ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 2 คะแนน

สรุปพระธรรมเทศนา"ทำไมต้องสร้างบารมี"


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 12 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 crystal.mind

crystal.mind
  • Members
  • 280 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:BKK
  • Interests:Book Music

โพสต์เมื่อ 20 December 2005 - 09:43 AM

ทำไมเราต้องสร้าง “บารมี”
ทำไมจะต้องทำบุญแบบ “เอาชีวิตเป็นเดิมพัน”


ก็เพราะว่า แนวความคิดการสร้างบารมี หรือ การทำบุญแบบทุ่ม ชีวิตเป็นเดิมพัน
เป็นความคิดแบบ "พระโพธิสัตว์ " ที่มุ่งจะเป็น “พระพุทธเจ้า” องค์หนึ่งในอนาคตกาลเบื้องหน้า


บางกัป มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บังเกิดขึ้น 1 องค์
บางกัป ไม่มี พระสัมมาสัมพุทธเจ้า บังเกิดขึ้นเลย เรียกว่า “สุญญกัป”
กัปป์ของเรา เรียกว่า “ภัทรกัป” มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บังเกิดขึ้น 5 องค์ ... แต่กระนั้น โลกของเรายังวุ่นวายขนาดนี้

ดังนั้น จะต้องมีพระพุทธเจ้า หรือ พระโพธิสัตว์ บังเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน กัปละมากๆ จึงจะสามารถเอาชนะวัฏสงสารนี้ได้ (ไปถึงที่สุดแห่งธรรม)

พระพุทธเจ้า ที่มีอยู่ในจักรวาลต่างๆจะสอน 3 เรื่อง เหมือนๆ กัน นั่นคือ
1. สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง ** การไม่ทำชั่วทั้งปวง ได้อะไร "ก็ได้บุญน่ะสิ”
( ใจ-ไม่คิดชั่ว , ปาก-ไม่พูดชั่ว , กาย-ไม่ทำชั่ว -----คือ “มีศีล” ...“รักษาศีล ก็ได้บุญ” )
2. การทำความดีให้ถึงพร้อม …. ทำไปทำไม----- "ก็จะเอาบุญน่ะสิ"
3. ทำใจให้ใส …. ทำไปทำไม----- "ก็จะเอาบุญน่ะสิ"

นั่นคือ พระพุทธเจ้าทุกพระองค็สอนเรื่อง “เอาบุญ”
แล้ว “บารมี” อยู่ตรงไหน???

คำตอบคือ ... บารมี ก็คือ “บุญ” แต่เป็นบุญที่มีคุณภาพพิเศษ
ทำไมจึงพิเศษ?
ก็เพราะว่า “เป็นบุญ” ที่เกิดจากการสร้างแบบ “เอาชีวิตเป็นเดิมพัน” นะสิ

“บุญ” เป็นพลังงานบริสุทธิ์
“บุญ” เกิดที่ “ใจ” มนุษย์เท่านั้น
“บุญ” เกิดทุกครั้ง ที่ ละชั่ว – ทำดี –ทำจิตใจให้ผ่องใส

บุญจะเกิดทุกครั้งที่กระทำ

แต่คุณภาพที่เกิดขึ้น แต่ละครั้ง ไม่เหมือนกัน
(บางครั้งก็เกรดระดับอนุบาล แต่บางครั้งก็ระดับมหาวิทยาลัย)
“บุญมีเกรดพิเศษ” คือ บุญ ประเภท “ทำแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพันไปสร้างมา” ซึ่งนั่นคือ “บารมี”

บารมี ๑๐ หรือ บุญกิริยาวัตถุ 10
(คือ ย่อ บารมี10 ให้เหลือ 3 คือ 1.ละชั่ว 2. ทำดี 3.ทำใจให้ผ่องใส)

๑. ทานบารมี-- การให้ (การทำความดีให้ถึงพร้อม)
๒. ศีลบารมี--- (การละชั่วทั้งหลาย)
๓. สัจจะบารมี --ความตั้งใจจริง (ทำใจให้ใส)
๔. วิริยะบารมี—ความกล้าไปแก้นิสัยของตัวเรา (ทำใจให้ใส)
๕. เนกขัมมะบารมี--การถือบวช ทรงพรหมจรรย์ (การละชั่วทั้งหลาย)
๖. ปัญญาบารมี-- ความรู้ ที่เกิดขึ้นจากการพินิจพิจารณา (ทำใจให้ใส)
๗. ขันติบารมี--ความอดทนหรืออดกลั้น ต่ออารมณ์ที่เข้ามายั่วยวน (ทำใจให้ใส)
๘. เมตตาบารมี--ความรักที่ปราศจากความใคร่ (ทำใจให้ใส)
๙. อธิษฐานบารมี-- ความตั้งใจ (ทำใจให้ใส)
๑๐. อุเบกขาบารมี-- ความวางเฉย (ทำใจให้ใส)


