http://www.dmc.tv/fo...showtopic=22103
เพื่อเป็นการสอดคล้องกับช่วงเวลา โครงการอุปสมบทหมู่ 1แสนรูป ทุกหมู่บ้านทั่วไทย
จึงขอนำบทประพันธ์ของพระมหาเถระ ผู้เป็นบูรพาจารย์แห่งยุค ซึ่งขณะนั้นท่านดำรงเป็นพระนวกะ มาเป็นธรรมบรรณาการให้เพื่อนๆทุกท่าน
“จอดรถ พ่อจะลงข้างหน้า” คำพูดปนเสียงสะอื้นไห้ของโยมพ่อ ทำให้อาตมาตื่นจากภวังค์ จินตนาการที่ล่องลอยไปหยุดชงัก อาตมากำลังคิดถึงในสิ่งที่อาตมาเคยใฝ่ฝันและปรารถนามาตั้งแต่เด็ก ขณะนี้กำลังกลายเป็นความจริง ถ้าหากโยมพ่อยอมพาอาตมา ซึ่งขณะนี้ยังครองฆราวาสวิสัยมาฝากต่อท่านเจ้าคุณ องค์อุปัชฌาย์ตามประเพณี และถ้าทุกสิ่งมันเป็นไปดังคิด อีก 2-3วันข้างหน้า อาตมาก็จะได้หลุดพ้นจากภาวะของการครองเรือน เข้าสู่เพศบรรพชิต อุทิศต่อพระผู้มีพระภาคผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น แม้ปรินิพพานนานแล้วก็ตาม ประพฤติพรหมจรรย์ ในพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็นผู้เพียบพร้อมแล้วด้วยสิกขา และแนวการเลี้ยงชีพ ตามวิสัยของภิกษุเพื่อกระทำให้ถึงที่สุดแห่งกองทุกข์”
ทำไมท่านจึงหลั่งน้ำตาในการอุปสมบทของอาตมาครั้งนี้ ท่านปิติหรือ? อย่าเดาเลย อาตมากำลังจะบอกอยู่เดี๋ยวนี้ว่า ท่านไม่ยินดีในการที่จะให้อาตมาละฆราวาสวิสัย เพราะครั้งนี้มิใช่เป็นครั้งแรกที่อาตมาจำต้องขัดใจโยมพ่อ ทำไมอาตมาจึงต้องขัดใจโยมพ่อ ทำไมอาตมาจึงต้องขัดใจท่าน อาตมาไม่รักท่านหรือ หามิได้ ท่านเป็นผู้เดียวที่อาตมารัก และเคารพที่สุด แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่กระตุ้นเตือนเร่งรัดให้อาตมามีความปรารถนายิ่งขึ้นไปกว่า นั่นคือ กระทำให้ถึงที่สุดแห่งกองทุกข์ โดยละจากฆราวาสวิสัยสู่เพศสมณะ เพื่อดำเนินการตามรอยบาทพระพุทธองค์
เพราะพระองค์ทรงรักการเป็นจอมศาสดาเอกของโลกมากกว่าเป็นจอมจักรพรรดิที่เกรียงไกร ทรงรักที่จะนั่งบนฟ่อนหญ้าคาใต้ควงไม้ศรีมหาโพธิ์มากว่ารัตนบัลลังก์ใต้เศวตฉัตร เพราะทรงเห็นแล้วว่าการเวียนว่ายตายเกิดเป็นทุกข์อย่างยิ่ง ในเมื่อพระองค์มีเครื่องบำรุงบำเรอพร้อมทุกสิ่งทุกอย่าง พระองค์ก็ยังตัดได้ ส่วนอาตมามีอะไรเล่า ก็เพียงแค่คนธรรมดา อาตมาตั้งใจมานานแล้วหากอาตมาได้บวช จะพยายามกระทำให้ถึงที่สุดแห่งธรรม จะไม่ขอสึกหาลาเพศครองฆราวาสวิสัยอีก นี่คือเหตุผลที่โยมพ่อหลั่งน้ำตาและกล่าวคำเช่นนั้น เพื่อให้อาตมาจอดรถกลางทางก่อนถึงวัดปากน้ำ
