ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

ครุธรรม ๘ ประการสำหรับภิกษุณี


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 6 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 February 2006 - 03:20 PM

ครุธรรม ๘ ประการนั้นมีรายละเอียดดังนี้ คือ
๑) พระภิกษุณีแม้จะบวชมาตั้ง ๑๐๐ พรรษา ก็ต้องแสดงความเคารพพระภิกษุแม้เพิ่งบวชในวันนั้น ด้วยการกราบไหว้ ลุกขึ้นต้อนรับ กระพุ่มมือไหว้ และทำการนอบน้อม
๒) พระภิกษุณีต้องไม่อยู่ในวัดที่ไม่มีพระภิกษุอยู่ร่วมด้วย
๓) พระภิกษุณีต้องถามวันอุโบสถ และเข้ารับฟังโอวาทจากพระภิกษุ ทุกกึ่งเดือน
๔) พระภิกษุณีจำพรรษาแล้วต้องปวารณาในสงฆ์ ๒ ฝ่าย คือ ฝ่ายพระภิกษุสงฆ์ และฝ่ายพระภิกษุณีสงฆ์
๕) พระภิกษุณีทำผิดพระวินัยมีโทษเป็นสังฆาทิเสส ต้องประพฤติปักขมานัต (อยู่กรรม) ในสงฆ์ ๒ ฝ่าย คือ ฝ่ายพระภิกษุสงฆ์ และฝ่ายพระภิกษุณีสงฆ์
๖) ก่อนจะบวชเป็นพระภิกษุณี สตรีจะต้องบวชเป็นสิกขมานา รักษาศีล ๖ ครบ ๒ ปีแล้วจึงบวชได้ แต่จะต้องบวชจากสงฆ์ ๒ ฝ่าย คือ จากพระภิกษุสงฆ์ และจากพระภิกษุณีสงฆ์
๗) พระภิกษุณีจะต้องไม่ด่าหรือใส่ร้ายพระภิกษุ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม
๘) ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พระภิกษุณีจะกล่าวสอนพระภิกษุไม่ได้ แต่พระภิกษุกล่าวสอนพระภิกษุณีได้

สำหรับความพิเศษของครุธรรม ๘ ประการ คือ การบัญญัติครุธรรม ๘ ประการนั้นพระพุทธเจ้าทรงบัญญัติก่อนมีเรื่องเกิดขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการที่พระพุทธเจ้าจะทรงบัญญัติหลักปฏิบัติสิ่งใด จะต้องมีเหตุเกิดเรื่องขึ้นก่อน ถึงค่อยทำการบัญญัติ แต่สำหรับครุธรรม ๘ ประการนี้ พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้น

เป็นความจริงที่ว่า ครุธรรม ๘ ประการนั้นถูกบัญญัติก่อนมีเรื่องเกิดขึ้น ซึ่งพระอรรถกถาจารย์อย่างพระพุทธโฆสะได้ยืนยันว่า พระพุทธเจ้าเองทรงบัญญัติครุธรรม ๘ ประการก่อนมีเรื่องเกิดขึ้น ก็โดยทรงมีพระประสงค์จะกันมิให้พระภิกษุณีล่วงละเมิด ในพระไตรปิฎกมีกล่าวว่า พระพุทธเจ้าทรงเปรียบเทียบการบัญญัติครุธรรม ๘ ประการไว้ก่อนนั้นว่า เหมือนกับการกั้นขอบปากสระใหญ่มิให้น้ำไหลล้นออก พระองค์ทรงมีพระประสงค์จะให้พระภิกษุเป็นหลักรับภาระในการรักษาคำสอนของพระองค์ โดยทรงให้เหตุผลเปรียบเทียบว่า ตระกูลที่มีสตรีมากและมีบุรุษน้อยย่อมถูกโจรรุกรานขจัดได้ง่าย พระสัทธรรมจะอยู่ได้เพียงแค่ ๕๐๐ ปี แต่หากสตรีไม่บวช พระสัทธรรมจะอยู่ได้ถึง ๑,๐๐๐ ปี พระพุทธโฆสะอธิบายว่า พระสัทธรรม คือ ปริยัติธรรม (การศึกษาพระธรรมวินัย) ปฏิบัติสัทธรรม (การปฏิบัติตามพระธรรมวินัย) และปฏิเวธสัทธรรม (การได้บรรลุมรรคผลนิพพาน) เมื่อพระพุทธเจ้าทรงบัญญัติครุธรรม ๘ ประการ สัทธรรมทั้ง ๓ ประการนี้ จักดำรงอยู่ต่อได้อีก ๕๐๐ ปี รวมเป็น ๑,๐๐๐ ปี ซึ่งก็หมายความว่า ครุธรรม ๘ ประการ ได้ช่วยประคับประคองคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ดำรงอยู่ได้ถึง ๑,๐๐๐ ปี

