ได้ศึกษามาบ้างแล้ว เรื่องการทานอาหารในยามวิกาลว่าอนุญาติเฉพาะปานะกับผลไม้จำพวกมะ และสมอ
แต่
ก็ไปเจอกับบทความในหนังสือ "บุคคลยุคต้นวิชชา" ก็พบว่าหลวงปู่ท่านไม่ฉันน้ำที่มีไขมัน และปานะจากผลไม้ที่ใหญ่กว่ากำปั้น
"ศีล คุณค่าของความเป็นมนุษย์" ผู้รักษาอุโบสถศีลไม่ยอมทานเนยใส น้ำอ้อย อื่นๆ
จึงอยากจะทราบว่า ในสมัยนี้ และสมัยพุทธกาล แตกต่างกันอย่างไร และอนุญาติอะไรบ้างทั้งสองสมัยคะ
วิกาลโภชนา เวรมณี
เริ่มโดย Omena, Feb 06 2006 05:25 PM
มี 5 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 06 February 2006 - 05:25 PM
#2
โพสต์เมื่อ 06 February 2006 - 09:55 PM
QUOTE
เรื่องการทานอาหารในยามวิกาลว่า อนุญาตเฉพาะปานะกับผลไม้จำพวกมะขามและสมอ
แต่ผลไม้ทั้งสองชนิดนั้น หากผู้รักษาศีล ๘ รับประทานด้วยเจตนาเพื่ออิ่มแล้วล่ะก็ ศีลขาดเหมือนกันนะครับ
#3 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 06 February 2006 - 10:21 PM
โอ้ย ถ้าไม่เจ็บป่วยไข้มีกำลังกายเข้มแข็งก็น้ำเปล่าอุ่น ๆ ดีที่สุดครับกระพ้ม...รับรองว่าไม่ต้องมีเรื่องกังวลใจกับศีลเลยครับว่าจะกินอะไรได้ จะเลี่ยงอะไรได้ ศีล 8 มีไว้เพื่อระงับการตรึกนึกถึงในกามารมณ์ เพราะฉะนั้นต้องพยายามประคองใจให้ดีอย่าให้นึกถึงเรื่องอย่างว่าเป็นดีที่สุดครับ...
#4
โพสต์เมื่อ 06 October 2006 - 10:05 AM
ปานะที่พระสัมมาสัพุทธเจ้าทรงบัญญัติมี8อย่างเรียกว่า"อัฏฐปานะ"
ถ้ามีโอกาศผมจะนำรายละเอียดมาบอกอีกครั้ง
แต่ที่คุณOmenaเข้าใจว่าผลไม้จำพวก "มะ"เป็นปานะ น่ะ
คงมีการเข้าใจผิดแล้วล่ะครับ ถ้าเป็นเช่นนั้น มะม่วง มะละกอ ฯ ก็ทานกันได้หมดน่ะสิครับ
อย่างนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการทานข้าวหรอกครับ
ที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติมี มะขาม นำตาล นำอ้อย เนยใส เนยข้น เป็นต้น
ถ้าทำงานหนักแล้วหิวมาก ขอแนะนำให้ทานนม จะเป็นนมถั่วเหลือง หรือนมสดก็ได้ครับ!
ถ้ามีโอกาศผมจะนำรายละเอียดมาบอกอีกครั้ง
แต่ที่คุณOmenaเข้าใจว่าผลไม้จำพวก "มะ"เป็นปานะ น่ะ
คงมีการเข้าใจผิดแล้วล่ะครับ ถ้าเป็นเช่นนั้น มะม่วง มะละกอ ฯ ก็ทานกันได้หมดน่ะสิครับ
อย่างนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการทานข้าวหรอกครับ
ที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติมี มะขาม นำตาล นำอ้อย เนยใส เนยข้น เป็นต้น
ถ้าทำงานหนักแล้วหิวมาก ขอแนะนำให้ทานนม จะเป็นนมถั่วเหลือง หรือนมสดก็ได้ครับ!
#5
โพสต์เมื่อ 06 October 2006 - 10:53 AM
ตอนเด็กๆมีพระมาที่บ้านย่า มีการคูยกันว่า พระท่านบอกว่าผลไม้ที่ขึ้นต้นว่า มะ ฉันได้หมด คือไม่เป็นวิกาละโภชนาอะไรทำนองนั้น พวกผู้ใหญ่ก็มาล้อกันว่า ถ้าอย่างนั้นมะพร้าว มะละกอ มะแตงโมก็ฉันได้หมดนะสิ พอมานึกถึงเอาตอนที่ผมโตแล้วก็ขำ โห..อยากฉันก็เลยตีความหมายของพุทธบัญญัติ เสียผิดเพี้ยนเลย
#6
โพสต์เมื่อ 08 February 2007 - 08:18 AM
เห็นด้วยกับคุณก้องครับ ผมพบว่าหลายท่านซึ่งถือศีลแปด ไม่ใช่ว่าผมจับผิดนะครับ แต่ส่วนใหญ่จะรับปานะ เจตนาเพื่ออิ่ม จริง ๆ คนละเป็นหอบ ๆ 55 กราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุ