ส่วนผ๊ม เป็นนักเรียนนอก..อิอิ (นอกห้องครับ)
ขอเข้าใจคุณครูไม่ใหญ่แบบนี้ไปก่อน ส่วนความหมายที่แท้จริงประการใด
รอผู้รู้ได้มาอรรถาธิบายเป็นธรรมทานด้วนครับ ขอโมทนาสาธุไว้ล่วงหน้าครับ
กระผมขอเข้าใจในทรรศนะกระผม ตามที่ครูไม่ใหญ่ได้แนะนำมาให้กับ ผู้อยากหน้าตึง หน้าอ่อน ครับ
เดินตากแดดทั้งวัน หน้าตึงหน้าอ่อนใส คงลำบากสำหรับผม ครับ
ห้าสลึงตึงทั้งชาติ ตามที่ผมเข้าใจ คงจะเริ่มจาก ธาตุขันธ์ ของคน ผมขอเริ่มจาก ขันธ์ห้า(ห้าสลึง)
ทีนี้ขันธ์ห้า ประกอบด้วย รูปหนึ่ง นามสี่
รูปหนึ่งคือ ร่างกายเราครับ ตั้งแต่หน้าตา ผิวพรรณ
นามสี่คือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
ทีนี้ อยากให้หน้าตึงหน้าอ่อน เราก็ต้องรู้วิธี หยุดไดนามิกส์ หยุดพลวัตรของการเปลี่ยนแปลงของร่างกายนั้น
คำว่าหยุดไม่ให้ร่างกายมันเคลื่อไปตามพลวัตรของมัน ก็ต้องเริ่มจาก การทำสมาธิ
ทีนี้สมาธิที่ดี ก็ต้องมีศิลห้าเป็นฐาน (เห็นไหมห้าสลืงอีกล่ะ)
พอทำสมาธิหยุดได้ แค่หยุดแบบขณิกะสมาธินี่ก็ หน้าก็ผ่องใสในระดับหนึ่ง
ถ้าอยากผ่องใสแบบคุณครูไม่ใหญ่ดวงใจของผม
ก็ต้องเข้าถึงขั้น เดินทางคมนาคมน์ เข้าสู่ ไตรสรณคมน์ นั่นเองครับ
คมน์(แปลว่าเดินทาง) ไปสู่พระรัตนตรัย
ทีนี้ถ้าถึงขั้นเข้าสู่รูปฌาณ๔ อรูปฌาณ๔ ก็จะสามารถหยุดแมคคานิซึม หรือกลไก การทำงานของร่างกายได้
ก็จะทำให้ร่างกาย หลั่งสารแห่งความสุขออกมามาก ก็จะทำให้หน้าใส
หน้าอ่อนกว่าวัย ใครได้พบได้เห็นก็ผ่องใส ครับ
นี่คือบทสรุปถึงคำว่า ห้าสลึงตึงทั้งชาติ ในทรรศนะของกระผมครับ