ปฎิบัติภาวนาเพื่ออะไร
หรือเพือให้ได้เทพนิกายชั่นไดชั่นหนึ่งหรื่อไปเป็นเทพชั่นได่ๆหรือว่าจะเป็นพรม เทพไดๆพรมเทวดาก็ตาย เทพได่ๆตายเรียบ ตายแล้วเท้าเธอยังไม่พ้นนรก แต่พระพุทธเจ้าว่าปฎิบัติเพือได้อมตะความไม่ตายคือนิพพาน
คุณสมบัติของนิพพานมี 3 อย่าง 1 นะอุปาโทปัญญาญัตติคือไม่ปรากฎมีการเกิด
2 นะวะโยปัญญาญัตติคือไม่ปรากฎมีการเสื่อม
3 ทิตตัสสะ อัญญะทัตตัง ปัญญาญัตติคือเมือตั้งอยู่ไม่มีภาวะอย่างอื่นปรากฎ
ซึ่งจริงๆแล้วสภาวะนี้พวกเรามีทุกคนแต่พวกเรากับมายึดขัน 5 อันเป็นของเกิด ของดับ ของเจ็บ ของตาย เราจึงต้องแก่เจ็บตาย
5 ธรรมชาตินี้คือรูปกาย เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาเรา เมื่อรูปตายจึงตายไปตามรูป เมื่อวิญญานดับจึงดับไปตามวิญญาน
พระพุทธเจ้าจึงให้มาปฎิบัต เพื่อถอนความยึดมั่นออกจาก 5 ธรรมชาติ นี้เป็นระบบของกรรมถ้าเรายังอยู่ห้าธรรมชาตินี้จะแก้กรรมไม่ได้้
วิธีแก้กรรมของพระพุทธเจ้าให้ถอนตัวตนออกจาก 5 ระบบนี้กลับมาสู่สภาวะเดิมของตัวตนคือนิพพานในนิพพานไม่มีห้าธรรมชาตินี้ คือ
ไม่มีรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน วิญญานรู้นิพพานไม่ได้ วิญญานไม่ไช่ชีวิต วิญญานเป็นแค่ธาตุรู้ พระพุทธเจ้า
ตัสว่าไม่มีวิญญานเวียนวายตายเกิด แต่เป็นสัตย์ สัตย์ผู้มีอวิตชาเข้ามาหลงวิญญานเข้ามาหลงขัน 5 แล้วเกิดตายไปกับขัน 5 ตลอดเวลา
สัตย์ผู้มีอวิทชานี้จริงๆคือวิมุตติ แต่เรียกวิมุติยังไม่ได้แต่มันยังไม่มีวิทชา ขนาดที่มันมาหลงขัน 5 ณ ห้วงแก๊บตรงนี้มันถูกนิยามว่าสัตย์ คือผู้ที่ติดข้องแล้วในขันทั้งห้าการติดแล้วการข้องแล้วซึ้งสิ่งนั้นๆขัน 5 เราเรียกว่าสัตว์
และเมื่อสัตย์ ปฎิบัติตามมรรคมีองค์8 ตามหนทางที่ศาสดาผู้เป็นสัตย์เหมื่อนกัน แต่เป็นสัตย์ประเภศ อรหันสัมมาสัมพุทธธะตัสรู้ได้เองสามารถรู้ทางออกสังสารวัตรนี้ได้เอง แล้วสัตย์ทั้งหลายที่เป็นเหล่าสาวกได้สดับในธรรมฟังแล้วปฎิบัติตาม เลยหลุดออกจากระบบนี้ได้ เข้าสู่ระบบนี้คือวิมุตติ หรือนิพพานนั้นก็คือเข้าสู่สภวะเดิมตัวเองที่ไม่ปรากฎการเกิด
เพราะฉนั้นสิ่งไดที่ปรากฎการเกิด สิ่งนั้นจะปรากฎการเสื่อมเรื่อยๆแล้วก็จะดับนี้คือสัจจะ นี้คืออริยะสัต 4ที่พระพุทธเจ้าตัสรู้นั้นเอง
แก้ไขโดย ทัพพีในหม้อ 30 November 2013 - 08:48 AM
ขอเข้ามาแก้วรรคตอน เพื่อให้อ่านง่ายขึ้นนะครับ แต่ไม่ได้มีการตัดทอนต่อเติมเนื้อหาเดิมแต่อย่างใด