ความแตกต่างของคำว่าร่วมบุญกับการเช่าพระ
#1
โพสต์เมื่อ 29 October 2008 - 11:51 PM
ทีนี้ได้เพื่อนคนนี้ก็เลยแบบว่าอคติไปเลยครับ มันบอกว่าทำไมหลวงพ่อเราปล่อยเช่าแพงจัง หาตังค์เก่งจังเลยนะ พุทธพานิชย์นี่นา ไหนเราบอกว่าวัดนี้ชวนทำบุญเพราะอยากให้เราได้บุญ แล้วนี่ได้บุญตรงไหน เช่าพระชัดๆ
ช่วยผมคิดคำอธิบายให้เพื่อนหน่อยสิครับ
ขอบคุณมากๆ ครับ
#2
โพสต์เมื่อ 30 October 2008 - 06:26 AM
เมื่อนำมากล่าวในที่แจ้ง ด้วยความไม่รู้ หรือ แฝงด้วยนัยยะในทางมิจฉา
จะเป็น บาปปากเปล่าๆ
ไม่คิดลูกหลวงพ่อคนไหน คิดจะจ๊าบจ๊วง
นอกเสียจาก.......
เลือกเอา ใจใสๆ
#3
โพสต์เมื่อ 30 October 2008 - 10:13 AM
ในเมื่อคุณusr23740 ถามมาด้วยความสงสัยเพื่อนำความไปอธิบายแก่เพื่อนที่ไม่เข้าใจ และถามเพื่อความกระจ่างแก่ตนเอง
เหตุใดคุณ peter10 จึงไม่ให้ความกระจ่างแก่เขาคะ ทั้งๆที่เจตนาของเขาคงไม่ได้ตั้งใจจะจาบจ้วงแต่อย่างใด
และเหตุใดจึงต้องตำหนิโดยไม่อธิบายข้อสงสัยแก่เขาคะ
แค่สงสัยเหมือนเจ้าของกระทู้และต้องการคำตอบเหมือนกันค่ะ
ขอบคุณค่ะ
#4
โพสต์เมื่อ 30 October 2008 - 11:38 AM
อยากได้ อยากมี อยากเป็น แม้กระทั่งอยากเห็นธรรมะมากเกินไป ก็จัดอยู่ในความอยากที่ทำให้ใจหยาบ
#5
โพสต์เมื่อ 30 October 2008 - 11:51 AM
#7
โพสต์เมื่อ 30 October 2008 - 12:44 PM
ถ้าคิดเป็นจำนวนเงิน ก็มากกว่าที่เราทำบุญไปซะอีก
ได้แล้วเก็บไว้ให้ดีๆ สักวันข้างหน้า จะรู้ว่า หาประมาณค่ามิได้ อย่างไร
#8
โพสต์เมื่อ 30 October 2008 - 01:07 PM
นึกเห็นใจ สงสาร และเป็นห่วง คนที่ยังไม่เข้าใจ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เพราะ ยังไม่มีกัลยาณมิตร หรือยังไม่ได้รับข้อมูลที่เพียงพอ โดนใจ
คนไหนที่รู้ และเข้าใจแล้ว ก็ช่วยกันน่ะค่ะ ช่วยกัน บอก เล่า และอย่าลืมยิ้มน่ะค่ะ เพราะว่าต้องใช้ทั้งกำลังที่สูง แรงกาย แรงใจ น้ำอด น้ำทน น้ำลาย บางครั้งมีน้ำตาด้วย
อ้อ ถ้ามีโอกาสมาเรียน DOU แล้ว น่าจะช่วยในการแก้ข้อสงสัย และทำหน้าที่กัลยาณมิตรในส่วนที่ต้องการข้อมูลอ้างอิง อธิบายเป็นระบบได้ง่ายขึ้นน่ะ
#9
โพสต์เมื่อ 30 October 2008 - 01:23 PM
