ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ

กายสว่างๆในตัว


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 22 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 usr35193

usr35193
  • Members
  • 1 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 July 2010 - 04:36 PM

ข้ออนุญาต ซักถาม เรื่องการปฎิบัติ ครับ

ผมใช้กสิณสี ทำสมถะกรรมฐานนะครับ เรียนตามตรงว่าไม่ค่อยมีความรู้เรื่องวิชาธรรมกายสักเท่าไรเลย รู้แค่ผิวเผินเปลือกๆ แล้วก็ไม่เคยฝึกสิณกอะไรเป็นพิเศษด้วย แต่ที่ใช้กสิณเพราะถูกจริต ผมแทบไม่ต้องมานั่งจ้องดวงสีกระดาษเลยครับ พอปฏิบัติก็แทบจะนึกอุคคหนิมิตสีได้เลย รู้สึกว่ามันง่ายกว่ากรรมฐานแบบอื่นๆ

แต่วันนี้ ผมใช้กสิณสีแดง ทำปฏิภาคนิมิต วิ่งไปมา หน้าหลัง บนล่าง 8 ทิศ ขยายขนาดเล่นจนจิตสบายใจแล้ว ดวงกสิณก็กลับมาอยู่ที่บริเวณหน้าอก

จากนั้น พอมีสมาธิ อยู่กับ ปีติสุข สักพัก แล้วก็รู้สึกว่าดวงกสิณวูบลง จากนั้น ดวงกสิณ และ ลมหายใจหายไป แต่มีความรู้สึกตื่นตัว(ไม่เคลิ้มเลย)อยู่เต็มกาย อยู่ข้างในสว่างๆ เหมือนมีอีกกายหนึ่งอยู่(ไม่รู้ว่าผมเวอร์ คิดไปเองรึปล่าวนะครับ) ส่วยกายหยาบมีความรู้สึกนิดๆหน่อยๆเหมือนมีอะไรเคลื่อนที่ สั่นๆไปเบาๆไม่เป็นระเบียบ

เป็นแบบนี้ สัก 10-15 นาทีน่าจะได้

ผมก็จะออกมาให้เจอกายจริงๆ จิตออกมาแป๊บเดียวแล้ว ก็เข้าไปสู่สภาวะที่ลืมบริกรรมลืมลมหายใจอีก แต่ความตื่นตัวสว่างเหมือนอยู่ในกายสว่างนั้นอีก เป็นแบบนี้อีก 2 รอบ ถึงจะออกมา ออกมาแล้วสบายใจไม่รู้สึกว่าโดนนิวรณ์รบกวน

เมื่อวานผมก็เจอแบบนี้ แต่เมื่อวานผมนั่งเกือบ ชม.แล้วท่านั่งเริ่มไม่สวยไม่เป็นระเบียบแต่รู้สึกว่ากายสว่างๆนี้นั่งเป็นระเบียบกว่ากายจริง ส่วนวันนี้กายสว่างๆเขาสวดมนต์ด้วย

พี่ๆช่วยวิจารณ์ และแนะนำด้วยครับผม โดยเฉพาะมันมีอีกกายที่ สว่างๆอยู่ข้างในรึปล่าวครับ


#2 **[email protected]**

**[email protected]**
  • Guests

โพสต์เมื่อ 02 July 2010 - 06:34 PM

สาธุ ค่ะ คุณเจ้าของกระท้มาถูกทางแล้วค่ะ

เมื่อนั่งสมาธิแล้ว จะเห็นทั้งหมด 18 กาย อยากร้ลองศึกษาวิธีการนั่งสมาธิตามวิชาธรรมกายดูค่ะ แล้วคุณจะพบคำตอบที่คุณสงสัยค่ะ

แต่ขอยืนยันค่ะ คุณนั่งสมาธิได้ถูกทางแล้วค่ะ

ไม่ว่าจะเริ่มต้นด้วยวิธีใด ลมหายใจเข้าออก หรือ ยุบหนอพองหนอ แต่จุดหมายปลายทางที่มีเหมือนกัน

web dmc มีคำตอบ ให้คุณเสมอ ลองศึกษาค้นหาได้น่ะค่ะ

อนุโมทนาบุญค่ะ สาธุ

กายข้างในสว่างกว่ากายข้างนอกค่ะ และ ยิ่งทิ้งดิ่งเข้ากลางกายในกายไปเรื่อย ๆ จนเป็นหนึ่งเดียวกันคุณจะพบกับความมหัศจรรย์ที่หาคำบรรยายไม่ได้ว่า วิเศษ ที่สุด