ชีวิตการครองเรือนเป็นชีวิตที่สุขน้อย ทุกข์มาก ไม่มีอิสระ เป็นชีวิตที่ต้องดิ้นรน เพื่อการกิน เกียรติ และกลัว พ่อแม่ 2คน สามารถเลี้ยงลูกได้หลายคน แต่ทว่าลูกหลายคนจะเลี้ยงพ่อแม่2คน ได้หรือเปล่ายังเป็นปัญหา จะมีก็แต่บุตรที่มีความกตัญญูกตเวที ซึ่งหาได้ยากในสมัยนี้ และนี่คือ มรดกตก-ทอด-กันมาหลายชั่วคนแล้ว เป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยของโลก ถ้าครอบครัวใดที่มีพ่อบ้าน แม่เรือนดี ก็อยู่ร่มเย็นเป็นสุข ถ้าหากพ่อบ้าน แม่เรือนไม่ลงรอยกัน ผู้ที่ได้รับมรดกทุกข์ก็คือลูก สังคมปัจจุบันจะเป็นอย่างนี้โดยมาก อาตมาก็เป็นคนหนึ่งที่อยู่ในประเภทหลัง ต้องระหดระเหเร่ร่อนไปตามกระแสกรรม ตั้งแต่เด็กต้องย้ายบ้านเสมอๆ เปลี่ยนผู้ปกครอง อยู่กับคนโน้นบ้าง คนนี้บ้าง เพราะบิดามารดาแยกทางกันตั้งแต่อาตมาอายุไม่ครบห้าขวบ สิ่งเหล่านี้ทำให้อาตมาเบื่อชีวิตครองเรือนเป็นที่สุด และเริ่มคิดว่าโตขึ้นเราจะทำอย่างไร ขณะนั้นความคิดของอาตมาแยกเป็น 2ทาง ทางโลกและทางธรรม อาตมาขอรับว่า เมื่อเด็กมีความทะเยอทะยานมาก มันมิใช่เป็นความมิใช่หรือ ที่เด็กๆจะมีความใฝ่ฝันสูงขนาดนั้น แม้แต่พระพุทธองค์ยังทรงเปล่งวาจาว่าจะเป็นศาสดาเอกของโลกเมื่อแรกประสูติ เชอร์ชิลปรารถนาที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อยังเด็ก ซูการ์โนใฝ่ฝันที่จะเป็นผู้นำของอินโดนีเซียเมื่อเล็ก และอาตมาก็เป็นเช่นนั้นปรารถนาแยกไป 2ทาง ถ้าไปทางโลกขอให้สูงสุดในทางโลก ถ้าไปธรรมขอให้ได้นำพระพุทธศาสนาไปเผยแพร่ทั่วทุกมุมโลก เมื่ออาตมาตั้งจุดหมายแห่งชีวิตแล้ว ก็เริ่มหัดบันทึกและศึกษาชีวประวัติบุคคลสำคัญของโลก อาตมาอ่านอย่างกระหาย อย่างลืมกินข้าว หนังสือประวัติบุคคลสำคัญของโลก ที่อยู่ในห้องสมุดของโรงเรียน อาตมาอ่านทุกเล่ม จนจำชื่อและประวัติของบุคคลสำคัญตลอดจนปฏิปทาของทุกท่านไว้หมด ส่วนทางธรรมก็เริ่มหาหนังสืออ่านเรื่อยมา กระทั่งมาติดใจหนังสืออยู่เล่มหนึ่ง ซึ่งไม่ได้มีใครสนใจวางทิ้งอยู่ในห้องสมุดของโรงเรียน คือปรัชญาฝ่ายโยคะของท่านปตัญชลี ฤาษีแห่งเทือกเขาหิมาลัย ได้รจนาถึงแนวการฝึกสมาธิ อาตมาอ่านรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็อ่านถึง 3-4เที่ยว
สนามหลวงเป็นสถานที่ๆอาตมาชอบมากและมักไปบ่อยๆ เดินจากบ้านวัดเลียบ-ด้วยรองเท้าคู่เก่าๆ เสื้อยืดคอกลม กางเกงขาสั้น เงินติดระเป๋าแค่ดื่มโอเลี้ยงได้แก้วเดียว ไม่มีปัญญาที่จะซื้อหนังสือ แต่ความกระหายอยากรู้อยากเห็นในทุกสิ่งทุกอย่าง ทำให้อดทนเดินมา ยืนอ่านหนังสือตามแผงหนังสือข้างคลองหลอด อ่านจนกระทั่งเจ้าของร้านมองหน้า ก็วางเสียที ไปยืนอ่านอีกร้านถัดไป ซึ่งเป็นหนังสือชนิดเดียวกัน พอเจ้าของมองหน้าก็วางอีกวนเวียนอย่างนี้ ตั้งแต่แผงแรก พอมาถึงแผงสุดท้ายก็พอดีจบเล่ม ทำอย่างนี้เป็นปีแม้กระทั่งหนังสือเกี่ยวกับเรื่องปฏิบัติกรรมฐาน ที่มีแต่คนอายุมากบางคนเท่านั้นที่หยิบอ่าน แต่อาตมาหยิบอ่านอย่างใจจดใจจ่อ และทบทวนหลายเที่ยว ยิ่งอ่านยิ่งคล้อยตามเห็นกองทุกข์ทางโลก จิตแต่เดิมแท้เมื่อเด็กปรารถนามาทางธรรมอยู่แล้ว ก็ใคร่อยากปฏิบัติ แต่ใครเล่าจะเป็นอาจารย์ของอาตมา
(โปรดติดตามตอนต่อไป)