ผู้ที่ทำนิพพานให้แจ้งแล้ว ก็ย่อมมีจิตตั้งมั่น
ไม่หวั่นไหวในโลกธรรมทั้งหลายฉันนั้น
(พุทธพจน์)
#10
โพสต์เมื่อ 30 October 2008 - 03:33 PM
เช่าพระ... เจ้าของ(เดิม)มิได้แจ้งความจำนงค์ว่าได้ทรัพย์มาแล้วจะไปทำอะไร เช่น แถวๆท่าพระจันทร์ หรือ IT square ฯลฯ
ร่วมบุญ...เจ้าของ(เดิม)ปรารถนานำทรัพย์ที่ได้จากผู้เช่าไปทำบุญก่อการดี ทวีบุญ เช่น รวยโคตร โคตรx2 สร้างบารมียิ่งๆขึ้นไป
#11
โพสต์เมื่อ 30 October 2008 - 08:18 PM
ขันติค่ะๆ คิดว่าเพื่อนๆ มาช่วยสร้าง ขันติบารมีแก่เราน่ะค่ะ
เคยเจอ เหตุกราณ์คล้ายๆ กัน ค่ะ
สั้นๆ ง่ายๆ คือคนนอกเค้ายังไม่เข้าใจ และศรัทธาในวัดเรา
ไม่ใช่เรื่องแปลกน่ะค่ะ เราแหละมีหน้าที่แสดงและทำให้พวกคนเหล่านั้นดู
ใจใสๆ ไว้น่ะค่ะ ท่องคำสอนหลวงปู่ไว้ หรือ สัมมาอาระหัง แล้วบางทีจะตอบคำถามรอบข้าง แบบว่า
เออ ไมเราฉลาดก่าเดิมจัง
สู้ๆ ค่ะ
#12
โพสต์เมื่อ 31 October 2008 - 12:37 AM
*** ร่วมบุญ *** การทำบุญร่วมกับผู้อื่น ไม่ว่าปัจจัยจะมากหรือน้อย ร่วมกับคนกลุ่มใหญ่ หรือกลุ่มย่อย เป็นการแสวงหาบุญมากกว่าการแสวงหาวัตถุ บางครั้งก็ได้พระของขวัญเป็นที่ระลึก บางครั้งก็ไม่ได้
สำหรับผู้ที่ถามคำถามนี้ ผมว่าบางครั้งต้องดูเจตนาของเขาประกอบด้วยเหมือนกัน ถ้าไม่เข้าใจการทำบุญอย่างถูกต้องตามหลักวิชา เดี๋ยวจะกลายเป็นการคุยกันบนความเข้าใจคนละอย่าง ไม่รู้เรื่อง ต้องใจเย็น ๆค่อย ๆ อธิบาย ครับ ( ได้ขันติบารมีเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งข้อ 555 ) ตรงนี้ขอเสริมอีกนิด หลวงพ่อฯ ไม่เคยบอกให้ทำบุญจนหมดตัวเลยนะครับ เพียงแต่ให้ทำสุดฤทธิ เท่านั้นเอง ( ทำให้บริหารการเงินเก่งไปในตัว ) เผื่อเอาไว้ ผมว่าเพื่อนคุณต้องถามแน่ อิอิ
สำหรับผู้ที่ไม่เข้าใจว่าทำไมจีวรหลวงปู่ ถึงต้องมีมูลค่ามหาศาลขนาดนั้น ( ผมว่าเท่านั้นยังน้อยไปซะด้วยซ้ำ ถ้าเทียบกับคุณธรรม คุณวิเศษพร้อมวิชชาและคุณประโยชน์ ที่หลวงปู่ได้ค้นพบและสั่งสอนสืบมา ) เพราะเขาไม่เข้าใจยังไงครับ ถึงได้มีความคิดไปต่าง ๆ นา ๆ อย่างนั้น อย่าไปโกรธเขาเลย เพราะความไม่รู้ เปรียบเทียบนะครับ เอาแบงค์ 1000 กับแบงค์กงเต็กใบละ 1000,000,000 ไปให้เลือก ถ้าเขารู้คุณค่าของทั้งสองทางเลือก ยังไงก็ต้องเอาแบงค์ 1000 อยู่แล้ว ( ถ้าตาไม่เป็นพืชที่มีฝักอยู่ใต้ดินนะครับ อิอิ )
ของที่มีคุณค่า บางอย่างเอามูลค่ามาตีราคาไม่ได้ครับ
ปล.คงต้องใช้เวลาอธิบายนะครับ คุณเจ้าของกระทู้ เอาใจช่วยครับ ท่องไว้ ขันติ ขันติ ขันติ บารมีที่จะได้มากยิ่ง ๆ ขึ้น ( อย่าให้ขันแตก เด้อ )
ไฟล์แนบ
#13
โพสต์เมื่อ 31 October 2008 - 09:35 AM
คนที่ทำบุญไป ใจเค้าก็ต้องคิดอ่ะครับว่า อยากได้จีวรลป. จึงต้องทำให้ได้ถึง 100 โกฏิ แล้วใจจะอยู่กับการร่วมบุญได้อย่างไร มันก็คล้ายกับการที่เค้าจะไปเช่าพระ เพราะอยากได้พระนั่นแหละ
ขอบคุณสำหรับทุกๆ คำตอบนะครับ
#14
โพสต์เมื่อ 31 October 2008 - 10:20 AM
เรื่องทำ เรื่องคิด อะไร คุณช่วยไปบอกเพื่อนก่อนก็แล้วกันว่า การพูดจากกล่าวหาหลวงพ่อแบบนี้ ไม่มี"คุณ"หรอก รังแต่จะบาปปาก
แม้จะเป็นการถ่ายทอดคำพูดจากเพื่อน แต่ลูกหลวงพ่อไม่ควรจะพิมพ์คำว่า
"ทำไมหลวงพ่อเราปล่อยเช่าแพงจัง หาตังค์เก่งจังเลยนะ พุทธพานิชย์นี่นา"
พวกเราลูกหลวงพ่อต่างมีจิตใจเป็นทนายแก้ต่างให้หลวงพ่อมาเป็นสิบๆปี มีเคยใช้วาจาที่ไม่ทำความเคารพต่อหลวง่พ่อ แม้จะเป็นการเล่าเรื่องต่อจากปากคนอื่นที่ไม่ได้เข้าวัดก็ตามที เพราะเราเคารพหลวงพ่อ ไม่คิดที่จะใช้คำพูดเยี่ยงนี้แน่นอนแม้จะมาจากปากคนอื่นมาเล่าสู่กันฟัง มันละอายบาป กระดากปาก
กว้างๆกับ การบริจาคทาน - วัดเอาปัจจัยไปบำรุงเผยแผ่พระพุทธศาสนา บุญที่ได้รีบเป็นของระเอียดมันได้อยู่แล้ว
แต่จะเต็มทีหรือไม่ มันก็คล้ายๆกับทำบุญแล้วรู้สึกเสียดาย นั่นแหละ มันก็พร่อง หรือบุญส่งผลช้า
หาก"เพื่อนคุณ"ได้เข้าวัด ก็ขอให้ศึกษาเรื่องราวของวัดทุกๆอย่างแล้วจะเข้าใจว่า การขยายพระพุทธศาสนาของวัด ทำกันเป็นทีมและทั่วโลก ต้องอาศัยปัยจัย (หากไม่ทำบุญแล้วมาวัด ให้นั่งตากแดด จะเอามั้ย)คือแบบไม่ต้องสร้างอะไรเลย
แต่ถ้าหากไม่ทำบุญแล้วกล่าวติเตียน .... อันนี้ ก็รู้กันอยู่ สามเฮือก สุดท้าย ทุกข์คติเป็นที่ไป
เค้าอยากจะรู้ว่ามันจริงหรือไม่ อะไรยังไง หลวงพ่อบอกว่าต้องลงมือทำ ปฏิบัติ และมาพิสูจน์ (หลวงพ่อว่าไว้ว่าแบบนี้แหละว่าเป็นผู้มีปัญญา ไม่เชื่อ แล้วลงมือทำ)
เลือกเอา ใจใสๆ
#15
โพสต์เมื่อ 31 October 2008 - 11:46 AM
เพื่อนคุณยังเป็นเด็ก ยังไม่รู้จิตใจของคนแก่ที่ผ่านโลกมาแล้วอย่างโชกโชนทะลุปรุโปร่ง(กระดูกคนละเบอร์)
เหมือน "คนทั่วไปก็ยากที่จะเข้าใจหัวใจของพระมหาโพธิสัตว์"
สุภาษิตจีนกล่าวว่า
" อย่าเอาความคิดของไส้เดือนงูดิน ไปประเมินหัวใจทองคำของพญามังกร "
ในโลกนี้ มีคนมากมายที่พร้อมทำบุญ แล้วกราบถวาย " จีวรหลวงปู่ " กลับคืนหลวงพ่อ
เพราะ " ของศักดิ์สิทธิ์ขนาดนั้น " เหมาะสมที่จะอยู่ในวัดเท่านั้น ไม่ใช่ที่บ้าน และเหมาะสมกับหลวงพ่อเก็บรักษาเท่านั้น
เหมือนที่ปู่ฉลองกราบถวาย " พระประจำองค์หลวงปู่ " ถวายหลวงพ่อ
จะแนะนำให้หลานไปพูดกับเพื่อนดังนี้
" สมมติถ้าเพื่อนมีเงินสดๆในมือ ๑ แสนบาท เวลาเพื่อนทำบุญ ๑๐๐ บาท เพื่อนก็จะไม่สนใจวัตถุตอบแทนใดๆ เพราะ ๑๐๐ บาท มันก็แค่ ๐.๑ % ของ ๑ แสน "
" ฉันใดฉันนั้น เศรษฐีหลายล้านล้าน ทำบุญ ๑๐๐๐ ล้าน ยังไม่ถึง ๐.๑% ด้วยซ้ำไป "
แต่จะบอกให้นะหลานๆ ต่อให้ทำ ๕๐% เขาก็เฉยๆ เพราะที่เหลือนะ ก็ไม่รู้จะใช้ยังไงแล้ว, ของล้นหลายบ้าน,
" ใช้ก็เหนื่อย, ให้ดีกว่า "
ก็ขอให้หลานๆรวยล้านล้านเร็วๆ แล้วจะรู้ว่า ทำบุญ ๑๐๐ โกฏิแล้ว ไม่เห็นอยากจะได้วัตถุตอบแทนเลย อยากได้บุญอย่างเดียวจริงๆ
สาธุ สาธุ สาธุ
#16
โพสต์เมื่อ 31 October 2008 - 11:54 AM
ผมว่าคุณลองถอยออกมาสักนิดน่าจะดีกว่าครับ การให้ข้อมูลบางอย่างโดยที่เราไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ แทนที่จะเป็นผลดีแก่วัด หลวงพ่อและหมู่คณะ บางครั้งกลับส่งผลร้ายแทน
ถ้าตอนนี้ อินทรีย์ของเรายังไม่แก่กล้า เร่งบ่มเพาะให้ตัวเราแข็งแรงก่อนดีกว่า ไว้เอาตัวเองรอดแล้วค่อยคิดถึงเพื่อนคนนี้ก็ยังไม่สายครับ ของบางอย่างก็ต้องการเวลา
ช่วงนี้กำลังจะถึงบุญใหญ่มาก ๆ รักษาใจของเราให้ใสดีกว่าครับ
****เพื่อนเค้าแย้งมาอ่ะครับ ว่า
คนที่ทำบุญไป ใจเค้าก็ต้องคิดอ่ะครับว่า อยากได้จีวรลป. จึงต้องทำให้ได้ถึง 100 โกฏิ แล้วใจจะอยู่กับการร่วมบุญได้อย่างไร มันก็คล้ายกับการที่เค้าจะไปเช่าพระ เพราะอยากได้พระนั่นแหละ *****
เพือนคุณคงยังไม่เคยเห็น คนทำบุญเพื่อให้ได้บุญจริง ๆ
เพื่อนคุณคงยังไม่เคยเห็น คนทำบุญเพื่อตัดความตระหนี่ที่ฝังแน่นอยู่ในใจจริง ๆ
เพื่อนคุณคงยังไม่เคยเห็น คนที่เอาชนะความตระหนี่ได้อย่างเด็จขาดจริง ๆ
เพื่อนคุณคงยังไม่เคยเห็น คนที่มีความกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ ที่ทำอะไรแม้แต่ของน้อยนิด ก็ละเอียดปราณีตสุด ๆ
เพื่อนคุณคงยังไม่เคยเห็นสัมผัส ธรรมะที่สะอาด ละเอียด ลุ่มลึก ทำได้จริง เห็นจริง
เพื่อนคุณคงยังไม่เคย อีกมากมายก่ายกอง
ถ้าอยากจะเห็นสิ่งที่ว่ามาแล้วข้างต้น หยุดการคิด ( ที่ส่อว่าจะได้ของไม่ดีติดตัวไปด้วย ) แล้วลงมือศึกษา พิสูจน์ให้รู้จริงเห็นแจ้งแก่ตนเอง อย่าเพิ่งไปเชื่อในสิ่งที่เขาพูดแล้วเชื่อทันทีโดยที่ยังไม่ได้เห็นหรือสัมผัสด้วยตนเองครับ
ถ้ามีบางอย่างไม่ถูกใจนักก็ต้องขออภัยนะครับ แต่ที่ว่ามานี้เป็นความจริงครับ
#17
โพสต์เมื่อ 31 October 2008 - 12:33 PM
#18
โพสต์เมื่อ 31 October 2008 - 01:34 PM
ผู้มีเงิน ปรารถนาที่จะแลกเปลี่ยนเป็นวัตถุหรือทรัพย์ ก็เป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป
วัตถุหรือทรัพย์ ที่ไม่ธรรมดาหรือมีคุณค่าสูง ย่อมอาจที่จะแลกเปลี่ยนกันกับเงินปริมาณมากได้ ก็เป็นเรื่องธรรมดา
สิ่งที่มีคุณค่าสูงมาก กระทั่งอาจกล่าวได้ว่า มีเพียงหนึ่งเดียว ย่อมมีค่าประมาณมิได้ ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้
เรื่องที่ไม่ธรรมดาคือ ความเสียสละ
เรื่องที่ไม่ธรรมดาคือ ความหยั่งรู้ถึง คุณค่า และผลดีที่จะเกิดขึ้น
เรื่องที่ไม่ธรรมดายิ่งคือ โอกาสที่หาได้ยากยิ่ง ที่จะมีสิ่งนั้น การกระทำนั้น และโอกาสแห่งการมหาโมทนาบุญของผู้ที่รู้
#19
โพสต์เมื่อ 31 October 2008 - 08:58 PM
#20
โพสต์เมื่อ 01 November 2008 - 03:34 AM
เหมือนกับผม ขนาดจะชวนคนที่บ้านทำบุญนั่งสมาธิยังต้องให้ความพยายามอย่างมากเลยครับ
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ
#21
โพสต์เมื่อ 01 November 2008 - 10:43 PM
Your explanation is crystal clear! You must be a Dhammakaya Patriot!!! and me too...
You are brilliant and I am proud of you.
Sincerely,
Belovegems