#3 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1340 โพสต์
  • Location:Ladkrabang

โพสต์เมื่อ 02 July 2010 - 09:49 PM

ลองหาความรู้ และอ่านจากหนังสือเล่มนี้ดูนะคะ
http://www.kalyanami...k/pdf/69KAN.pdf

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป


#4 ดอกอุบล

ดอกอุบล
  • Members
  • 926 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 July 2010 - 09:49 PM

สาธุ ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับส่วนผมยังไม่ได้เข้าถึงอะไรเลย

#5 ธาตุล้วนธรรมล้วน

ธาตุล้วนธรรมล้วน
  • Members
  • 255 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 July 2010 - 11:26 PM

สาธุครับ

ใครมีลิงค์ให้โหลดหนังสือ คู่มือสมภาร ที่วัดเราพิมพ์แจก

ช่วยนำมาลงให้ จขกท ด้วยนะครับ

สาธุครับ


ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ

ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ

เราตถาคต คือธรรมกาย

#6 Tree

Tree
  • Members
  • 2076 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 July 2010 - 12:55 AM

สังเกตุนะครับ คุยกับคนที่นั่งจริงๆ ไม่ว่าจะนั่งแบบใหนตามคัมภีร์มาตราฐานเป็นรู้เรื่อง

จขกท จะลองอ่านคู่มือสมภารตามที่สมาชิกแนะนำก็ดีนะครับ ถ้าหาไม่เจอ pm บอกผมก็ได้ครับ จะส่งให้ทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์


#7 Nee-Sansanee 2

Nee-Sansanee 2
  • Members
  • 893 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 03 July 2010 - 01:47 AM


ขอให้จขกทได้ดวงตาเห็นธรรมะสว่างไสวนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้

ลองเข้าไปดูตามlinkนี้นะคะ บอกได้คำเดียวว่ามีค่ายิ่งกว่าเพชรใด ๆ ใลกนี้

http://www.dmc.tv/pa...dhammabook.html

#8 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1340 โพสต์
  • Location:Ladkrabang

โพสต์เมื่อ 03 July 2010 - 03:02 AM

QUOTE
กายมนุษย์ละเอียดหรือกายอื่นๆ แตกต่างจากกายหยาบของเราอย่างไร
หมวด คำถามปกิณกะ

