ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

บุญประทีปและอานิสงส์แห่งการถวายประทีป ตอนที่ ๓


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 3 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 21 February 2007 - 08:41 PM

พระอนุรุทธเถระ

ภิกษุผู้เป็นเอตทัคคะด้านการมีทิพยจักษุ



***เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน ณ กรุงกุสินารา ครั้งนั้นพระอนุรุทธเถระ หนึ่งในอสีติมหาสาวกของพระพุทธองค์ ผู้เลิศกว่าภิกษุใดด้านมีตาทิพย์ ได้ติดตามรู้ตามเห็นการเสด็จสู่ปรินิพพานของพระพุทธองค์ตลอดเวลา นับเป็นพยานสำคัญการดับขันธปรินิพพานของพระพุทธองค์ ที่จารึกไว้ในพระไตรปิฎกในกาลต่อมา

บุญและผลแห่งบุญ เป็นเรื่องของเหตุและผลว่า ประกอบเหตุเช่นไรย่อมได้ผลเช่นนั้น เกิดขึ้นพอเหมาะกับเหตุ หากเรามีความปรารถนาอย่างไรจึงจะสามารถสั่งสมบุญเพื่อให้ได้ผลตามที่ต้องการได้ แต่บางครั้งเราไม่มีโอกาสที่จะทราบเช่นนั้น หากมีบุคคลหนึ่งที่ได้สั่งสมบารมีข้ามภพข้ามชาติอย่างต่อเนื่อง อย่างตรงเป้าหมายที่ตนปรารถนา แล้วในที่สุดท่านก็ได้บรรลุคุณวิเศษตามที่ต้องการ ท่านเป็นผู้มีบุญญาธิการมาก จึงมีโอกาสได้ทราบแนวทางของการสร้างบารมีจากพระสงฆ์ผู้มีคุณวิเศษในอดีตกาลโดยตรง และไม่ละเลยที่จะปฏิบัติตาม เรื่องมีอยู่ว่า

ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า “ปทุมุตตระ” พระอนุรุทธเถระได้บังเกิดเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ วันหนึ่งเขาไปวิหารเพื่อฟังธรรมในสำนักของพระศาสดา ในวันนั้นพระศาสดาทรงสถาปนาพระภิกษุรูปหนึ่งไว้ในตำแหน่งผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้มีจักษุทิพย์ จึงคิดว่า

พระภิกษุรูปนี้มีคุณความดีมาก จนพระผู้มีพระภาคเจ้าตั้งไว้ในตำแหน่งอันเลิศฝ่ายทิพยจักษุ แม้ตัวเราก็ควรได้เป็นผู้เลิศด้านทิพยจักษุในพระศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาลบ้าง

คิดได้ดังนั้น ก็แทรกแหวกกลุ่มชนเข้าไปกราบทูลนิมนต์พระปทุมุตตรทศพล พร้อมทั้งพระภิกษุสงฆ์นับแสนรูป เพื่อทูลนิมนต์ฉันภัตตาหารที่บ้านของตน เขาได้ถวายมหาทานอย่างนั้นติดต่อกัน ๗ วัน และในวันที่ ๗ ก็ถวายผ้าอย่างดี พร้อมด้วยเครื่องเย็บและเครื่องย้อมแด่พระปทุมุตตรพุทธเจ้าและพระภิกษุสงฆ์แสนรูป แล้วตั้งความปรารถนาเฉพาะพระพักตร์ว่า

“ข้าพระองค์ได้กระทำการสักการบูชาในคราวนี้ มิพึงประสงค์ทิพยสมบัติหรือมนุษยสมบัติอื่นใดเลย พระองค์ทรงตั้งภิกษุใดไว้ในตำแหน่งอันเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายด้านทิพยจักษุ ๗ วันก่อนหน้านี้ ขอให้ข้าพระองค์ได้เป็นผู้เลิศเช่นนั้นในพระศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง ในอนาคตกาลเถิดพระเจ้าข้า”

พระปทุมุตตรพุทธเจ้า ผู้ประเสริฐด้วยอนาคตังสญาณ คือความรู้เหตุการณ์ในภายหน้า ทรงเห็นว่าความปรารถนาของอนุรุทธะนั้นจักสำเร็จแน่นอน ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง จึงทรงพยากรณ์ว่า “เมื่อสิ้นเวลาแสนกัปในอนาคต จักมีพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า โคดม อนุรุทธะนี้จะได้เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายฝ่ายทิพยจักษุและมีชื่อว่าอนุรุทธะ” จากนั้นทรงกระทำภัตตานะโมทนาแล้วเสด็จกลับพระวิหาร เขาได้กระทำบุญกุศลตลอดพระชนมายุแห่งพระพุทธองค์

กาลต่อมาเมื่อพระปทุมุตตรพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว คนทั้งหลายได้ช่วยกันสร้างสุวรรณเจดีย์สูงถึง ๗ โยชน์ อนุรุทธะนั้นเกิดศรัทธาต้องการจะกระทำบุญกุศลเกี่ยวกับองค์พระเจดีย์ทองนั้นบ้าง จึงเข้าไปถามพระภิกษุสงฆ์ว่า

“ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ การกระทำบุญกุศลเพื่อให้เกิดผลเป็นทิพยจักษุนั้น จะต้องกระทำเช่นไรขอรับ”

เมื่อทราบวิธีการแล้ว อนุรุทธะได้จัดต้นประทีปใหญ่หนึ่งพันต้น นำไปตั้งไว้รอบๆ พระสุวรรณเจดีย์ และมีดวงประทีปเล็กๆ คั่นอยู่ในระหว่างกลางของต้นประทีปดวงใหญ่ ๆ นั้น แล้วจุดบูชาพระสุวรรณเจดีย์ ด้วยตั้งใจบูชาพระปทุมุตตรพุทธเจ้า เมื่อรวมประทีปทั้งปวงที่มีผู้อื่นนำมาจุดบูชาพระเจดีย์ในครั้งนั้นมีหลายพันดวง แสงประทีปทำให้ปริมณฑลของพระเจดีย์ทองแลดูโชติช่วงชัชวาลปานประหนึ่งเวลากลางวัน

นอกจากจะบูชาเจดีย์แล้ว อนุรุทธะยังไม่ละเลยการกระทำบุญกุศลอื่นๆ จนตลอดชีวิต เมื่อสิ้นชีวิตแล้วได้ท่องเที่ยวเสวยทิพยสมบัติอยู่ใน ๒ โลก คือเทวโลกและมนุษยโลกเท่านั้นตลอดกาลนาน

การบูชาพระพุทธเจ้าด้วยประทีปนั้น พระอนุรุทธเถระมิได้สร้างกุศลนี้เพียงในชาตินี้ชาติเดียว หากได้สร้างอย่างต่อเนื่อง ดังครั้งที่ท่านเกิดในสมัยของพระสุเมธสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เช่นเดียวกัน ครั้งนั้นท่านจุดประทีปบูชาพระสุเมธศาสดา ซึ่งทรงเข้าฌานอยู่ที่โคนต้นไม้ต้นหนึ่งเป็นเวลา ๗ วันด้วยกัน อานิสงส์ครั้งนั้นจะนับจะประมาณมิได้ อาทิเช่น

เมื่อละโลกแล้วได้ไปเกิดเป็นเทวดามีวิมานสว่างไสว มีรัศมีกายสว่างกว่าเทวดาทั้งหลายอยู่เป็นนิตย์ ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน

ได้ถือกำเนิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิถึง ๒๘ ครั้ง และมีดวงตามที่มีประสิทธิภาพในการเห็น สามารถเห็นได้ไกลถึง ๑ โยชน์

ได้กำเนิดในเทวโลก เป็นเทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่อมรินทราธิราชอยู่ ๓๐ กัป

เมื่อผ่านมาอีกหนึ่งแสนกัป ได้กลับมาเกิดเป็นอนุรุทธะอยู่ในเมือง ซึ่งตรงกับสมัยของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า มีโอกาสสร้างคุณความดีเกี่ยวกับการบูชาพระพุทธเจ้าด้วยประทีปเพิ่มขึ้นอีกเป็นบุญสนับสนุนการมีทิพยจักษุของท่านอีกครั้งหนึ่ง

ครั้งนั้น เมื่อพระกัสสปพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว มหาชนได้สร้างพระเจดีย์สูงได้ ๑ โยชน์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุสำเร็จแล้ว จึงให้สร้างถาดสัมริดเป็นจำนวนมาก ใส่เนยใสจนเต็ม กระทำไส้ใส่แล้วจุดบูชาไว้รอบพระเจดีย์นั้น

ส่วนอนุรุทธะนั้นจะบูชาบ้าง จึงให้ทำถาดสัมริดใหญ่กว่าถาดทั้งปวง ใส่เนยใสจนเต็ม กระทำไส้พันไส้วางไว้รอบขอบปาก กระทำไส้ใหญ่ไว้ตรงกลาง จุดให้ลุกโพลง แล้วทูนถาดขึ้นบนศีรษะเดินเวียนรอบพระเจดีย์ ตั้งใจจะทำเป็นพุทธบูชา

จะสังเกตเห็นว่า ไม่ว่าในพุทธสมัยไหน การบูชาด้วยประทีปโคมไฟเป็นพุทธประเพณี ที่กระทำสืบมาด้วยความเคารพเลื่อมใสจนเป็นปกติ และมักจะทำไว้โดยรอบของพระเจดีย์ด้วย ซึ่งอานิสงส์ผลบุญครั้งนั้นของอนุรุทธะ ส่งผลให้ท่านได้ไปเกิดในเทวโลก เสวยทิพยสมบัติอย่างต่อเนื่องหลายภพหลายชาติ

นั่นคือบุพกรรมทั้งหลายของพระอนุรุทธเถระ ผู้มีความปรารถนาจะเป็นภิกษุผู้เลิศด้านทิพยจักษุ และในภพชาติปัจจุบันเมื่อมาพบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านก็ได้เป็นหนึ่งในอสีติมหาสาวกผู้เลิศกว่าภิกษุใดด้านมีทิพยจักษุ สมความปรารถนาที่ตั้งไว้ ทั้งยังได้เข้าถึงคุณวิเศษคือปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ สามารถทำให้แจ้งแทงตลอดในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าได้

นี้คืออานิสงส์แห่งความตั้งใจจริง และบำเพ็ญกุศลอย่างต่อเนื่อง ถูกต้องตามประเภทของบุญและการเกิดผลานิสงส์ ดังที่พระสงฆ์สาวกขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวรับรองไว้ว่า การถวายประทีปเป็นพุทธบูชานั้น ทำให้ได้ทิพยจักษุ ดังอานิสงส์ที่พระอนุรุทธเถระได้รับในชาตินี้นั่นเอง
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#2 Peacefulness ™

Peacefulness ™
  • Members
  • 1145 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:On the planet Earth.
  • Interests:Almost everything that helps me to become better and better; especially, the Grestest Dharma of the Lord Buddha

โพสต์เมื่อ 25 February 2007 - 09:55 AM

บุญประทีป และอานิสงส์แห่งการถวายประทีป
ผลแห่งการถวาย ชีวิตเป็นประทีปของ พระมังคลสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผลแห่งการถวาย ดวงประทีปของ พระอชิตเถระ
ผลแห่งการถวาย ดวงประทีปของ พระอนุรุทธเถระ
ผลแห่งการถวาย น้ำมันตามประทีปของ เจ้าหญิงสุมิตตาเทวี
ผลแห่งการถวาย ประทีปของ พระปัญจทีปกเถระ
ผลแห่งการถวาย ประทีปของ พระเอกทีปิยเถระ
ผลแห่งการถวาย ประทีป ๕ ดวงของ พระปัญจทีปิกาภิกษุณี
ผลแห่งการทรง คบเพลิงไว้ของ พระอุกกาสติกเถระ
ผลแห่งการถวาย ประทีปดวงเดียวของ พระเอกทีปิยเถระ
ผลแห่งการถวาย ประทีปธรรมของ พระสกุลาภิกษุณี
ผลแห่ง การเพ่งเปลวประทีปของ พระอุบลวรรณาเถรี

ข้าพเจ้าใคร่ ขอขอบคุณ และ อนุโมทนาบุญทุกๆบุญ กับ ท่าน ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี สำหรับ ทุกๆ บทความ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อ ผู้อ่าน และผู้ศึกษา อย่างเช่นข้าพเจ้าเป็นต้น ด้วยนะครับ

สาธุ...สาธุ...สาธุ...ครับ


ขอเชิญร่วม อนุโมทนาบุญ งานบุญกฐินพระราชทาน ที่ วัดปากน้ำภาษีเจริญ คลิ๊กที่นี้
ขอเชิญร่วม อนุโมทนาบุญ งานบุญกฐินพระราชทาน ที่ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก คลิ๊กที่นี้
.

Who am I?__>>> CLick Here <<< to see my answer Post # 7

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

For any inquiries please

.

รวมภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า:
คลิ๊กที่นี้
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ ได้รับ ภาพทั้งหมดของ คำสอนคุณยาย ฉบับรวมเล่ม และภาพ (ฉบับสมบรูณ์)
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 157 files, 557.61 MB, ธรรมมะเทศนา มงคล 38 โดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทตฺตชีโว)
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 58 files, 120.99 MB, for easy listening dharmas.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 121 really-good-to-read e-books, 295.67 MB.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Free Download Manager ช่วย Download ไฟล์ใหญ่ๆ ต่างๆ ฟรีครับฟรี
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Acrobat Reader V.5
.
ที่มา: คลิ๊กที่นี้ ปล. สืบเนื้องมาจาก กระทู้นี้ โพสต์โดย ท่าน ฟ้าร้าง
.
เรื่อง การสร้างบารมีของพระโพติสัตว์ เข้าใจได้ไม่ยาก โปรดลอง คลิ๊กที่นี้
.
สนใจอ่าน

The basic knowledge of Buddhism to become a better buddhist Edition 2 คลิ๊กที่นี้

(With some english explanation)

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

"Do not confuse having a career with having a life"
-= Hillary Clinton =-.... >>>>>>>
CLicK HeRe <<<<<< To Be wisher, To Be smarter, and To Know Better !!!
Lastest Revised: 16/12/2006 | 08:43 PM

#3 Thesun

Thesun
  • Members
  • 46 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:londoon,germany
  • Interests:สมาธิ

โพสต์เมื่อ 20 February 2008 - 01:10 AM

.ใกล้วันบุญใหญ่แล้วมีความสุขจังเลย

ไฟล์แนบ


เราเกิดมาเพื่อสร้างบารมี  สิ่งที่เราทำย่อมเป็นของเรา  ทำทั้งทีทำให้ปลื้ม


#4 usr32391

usr32391
  • Members
  • 16 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 December 2009 - 07:34 PM

อนุโมทนาบุญครับ