ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

คำถามเรื่องบุญ และอานิสงส์แห่งบุญ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 4 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 05 February 2014 - 10:01 AM

นมัสการ  และสวัสดีเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

 

วันนี้ขอรบกวนขอความคิดเห็นของทุกท่านหน่อยนะครับ   

 

เป็นเรื่องภายในของบ้านผมเอง  อาจจะดูไม่เหมาะสมนัก  เพราะเป็นการเอาเรื่องภายในครอบครัวตัวเองมาพูด  แต่อยากให้เป็นเคสสำหรับท่านอื่นๆ ที่มีลักษณะครอบครัวคล้ายๆ กันด้วย...   

บ้านผมเข้าวัดพระธรรมกายแค่ 2 ท่าน  คือ  คุณแม่ผมและตัวผม  แต่คุณแม่จะมีปฏิกิริยาทุกครั้งที่ผมทำบุญเกิน 100 บาท  ไม่ว่าบุญอะไร  ซึ่งท่านก็มีเหตุผลของท่าน(ไม่ขอกล่าวถึง) ..... ส่วนคุณพ่อ  และพี่สาว  จะรับไม่ได้เลยกับวัดพระธรรมกาย  และการทำบุญกับวัดพระธรรมกายไม่ว่าโครงการบุญใดๆ  ทั้งสิ้น   มีปฏิกิริยาต่อต้านอย่างชัดเจน.....น้องชาย  จะเป็นคนเน้นไปทางวัดป่า  ไม่ชอบเข้าหรือทำบุญกับวัดเมือง  ถ้าบอกบุญเกี่ยวกับงานบุญของวัดพระธรรมกายก็จะทำบุญเพียง 100 บาทต่อหนึ่งรายการบุญทุกครั้ง  ไม่มากกว่านี้หรือน้อยกว่านี้

 

ตัวผมเอง  เมื่อก่อนอยากจะทำบุญทุกๆ บุญ ในทุกๆ วัน  แต่ก็ติดที่อยู่ห่างวัดไปหน่อย  จะให้เข้าไปทำบุญกับหมู่คณะทุกวันคงไม่ไหว  อาศัยไปวันอาทิตย์ถึงจะได้ร่วมทำบุญทุกๆ บุญกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ และหมู่คณะ   แต่พอมีโครงการทำบุญออนไลน์  ก็เลยเข้าทาง  ทำบุญวันละรายการสองรายการ  ขาดบ้าง  ทำบ้างมาตลอด   จนเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว  อยู่ๆ ก็สำนึกได้ว่า  เราใช้บุญไปทุกวัน  ทำไมเราไม่ทำบุญเพิ่มทุกวันบ้าง  ผมก็เลยตั้งงบประมาณไว้ที่ 20% ของเงินเดือนตัวเองเพื่อการนี้โดยเฉพาะ  ทำบุญทุกรายการ  ทุกวันผ่านระบบออนไลน์  โดยเฉลี่ยแบ่งๆ ให้ครบทุกบุญ ทุกวันไม่ให้ขาดไป  แม้จะติดธุระไม่สะดวก  วันรุ่งขึ้นก็จะทำ 2 รอบ เพื่อชดเชย

 

แต่ด้วยความที่อยากจะให้คนในบ้านได้บุญด้วย  ผมก็จะใช้วิธี  วันจันทร์เราทำบุญในนามคุณพ่อ  วันอังคารทำบุญในนามคุณแม่  วันพุธของพี่สาว  ถัดมาของตนเอง และน้องชาย  ส่วนวันเสาร์ทำบุญในนามบริษัทที่เราทำ  วันอาทิตย์จะทำในนามกลุ่มสมาชิก www.dmc.tv  แต่ไม่ได้บอกให้ใครทราบ  เพียงอธิษฐานจิตให้บุญส่งผลกับเจ้าของชื่อด้วยเท่านั้น

 

คำถาม คือ ถ้าไม่บอกแบบนี้  บุญจะไปส่งผลให้กับเจ้าของชื่อหรือไม่   และส่งผลอย่างไร