กาย มนุษย์ละเอียดมีหน้าตาเหมือนกับตัวเรา เหมือนเลย แต่ว่าสดใสกว่า บริสุทธิ์ กว่า นุ่มนวลกว่า เห็นแล้วชอบใจมากกว่า มีความคิดกว้างขวางกว่ากายหยาบ ไม่ คับแคบเหมือนกายหยาบ มีความคิดที่กว้างขวาง กว้างไกล ลึกซึ้ง เห็นว่า กายหยาบนี้แค่เป็นเครื่องอาศัย ของที่อยู่กับกายหยาบเป็นอุปกรณ์ในการใช้ สร้างบารมี จะเป็นทรัพย์สินเงินทองของนอกกายนั้น เป็นแค่อุปกรณ์ในการสร้าง บารมีเท่านั้น กายมนุษย์ละเอียด เห็นได้กว้างขนาดนั้นทีเดียว และเห็นว่า ทุก ๆ ชีวิตนั้นน่ะ มีความเกี่ยวพันกันไป เป็นเหมือนญาติ เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายเหมือนกัน เป็นเหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน จะเห็นได้ชัดเจนเลย เมื่อเข้าถึงกายละเอียด แล้วก็จะเข้าถึงกายทิพย์ กายพรหม อรูปพรหม ที่มี ลักษณะสวยงามแตกต่างกันขึ้นไปเรื่อย ๆ ทั้งความบริสุทธิ์ ความใส ขนาดใหญ่ โตกว่ากัน ความสุข ความบริสุทธิ์อะไรต่างก็ รวมทั้งความนึกคิดดวงปัญญาแตก ต่างกันขึ้นไปเรื่อย ๆ กระทั่งเข้าถึงกายธรรม แต่ละกายนั้นก็จะคั่นด้วยดวง ธรรมต่าง ๆ ซึ่งเป็นเครื่องกลั่นใจให้ใส กลั่นแล้วกลั่นอีก กายก็จะถอดออก เป็นชั้น ๆ ๆ นี่แหละมีอยู่ในตัวของพวกเราทุก ๆ คนแต่เราไม่เคยเฉลียวใจเลย ว่ามันมีอยู่ ไม่เคยมีความรู้สึกแม้แต่นิดเดียวนะ ว่าในตัวเรามีสิ่งเหล่า นี้อยู่ เพราะมัวไปทำมาหากิน มัวเพลิดเพลินกันอยู่ในโลกการทำมาหากิน มี ปัญหาต้องแข่งขันกัน ต้องแก้ปัญหากัน เวลาถูกใช้ไปอย่างนั้น ได้ทรัพย์มา แล้วก็เอาไปใช้จ่ายเพลิดเพลิน โดยคิดว่านั่นคือการผ่อนคลาย คือการพักผ่อน เพื่อจะเผชิญปัญหาในวันต่อไป แต่จริง ๆ นั้นก็คือชีวิตที่สูญเปล่า เพราะ ฉะนั้นพอมาถึง ณ จุดตรงนี้แล้ว เราจะแจ่มแจ้งทีเดียว
http://dmc.tv/index....a...e=26&no=218


อาจลองศึกษาเพิ่มเติมจาก บทความในหมวดสมาธิก็ได้นะคะ อาจจะเจอคำตอบอื่นที่ต้องการก็ได้
http://dmc.tv/index....a...e=12&no=105

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป


#9 ปฏิปทา 072

ปฏิปทา 072

    ขอชื่อ ที่ถูกต้อง ปฏิปทา 072 THANIDA KOIKE

  • Members
  • 1358 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 03 July 2010 - 12:11 PM

ขออนุโมทนาบุญกับ คุณ.usr35193 ด้วย ค่ะ ขอให้คุณนิ่งๆไปเรื่อยๆเถิด ค่ะ จะยิ่งสว่างมากกว่าที่คุณได้พบอีก ค่ะ จะเห็นทั้งลืมตาและหลับตา

ค่ะ เพราะได้พบมาแล้วกับตัวของดิฉันเอง จนมาถึงทุกๆวันนี้ ค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

#10 จีวร

จีวร
  • Members
  • 149 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 July 2010 - 10:13 PM

สาธุครับ นั่งได้จังหวะถูกส่วนพอดีเลยคับ ดีมากเลยคับ

ขอให้นิ่งกว่านี้จะดีมักๆ เลยครับ ใจกำลังเคลื่อนจากสภาวะหยาบไปสู่สภาวะละเอียดภายในแล้ว

ใจได้ทิ้งสิ่งนำทางของใจเพื่อให้ใจหยุดนิ่ง นั่นคือ ดวงกสินภายนอก(ที่เรานึกจำลองเป็นที่ยึดที่เกาะของใจชั่วคราวเพื่อไม่ให้ใจไปเกาะกับเรื่องอื่นๆ) เข้าไปหาสภาวธรรมภายใน


สิ่งที่ต้องทำคือ ใจเย็น ให้ได้มากกว่านี้ นิ่งมากกว่านี้จะดีครับ ดื่มด่ำกับปีติสุขให้ได้นานๆ แช่อิ่มกับความสุขที่เราได้เข้าถึง
พึงพอใจกับความสุขกับสภาวะธรรมที่เราเข้าถึง จะเป็นความสว่างก็ดี แช่อิ่มมันเข้าไปคับ นิ่งเข้า ไม่นานใจเย็นพอ ใจก็จะเคลื่อนเข้าไปสู่สภาวะที่ละเอียดยิ่งๆกว่านี้ ใจจะละเอียดมาก ละเอียดแล้วละเอียดเล่าเฝ้าแต่ละเอียดคับ จะเข้าใจด้วยตัวของตัวเองว่า นี่แหละ ถูกต้องแล้ว...
(เพราะนิวรณ์5 วิจิกิจฉาได้ถูกกำจัดเสียสิ้นด้วยกำลังแห่งความเพียรของเราเอง)

