ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * - 3 คะแนน

พระพุทธเจ้ามีอยู่ในทวีปอื่นด้วยเหรอครับ?


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 23 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 สุภาพบุรุษ072

สุภาพบุรุษ072
  • Members
  • 597 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 July 2008 - 09:36 PM


ดังเช่นเรื่องของพระโมคคัลลานะที่เหาะไปนอกจักรวาล เหาะไปเรื่อยๆจนไปอีกทวีปนึง ได้เห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกพระองค์นึงซึ่งอยู่ในทวีปนั้น ทำให้ผมรู้สึกงงๆ เพราะที่รู้มาว่าพระพุทธเจ้าจะมาบังเกิดแต่เฉพาะชมพูทวีป เพื่อโปรดสัตว์ให้รู้ถึงความทุกข์ของชีวิตคือการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ได้ง่ายกว่าทวีปอื่นๆ
ในหนังสือ เป็นให้ได้ดั่งเช่นพระพุทธเจ้า ได้กล่าวไว้ในตอนท้ายของบทที่3ว่า
เมื่อใดเราฝึกจิตมีคุณภาพดีเต็มที่ย่อมสามารถเห็นว่า ขณะนี้จักรวาลบางแห่งมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากำลังแสดงธรรมเทศนาอยู่ก็มี
และกัปแรกที่โลกได้เกิดขึ้นที่ เห็นดอกบัว5ดอก อันเป็นบุพนิมิตว่า พระพุทธเจ้าเกิดขึ้น5พระองค์ เป็นภัทรกัป อย่างนี้แสดงว่ามีหลายพระองค์มากกว่า5พระองค์ แต่อยู่ในทวีปอื่นเหรอครับ?


#2 somchet

somchet
  • Members
  • 900 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 July 2008 - 10:05 PM

อยู่ในจักรวาลอื่นครับ ไม่ใช่ทวีปอื่น

จำนวนจักรวาลมีนับไม่ถ้วน บางจักรวาลก็มีพระพุทธเจ้ายังคงโปรดสัตว์อยู่ครับ

#3 Bruce Wayne

Bruce Wayne
  • Members
  • 184 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 July 2008 - 12:10 AM



เรื่องดอกบัว5 ดอก เป็นดอกบัวที่ผุดขึ้นตรงแผ่นดินในชมพูทวีปของเราที่เรียกว่า ปัถวินาภิมณฑล หรือ สะดือโลก ซึ่งตรงจุดนี้จะเป็นแผ่นดินแรกที่ผุดขึ้นมาก่อนส่วนอื่นในตอนต้นกัปหรือมหากัปนั่นเอง และจะเป็นแผ่นดินส่วนสุดท้ายที่จะถูกทำลายในช่วงปลายมหากัปด้วย ตรงจุดนี้เป็นที่ตั้งของ "โพธิบัลลังค์ " ที่พระพุทธเจ้า
จะมาตรัสรู้ที่บริเวณไม้ศรีมหาโพธิทุกพระองค์ทั้งนั้น เพราะไม่มีที่อื่นใดรองรับน้ำหนักการตรัสรู้ได้ ในเวลาที่ยังไม่มีไม้ศรีมหาโพธิมา
บังเกิดขึ้นนั้นในบริเวณ 8 กรีส เป็นรัศมีโดยรอบจะไม่ปรากฎพันธุ์พืชใดเกิดขึ้นเลยในบริเวณนั้น แต่จะเตียนโล่งเต็มไปด้วยทรายแก้ว
ขาวบริสุทธิ์ประดุจถูกปกคสุมด้วยแผ่นเงิน แต่ถัดไปโดยรอบจะปรากฏพืชพรรณอุดมสมบูรณ์เขียวขจี ตรงจุด โพธิมณฑลนี้จะไม่มีผู้ใดข้ามผ่านไปได้แม้แต่มหาเทพ หรือเทพทั้งหลายเช่นพระอินทร์ หรือแม้แต่ช้างแก้ว อันเป็น1 ในสัตรัตนะ 7
ประการของพระเจ้าจักรพรรดิ ก็ไม่สามรถเหาะข้ามไปได้ รายละเอียดให้ไปดูใน กาลิงคโพธิชาดก
ย้อนกลับมาเรื่องบัว 5 ดอก หมายความว่าชมพูทวีปของเราจะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้5 พระองค์ ถูกต้องแล้ว
ปัจจุบันเป็น
องค์ที่4 ส่วนองค์ที่5 คือ พระศรีอาริยเมตตรัย ต้องรอในช่วงอันตรกัปหน้า


