ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

หมอดูทำนายทายทัก


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 5 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 kwanchai

kwanchai
  • Members
  • 30 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 July 2007 - 02:48 PM

อยากทราบว่าเป็นความจริงหรือไม่ที่บอกว่าชีวิตคนเป็นไปตามดวงคับ ผมเคยไปดูไพ่ยิปซีหมอดูว่าดวงของคนเปลี่ยนไม่ได้หรอก อยากทราบว่าชีวิตคนเป็นไปตามดวงจริงหรือไม่คับ แล้วหมอดูมีส่วนกับชีวิตเราจริงไหมคับ

#2 เด็กผู้น้อย

เด็กผู้น้อย
  • Members
  • 436 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 July 2007 - 04:53 PM

ชีวิตคนจะดีหรือไม่ไม่ใช่ดวงครับ ขึ้นอยู่กับบุญและบาป บุญมากอุปสรรคในชีวิตก็น้อย บุญน้อยอุปสรรคในชีวิตก็มากครับ ทุกอย่างเปลี่ยนได่เมื่อเรามีบุญมาก

#3 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 25 July 2007 - 05:23 PM

ดวง ในทางโหราศาสตร์
เป็นเรื่องของสถิติเป็นส่วนมากครับ
เมื่อเก็บตัวอย่างวิถีชีวิตมนุษย์ที่เกิดในวันนั้น เดือนนี้ มาเป็นพันปี ผนวกกับสังเกตเรื่องดาราศาสตร์
ก็กลาย พยากรณ์ศาสตร์ หรือ ดูดวง นั่นแหละครับ

ซึ่งผมก็ยอมรับว่า เป็นไปได้ตามหลักพยากรณ์ศาสตร์

แต่ความจริง คือ เป็นเรื่อง กรรมในอดีต ที่ส่งผลเป็นวิถี ชะตา เหตุการณ์ชีวิตในปัจจุบัน
ตรงกับ หลักกฎแห่งกรรม ในธรรมะศาสตร์ อยู่แล้ว

ดวง ในทางพุทธศาสตร์ ( ธรรมะศาสตร์ )
หมายถึง ดวงบุญ ดวงปาป ในใจตนเองครับ

ใครสั่งสมบุญกุศลไว้มาก ดวงบุญในตัว ก็โตมาก
มากพอป้องกันทุกข์ภัยและดึงดูดความสุข ความสำเร็จ มาให้เราเอง

ใครที่ผิดพลาดทำอกุศลกรรม ไว้มาก ดวงปาป ในตัวก็โต
จึงดึงดูดเหตุการณ์ร้ายๆ คน สัตว์ สิ่งของที่ให้โทษ ให้สู่เรา จึงประสบทุกข์ภัยต่างๆ นานา

นี่ ครับ คือ ความหมายของ ดวง ในพุทธศาสนา

QUOTE
สิ่งสำคัญ คือ การกระทำกรรม ทางกาย วาจา ใจ ในปัจจุบัน ต่างหากครับ
ที่เราควรตระหนัก มากกว่า


เพราะ ถึงแม้กรรมชั่วในอดีต เราย้อนเวลาและเหตุการณ์ เพื่อแก้ไข ไม่ได้

ถึงแม้ในอดีตเราสร้างกรรมชั่วไว้มาก ซึ่งตามกฎแห่งกรรม เราอาจต้องประสบทุกข์ภัยต่างๆ

แต่ถ้าเรา ขยันหมั่น สั่งสมกรรมดี ในปัจจุบัน
ทุกข์ภัยนั้นก็ บรรเทาเบาบางได้นี่ครับ
ทำนองว่า หนัก ก็เป็นเบา จากเบาก็หายได้ครับ

QUOTE
เราออกแบบชีวิตของเราในอนาคตได้ ด้วยการประกอบเหตุ หรือกรรมดีในปัจจุบัน
นี่ คือ ความจริง


สรรพสัตว์ส่วนมาก ยอมให้ กรรมลิขิต ชีวิต มากเกินไป จนกลายเป็น ปล่อยไปตามยถากรรม
ชีวิตในสังสารวัฎฎ์ จึงยังลุ่มๆดอนๆ ขึ้นๆลงๆ เดี๋ยวสุข เดี๋ยวทุกข์
ทั้งลงนรกและขึ้นสวรรค์
วน เวียน ในภพสามไม่จบสิ้นสักที