นั่งดีครับ ขอให้รักษาความดีนี้ต่อไป
ไม่เวอร์หรอกคับ นั่งดีแล้ว ขอให้ขยันๆนั่งยิ่งๆขึ้นไป

(สิ่งที่ยากคือ ทำให้ต่อเนื่อง ให้สภาวะที่เกิดกับเรานี้ เกิดขึ้นอีกบ่อยๆ ถี่ๆ จนสามารถทำได้อย่างคล่องแคล่วเชี่ยวชาญ)


อนุโมทนาบุญด้วยครับ
------------

QUOTE
จากแก้วนำทาง ไปสู้แก้วต้นทาง และไปสู้แก้วกลางกาย



#11 usr35193

usr35193
  • Members
  • 1 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 July 2010 - 05:16 PM

ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านที่ให้ความเห็นครับ

อันที่จริงผมเข้ามาตอบช้าไปหน่อย เพราะหลังจากโพสต์ในบอร์ด เวบบอร์ด DMC มาดูอีกทีแล้วไม่เห็น ผมก็นึกว่ากระทู้ของผมอาจจะมาไม่ถูกทาง เป็นแค่การปรุงแต่งขึ้นเอง ทางคณะผู้รับผิดชอบคงจะเอาออกไป แต่มาวันนี้ ไม่รู้นึกยังไงเข้ามาดูอีกครั้ง เห็นความเห็นของพวกพี่ๆ ผมก็ปีติและขอบคุณอีกครั้งครับ

ขอเรียนถามอีกสักข้อนะครับ แต่ก่อนผมจะทรงภาพกสิณสีแดงไว้เนืองๆ แต่ปัจจุบันผมทรง ดวงกสิณได้ใสๆ มีประกาย หลับตาลืมตา เห็นเหมือนกัน ขยายขนาด หรือเปลี่ยนทิศทางได้ตามต้องการ เรียนถามว่า ถ้ากรณีที่เราไปเจออีกกายหนึ่งที่มี เรียกว่ายังไงดีครับ มีธรรมที่สูงกว่า มั้งครับ? คือ ผมรู้สึกว่ากายสว่างนี้ท่านมีภูมิธรรมที่จะต่อสู้กับกิเลสได้แบบรู้ทันกิเลสว่าเข้ามาแล้ว รู้ว่าถ้ากิเลสลากไปลากมามันไม่ดี แต่ผมแวบๆว่าเจออีกกายที่รู้สึกว่ามีความกรุณา&เมตตากว่าต่อสรรพสิ่งรอบตัวมากยิ่งกว่า (เห็นแวบๆนะครับ) เราก็เอาดวงกสิณใสนี้ไปวางในกายนั้น ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ถูกต้องไหมครับ?

#12 ธาตุล้วนธรรมล้วน

ธาตุล้วนธรรมล้วน
  • Members
  • 255 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 July 2010 - 06:28 PM

ให้ไปโหลดหนังสือคู่มือสมภารแล้วศึกษาดูนะครับ จะได้เข้าหลักวิชชา ถูกหลักวิชชา ไม่งั้นก็ตรึกนึกเองไปเรื่อยๆ

และทุกขั้นตอนของวิชชาธรรมกายก็กลั่นกรองออกมาจากพระไตรปิฎกนั่นแหละครับ จึงมั่นใจได้เลย ไม่ต้องกังวลใจไปครับ

คุณ innerpeace หาลิงค์มาไว้ให้แล้วครับ

http://www.dmc.tv/pa...dhammabook.html

.................................................................