บางท่านยืนยันว่า พระพุทธเจ้าบังเกิดก็เฉพาะในจักรวาลนี้เท่านั้น ไม่มีไปตรัสรู้ในจักรวาลอื่น เดี๋ยวจะลองไปค้นคว้าดูก่อนนะ

#4 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 14 July 2008 - 07:59 AM

หากหมายถึงทวีปอื่นในจักรวาลเดียวกัน ไม่มีครับ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะบังเกิดแต่ในชมพูทวีปเท่านั้น

แต่ถ้าหากหมายถึงทวีปในจักรวาลอื่น ก็มีครับแต่ก็จะบังเกิดเฉพาะในชมพูทวีปของจักรวาลอื่นเช่นกัน แต่ผมเคยได้ยินมาว่ามีเรื่องราวที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปโปรดในทวีปอื่นอยู่เหมือนกันนะครับ ถ้าจำไม่ผิดพระองค์ได้มีเสด็จไปโปรดที่อุตรกุรุทวีป ส่วนรายละเอียดต้องขออภัยที่ผมจำไม่ได้ และผมเองก็ไม่แน่ใจด้วยว่าที่ผมได้ทราบมาจะเป็นข้อมูลที่ถูกต้องน่ะครับ

ส่วนเรื่องดอกบัว5ดอก ขอเสริมความเห็นของคุณBruce Wayneอีกนิดนะครับ

ในจักรวาลหนึ่งๆ ในหนึ่งกัปจะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาบังเกิดอย่างมากที่สุดไม่เกิน5พระองค์ครับ บางกัปอาจจะไม่มีเลยก็ได้ซึ่งจะเรียกกัปนั้นว่าสูญกัป บางกัปอาจจะมีแค่1พระองค์ หรืออาจมี2พระองค์ เป็นต้น แต่ไม่เกิน5พระองค์ครับ จักรวาลอื่นก็เช่นกัน ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าตอนนี้อาจจะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบังเกิดขึ้นในจักรวาลอื่นเช่นกัน หรืออาจจะมีผู้ที่กำลังจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในจักรวาลอื่นก็เป็นได้ และที่สุดคืออาจมีหลายๆจักรวาลที่ตอนนี้ไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบังเกิดขึ้นในกัปนี้ของเขาอยู่ก็ได้ครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#5 สุภาพบุรุษ072

สุภาพบุรุษ072
  • Members
  • 597 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 July 2008 - 08:16 AM

เป็นเรื่องอัศจรรย์จริงครับชมพูทวีปมีหลายจักรวาล..แล้วจักรวาลอื่นๆนี้อยู่ตรงไหนครับ อยู่ในอนันตจักรวาลรึเปล่า ..ผมเพิ่งรู้นะครับเนี่ยว่ามีชมพูทวีปมีอยู่ในจักรวาลอื่นๆด้วย..ทุกคนมีบุญมากที่ได้มาเกิดอยู่ชมพูทวีปในจักรวาลนี้ ได้เจอมหาปูชนียาจารย์และหมู่คณะผู้มุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรม

#6 suppy001

suppy001
  • Members
  • 2210 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 July 2008 - 08:51 AM

Sa Thu

#7 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 14 July 2008 - 12:46 PM

จักรวาลอื่นๆ ก็อยู่ในอนันตจักรวาลนั่นแหละครับ (อนันต์ แปลว่า มากมายจนนับไม่ถ้วน ดังนั้น อนันตจักรวาล หมายถึง จักรวาลที่มากมายจนนับไม่ถ้วนนั่นเอง)

เรื่องราวของจักรวาล หากอยากรู้ละเอียด แนะนำให้ลงทะเบียนเรียน DOU หลักสูตร จักรวาลวิทยา ครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#8 ศรีวยาฆร