กว่าจะกระทำให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ คือ หมดกิเลสอาสวะ พ้นภพสาม
ก็ชอกช้ำระกำทรวง ไปหลายร้อย หลายพัน หมื่นอสงไขย

การศึกษาเรื่อง พยากรณ์ศาสตร์ ผมว่า ควรศึกษาแบบประวัติศาสตร์ นะครับ
คือ ศึกษา ให้รู้เหตุ ข้อบกพร่อง ความผิดพลาดในอดีต เพื่อ

1 ) อย่าให้ประวัติศาสตร์ไม่ดี ซ้ำรอย ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกข์แล้ว ทุกข์เล่า
คือ ต้องไม่ทำผิดพลาดอีก โดยการขยันละชั่ว อกุศล ทางกาย วาจา ใจ ทั้งปวง
อกุศลใดที่เกิดแล้ว ก็พยายามดับ
อกุศลใดยังไม่เกิด ก็ป้องกัน อย่าให้เกิด

2 ) ต้องทำสิ่งที่ถูกต้องดีงาม คือ
กุศลกรรมใดที่เกิดแล้ว ก็พยายามรักษาไว้ ดั่ง เกลือรักษาความเค็ม
กุศลกรรมใดยังไม่เกิด ก็พยายาม สั่งสมกุศลกรรม ทั้งทางก ย วาจา ใจ
ขยันสั่งสมกุศลกรรมบท 10 , สั่งสมดวงบุญ ดวงบารมี 30 ทัส ให้เต็มโดยไวที่สุด

ขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่านที่ขยันสั่งสม ดวงบุญใส ใหญ่โต
ไว้ดีแล้ว ด้วยนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ

ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  R2813_9.gif   4.29K   11 ดาวน์โหลด


#4 jane_072

jane_072
  • Members
  • 539 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 July 2007 - 11:54 AM

คุณ kwanchai ลองนึกถึง ท่านอรหันต์องค์คุลีมาน ดูซิครับ
เก็บคำนี้ไว้ในใจเลยครับ ฟ้าลิขิต หรือ จะสู้มานะแห่งตน
อนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ สาธุๆๆ

#5 Nachpuzzorn

Nachpuzzorn
  • Members
  • 35 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 26 July 2007 - 12:14 PM

ชีวิตเราขึ้นกับดวงจริงค่ะ แต่เป็นดวงบุญ กับ ดวงบาป ในตัว ถ้าใจใสบุญส่งผลก่อน ถ้าใจขุ่นบาปส่งผลก่อน ถ้าทำทาน รักษาศีล นั่งสมาธิ บุญกิริยาวัตถุ 10 เป็นต้น มากๆ ดวงบุญก็โตขึ้น ทำบาปผิดศีล ดวงบาปก็โตขึ้นค่ะ

ส่วนหมอดู ก็คู่กับ หมอเดา จริงๆ หละค่ะ ยิ่งปัจจุบันยิ่งเชื่อถือไม่ได้ คนหาเลี้ยงชีพด้วยอาชีพหมอดูกันมากค่ะ

จริงๆ little sun ดูดวงเก่งนะ ตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เพื่อนๆ ญาติๆ ชอบมาให้ดูบอกแม่น ดูได้หมด ไพ๋ยิปซี
กราฟชีวิต โหงวเฮง ฮวงจุ้ย พอเจอหลวงพ่อก็เลยคืนครูบาอาจารย์หมดแล้วค่ะ หลวงพ่อบอกว่า อย่าไปยุ่งเลย มันจะติดเชื้อ เดี๋ยวไปเจออีก อย่างเช่น เจอคนดูดวง บอกให้ทำบุญ ใส่บาตร แก้เคล็ด เสริมดวง เราก็จะเข้าใจว่า ดวง กับ พระพุทธศาสนาคงจะเกี่ยวพันกันแบบนี้ไงคะ มันจะมีเชื้อ แทนที่จะเจอพระพุทธศาสนาแล้วเข้าใจธรรมะpure pure only