QUOTE
ขอเรียนถามอีกสักข้อนะครับ แต่ก่อนผมจะทรงภาพกสิณสีแดงไว้เนืองๆ แต่ปัจจุบันผมทรง ดวงกสิณได้ใสๆ มีประกาย หลับตาลืมตา เห็นเหมือนกัน ขยายขนาด หรือเปลี่ยนทิศทางได้ตามต้องการ


คัมภีร์วิสุทธิมรรคแสดงไว้ว่า อาโลกกสิณ คือกสิณแสงสว่าง เป็นกสิณกลาง ไม่ว่าเราจะเจริญกสิณหรือสมถะกองใดสุดท้ายก็จะเห็นเป็นแสงสว่าง ใสสว่าง ครับ

ดังนั้นคุณเข้ากลางของกลางจุดเล็กสว่างกลางดวงกสิณสีแดงนั้น แล้วจะสามารถเห็นเป็นอาโลกกสิณแสงสว่างได้ครับ

พระของขวัญของหลวงปู่สดวัดปากน้ำก็มีกล่าวไว้ ว่าใครนำมาเป็นนิมิตตจนเห็นติดตา จะเห็นองค์พระสำแดงแสงสว่างได้ 6 สี เสมือนฉัพพันรังสีนะครับ แต่สุดท้ายท่านให้เข้ากลาง แล้วหยุดตรงจุดเล็กใสสว่าง ก็จะเห็นดวงปฐมมรรค ใสสว่าง

อาโลกกสิณ ก็คือ อาโลกสัญญา ตามพระพุทธพจน์นั่นเองครับ

QUOTE
เรียนถามว่า ถ้ากรณีที่เราไปเจออีกกายหนึ่งที่มี เรียกว่ายังไงดีครับ มีธรรมที่สูงกว่า มั้งครับ? คือ ผมรู้สึกว่ากายสว่างนี้ท่านมีภูมิธรรมที่จะต่อสู้กับกิเลสได้แบบรู้ทันกิเลสว่าเข้ามาแล้ว รู้ว่าถ้ากิเลสลากไปลากมามันไม่ดี แต่ผมแวบๆว่าเจออีกกายที่รู้สึกว่ามีความกรุณา&เมตตากว่าต่อสรรพสิ่งรอบตัวมากยิ่งกว่า (เห็นแวบๆนะครับ) เราก็เอาดวงกสิณใสนี้ไปวางในกายนั้น ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ถูกต้องไหมครับ?


การนึก การตรึก ไปเรื่อยๆ แบบนี้ ไม่ค่อยถูกนะครับ เริ่มตั้งไข่ที่ 072 ดีกว่า หรือน้อมดวงกสิณนั้นมาไว้ที่ 072 เป็นพื้นฐานก่อนดีกว่าครับ

แต่ว่าการเห็นของคุณนั้นใช้ได้ครับ ใกล้เคียงมาก ทำดีแล้วครับ biggrin.gif


QUOTE
เราก็เอาดวงกสิณใสนี้ไปวางในกายนั้น ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ถูกต้องไหมครับ?


เอางี้นะครับ แสดงว่าคุณสามารถเห็นกสิณสีแดงได้อย่างชัดเจนดีแล้ว แต่ว่าอยู่ที่จุดอื่นๆเช่นที่หน้า บนสรีษะ ก็ให้น้อมเอาดวงกสิณนั้นมาไว้ที่ 072

ให้เราเอาใจหยุด ณ 072 ตรงจุดเล็กใสสว่างเท่านั้น แล้วดวงธรรมก็ดี กายในกายก็ดี จะปรากฎขึ้นมาเอง เป็นดวงปฐมมรรคแล้วครับ ไม่ใช่นิมิตต

ต่อจากนี้ก็จะปรากฎขึ้นเองเท่านั้น ผุดปรากฏขึ้นมาเอง โดยไม่มีการนึกเอง หรือน้อมเอาอะไรไปใส่ไว้ตรงไหนอีกแล้วครับ


...................................

หยุด ปล่อยวาง แล้วจะละได้ จิตที่หยาบจะตกศูนย์ จิตที่ละเอียดก็จะปรากฎดวงธรรมและกายที่ละเอียดๆต่อไปนะครับ

ยิ่งเข้าถึงดวงและกายในกายมากยิ่งขึ้น ก็ให้ครบทั้ง 18 กาย ครบทุกภูมิธรรมแล้วก็เจริญวิปัสสนาสืบต่อไป กิเลศก็จะลดละ ชำระจิตใจจากกิเลศไปเรื่อยๆนะครับ

อันนี้กล่าวถึงแต่หลักกว้างๆก่อนนะครับ

วิชชาธรรมกายทั้งรู้ทั้งเห็น เน้นสมถะเบื้องต้น วิปัสสนาควบคู่ (ไม่ใช่วิปัสสนึกแบบสายอื่นๆบางสาย) ตามแนวสติปัฏฐาน 4 ทุกขั้นตอน ไปจนถึงกระทำนิพพานให้แจ้งนะครับ
.................................................