ที่ไม่บอกเพราะ  คิดว่าบอกไปแล้วเกิด อคติ จะเป็นวิบากกรรมเสียเปล่าๆ --อย่าแนะนำให้อธิบายนะครับ  บ้านแตกเอาง่ายๆ  คุณนายแม่เคยแอบเข้ามาในห้องแล้วดึงเงินออกจากกระเป๋าสตางค์ในขณะที่ผมไปอาบน้ำเตรียมตัวไปวัด  ให้เหลือแค่พอค่ารถ  พอผมกลับถึงบ้าน  เงินก็วางอยู่บนโต๊ะ  แรกๆ ผมก็ งงๆ นึกว่าผมลืมเอง  หลังๆ เลยแยกเงินทำบุญไว้อีกที่ต่างหากแล้วกลับบ้านด้วยเงินเท่าเดิมในกระเป๋า  คุณแม่ก็เลิกเข้ามายุ่ง

 

ส่วนตัวแล้ว  ก็คิดจะทำแบบนี้ต่อไป  เพราะยังหาวิธีที่ดีกว่านี้ไม่ได้  บุญจะถึงหรือไม่ถึงก็คงต้องปล่อยวางแล้ว  หรือท่านใดมีความคิดเห็นที่แตกต่างจากนี้มาแนะนำบ้างครับ

 

กราบอนุโมทนาบุญและขออนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านด้วยครับ  บุญใดที่ผมทำไว้ดีแล้ว  ก็ให้ถึงแก่ทุกท่านเสมอทำบุญนั้นด้วยตนเองเลยนะครับ


สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#2 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 February 2014 - 08:36 PM

http://www.dmc.tv/fo...showtopic=14981

 

http://www.dmc.tv/fo...showtopic=20308

 

http://www.dmc.tv/fo...showtopic=13340


ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#3 InnerDot

InnerDot
  • Members
  • 79 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 February 2014 - 04:46 PM

ก่อนอื่นต้องขออนุโมทนาบุญกับคุณทัพพีในหม้อด้วยนะครับ...

 

      นอกจากคำแนะนำตามลิงค์ของท่านอื่นนะครับ..สำหรับความเห็นของผม เห็นด้วยกับคุณที่พิจารณาแล้วยังไม่บอกความจริงให้ที่บ้านบางท่านทราบเพราะจะเป็นเหตุให้เขาใจเศร้าหมองทั้งๆที่เป็นเรื่องบุญกุศลแท้ๆ...

 

      เรื่องจริงที่เป็นประโยชน์แม้จะพูดด้วยถ้อยคำที่ไพเราะแต่ก็ยังต้องดูกาลอันเหมาะสมก่อนที่จะพูด.. บางเรื่องในพุทธประวัติ พระพุทธเจ้ายังไม่ตรัสออกมาในทันที ณ ที่ตรงนั้น เพราะจะเป็นเหตุให้ผู้คิดไม่ดีบางคนศีรษะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ...หรือแม้แต่พระสารีบุตร ท่านยังต้องรอโอกาสที่เหมาะสมเพียงไม่กี่วันเท่านั้นก่อนเข้าสู่นิพพานเพื่อเดินทางไปโปรดมารดาของท่านยังบ้านเกิด

 

    ให้คุณเชื่อมั่นในอำนาจของบุญกุศลและความปรารถนาดีอันแรงกล้านี้จะต้องเปลี่ยนแปลงทิฏฐิพี่น้องในครอบครัวให้ถูกต้องไม่วันใดก็วันหนึ่ง... ถือเสียว่าเป็นโอกาสอันดีที่เราจะตอบแทนพระคุณท่าน และสงเคราะห์ญาติด้วยความยากลำบากกว่าปกติ (ยิ่งทำความดีใดๆได้สำเร็จโดยยากก็จะยิ่งได้บุญบารมีทับทวีมหาศาลกว่าการทำดีแบบไร้อุปสรรค)... ในระหว่างนี้เราต้องสะสมบุญบารมีให้มากๆ โดยเฉพาะบุญละเอียดจากการนั่งสมาธิ เมื่อวันที่บุญเรามากพอ จะคิดพูดทำอะไรก็จะประสบผลสำเร็จตามกำลังบุญ...

 

    เช่นมีตัวอย่างเรื่องหนึ่ง หลวงพ่อคุณครูไม่เล็ก เคยเล่าประวัติท่านช่วงหนึ่ง สมัยสร้างวัดใหม่ๆ ท่านเห็นคนงานกำลังทะเลาะจะต่อยตีกัน.. จึงเข้าไปห้ามปราม สองคนนั้นจึงหยุดทะเลาะกัน แต่พอท่านเดินจากไปไม่ทันไร ปรากฏว่าทั้งสองคนนั้นก็เริ่มทะเลาะกันต่อ ไม่ยอมเลิกทะเลาะกัน.. ท่านกลับคิดในใจว่า  "แสดงว่าบุญของเรายังไม่มากพอ คำพูดของเราจึงยังไม่ศักดิ์สิทธิ์จะไปห้ามปรามเขาได้... "....