ศรีวยาฆร
  • Members
  • 184 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 July 2008 - 01:06 PM

QUOTE
ผมเคยได้ยินมาว่ามีเรื่องราวที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปโปรดในทวีปอื่นอยู่ เหมือนกันนะครับ ถ้าจำไม่ผิดพระองค์ได้มีเสด็จไปโปรดที่อุตรกุรุทวีป ส่วนรายละเอียดต้องขออภัยที่ผมจำไม่ได้ และผมเองก็ไม่แน่ใจด้วยว่าที่ผมได้ทราบมาจะเป็นข้อมูลที่ถูกต้องน่ะครับ


happy.gif พระสัมมาสัมพุทธเจ้าโคตมะของเรานี่แหละจ้ะ ที่ทรงเคยเสด็จไปบิณฑบาตที่อุตตรกุรุทวีปมาแล้ว
เรื่องตอนนี้เกิดขึ้นในขณะที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรากำลังทรมานชฎิลด้วยปาฏิหาริย์ (ที่ ๕)

happy.gif โดยในพระไตรปิฎก(มจร.แปล) เล่มที่ ๔ ข้อที่ ๔๓ หน้าที่ ๕๓ มีข้อความว่า

สมัยนั้น ชฎิลอุรุเวลกัสสปะได้ตระเตรียมการบูชายัญอันยิ่งใหญ่
ประชาชนชาวอังคะและชาวมคธทั้งสิ้น ต่างถือของเคี้ยวของบริโภคเป็นอันมากมุ่งหน้าไปหา

ชฎิลอุรุเวลกัสสปะคิดว่า
“บัดนี้ เราได้ตระเตรียมการบูชายัญอันยิ่งใหญ่
ประชาชนชาวอังคะและชาวมคธทั้งสิ้น จักถือของเคี้ยวของบริโภคเป็นอันมากมุ่งหน้ามาหา
ถ้าพระมหาสมณะ(หมายถึงพระพุทธเจ้า) จักทำอิทธิปาฏิหารย์ในหมู่มหาชนไซร้
ลาภสักการะจักเจริญยิ่งแก่พระมหาสมณะ ลาภสักการะของเราจักเสื่อม
ทำไฉน วันพรุ่งนี้ พระมหาสมณะจึงจะไม่เสด็จมา”

ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทราบความรำพึงในใจของชฎิลอุรุเวลกัสสปะด้วยพระทัย
จึงเสด็จไปยังอุตตรกุรุทวีป ทรงนำบิณฑบาตจากทวีปนั้นมาเสวยที่ริมสระอโนดาต*
ประทับพักกลางวัน ณ ที่นั้น

[* สระอโนดาต มีขนาดยาว กว้าง และลึก ๕๐ โยชน์ มีอาณาบริเวณโดยรอบ ๑๕๐ โยชน์
ตั้งอยู่ในป่าหิมพานต์ แวดล้อมด้วยยอดเขาทั้ง ๕ คือ
สุทัสสนกูฏ จิตรกูฏ กาฬกูฎ คันธมาทนกูฏ และเกลาสกูฏ (ม.ม.อ. ๒/๓๑/๒๗)]

ครั้นราตรีนั้นผ่านไป ชฎิลอุรุเวลกัสสปะได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
กราบทูลว่า “ข้าแต่มหาสมณะ ได้เวลาแล้ว ภัตตาหารเสร็จแล้ว
ข้าแต่มหาสมณะ ทำไมหนอ วานนี้ พระองค์จึงไม่เสด็จมา
อีกอย่างหนึ่ง พวกข้าพเจ้าระลึกถึงพระองค์ว่า ทำไมหนอ พระมหาสมณะจึงไม่เสด็จมา
แต่ส่วนแห่งของเคี้ยวของฉัน ข้าพเจ้าได้จัดไว้เพื่อพระองค์แล้ว”

พระผู้มีพระภาคย้อนถามว่า “กัสสปะ ท่านได้ดำริไว้มิใช่หรือว่า
‘บัดนี้ เราได้ตระเตรียมการบูชายัญอันยิ่งใหญ่
ประชาชนชาวอังคะและชาวมคธทั้งสิ้น จักถือของเคี้ยวของบริโภคเป็นอันมากมุ่งหน้ามาหา
ถ้าพระมหาสมณะจักทำอิทธิปาฏิหารย์ในหมู่มหาชนไซร้
ลาภสักการะจักเจริญยิ่งแก่พระมหาสมณะ ลาภสักการะของเราจักเสื่อม
ทำไฉน วันพรุ่งนี้ พระมหาสมณะจึงจะไม่เสด็จมา’

กัสสปะ เราได้ทราบด้วยใจถึงความรำพึงในใจของท่าน
จึงไปยังอุตตรกุรุทวีป นำบิณฑบาตจากทวีปนั้นมาฉันที่ริมสระอโนดาต พักกลางวัน ณ ที่นั้น”

ขณะนั้น ชฎิลอุรุเวลกัสสปะคิดว่า
“พระมหาสมณะมีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมากจริง ถึงกับทรงทราบความนึกคิดแม้ด้วยใจได้
แต่ไม่เป็นพระอรหันต์เหมือนเราแน่”

พระผู้มีพระภาคเสวยภัตตาหารของชฎิลอุรุเวลกัสสปะ แล้วประทับอยู่ที่ไพรสณฑ์แห่งนั้น.

happy.gif คือตาชฎิลแกไม่ยอมรับนะจ้ะ แกคิดอยู่แต่ว่าแม้มีฤทธิ์มากก็คงไม่ใช่พระอรหันต์หรอก
เรานี่สิเป็นพระอรหันต์ คิดอยู่อย่างนี้แหละจ้ะ จนกระทั่งถึงครั้งที่พุทธองค์ทรงแสดงฤทธิ์กันน้ำท่วมใหญ่
แล้วเดินจงกรมอยู่บนพื้นดินตรงกลางที่น้ำท่วมนั้นเป็นครั้งสุดท้าย แต่ชฎิลก็ยังดื้อเพ่งคิดอยู่อย่างเดิม happy.gif

ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคทรงดำริดังนี้ว่า
“โมฆบุรุษ(คนเปล่า)นี้คงจักมีความคิดอย่างนี้ไปอีกนานว่า
พระมหาสมณะมีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมากจริง แต่ไม่เป็นพระอรหันต์เหมือนเราแน่
อย่ากระนั้นเลย เราพึงให้ชฎิลนี้สลดใจ”
จึงได้ตรัสกับชฎิลอุรุเวลกัสสปะว่า
“กัสสปะ ท่านไม่ใช่พระอรหันต์แน่ ทั้งยังไม่ถึงอรหัตมรรค
แม้ปฏิปทาของท่านอันจะเป็นเหตุให้เป็นพระอรหันต์ หรือถึงอรหัตตมรรคก็ยังไม่มี”

ลำดับนั้น ชฎิลอุรุเวลกัสสปะ(ถึงความสลดใจ)ได้ซบศีรษะลงแทบพระบาทพระผู้มีพระภาคกราบทูลว่า
“พระพุทธเจ้าข้า ข้าพเจ้าพึงได้การบรรพชา พึงได้การอุปสมบทในสำนักของพระผู้มีพระภาค”.......

happy.gif ส่วนเหตุการณ์ตอนที่พุทธองค์ไปบิณฑบาตยังอุตตรกุรุทวีปนั้น อัตถกถาจารย์ท่านไม่ได้อธิบายขยายความไว้จ้ะ


#9 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 14 July 2008 - 01:20 PM

^ ^ รวดเร็วทันใจดีจัง กราบอนุโมทนาบุญคุณshrivayaghr กับธรรมทานนี้ด้วยนะครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#10 Poti

Poti
  • Members
  • 254 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 July 2008 - 04:54 PM

ท่าน ๐๗๒ครับ ทุกจักรวาล มีแบบฟอร์มเดียวกันครับ บางจักรวาลเป็นสูญญกัป บางจักรวาลเป็นอสูญญกัป จักรวาลของเราชื่อ มงคลจักรวาล สูญญกัปมากกว่าอสูญญกัป สูญญกัปบางทีเป็นอสงไขยเลยครับ

#11 usr20351

usr20351
  • Members
  • 109 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 July 2008 - 05:45 PM

ในขณะที่วิทยาศาสตร์กำลังแสวงหาเรื่องเหล่านี้ แต่ศาสนาพุทธกับรู้อะไรไปหมดแล้ว!
แม้ศาสนาพุทธสามารถรองรับความต้องการทางวิทยาศาสตร์ได้ แต่ศาสนาพุทธ
ก็ล้ำหน้าวิทยาศาสตร์ไป อย่างที่วิทยาศาสตร์ตามไม่ทัน
เป็นเรื่องที่ดี ที่ในปัจจุบัน ศาสนาพุทธได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติจำนวนมาก
และมีแนวโน้วว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องซะด้วย

happy.gif happy.gif

#12 นานา

นานา
  • Members
  • 40 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 July 2008 - 06:15 PM

Wow! น่าสนใจจัง
อย่างนี้ต้องรีบไปสมัครเรียนDOU ซะแล้ว



#13 Icy~PeaCh

Icy~PeaCh
  • Members
  • 31 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 July 2008 - 01:55 PM

เท่าทีทราบคือ เรื่องนี้ไม่มีในพระไตรปิฎกฝ่ายเถรวาทคะ
ตอนได้อ่านตอนแรกก็ตื่นเต้นเหมือนกัน แต่เพิ่งมาทราบภายหลังว่ามาจากฝ่ายมหายานก็เลยอุเบกขาไว้คะ

#14 panu

panu
  • Members
  • 530 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 July 2008 - 05:00 PM

เดี๋ยวจะเข้าใจคลาดเคลื่อน
ในพระไตรปิฏก ของเรา (เถรวาท) เรื่องต่างๆ ที่เพื่อนๆ ได้กล่าวมาข้างต้นนี้
ก็มีปรากฏอยู่นะครับ

เดี๋ยวจะเข้าใจคลาดเคลื่อน
ในพระไตรปิฏก ของเรา (เถรวาท) เรื่องต่างๆ ที่เพื่อนๆ ได้กล่าวมาข้างต้นนี้
ก็มีปรากฏอยู่นะครับ

#15 สุภาพบุรุษ072

สุภาพบุรุษ072
  • Members
  • 597 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 July 2008 - 05:33 PM

คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เป็นคำสอนจริงก็มีกระจายอยู่ตามนิกายต่างๆครับ พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน..เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว

#16 Poti

Poti
  • Members
  • 254 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 July 2008 - 06:47 PM

ที่อ่านมาก็ฝ่ายเถรวาทครับ

#17 v.chiap

v.chiap
  • Members
  • 109 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 July 2008 - 07:07 AM

อย่างไรก็ตาม อย่าดูถูกคัมภีร์ของฝ่ายมหายานเป็นอันขาด เพราะขณะที่เรื่องธรรมกาย มีปรากฏในพระไตรปิฎก ของเถรวาทน้อยมาก แต่กลับปรากฏเรื่องธรรมกายในพระไตรปิฎกของมหายานมากมาย แต่เขาไม่ทราบวิธี การปฏิบัติให้ถึงธรรมกายในตัว

ครั้งหนึ่ง พระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตฺตชีโว ได้มีโอกาสไปสอนสมาธิวิชชาธรรมกายที่แคว้นเสฉวน ประเทศจีน ซึ่งคำสอนเป็นแบบมหายานแท้ๆ เมื่อหลวงพ่อทตฺตชีโวได้นำนั่งสมาธิ ปรากฏว่าผู้ปฏิบัติธรรมหลายคนได้เข้าถึง พระธรรมกาย ผู้คนที่นั่นจึงปีติยินดีกันมากว่า ธรรมกายมีอยู่จริงๆในตัวเรา และนำความสุขความอัศจรรย์มากมาย มาสู่ชีิวิตของเขา
ขอติดตามสร้างบารมีกับพระเดชพระคุณหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย ไปจนกว่าจะถึงที่สุดแห่งธรรม

#18 Icy~PeaCh

Icy~PeaCh
  • Members
  • 31 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 July 2008 - 02:35 PM