ย้ำอีกที ไปอ่านหนังสือคู่มือสมภารไปอ่านก่อนเบื้องต้น แล้วค่อยมาเสวนากันอีกทีนะครับ ไม่งั้นเดี๋ยวก็ไปตรึกนึกเองไปเรื่อยๆ แล้วก็เข้ามาโพสต์ถามไม่สิ้นสุด ไม่เข้าหลักวิชชาซะทีนะครับ

แต่อย่างไรก็ สาธุๆๆๆ เยี่ยมมากครับ



ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ

ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ

เราตถาคต คือธรรมกาย

#13 usr35193

usr35193
  • Members
  • 1 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 July 2010 - 07:24 PM

ขอบคุณมากครับ พี่



#14 จีวร

จีวร
  • Members
  • 149 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 July 2010 - 08:43 PM

QUOTE
เราก็เอาดวงกสิณใสนี้ไปวางในกายนั้น ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ถูกต้องไหมครับ


อันนี้ดีครับ ถูกต้องแล้วครับ แต่ขอให้ทำตรงตำแหน่งที่สบายที่สุดครับ อย่าไปฝืนความสบายซึ่งเป็นพื้่นฐานของการปฏิบัติธรรม

QUOTE
ถ้ากรณีที่เราไปเจออีกกายหนึ่งที่มี เรียกว่ายังไงดีครับ มีธรรมที่สูงกว่า มั้งครับ? คือ ผมรู้สึกว่ากายสว่างนี้ท่านมีภูมิธรรมที่จะต่อสู้กับกิเลสได้แบบรู้ทันกิเลสว่าเข้ามาแล้ว รู้ว่าถ้ากิเลสลากไปลากมามันไม่ดี แต่ผมแวบๆว่าเจออีกกายที่รู้สึกว่ามีความกรุณา&เมตตากว่าต่อสรรพสิ่งรอบตัวมากยิ่งกว่า (เห็นแวบๆนะครับ)


ส่วนกายที่เห็น หรือภาพที่เห็นจะเป็นอะไรเกิดขึ้นก็ไม่ต้องไปสงสัยหรอกคับว่า จริงไม่จริง ใช่ไม่ใช่ ถูกไม่ถูก
สิ่งที่ต้องทำคือ รักษาความสบายให้ต่อเนื่อง รักษาภาพให้ต่อเนื่อง มีอะไรให้ดูก็ดูไป ดูไปด้วยใจที่สบาย
นิ่งๆ นานๆ นานๆๆ ใจเย็นให้มากๆ สุดท้ายจะรู้ว่า ไม่ต้องทำอะไรเลย คือสิ่งที่ใช่อย่างเดียว 100%

อนุโมทนาบุญนะคับ
---------------------------------------------

QUOTE
เย็นให้พอ รอให้ได้ ง่ายนิดเดียว



#15 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1340 โพสต์
  • Location:Ladkrabang

โพสต์เมื่อ 04 July 2010 - 11:16 PM

แนะนำอีกวิธีในการคลายข้อสงสัยนะคะ ...คือ
ถ้าวันอาทิตย์ ได้ไปที่สภาธรรมกายสากล วัดพระธรรมกาย ให้ลองเรียนถามกับพระอาจารย์ ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ(บางทีเรียกว่าบูทต่างๆ)
โดยเฉพาะพระอาจารย์ที่สอนหรือนำนั่งสมาธิในโครงการปฏิบัติธรรม สามารถไปหาท่านได้ที่เสา N7 หรือ o7(โอ7) (จำได้ไม่ชัวร์ ให้ลองมองหาป้าย "โครงการปฏิบัติธรรม" หรือป้ายที่มีคำว่า "พนาวัฒน์" หรือ "สวนป่าหิมวันต์" อยู่) พระอาจารย์ท่านมีธรรมะที่ละเอียดลุ่มลึกมากกว่าพวกเรา(ชาวเว็บบอร์ด) ก็อยากแนะนำให้ลองสอบถามจากท่าน

last edit 6/7/53 0:39

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป


#16 usr35193

usr35193
  • Members
  • 1 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 July 2010 - 09:51 AM