 

    ทำนองเดียวกันครับ... ผมขอให้กำลังใจนะครับ ขอให้คุณใช้ "ปัญญา" ที่มีอยู่ทำทุกวิถีทางเพื่อปลูกสัมมาทิฏฐิให้ท่านให้สำเร็จ... ผมเสนอหลักการคร่าวๆว่า...

 

    -ทำอย่างไรก็ได้ให้ท่านๆเหล่านี้มีสายบุญเชื่อมกับหมู่คณะให้ได้โดยเริ่มจากสายบุญเล็กๆ บางๆ ก่อน... (ต้องใช้บุญเป็นตัวเชื่อมกับหมู่คณะ) อาจใช้เวลาเป็นปีหรือหลายปีครับ สายบุญใหญ่จะเกิดขึ้นได้ต้องเริ่มต้นจากสายบุญเล็กๆ บางๆก่อน (เหมือนคนทำทาน๑ ล้านบาทได้ง่ายๆ ก็ต้องเริ่มต้นจากนิสัยข้ามชาติจากครั้งแรกๆที่ทำ ๑ บาทมาก่อน) ถ้าท่านไม่ปลื้ม ๑๐๐ บาท เราก็บอกท่าน๑๐ บาท(หรือในระดับที่ท่านพอจะอนุโมทนาได้ก่อน) บอกว่าถวายเป็นสังฆทานเผื่อแผ่ไปยังสังฆมณฑลหรือเพื่อสืบทอดคำสอนฯหรือเพื่อสืบทอดอายุพระศาสนา ไม่ได้เจาะจงทำที่วัดพระธรรมกาย เป็นต้น 

    -ตั้งใจสร้างตัวเองให้ศักดิ์สิทธิ์ ให้เป็นที่น่าเชื่อถือเกรงใจ... กรณีนี้ผมถือโอกาสใช้ตัวเองเป็นตัวอย่างเล็กๆน้อยๆนะครับ ผมเป็นน้องคนสุดท้องนับจากพี่ๆที่มีอยู่ถึง ๙ คน ผมอายุห่างจากพี่คนโตประมาณ ๕๙ ปี (แน่นอนว่าตอนผมเป็นเด็กทารก พี่ๆเหล่านี้ต่างก็เคยเลี้ยงผมแทนแม่มาก่อนทั้งสิ้น) ผมใช้เวลาประมาณ ๑๐ กว่าปี ถึงสามารถชวนแม่นั่งสมาธิกับเสียงหลวงพ่อได้ ผมสามารถ "สอน" พี่ๆเหล่านี้ได้ในโอกาสที่เหมาะสมในบางเรื่องเกี่ยวกับการทำบุญสร้างบารมีโดยที่พี่ๆไม่รู้สึกว่าโดนเด็กน้อยมาสอน แต่ทุกคนจะฟังและรู้สึกเกรงใจในตัวผมทั้งๆที่เป็นน้องคนเล็ก...มีเหตุการณ์หนึ่งเป็นที่น่าแปลกสำหรับผม ครั้งนั้นผมกลับไปเยี่ยมบ้าน(อยู่ต่างจังหวัด) พี่ชายคนโตสุดดกำลังเมาเหล้า แค่ผมเข้าไปทักสวัสดีและนั่งมองพี่เขาเฉยๆ อยู่ๆพี่ชายเขาก็เข้ามาพูดกับผมว่า  "อย่าคิดว่าพี่ไม่คิดอยากจะทำบุญ ถึงพี่เมาเหล้า แต่พี่ก็คิดว่าสักวันหนึ่งพี่จะเลิกมันได้ และถ้ามีโอกาสพี่จะบวชสักครั้ง..."  โดยที่ผมไม่ได้พูด ไม่ได้ว่ากล่าวอะไรเลย.. (ขอย้ำนะครับว่ากระบวนการสร้างตัวเองให้ศักดิ์สิทธิ์ ใช้เวลานานเป็นสิบปีเลยทีเดียวครับ...