แต่ถ้าอยากได้แนวคิด little sun ก็จะบอกแนวคิดที่ตัวเองใช้ให้นะคะ ใช้หลักกฎแห่งกรรม ในการมองคน เลือกคบคน
คุยเจรจางาน เลือกลูกน้อง ทำงาน เลือกคู่ครอง เป็นต้น แด่เป็นฐานในการพิจารณาเท่านั้นนะคะ

ตัวอย่างเช่น คนมีไฝตรงปากเราก็รู้แล้วว่า เขาจะเสียเรื่องการพูด (ไฝ ส่วนใหญ่จะเกิดจากวจีกรรม ชอบด่าว่า แช่งชักหักซี่โครง) เวลาเข้าหาก็ต้องระวังตัวให้มากขึ้น หรือ คนตาเข ก็จะคาดเดาได้ว่า คนนี้มีนิสัยดูถูกคนอื่น (ตาเข ส่วนใหญ่จะเกิดจากการมองคนด้วยความดูถูกดูแคลน) อย่างนี้เป็นต้น

ซึ่งเราสามารถนำมาคาดเดานิสัยเบื้องต้นได้บ้าง แต่ไม่ทั้งหมด เช่น คนมีไฝใหญ่ตรงปาก เขาอาจจะเคยชอบด่าว่า ในอดีตชาติ แล้วมีเศษกรรมติดมา แต่กรรมก็อาจจะเบาบางแล้ว ถ้ามีการเลี้ยงดูที่ดี นิสัยนี้อาจจะหมดไป หรือเหลือน้อยมาก เป็นต้นค่ะ

#6 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 26 July 2007 - 02:21 PM

เคยได้ยินประโยคนี้ไหมครับ ชีวิตขึ้นกับดวง แต่ดวงก็ขึ้นกับการกระทำ อันนี้เป็นความจริงครับขอบอก ที่จริงแล้วดวงนั้นก็คือบุญบาปนั่นเองครับ ดวงจะดีก็ขึ้นอยู่กับบุญที่เราสั่งสมมาหรือกรรมดีที่เราได้กระทำไว้ ดวงไม่ดีก็ขึ้นอยู่กับกรรมชั่วที่เราได้ก่อมาไว้เช่นกัน หากเมื่อชาติก่อนเราสั่งสมบุญมาดีชาตินี้เราก็ดวงดี แต่ถ้าชาติก่อนเราทำชั่วเอาไว้ กรรมชั่วก็อาจมาตัดรอนทำให้เราดวงไม่ดีได้เช่นกันดวงคนเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ครับ ที่เขาว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้นั่นเป้นเพราะเขาไม่รู้ คิดว่าดวงคือโอกาสที่จะมาเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ หมอดูชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าได้แต่ดูอย่างเดียวไม่ได้ช่วยอะไรเราดังนั้นจึงไม่มีส่วนกับชีวิตเราครับ ถ้าหมอดูมีส่วนกับชีวิตเรา เกิดเขาบอกให้เราเอาบ้านที่ดินยกให้เขาแล้วเราจะดวงดี แบบนี้จะไม่แย่หรือครับจริงไหม จะซวยเอาเสียไม่ว่า

แต่เราจะเอาหมอดูมาช่วยเราก็ได้ก็ขึ้นอยู่กับสติปัญญาของเราจะใช้เขาอย่างไรด้วยนะครับ อย่างเช่นเราให้เขาดูดวงให้แล้วเขาบอกเราว่าเราดวงไม่ดี เราก็เฉยๆกับคำทำนายเขาซะแล้วตั้งความคิดเสียใหม่ว่า ดวงเราเริ่มตกแล้ว ไม่ได้ต้องรีบขึ้นพนาวัฒน์ปฏิบัติธรรมเสริมดวงซะแล้ว ต้องเข้าวัดทำบุญนั่งสมาธิซะหน่อยแล้ว นี่ครับถึงจะเป็นการดูดวงที่มีประโยชน์จริงๆ ไม่ใช่มานั่งกลุ้มว่าดวงไม่ดีนะครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย