หากย้อนกลับไปจากวันนี้สักสิบกว่าปี ทำให้ผมนึกถึงบรรยากาศ วันมาฆบูชา in my memory เมมโมรี่นะครับ ตอนนั้นผมอายุ 10 ขวบเห็นจะได้
ผมมีความประทับใจเกี่ยวกับวันมาฆบูชา 2 ครั้งสำคัญด้วยกันนะครับ ครั้งที่ 1 เกิดขึ้นจากการถ่ายทอดของคุณอาของผม ส่วนครั้งที่ 2 เกิดจากประสบการ์ณตรงล้วนๆๆ
ครั้งที่ 1 เรื่องมีอยู่ว่า วันมาฆบูชาปี 2523 ยุคนั้นผมยังเป็นวุ้นอยู่เลย วันนั้นคุณอาผมมาวัดเป้นวันแรก จากเพื่อนของคุณอา ที่เป็นคุณครูด้วยกัน คุณอาเล่าว่า วันนั้นอาเห็นองค์พระธรรมกาย ลอยอยู่เหนือยอดโบสถ์ (สมัยนั้น โคมมาฆประทีป จะจุดกันโดยรอบอุโบสถ) ผมฟังแล้วขนลุกว่าอัศจรรย์ขนาดนั้นเชียวหรอ
ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นกับตัวผมเองครับ วันมาฆบูชาปี 2548 เป็นช่วงที่ผมเรียนปี 2 แล้วครับ ก็เป็นช่วงที่เรียน แล้วช่วงนั้นคุณป้าจะให้เงินผมใช้เป็นเดือนๆ แล้วเชื่อไหมครับว่า วันที่คุณป้าผมให้เงิน คุณป้าจะไม่ให้ที่บ้าน ท่านจะมาให้ที่วัด วันนั้นก้มีการทำบุญโคมมาฆประทีปที่วัดนะครับ 1 กองจะเท่ากับ ¼ ของเงินที่ผมได้รับพอดี ก้ไม่รุ้ยังไงนะครับ พอได้เงินก้เดินไปทำบุญทันที ไม่ได้คิดอะไร คิดแค่อยากทำบุญมาฆประทีป จากนั้นจึงมาร่วมงานวันมาฆบูชาตามปรกติ
วันมาฆบูชาปีนั้นเอง ผมได้เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นที่ดวงตาของผมนะครับ นั่นคือ โดยปรกติ ผมจะไม่สามารถมองไฟแบบสบายตาได้ เพราะผมเป็นคนแพ้แสงครับ แพ้ชนิดที่ว่า ไม่สามรถมองไฟใกล้ๆได้ เพราะตาผมจะแดง และแสบมาก แต่ปีนั้นผมสามารถมองดวงไฟในลานธรรมได้อย่างสบายตา และไม่มีปัญหาใดๆอีกด้วยนะครับ
นั่นคือเหตุการ์ณในอดีตครับ มาวันนี้เกิดเหตุการ์ณที่น่าประทับใจขึ้นที่ วัดพระธรรมกายลอนดอนครับ เชื่อมั้ยครับ ผมสามารถมองประทีปด้วยตาเปล่าได้อย่างสบายตา จนกระทั่งรุ้สึกไปว่า นี่ไม่ใช่เปลวเทียนรึยังไง
ส่วนบรรยากาศที่ลอนดอนจะเป็นยังไงหรอครับ ขออุบไว้ก่อน สัญญาครับ พรุ่งนี้จะมารายงานให้ฟัง
( แอบเอารุปมาอวด พรุ่งนี้จะเอาลงมาลงเพิ่มจ้า )