล ภาวนา
ถ้าไม่อยากรักใคร ก็ขยันนั่งธรรมะมากๆ ราคะจะคลายออก สุขในสมาธิจะทดแทนได้
เป็นชายก็บวชหนีเลย เป็นหญิงก็ถือศีลแปด จะมีปราการป้องกัน
จะได้ไม่ต้องมาทุกข์ทน เวลาจากกัน...
จะได้มีเงินทำบุญเยอะๆ
จะได้มุ่งมั่น ขยันนั่งสมาธิ เผื่อจะได้ไปเรียนกับหลวงพ่อในอาคารภาวนากับเขาบ้าง
ลองไปอ่านคำสอนคุณยายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านสอนไว้ละเอียด
#10
โพสต์เมื่อ 07 July 2008 - 07:08 PM
1. มาวัดทุกวันอาทิตย์ อย่าให้ขาด
2. ใน 1 สัปดาห์ ถือศีล 8 ซัก 3 วัน ก่อนวันพระ 1 วัน วันพระ และหลังวันพระ 1 วัน
3. สมัครเป็นอาสาสมัครช่วยงานที่วัดครับ แผนกไหนก็ได้ที่เราชอบ เอาแบบประเภทที่ต้องเตรียมงานตั้งแต่เย็นวันเสาร์เลยนะ
4. ช่วงนี้มีบุญพิเศษ บุญตักบาตรพระ 500,000 รูปเอย บุญบวชพระเอย กำลังอินเทรนท์ ก็อย่าพลาดนะ อย่ามัวแต่อินเลิฟ
ทั้ง 4 ข้อนี้จะช่วยทำให้เรามีเวลาว่างน้อยลง ไม่มีเวลาไปคิดถึงใคร ความรักที่รุนแรงในจิตใจเราจะค่อย ๆ เจือจางลง ขอเป็นกำลังใจให้นะ
#11
โพสต์เมื่อ 07 July 2008 - 08:19 PM
#12
โพสต์เมื่อ 07 July 2008 - 09:44 PM
ขอเอาคำตอบ(ประมาณว่าตอบสดๆ)นั้นโพสต์ที่นี่ เพื่ออาจเป็นแง่คิด สำหรับหลายๆ คน ที่ยังแสวงหาความรัก
รักแท้จะเกิดขึ้นได้ต้องมีสิ่งต่อไปนี้่คือ
1. ต้องรู้จักรักตัวเองให้เป็นก่อน หากไม่รู้จักรักตัวเองให้เป็นก็ยากที่จะรักคนอื่นได้อย่างแท้จริง
2. รักแท้จะเกิดขึ้นได้ต้องมีความเมตตาและกรุณาเป็นพื้นฐาน
ต้องรู้จักรักตัวเองให้เป็นก่อน หากไม่รู้จักรักตัวเองให้เป็นก็ยากที่จะรักคนอื่นได้อย่างแท้จริง
หากยังทำร้ายตัวเอง ก็คงมีวันที่ทำร้ายคนรอบข้าง
หากยังไม่รู้จักรักตัวเอง ก็ีมีแต่จะไขว่คว้า แสวงหาความรัก เพื่อมาเติมเต็มให้กับใจที่ว่างเปล่า กลวงโบ่ อย่างไม่มีวันเต็ม
หากรู้จักรักตัวเอง ยิ้มให้ตัวเองเป็น รักตัวเองโดยไม่ทำ้ร้ายผู้อื่น จนความรักนั้นล้นเหลือ เจือจานไปให้คนรอบข้าง เมื่อนั้นความรักที่เกิดขึ้น คือรักแท้ ที่ไม่หวังผลตอบแทนใด เป็นรักจากใจที่บริสุทธิ์ และเป็นความรักที่เจือไว้ด้วยความเมตตา กรุณา
รักแท้ที่เกิดขึ้นได้ยาก
จะดูว่าเป็นรักแท้มากแค่ไหน ก็ต้องดูว่ามีความเมตตากรุณามากแค่ไหน ถ้ามีมหาเมตตา กรุณา ดังเช่นพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีต่อสัตว์โลกแล้ว ความรักที่เกิดขึ้นย่อมเป็นรักแท้ รักที่ปราถนาดี อย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ รักที่ยอมให้อภัยได้เสมอ รักที่ปราถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ อยากให้ผู้ื่อื่นมีความสุข
รักที่ยังหลง
ส่วนรักในทางโลกที่ยังเจือด้วยกิเลศนั้น จะเป็นรักที่ยั่งยืนได้ก็ต้องบุคคลจะต้อง มีศีล มีศรัทธา มีปัญญา มีจาคะเสมอกัน จึงจะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข เนื่องจากจะมีระดับความเข้าใจทั้งทางโลกและทางธรรมเสมอกัน
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป