ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 2 คะแนน

ศีลขาด


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 8 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 AparidoD

AparidoD
  • Members
  • 55 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 16 October 2014 - 10:23 AM

ผมมีข้อสงสัยนานแล้วครับ 

 

เรื่องบอกว่า ศีล 8 ถ้าขาดแล้วขาดเลย นี่คือยังไงครับไม่เข้าใจ

 

สมมคิผมสมานทานศีล 8 ตอนเช้า แล้วเกิดเผลอทำศีลขาด ทำไมถึงสมานทานศีลใหม่เหมือนศีล 5 ไม่ได้ล่ะครับ

หมายความว่าต่อปนี่จะสมาทานศีล 8 ไม่ได้แล้ว หรือเป็นวันต่อวันครับ งง



#2 น้องวันใหม่

น้องวันใหม่
  • Members
  • 59 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 16 October 2014 - 10:25 AM

ศีล 5 รักษาเป็นข้อๆ ไปได้

 

แต่ศีล 8 ต้องรักษาให้ครบถ้วน ..



#3 AparidoD

AparidoD
  • Members
  • 55 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 16 October 2014 - 10:40 AM

ปกติผมรักษาครบทุกข้ออยู่แล้วครับ ไม่ได้เลือกว่าจะรักษาข้อไหน

 

แต่ปกติมักจะเผลอตอนถือศีล 8 ครับ

เมื่อก่อน พอขาดปุ๊บ ก็สมาทานศีล 8 ใหม่

 

แต่พอมาฟังพระบอกว่า ขาดแล้วขาดเลย สมาทานศีลใหม่เหมือนศีล 5 ไม่ได้

แต่ไม่ได้อธิบายต่อว่า ถ้าสมาทานไม่ได้แล้ว หมายความว่ายังไง

คือชาตินี้ ถือศีล 8 ไม่ได้อีกแล้วใช่หรือไม่ เพราะสมาทานศีลใหม่ไม่ได้แล้ว

หรือว่า เป็นเฉพาะวันครับ แบบขึ้นวันใหม่ แล้วก็สมาทานศีลใหม่ได้ครับ



#4 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 16 October 2014 - 11:38 AM

คำกล่าว สมาทานศีล 5 จะกล่าวว่า "มะยังภันเต วิสุงวิสุง ลักขะนะถายะ ติสะระเนนะสะหะ ปัญจะสีลานิยาจามะ"
คำว่า "วิสุงวิสุง ลักขะนะถายะ" หมายถึง ขอรักษาศีลทีละข้อ   แต่ละข้อ  แล้วเราก็สมาทานว่า  เรารับศีลข้อไหนมารักษาบ้าง   ถ้าเราทำพลาดไป  เราก็ถือแค่ว่าศีลข้อนั้น ๆเราไม่บริสุทธิ์  บริบูรณ์ ส่วนข้ออื่นๆ  เราก็ยังตั้งใจรักษาให้ข้ามวันได้อยู่น่ะครับ

แต่คำกล่าว สมาทานศีล 8 จะกล่าวว่า "มะยันภันเต ติสะระเนนะสะหะ อัตถะสีลานิยาจามะ"
นั่นคือ ไม่มีคำว่า "วิสุงวิสุง ลักขะนะถายะ" ย่อมหมายถึง การตั้งใจรักษาศีลแบบองค์รวม ผิดข้อใดข้อหนึ่งถือว่า การรักษาศีลในวันนั้นไม่ตลอดทั้งหมด   การรักษาศีลของวันนั้น  ไม่บริสุทธิ์บริบูรณ์น่ะครับ  ต้องไปนับเริ่มต้นเอาวันใหม่

 

แล้วทำไมเราถึงไม่อาราธนาใหม่ในวันเดียวกัน  ...   ในทางพระพุทธศาสนาแล้ว  มักนับ  1  วัน  คือ หนึ่งโอกาศชีวิต  ทุกครั้งที่นอนหลับแล้วตื่นก็เหมือนการได้ตายไปแล้วเกิดใหม่  แต่เป็นการตายที่มีประโยชน์  เพราะเราสามารถระลึกจำข้อดี  ข้อผิดพลาดของชีวิตที่ผ่านมาได้  เป็นโอกาศของการเริ่มต้นทำใหม่  ไม่ถือเป็นการทำซ้ำสอง

 

อีกอย่าง  การที่เราผิดศีล  แปลว่าเรายังไม่มีสติมากพอ  พลาดครั้งแรกแล้วจดจำ ศึกษาเป็นบทเรียนเพื่อเริ่มใหม่  จะได้อานิสงส์มากกว่าฝืนขอทำหลายๆ ครั้ง  เพราะถ้าครั้งที่สองเกิดพลาดขึ้นมาอีกในวันเดียวกัน  ส่วนเสียของอานิสงส์จะมีมากกว่าส่วนที่ได้ครับ  

