ไปที่เนื้อหา


ก้าน

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 12 Oct 2013
ออฟไลน์ ใช้งานล่าสุด Dec 14 2014 08:36 PM
-----

กระทู้ที่ฉันเริ่ม

ความรู้ขั้นโสดาบันมีอะไรบ้าง

01 December 2013 - 09:06 PM

 

 ความรู้ขั้นโสดาบัน     เท่าที่รู้มามี4อย่างคือ   

1  รูป  =  รูปกาย

2  เวทนา   = ความพอใจ  

        3  สัญญา   = ความจำได้มั่ย  

        4  สังขาร   =  ความคิดปรุงแต่ง  

     มี4ข้อแค่นี้จริงๆแล้วแตกรากแตกกอออกไปหลายข้อ เช่น ข้อนี้ไปเชื่อมข้อนั้น ขอนั้นไปบรรจบกับข้อนี้  เหมือนกันกับการใช้ชีวิตประจำวัน ทำอะไรก็ให้รู้ซึ่งสิ่งนั้น  เช่น   หนาวก็รู้ว่าหนาวหิวน้ำก็รู้ว่าหิวถึงหายใจเข้าออกก็รู้ว่าว่าหายใจเข้าออกทำสิ่งไดก็ให้รู้ถึงสิ่งนั่นพูดง่ายๆมีสติอยู่เสมอให้เข้าใจในปฎิจสมุตบาตทั้งหมดและให้รู้กายะคะตาสติให้มั่นคงต่อพระรัตนตรัยและรู้การเกิดเหตุทั้งหลายแค่นี้ก็เป็นโสดาบันแล้วแล้วมีไครพอมีความรู้เกี่ยว กับ   ความรู้ขั้นโสดาบันเพิ่มช่วยแนะนำเพิ่มเติมหน่อยน้ะครับเผื่อจะช่วยให้คนที่เข้ามาอ่านจะได้มีความรู้ขั้นโสดาบันแล้วบรรลุขั่นนี้ แล้วหา ความรู้ขั้นสูงกว่านี้ขึ้นไปอีกเหมือนเดินขึ้น

 บันไดน้ะครับให้เดินทีล่ะขั้นเหมือนแบบเดินสายกลางเหมื่อนพิณสามสายน้ะครับ    :lol: 8-) :lol:


ปฎิบัติภาวนาเพื่ออะไร

30 November 2013 - 02:49 AM

ปฎิบัติภาวนาเพื่ออะไร     

 

หรือเพือให้ได้เทพนิกายชั่นไดชั่นหนึ่งหรื่อไปเป็นเทพชั่นได่ๆหรือว่าจะเป็นพรม    เทพไดๆพรมเทวดาก็ตาย  เทพได่ๆตายเรียบ ตายแล้วเท้าเธอยังไม่พ้นนรก    แต่พระพุทธเจ้าว่าปฎิบัติเพือได้อมตะความไม่ตายคือนิพพาน

 

คุณสมบัติของนิพพานมี 3 อย่าง  1  นะอุปาโทปัญญาญัตติคือไม่ปรากฎมีการเกิด 

                                                   2  นะวะโยปัญญาญัตติคือไม่ปรากฎมีการเสื่อม

                                                   3   ทิตตัสสะ  อัญญะทัตตัง  ปัญญาญัตติคือเมือตั้งอยู่ไม่มีภาวะอย่างอื่นปรากฎ

 

ซึ่งจริงๆแล้วสภาวะนี้พวกเรามีทุกคนแต่พวกเรากับมายึดขัน  5  อันเป็นของเกิด ของดับ ของเจ็บ ของตาย เราจึงต้องแก่เจ็บตาย

 

5 ธรรมชาตินี้คือรูปกาย    เวทนา     สัญญา     สังขาร  และวิญญาเรา  เมื่อรูปตายจึงตายไปตามรูป  เมื่อวิญญานดับจึงดับไปตามวิญญาน

พระพุทธเจ้าจึงให้มาปฎิบัต  เพื่อถอนความยึดมั่นออกจาก  5  ธรรมชาติ   นี้เป็นระบบของกรรมถ้าเรายังอยู่ห้าธรรมชาตินี้จะแก้กรรมไม่ได้้

 

