ท่าน จขกท เป็นผู้ขวนขวาย ปฏิบัติกัมมัฏฐานอานาปานสติ และ มีความปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์ ด้วยการนำสิ่งที่ได้ยินได้ฟังมาเล่าสู่กันฟัง
แต่สัทธาจริตนำมาซึ่งปริศนาของเพื่อนสมาชิก เพราะคำตอบจะอ้างอิงถึง เท่าที่ผมรู้มา ได้ยินพระท่านบอกว่า... ทำให้เพื่อนสมาชิกเกิดคำถาม ในคำตอบที่ยังไม่สมบูรณ์ชัดเจน
ดังนั้น ในการตอบคำถามให้ชัดเจน ควรนำความรู้ภายนอก(ปริยัติ)มาผสานประสบการณ์ความรู้ความเห็นภายใน(ปฏิบัติ) เพื่ออ้างอิงและอธิบายให้ผู้ถามเคลียร์ คัต ชัด เจน เป็นการคลายปมปริศนา ไม่ควรกล่าวอ้างอิงลอยๆ หากท่าน จขกท.โพสต์ครบด้วยหลักการตามที่พิมพ์ไว้ล่างต่อบรรทัดนี้ ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติขวนขวายยังประโยชน์ให้ตนเองและคนหมู่มาก สมควรแก่การยกย่อง สรรเสริญ
เพราะหลักการเผยแผ่พระพุทธศาสนา พระศาสดาทรงประกาศไว้ชัดเจนว่า
๑. มิใช่เพื่อหลอกลวงคน...............................โคตมสูตร, อง.ติก. ๓๔/๕๖๕/๕๔๙ (มมร.)
๒. มิใช่เพื่อเรียกร้องให้คนมานับถือ
๓. มิใช่เพื่อลาภสักการะหรือคำสรรเสริญ........มหาสาโรปมสูตร, ม.มู. ๑๘/๓๔๗-๓๕๒/๕๔๖-๕๕๕ (มมร.)
๔. มิใช่เพื่อความเป็นเจ้าลัทธิ.........................จูฬสาโรปมสูตร, ม.มู. ๑๘/๓๕๓๑๕๕๘ (มมร.)
๕. มิใช่เพื่อหักล้างลัทธิอื่น
๖. มิใช่เพื่อให้คนอื่นรู้ว่าเป็นอย่างงั้นอย่างนี้.....โทณสูตร, อง.จตุกก. ๓๕/๓๖/๑๓๗ (มมร.)
๗. เพื่อความสำรวม.......................................ภิกขุวรรค, ขุ.ธ.อ. ๔๓/๓๕/๓๓๗-๓๔๐ (มมร.)
๘. เพื่อการละกิเลส.........................................ปาปนิวาริยเถราปทานที่๑๐. ขุ.อป. ๗๑/๒๒๒/๖๓๗ (มมร.)
๙. เพื่อคลายกำหนัดยินดี...............................พระอุทายี, วิ.มหา. ๓/๓๗๕/๑๒๔-๑๒๕ (มมร.)
๑๐. เพื่อความดับทุกข์....................................มหาสาโรปมทสูตร, ม.มู ๑๘/๓๕๒/๕๕๕ (มมร.)