เราต้องเตรียมบุญ เตรียมเสบียงไว้ให้เพียงพอ สำหรับใช้ในช่วง “อสงไขยกัป” ในอนาคต เพราะคงไม่มีใครอยากหมดบุญ แล้วต้องลงมาเกิดในช่วง ไม่มีเนื้อนาบุญ ให้เราลงมาสร้างบุญกันหรอกใช่ไหม

ดังนั้น ในยุคปัจจุบัน ที่เรามีพระผู้เป็นเนื้อนาบุญหลายแสนรูปให้พวกเราได้สั่งสมบุญกัน

และเราคงไม่อยาก “เหนื่อย” ในการสร้างบารมีกันทุกๆชาติ ดังนั้น ในเมื่อ เราสามารถร่วมสร้างศาสนาสถานที่จะคงทนไปอีกหลายร้อยปี ให้ผู้คนจากทั่วทุกทิศได้มาปฏิบัติธรรมกัน

เราจะสามารถ “เก็บบุญ” ได้เรื่อยๆ ทุกครั้งที่มีผู้มาปฎิบัติธรรมในสถานที่ที่พวกเราได้ร่วมกันสร้างไว้นี้ ผลคือ เทวดาองค์อื่น บารมีรัศมีจะอ่อนลงไปเรื่อยๆ ตามกำลังบุญที่หมดไป แต่เทวดา (เช่นเรา) บารมีรัศมีจะเจิดจ้าขึ้นตามลำดับ เพราะมีคนมาทำความดีกันมากขึ้นเรื่อยๆ


**** สุดท้าย พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ได้เมตตาแจกหนังสือเรื่อง" วิทยานิพนธ์ ในหัวข้อ "คำสอนเรื่องการสร้างบารมี ของวัพระธรรมกาย" ซึ่งเป็นหนังสือที่เขียนได้อย่างชัดเจน เป็นหลักการทางวิชาการอย่างมาก

อยากแนะนำให้ลองไปหาอ่านดูแล้วจะพบว่า คำสอนของวัดพระธรรมกาย ถูกต้องตามหลักคำสอนอย่างแท้จริง เพราะกรรมการผู้สอบวิทยานิพนธ์ในครั้งนี้ ต่างเป็นนักวิชาการทางศาสนาที่มีชื่อเสียงทั้งสิ้น

[attachmentid=766]

ไฟล์แนบ



#2 ฝันที่เป็นจริง

ฝันที่เป็นจริง
  • Members
  • 436 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 December 2005 - 12:54 PM

อ่านแล้วรู้สึกกระจ่างแจ้งเรื่องการสร้างบารมีชัดเจนขึ้นครับ อยากให้ post สรุปย่อแบบนี้บ่อยๆอ่านแล้วได้ความรู้เพิ่มเติมดี ทำให้ไม่พลาดที่จะแวะเวียนเข้ามาที่เว็บบอร์ดนี้เป็นประจำน่ะครับ
"หยุด เป็น ตัวสำเร็จ"

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต้ อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ


หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยกายก็ดี วาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี
ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดยกโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ



#3 hmongkon

hmongkon
  • Members
  • 54 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 December 2005 - 02:10 PM

อ่านแล้ว สดชื่น ของสาธุการในธรรมทานนี้ด้วย สา...ธุ

#4 Omena

Omena
  • Members
  • 1409 โพสต์
  • Location:44/5 หมู่ 10 ตำบลหนองอ้อ ถนนเพชรเกษม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี 70110

โพสต์เมื่อ 20 December 2005 - 05:55 PM

ฟังแล้วอยากสั่งสมบารมีให้มันเข้มข้นขึ้นอีกมากๆเลย

สาธุ
เมื่อไหร่หนอจะได้พบทหารหาญ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที

สุนทรพ่อ




muralath2@hotmail

#5 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 20 December 2005 - 09:26 PM

อนุโมทนาบุญด้วยครับ แต่ขอเพิ่มเติมนิดนึง

ตอนท้ายๆ ที่บอกว่า "เราจะต้องเตรียมบุญ เตรียมเสบียงไว้ให้เพียงพอ สำหรับใช้ในช่วง “อสงไขยกัปป์” ในอนาคต" ไม่ใช่ "อสงไขยกัปป์" นะครับ แต่เป็น "สุญญอสงไขยกัป" ซึ่งหมายความว่า ตลอดระยะเวลาอสงไขยกัป ติดต่อกัน ไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาบังเกิดเลยแม้แต่องค์เดียว ถ้าเกิดบุญหมดมา แล้วต้องมาเกิดในช่วงนี้ ก็แจ๊คพอตครับ เพราะไม่มีพระรัตนตรัยและไม่มีเนื้อนาบุญเลย

ส่วนที่บอกว่า "เก็บบุญได้เรื่อย" หลวงพ่อท่านบอกว่า พอท่านไปดูนรกมา เห็นสัตว์นรกบางตัว ยิ่งอยู่นาน ทำไมยิ่งตกนรกลึกขึ้นๆ หลวงพ่อบอกว่า อย่างพวกที่คิดการทำระเบิด หรือพวกลัทธิคอมมิวนิสต์ (ที่ทำให้คนมาทำลายศาสนา) พวกนี้ พอคนมีคนเอาระเบิดไปประหัตประหารกันที สัตว์นรกพวกนี้ ก็มีส่วนแห่งบาปไปด้วย ก็จะตกนรกหนักขึ้น พวกนี้ ท่านเรียกว่า "ตอขวางวัฏฏะ" ครับ
พอท่านเห็นแบบนี้ ท่านเลยบอกว่า ถ้าเราไปสร้างถาวรวัตถุอย่างพระธรรมกายประจำตัวซึ่งมีอายุเป็นพันๆ ปี แม้เราจะตายไปแล้ว พอมีคนมากราบไหว้เจดีย์ที่เราร่วมกันสร้าง เราในฐานะผู้สร้างก็จะได้บุญตลอดเวลา หลวงพ่อท่านอุปมาว่า เหมือน เค้ามาเช่าที่ดินของเรา เราก็เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้ตลอดเวลา ครับ

#6 abcd

abcd
  • Members
  • 50 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 December 2005 - 09:52 PM

Many Thanks for this topic.

Available online หนังสือเรื่อง" วิทยานิพนธ์ ในหัวข้อ "คำสอนเรื่องการสร้างบารมี ของวัพระธรรมกาย" ? Please, I would like to read this thesis.

#7 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 20 December 2005 - 10:16 PM

วิทยานิพนธ์ ในหัวข้อ "คำสอนเรื่องการสร้างบารมี ของวัดพระธรรมกาย" อยากอ่านด้วยค่ะสามารถหาอ่านได้ที่ไหนบ้าง

#8 crystal.mind

crystal.mind
  • Members
  • 280 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:BKK
  • Interests:Book Music

โพสต์เมื่อ 22 December 2005 - 10:11 AM

ลองติดต่อที่ "อาศรมวิทยา" ดูนะคะ

แค่ตัวเองตั้งใจ จะอ่านเป็นหนังสือเสียงให้ สำหรับเปิดเป็น mp3

แต่กรุณา รอสักครู่ กำลัง "จะ" ทำค่ะ


#9 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 22 December 2005 - 07:54 PM

อ่า...ไม่ใช่ "อาศรมวิทยา" นะครับ แต่เป็น "อาศรมบัณฑิต" ครับ จะอยู่ข้าง สภาหลังคาจาก และเป็นที่ทำงานของหลวงพ่อทัตตะครับ

#10 abcd

abcd
  • Members
  • 50 โพสต์

โพสต์เมื่อ 23 December 2005 - 01:08 AM

QUOTE(crystal.mind @ 22/12/2005 4:11) ดูโพสต์

แค่ตัวเองตั้งใจ จะอ่านเป็นหนังสือเสียงให้ สำหรับเปิดเป็น mp3

แต่กรุณา รอสักครู่ กำลัง "จะ" ทำค่ะ


Great. Please announce on the webboard when available.
anumothanaboon kah

#11 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 23 December 2005 - 09:16 AM

อนุโมทนาบุญกับสรุปพระธรรมเทศนาด้วยครับ และขอเสนอความเห็นนิดนึงครับ ในส่วนของการลำดับบารมี 10 ทัศ ควรลำดับให้เรียงตามลำดับดังนี้ คือ
1. ทานบารมีี
2. ศีลบารมี
3. เนกขัมมบารมี
4. ปัญญาบารมี
5. วิริยบารมี
6. ขันติบารมี
7. สัจจะบารมี
8. อธิษฐานบารมี
9. เมตตาบารมี
10. อุเบกขาบารมี

#12 crystal.mind

crystal.mind
  • Members
  • 280 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:BKK
  • Interests:Book Music

โพสต์เมื่อ 28 December 2005 - 09:01 PM

อยากทราบว่า การเรียงลำดับ บารมี มีความสำคัญอย่างไรคะ

เพราะ หนังสือ แต่ละเล่ม เรียงไ ม่ เหมือนกันค่ะ

ใครทราบ ตอบหน่อย นะคะ

กราบอนุโมทนาบุญ ล่วงหน้าค่ะ สาธุ

ส่วน MP3 กำลังอ่านอยู่ค่ะ

รอสักครู่ หลังอยู่ธุดงค์ นะคะ
" เกิดมาเพื่อ ทำพระนิพพานให้แจ้ง + แสวงบุญ + สร้างบารมีค่ะ "
"รักษา อารมณ์ดี + อารมณ์เดียว + อารมณ์สบาย ทั้งวัน "


#13 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 05 February 2007 - 03:39 PM

happy.gif