 

เพราะฉะนั้น  การอาราธนาศีล  เราจะถือเอาการเอ่ยครั้งแรกเป็นหลักในการรักษา  เพื่อเป็นการแสดงความตั้งใจสูงสุด  แม้ในวันนั้น  ถ้าไปร่วมพิธีกรรมที่มีการอาราธนาศีลอีก  เรามักจะไม่ถือเป็นการอาราธนาซ้ำ  แต่เราจะถือเป็นการทบทวนองค์แห่งศีลที่เราได้อาราธนามาในครั้งแรกว่าบริสุทธิ์  บริบูรณ์เพียงใด  ถ้าเรารักษาได้ดี  เราก็สามารถอนุโมทนาบุญในการรักษาศีลนั้นของเราได้  แต่ถ้ารักษาไม่ดี  เราก็นำมาพิจารณาเป็นบทเรียนว่าเราพลาดตรงไหน  ควรแก้ไขอย่างไรต่อไปในวันข้างหน้า

 

เพราะฉะนั้น  ไม่ว่าศีล 5  หรือศีล 8  จึงไม่ทำการอาราธนาใหม่ภายในวันเดียวกันซ้ำสองครับ

 

อีกอย่างที่จะแนะนำในการรักษาศีล  คือ  คนชอบเอาใจไปจับที่ วิตก  ในการรักษาศีลมากจนเกินไป  เวลาเราพลาด  เราพิจารณาแล้วว่าศีลเรามีตำหนิ  พิจารณาศึกษาดีแล้วก็ปล่อยวางไปเสีย  อย่างไปเร่าร้อน  วิตกจริต กังวลกับส่วนที่เสียไป  เพราะเรายังมีเวลาที่เหลืออีกทั้งวันที่จะรักษาให้บริสุทธิ์  บริบูรณ์อยู่อีก  มาตั้งใจกัยส่วนเวลาที่ยังเหลืออยู่ดีกว่า  แม้ขณะนั้นศีลเราจะขาดไปแล้ว  ก็ให้ขาดไปแค่นั้น  มาเก็บคะแนนบุญในความตั้งใจพยายามรักษาในส่วนเวลาที่เหลือเป็นคะแนนบุญสะสมดีกว่า  แม้ได้น้อยก็ยังดีกว่าสูญเปล่า  จริงไหมครับ  

 

วันนี้ตบยุงไปตัวนึง  แล้วนั่งเสียใจว่าศีลที่รักษาพังแล้วไปทั้งวัน  กับการมาคิดใหม่ว่า    โอเค...เราพลาดไปแล้วนะ  เราไม่มีสติ  ปล่อยตัวเผลอตบยุงไปแล้ว  นั่นไม่สมควรเลย  เรายังไม่มั่นคงพอ  จากนี้ไปจนกว่าจะนอน  เราต้องมีสติกว่านี้  อย่าพลาดอย่างนี้อีก  ต้องตั้งใจให้มากกว่านี้  ที่พลาดไปแล้วก็ช่างเสีย  มารักษาส่วนที่เหลือเอาไว้ดีกว่า  ....   ท่านคิดว่าอย่างไหนจะดีกว่ากันครับ

 

ขออนุโมทนาบุญกับการรักษาศีลใสๆ  ของสมาชิกทุกท่านด้วยครับ


สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#5 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 16 October 2014 - 11:59 AM

ลืมตอบไปอีกข้อหนึ่ง  คือชาตินี้ ถือศีล 8 ไม่ได้อีกแล้วใช่หรือไม่ เพราะสมาทานศีลใหม่ไม่ได้แล้ว

                                หรือว่า เป็นเฉพาะวันครับ แบบขึ้นวันใหม่ แล้วก็สมาทานศีลใหม่ได้ครับ

 

การสมาทานศีล  จะเป็นหนึ่งวัน ต่อ หนึ่งครั้งครับ  เพราะในทางพระพุทธศาสนา  วันใหม่คือชีวิตใหม่ที่ต้องพิจารณาทำความดีให้ยิ่งยวดมากไปกว่าชีวิตที่ผ่านมา คือเมื่อวาน  และวันใหม่ คือโอกาศของชีวิตที่จะแก้ไขข้อผิดพลาดในชีวิตเก่าที่ผ่านมาให้บริสุทธิ์  บริบูรณ์ขึ้น  

 