งั้นพวกท่านจงอ่านเรื่องจากลิ้งค์นี้ก่อน
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=14072

แล้วบอกซิว่า พระอมิตพุทธเจ้า ดินแดนสุขาวดี เป็นถรวาทหรือมหายาน

เมื่ออ่านจบแล้วเรียนท่านพิจารณา บทนี้ด้วย
----------------------------------------------------------------------------------------
[๑๘๐] สมัยนั้น ภิกษุสองรูปเป็นพี่น้องกัน ชื่อเมฏฐะและโกกุฏฐะ
เป็นชาติพราหมณ์ พูดจาอ่อนหวาน เสียงไพเราะ เธอสองรูปนั้นเข้าไปเฝ้า
พระผู้มีพระภาค ถวายบังคม นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วกราบทูลว่า พระ-
*พุทธเจ้าข้า บัดนี้ ภิกษุทั้งหลายต่างชื่อ ต่างโคตร ต่างชาติ ต่างสกุลกันเข้ามา
บวช พวกเธอจะทำพระพุทธวจนะให้ผิดเพี้ยนจากภาษาเดิม ผิฉะนั้น ข้าพระ-
*พุทธเจ้าทั้งหลายจะขอยกพระพุทธวจนะขึ้นโดยภาษาสันสกฤต
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูกรโมฆะบุรุษทั้งหลาย ไฉน พวก
เธอจึงได้กล่าวอย่างนี้ว่า ผิฉะนั้น ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายจะขอยกพระพุทธวจนะ
ขึ้นโดยภาษาสันสกฤตดังนี้เล่า ดูกรโมฆะบุรุษทั้งหลาย การกระทำของพวกเธอนั่น
ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส ... ครั้นแล้วทรงทำธรรมีกถา
รับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงยกพุทธวจนะขึ้นโดยภาษา
สันสกฤต รูปใดยกขึ้น ต้องอาบัติทุกกฏ
เราอนุญาตให้เล่าเรียนพุทธวจนะตามภาษาเดิม ฯ
----------------------------------------------------------------------------------------

คัมภีร์ฝ่ายมหายานบันทึกด้วยสันสกฤต หลังเถรวาทราวๆ 600 ปี และไม่มีหลักฐานยืนยันว่า
ถูกบันทึกด้วยพระอรหันต์ทั้งหมดหรือไม่ และคัมภีร์ฝ่ายเถรวาทในจีนนั้นยิ่งต่างไปจากเถรยานอินเดียอีกมาก


#19 Icy~PeaCh

Icy~PeaCh
  • Members
  • 31 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 July 2008 - 03:07 PM

เราพยายามค้นเรื่องนี้จากพระไตรปิฏกในเว็บ http://www.84000.org/
แต่ก็ไม่เจอเลย มีเรื่องนี้ในฝ่ายเถรวาทจริงหรือคะ มีหลักฐานหรือเปล่า

แต่จากลิ้งค์นี้
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=14072

คุณอนุบาลหน้าใสกล่าวว่าได้มีการยืนยันแล้วว่าเรื่องพระอมิตภะ หรือพระบรมพุทธเจ้าที่หลวงพ่อกล่าวถึงนั้น
เป็นเรื่องที่ได้ถูกแต่งขึ้นในภายหลัง

ป.ล. อยากให้พิจารณาด้วยปัญญา ไม่อยากได้เป็นแบบนี้
---------------------
คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เป็นคำสอนจริงก็มีกระจายอยู่ตามนิกายต่างๆ ครับ พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน..เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว
----------------------

เพราะเราไม่รู้ว่าอะไรจริง ไม่จริง ไม่งั้นเรื่องพระญี่ปุ่นมีเมียเราก็ต้องยอมรับมาด้วยงั้นหรือ

#20 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 16 July 2008 - 05:11 PM

เอาล่ะครับ ขอให้เราศึกษาตำรับตำราต่างๆ แบบเพื่อการพิสูจน์น่ะครับ เพราะนักวิชาการทั้งหลายที่เขาศึกษาพระพุทธศาสนาทุกๆ นิกาย ก็เพราะต้องการพิสูจน์คำสอนทั้งสิ้น ส่วนไหนจริงมีเหตุผลก็ยอมรับได้ ส่วนไหนไม่จริง ไร้เหตุผล ก็ไม่ยอมรับ ก็เท่านั้นเองครับ