(คำกล่าวที่ว่า พระพุทธศาสนาจักมีอายุ ๕,๐๐๐ ปีนั้น มีอธิบายไว้ว่า หมายถึงมีการเรียนพระธรรมวินัย มีการปฏิบัติจนกระทั่งได้บรรลุมรรคผลนิพพาน ถึง ๕,๐๐๐ ปี โดยแบ่งออกเป็น
๑,๐๐๐ ปีแรก มีพระอรหันต์ผู้ได้บรรลุปฏิสัมภิทา
๑,๐๐๐ ปีที่ ๒ มีเพียงพระอรหันต์ประเภทสุกขวิปัสสกะ
๑,๐๐๐ ปีที่ ๓ มีเพียงพระอริยะขั้นพระอนาคามี
๑,๐๐๐ ปีที่ ๔ มีเพียงพระอริยะขั้นสกทาคามี
๑,๐๐๐ ปีที่ ๕ มีเพียงพระอริยะชั้นโสดาบัน
เลย ๕,๐๐๐ ปีนั้นไป พระภิกษุในพระพุทธศาสนาจะละทิ้งแม้กระทั่งการเล่าเรียนพระธรรมวินัย ได้ชื่อว่าเป็นพระเพียงแค่โกนศีรษะครองผ้ากาสาวพัสตร์เท่านั้น
อ้างอิงจาก วินย.อ. ๓/๔๐๓/๔๐๗ ฉบับมหาจุฬาเตปิฏกํ)

สำหรับการบุรุษเพศนั้น ถ้าอายุยังไม่ครบอุปสมบท ให้บวชเป็นสามเณรก่อน ครั้นเมื่ออายุครบเกณฑ์อุปสมบทแล้ว ก็ให้ทำการอุปสมบทเพื่อยกฐานะขึ้นเป็นพระภิกษุต่อไป แต่สำหรับสตรีเพศนั้น ขั้นแรกให้บวชเป็นสามเณรี ครั้นพออายุครบ ๑๘ ปีให้สามเณรีนั้นทำการบวชเป็นนางสิกขมานา (แปลว่า นางผู้กำลังศึกษา) ก่อน ถ้าสามารถปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของนางสิกขมานาครบ ๒ ปี จึงค่อยได้รับการอนุญาตให้อุปสมบทเป็นภิกษุณีต่อไป จะเห็นได้ว่า การอุปสมบทเป็นนางภิกษุณีนั้นจะมีขั้นตอนมากกว่าการอุปสมบทของพระภิกษุ


#2 Streamdhamma

Streamdhamma

    หยุด นิ่ง เฉย ได้ไหม

  • Members
  • 528 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 18 February 2006 - 05:37 PM

ดีจังค่ะที่นำมาให้ทราบกำลังอ่านเรื่องนี้พอดีเลย
"เมื่อดวงอาทิตย์อุทัยอยู่
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"



#3 รัศมีกำลังฤทธิ์

รัศมีกำลังฤทธิ์
  • Validating
  • 11 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 February 2006 - 08:13 PM

แล้วทำไมปัจจุบันนี้ถึงไม่อนุญาติให้ผปู้หญิงบวชเป็นภิกษุณีล่ะครับ

#4 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 February 2006 - 08:23 PM

ปัจจุบันบวชไม่ได้ครับ อย่างที่ผมบอกเอาไว้ข้างบน เนื่องจากพระพุทธเจ้าท่านบัญญัติเอาไว้ว่า การบวชภิกษุณีต้องบวชจากสงฆ์ 2 ฝ่าย คือ ทั้งฝ่ายภิกษุสงฆ์และฝ่ายภิกษุณีสงฆ์ แต่ปัจจุบัน ไม่มีพระภิกษุณีแล้ว ดังนั้นจึงไม่ครบองค์แห่งการอุปสมบทของพระภิกษุณีครับ
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#5 รัศมีกำลังฤทธิ์

รัศมีกำลังฤทธิ์
  • Validating
  • 11 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 February 2006 - 11:21 PM

แล้วถ้าสมัยพุทธกาลที่ยังไม่มีภิกษุณีองค์แรกล่ะครับ จะบวชได้อย่างไรครับ เพราะยังไม่ครบองค์ประกอบ

#6 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 February 2006 - 12:16 PM

เดี๋ยวผมจะไปหาข้อมูลการวิธีการอุปสมบทที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านบัญญัติไว้มาให้แล้วกันนะครับ ทั้งฝ่ายพระภิกษุและฝ่ายพระภิกษุณี คิดว่าน่าจะเป็นความรู้ เพราะ จะทำให้ทราบว่า เพราะเหตุไร ปัจจุบันจึงไม่สามารถบวชพระภิกษุณีได้ในฝ่ายเถรวาท และการอุปสมบทของฝ่ายชายในการเป็นพระภิกษุในยุคปัจจุบันมีความแตกต่างกับสมัยพุทธกาลอย่างไรละกันครับ
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#7 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 18 March 2007 - 03:26 PM

สาธุ