ครับผม ขอบคุณพี่จีวร และพี่ณ. 072 เป็นอย่างยิ่งครับ

กรณีเราไปวัดพระธรรมกาย วันอาทิตย์

1. ควรไปกี่ โมง ดี 2. แต่งกายยังไงครับ ต้องขาวล้วนไหม หรือแต่งตามสบาย 3. ต้องเตรียมตัวอะไรบ้างไหมครับ เช่นเตรียมข้าว ปลา อาหารไปใส่บาตร

ขอบคุณอีกครั้งครับผม

#17 ตะวันกลางกาย

ตะวันกลางกาย
  • Members
  • 42 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 July 2010 - 08:22 PM

1. ไปแต่เช้าได้ก็จะดีครับ 8.00โมงเลย หุหุ
2.ขาวล้วนก็ดีครับ (เคยแต่งสีๆไปวัด ตัวเราเองกลายเป็นตัวประหลาดซะงั้น)
3.เตรียมใจไปก็พอครับ แล้วก็สงสัยอะไรถาม จนท. ในวัดได้ตามสะดวก (หรือคนอื่นๆก็ได้ครับ)
ส่วนอาหารตักบาตรไม่แน่ใจว่า วันนั้นๆจะมีการตักบาตรหรือเปล่าหน่ะครับ
แต่อาหารสำหรับรับประทานนั้น มีที่วัดแจกตามจุดบริการครับ

ขอเตือนอย่างนึงครับ อย่าทานอาหารที่วัดมากนะครับ เดี๋ยวนั่งสมาธิแล้วจะหลับ
(เพราะอาหารวัด อร่อยเกินห้ามใจจริงๆ laugh.gif )

ไปใหม่ๆก็ให้คนที่นั่งข้างๆเขาแนะนำอะไรต่างๆให้ก็ได้นะครับ biggrin.gif



#18 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 05 July 2010 - 08:35 PM

อนุโมทนา การปฏิบัติธรรมเจ้าของกระทู้ และคำตอบของกัลยาณมิตร ทุกท่านด้วยครับ
สาธุ
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#19 ปันความสุข

ปันความสุข
  • Members
  • 0 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 July 2010 - 09:10 PM

สาธุ สาธุ สาธุ ด้วยค่ะ

ส่งข้อความ pm ไปเสวนาแล้วนะค่ะ laugh.gif

#20 usr35193

usr35193
  • Members
  • 1 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 July 2010 - 06:14 AM

ขอบคุณพี่ๆทั้ง 3 ท่าน

คือ พี่ตะวันกลางกาย พี่Dd2683 พี่ปันความสุข เป็นอย่างยิ่งครับ



#21 Santi072

Santi072
  • Members
  • 151 โพสต์
  • Gender:Not Telling

โพสต์เมื่อ 18 July 2010 - 10:40 PM

ทำไมมีบุญเยอะจังเลยเนอะ

โมทนาบุญนะครับ สาธุๆๆ
พุทธบุตรสายโลหิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เราพันธุ์ดีสุดขั้ว ชั่วลืมไปหมดแล้ว,จิตใจสูงส่งเหลือเกิน,มีปัญญา,มีมงคล,ทำที่ท่านได้ที่เรา

#22 แสงแห่งชัย แสงแห่งธรรม : )

แสงแห่งชัย แสงแห่งธรรม : )
  • Members
  • 9 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 July 2010 - 12:33 AM

อนุโมทนาบุญด้วยครับ

"สัพพะทุกขะนิสสะระณะ นิพพานะ สัจฉิกะระณัตถายะ

อิมัง กาสาวัง คะเหตวา ปัพพาเชถะ มัง ภันเต อะนุกัมปัง อุปาทายะ"


#23 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 19 August 2010 - 12:12 PM

สาธุครับ