วิธีแก้กรรมของพระพุทธเจ้าให้ถอนตัวตนออกจาก 5 ระบบนี้กลับมาสู่สภาวะเดิมของตัวตนคือนิพพานในนิพพานไม่มีห้าธรรมชาตินี้  คือ

ไม่มีรูป   เวทนา    สัญญา   สังขาร   วิญญาน    วิญญานรู้นิพพานไม่ได้    วิญญานไม่ไช่ชีวิต    วิญญานเป็นแค่ธาตุรู้    พระพุทธเจ้า

ตัสว่าไม่มีวิญญานเวียนวายตายเกิด   แต่เป็นสัตย์    สัตย์ผู้มีอวิตชาเข้ามาหลงวิญญานเข้ามาหลงขัน 5  แล้วเกิดตายไปกับขัน 5 ตลอดเวลา

 

สัตย์ผู้มีอวิทชานี้จริงๆคือวิมุตติ   แต่เรียกวิมุติยังไม่ได้แต่มันยังไม่มีวิทชา   ขนาดที่มันมาหลงขัน 5 ณ ห้วงแก๊บตรงนี้มันถูกนิยามว่าสัตย์   คือผู้ที่ติดข้องแล้วในขันทั้งห้าการติดแล้วการข้องแล้วซึ้งสิ่งนั้นๆขัน 5 เราเรียกว่าสัตว์ 

 

และเมื่อสัตย์  ปฎิบัติตามมรรคมีองค์8 ตามหนทางที่ศาสดาผู้เป็นสัตย์เหมื่อนกัน  แต่เป็นสัตย์ประเภศ อรหันสัมมาสัมพุทธธะตัสรู้ได้เองสามารถรู้ทางออกสังสารวัตรนี้ได้เอง   แล้วสัตย์ทั้งหลายที่เป็นเหล่าสาวกได้สดับในธรรมฟังแล้วปฎิบัติตาม  เลยหลุดออกจากระบบนี้ได้  เข้าสู่ระบบนี้คือวิมุตติ หรือนิพพานนั้นก็คือเข้าสู่สภวะเดิมตัวเองที่ไม่ปรากฎการเกิด

 

เพราะฉนั้นสิ่งไดที่ปรากฎการเกิด สิ่งนั้นจะปรากฎการเสื่อมเรื่อยๆแล้วก็จะดับนี้คือสัจจะ  นี้คืออริยะสัต 4ที่พระพุทธเจ้าตัสรู้นั้นเอง                


นั่งวันเว้นวันคือการพิจาระณามาปฎิบัติชึ่งธรรม

13 October 2013 - 10:43 PM

    การนั่งสามาธิเท่าที่ผมรู้มาให้นั่งสงบแล้วระลึกลมหายใจเข้าออกอย่างเดียวถือว่าใช้ได้แล้ว

 

    ถ้ารู้ว่าตัวเอียงก็ให้ระลึกลมหายใจเข้าออกเพ่งจิตมาช่วงหน้าผากแล้วก็จะตรงเอง

 

    เวลานั่งสมาธิห้ามจิตคิดออกนอก  ถ้าเราคิดเขาเรียกว่าวิญญาเกิดดับเกิดดับอยู่ตลอดเวลาก็จะไม่เป็นสมาธิเข้าเรียกนั่งคิด

 

    การที่จะนั่งสมาธิต้องมีความรู้ก่อน  เช่น  วิญญานคืออะไร   คือความรู้สึกนึกคิด   และการพิจาระณาร่างกายคือกายคือลมลมคือร่างกาย

 

    เมื่อไม่มีลมหายใจกายก็ไม่มีความหมายอะไรกายดับวิญญานก็ดับไปตามรูป    

 

     การนั่งสามาธิปฏิบัติไปทุกวันจะดีสุดท้ายจะรู้เองว่ายิงปฏิบัติก็จะยิ่งอยากขึ้นไปเรื่อยๆแต่ผมได้ยินพระท่านบอกว่าถ้าอยากให้ใช้ปัญญา น้ะ

 

     เท่าที่ผมรู้มามีแค่นี้แหละ            อย่าลืมระลึกลมหายใจเข้าออกอยู่เสมอไปไหนให้พุทธโทเข้าใว้แล้วจะดีเอง