เหมือนอย่างบางคำสอน เช่น สอนว่า ให้รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง อย่างนี้เมื่อศาสนาพุทธไปศึกษาแล้ว ก็สามารถยอมรับคำสอนข้อนี้ได้ มิใช่หรือครับ แต่หากสอนว่า จงนับถือเทพเจ้าผู้เป็นใหญ่องค์นั้นองค์นี้ ซึ่งพวกเราเห็นแล้วว่า คำสอนท่อนนี้ ไร้เหตุผล เราไม่ยอมรับก็ได้ มิใช่หรือครับ มิใช่ยอมรับเสียทั้งหมด และก็มิใช่ปฏิเสธเสียทั้งหมดครับ

คำภีร์ฝ่ายมหายานก็เช่นกัน มิใช่ว่าเนื้อหาในนั้นถูกทั้งหมด หรือผิดทั้งหมด มิใช่หรือครับ เราก็ต้องศึกษาแบบพิสูจน์ครับ อย่างไหนผิด อย่างไหนถูกว่ากันไป มิใช่เห็นพระมหายานมีเมียได้ เลยเหมาว่า มหายานผิดทั้งหมด มันก็ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#21 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 16 July 2008 - 05:14 PM

QUOTE
แล้วบอกซิว่า พระอมิตพุทธเจ้า ดินแดนสุขาวดี เป็นถรวาทหรือมหายาน


วันก่อนได้ดูเกมทศกัณฑ์ เขาบอกว่า คำว่าอมิตพุทธที่มักจะมีปรากฎในหนังจีนกำลังภายใน เป็นการเรียกนามของพระพุทธเจ้าที่ชื่อ อมิตภะ ซึ่งเป็นของทางฝ่ายมหายาน โดยเชื่อกันว่าหากกล่าวนามของพระพุทธเจ้าอมิตภะครบ84000ครั้ง จะสามารถเดินทางไปยังแดนสุขาวดีได้
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#22 ลูกหลานหลวงปู่

ลูกหลานหลวงปู่
  • Members
  • 100 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 July 2008 - 12:41 AM

ในพระไตรปิฎกของเถรวาทหรือพระไตรปิฎกในเมืองไทยก็มีครับ เพราะเวลาพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยท่านสอนทางโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ท่านในให้พระลูกชายของท่านหรือพระอาจารย์ของเรา คอยยืนยันทางพระไตรปิฎกอยู่เสมอ เพื่อให้นักเรียนอนุบาลหรือคนที่มาฟังใหม่ทราบว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยไม่ได้กล่าวโกหก และในพระไตรปิฎกก็มียืนยัน แต่เพียงรอให้เราไปอ่านและศึกษากันครับ

#23 Icy~PeaCh

Icy~PeaCh
  • Members
  • 31 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 July 2008 - 09:00 AM

อย่าพูดลอย เอาหลักฐานมาสิ เราหาไม่เจอจริงๆ เจอแต่มหายาน

#24 สุภาพบุรุษ072

สุภาพบุรุษ072
  • Members
  • 597 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 July 2008 - 10:18 AM


ไม่ว่าจะเป็นนิกายไหนก็ตาม ความจริงทั้งหลายอยู่ที่อรรถโถจารย์ พระไตรปิฎกในตัวนั่นเอง ไม่ต้องเถียงกันก็ได้ครับ เพราะยังไง ชาวพุทธทุกคนมีพระสมณโคดมพุทธเจ้าองค์เดียวกัน แม้จะแตกต่างกัน แต่พุทธบุตรนี้ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว ความจริงจะเป็นเช่นนั้น เพราะความแตกต่างของแต่ละนิกายนั้นล้วนมีเหตุของอำนาจฝ่ายมืดที่มีอานุภาพเค้าSetโปรแกรมเอาไว้ให้แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ ขนบธรรมเนียมประเพณี ศาสนา