ทั้งหมด  ทั้งมวลก็เพื่อเป็นพื้นฐานของหลักในพระพุทธศาสนาอย่างหนึ่ง คือ  ให้เราสามารถพิจารณาสอนตนเองได้ในทุกภพ  ทุกชาติ  การเกิดใหม่แล้วไม่สามารถระลึกได้ถึงความดี  และความผิดพลาดในชีวิตที่ผ่านมา  คือความอาภัพในการสร้างบารมีอย่างหนึ่งเลยทีเดียว  เพราะเท่ากับเราต้องเริ่มต้นที่ 0 ทุกครั้งที่เกิดใหม่  ซึ่งไม่มีอะไรกำหนดเลยว่า  ชีวิตเราจะเป็นบวก  หรือว่าติดลบ

 

แต่ถ้าเราเกิดมาแล้วสามารถสั่งสอนตนเองได้  แม้เราจะเริ่มต้นที่ 0  แต่เราก็มีข้อได้เปรียบที่ว่า  ชีวิตเรามีโอกาศเป็นบวก  มากกว่าการติดลบ  ทำให้โอกาศในครั้งหน้าเราอาจจะไม่ต้องมาเริ่มต้นที่ 0 อีก

 

การสามารถสอนตนเองได้จึงสำคัญในการสร้างบารมีอย่างยิ่ง  และสิ่งที่เราจะฝึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ในเบื้องต้นก็คือ  การอาราธนาศีลแบบวันต่อวันนั่นเอง  เพราะการอาราธนาศีลนั้น  ใช่แต่ว่ากล่าวๆ ไป  แล้วรักษาไป  ถ้าจะให้ครบถ้วน  ขณะกล่าวคำอาราธนา  เราต้องพิจารณาไปด้วยว่าที่ผ่านมาเรารักษาศีลให้บริสุทธิ์  บริบูรณ์ได้อย่างไร  ให้เราใส่ใจตรงนี้ให้มาก   พิจารณาหาทางว่า  มีทางไหนที่จะทำได้  มากกว่านี้ได้อีกหรือเปล่า

 

ส่วนตรงไหนที่ทำให้เราพลาด  ขณะอาราธนาเราก็นำมาพิจารณาหาข้อแก้ไข  ปรับปรุงเสีย  ว่ามีทางไหนบ้างที่เราจะทำให้บริสุทธิ์  บริบูรณ์ได้  ตั้งสติทั้งวันให้มากเป็นพิเศษ

 

ฝึกให้ชิน  เป็นนิสัย  เป็นกมลสันดาน  ติดแน่น  ไม่ลืมเลือน   จนเป็น  "ศีล"  คือเป็นปกติ    แค่นี้ก็เป็นหลักประกันแล้วว่า  หนทางในการสร้างบารมีข้างหน้าของเราแทบจะปิดโอกาศผิดพลาดไปได้ทั้งหมดเลย  มีแต่จะรุดหน่าไปเท่านั้นครับ

 

พระพุทธศาสนานี่ลึกซึ้งไหมครับ  แค่การรักษาศีลเท่านั้น  แต่เป็นการวางผังสำเร็จกันข้ามภพข้ามชาติกันเลย  ดูเบาไม่ได้เลยนะครับ

 

วันนี้อาราธนาศีลกันหรือยังครับท่าน


สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#6 chitang

chitang
  • Members
  • 1 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 October 2014 - 01:36 PM

ถูกใจคำตอบปัญหาเรื่องศีลมากๆค่ะอ่านแล้วทำให้ตนเองเข้าใจตัวเองขึ้นมาอีกเยอะชอบตรงที่ว่าทำให้จนเป็นนิสัย จนเป็นกมลสันดาน ติดแน่นไม่ลืมเลือน คือที่แน่ๆก็เราเป็นศีลและศีลเป็นเราขอบคุณค่ะ สาธุสาธุสาธุ



#7 AparidoD

AparidoD
  • Members
  • 55 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 16 October 2014 - 03:20 PM

สาธุครับ กระจ่างมากเลยครับ



#8 vividu

vividu
  • Members
  • 716 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:Seattle, WA
  • Interests:Meditation

โพสต์เมื่อ 17 October 2014 - 01:23 AM

Krap kob pra koon of this Dhammatan ka. Anumotana boon ka. Sadhu sadhu sadhu.


8-)


#9 ตะกร้าอีกใบ072

ตะกร้าอีกใบ072
  • Members
  • 152 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 20 October 2014 - 02:13 PM

กำลังฝึกศีล8ให้ได้ทุกวันพระเเละเสารือาทิคยือยุ่เหมือนกันครับ  พยายามอยุ่มีขาดบ้างเหมือนกันครับ