   -ใช้บุญละเอียดที่เรานั่งสมาธิ อธิษฐานจิตครับ... จะเร่งให้เราสมปรารถนาเร็วขึ้น.. บุญจะได้ช่อง (อย่าลืมอธิษฐานฝากให้เทวดาที่ดูแลบ้านเราที่ดูแลคนในครอบครัวเราทำหน้าที่ช่วยเราด้วยนะครับ... บอกไปเลยครับว่า ถ้าคิดจะอยู่ร่วมกัน ก็ขอให้เขาช่วยรับบุญใหญ่นี้ด้วย จะดลจิตดลใจ จะวิธีไหนก็แล้วแต่ครับ...)

    -สุดท้ายเป็นเคล็ดไม่ลับครับ ให้ชวนไปทำบุญวัดอื่นๆ (ที่สำคัญคือให้เราเป็นคนชวน ให้เราเป็นต้นบุญในกิจกรรมทำบุญในครั้งนั้นๆ เช่นชวนทุกคนไปทำบุญที่วัดมเหยงคณ์ที่อยุธยา ... เป็นต้น)  เราจะได้ผังบุญพิเศษ คือ "ผังบุญในการชวนคนทำความดีได้สำเร็จ"  เมื่อทำบ่อยๆ หลายครั้งมากขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้เราสามารถชวนท่านๆเหล่านี้ทำบุญได้ง่ายขึ้นครับ และไม่ลืมคอยเป็นผู้กำกับ แนะนำวัฒนธรรมชาวพุทธที่ถูกต้องให้ท่านในระหว่างกิจกรรมนะครับ เช่นแนะนำให้ทุกท่านถอดรองเท้าก่อนเดินย่ำเข้าเขตสีมา เพราะ..... หรือทำหน้าที่ธรรมโฆษ เล่าประวัติวัดที่เราไปให้ท่านฟัง(ซึ่งแน่นอนเราต้องเตรียมตัวไปอย่างดี) ทำกิจกรรมเสริมเช่น แวะซื้อปลาไปปล่อยด้วยกัน... เป็นต้น... (ผมเชื่อว่า ถ้าคุณทำได้อย่างนี้ต่อเนื่องตลอดเป็น ๑๐ ปี วันนั้น วันที่คุณรอคอยต้องสำเร็จแน่นอนครับ...)

 

   ขอโอกาสแบ่งปันไอเดียประมาณนี้นะครับ... สาธุครับ



#4 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 06 February 2014 - 07:10 PM

กราบขอบพระคุณพระอาจารย์    ขออขอบคุณคำแนะนำดีๆ จากท่าน InnerDot  และขอขอบคุณกำลังใจดีๆ จากเพื่อนสมาชิกทุกท่านครับ

 

จะพยายามพิจารณาและทำตามคำแนะนำอันทรงคุณค่าเหล่านั้นให้ได้อย่างดีที่สุดครับ

 

สำหรับตอนนี้ก็เน้นการใส่บาตรหน้าบ้านอยู่ครับ  พยายามไม่ให้ขาด  คือ  ผมจะจัดเตรียมของไว้บนโต๊ะให้ใส่บาตรหน้าบ้านกันทุกวัน   ส่วนที่กำลังเพิ่มมาได้ครั้งเดียว คือ บุญบุพเปตพลี  ด้วยที่ว่าคุณพ่อท่านเป็นท่านสุดท้ายของรุ่นนี้แล้ว  ลุง ป้า น้า อา  ผมกลับวิมานตามสมควรกันหมดแล้ว  ผมจะเอาใบของทางวัดมาให้คณพ่อท่านเขียนเอง  จัดหาซองมา ครั้งแรกท่านทำบุญมา 300 บาท  ดีใจแทบตาย  เดี๋ยววันที่ 14  กุมภานี้  จะบอกว่าเป็นวันพระใหญ่  ให้ทำบุญบุพเปตพลีอีก  น่าจะไม่มีปัญหา  แต่คงเร่งอะไรมากไม่ได้  

 

กราบอนุโมทนาบุญ  และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ


สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#5 qazwsx123

qazwsx123
  • Members
  • 49 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 09 February 2014 - 12:44 PM

ของผมดีหน่อย ทำเกินหมื่น แม่ถึงจะว่า เลยปลอดภัย ทำแค่ทีละพัน