อีกรูปค่ะ
แสงจากวิหารหลวงปู่
#1
โพสต์เมื่อ 10 September 2006 - 09:09 PM
อีกรูปค่ะ
#2
โพสต์เมื่อ 10 September 2006 - 09:10 PM
#3
โพสต์เมื่อ 10 September 2006 - 09:13 PM
ด้ายเส้นเดียว .........ไม่เป็นผืนผ้า
อิฐก้อนเดียว .... ไม่เป็นบ้านเรือน
ทำบุญคนเดียว ...ไม่เป็นกัลยาณมิตร
#4
โพสต์เมื่อ 10 September 2006 - 09:15 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#6
โพสต์เมื่อ 10 September 2006 - 09:24 PM
#7
โพสต์เมื่อ 10 September 2006 - 09:25 PM
#8
โพสต์เมื่อ 10 September 2006 - 09:49 PM
#9
โพสต์เมื่อ 10 September 2006 - 10:48 PM
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#10
โพสต์เมื่อ 10 September 2006 - 11:24 PM
#11
โพสต์เมื่อ 10 September 2006 - 11:51 PM
#12
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 05:09 AM
#13
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 08:22 AM
#14
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 08:34 AM
คิดเหมือนกันเลย ตั้งเป้าไว้เหมือนกัน ถ้าซื้อบ้านจะซื้อใกล้วัด
#15
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 09:27 AM
รีบซื้อนะคะ อนาคตคงแพงกว่านี้อีกหลายอยู่
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#16
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 09:37 AM
#17
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 09:56 AM
#18
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 10:33 AM
#19
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 10:49 AM
#20
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 12:20 PM
#21
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 12:36 PM
พอดีบ้านอยู่ติดวัด และ ขี่มอเตอร์ไซด็ผ่านวิหารหลวงปู่ทุกวัน ก็เห็นแสงนี้ครับสวยงามมาก
แต่เมื่อวาน สว่างมากๆ แสงสีสวยมาก กล้องที่ถ่ายได้ก็แค่ส่วนหนึ่งครับ ถ้าได้เห็นภาพจริงๆ จะรู้ว่า สว่างมากๆ
สว่างถึงบ้านผมเลย คือปกติ ก็สว่าง แต่ ไม่ได้สว่างขนาดนี้ ซึ่งมหาธรรมกายเจดีย์ ก็มีไฟส่องเช่นเดียวกัน แรงกว่าเยอะด้วย
แต่ ที่วิหารหลวงปู่ในคืนนั้นสว่างกว่าครับ เกิดขึ้นตั้งแต่ 1 ทุม จนถึงประมาณ 3 ทุ่ม ความสว่างก็จางไป
สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็นครับ
#22
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 12:37 PM
#23
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 01:42 PM
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต้ อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ
หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยกายก็ดี วาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี
ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดยกโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ
#24
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 01:45 PM
โก หิ นาโถ ปโร สิยา
อตฺตนา หิ สุทนฺเตน
นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ . . . ฯ ๑๖๐ ฯ
เราต้องพึ่งตัวเราเอง
คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
บุคคลผู้ฝึกตนดีแล้ว
ย่อมได้ที่พึ่งที่ได้แสนยาก
Oneself indeed is master of oneself,
Who else could other master be?
With oneself perfectly trained,
One obtains a refuge hard to gain
#25
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 02:04 PM
#26
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 02:07 PM
ใช่น่ากลัวที่ใฝ่หา ค้นพบเพียงดวงตา หยิบยกมาเรื่องบังเอิญ
ความดีย่อมปรากฎ ไม่มีจบ คำทวงหา ชื่นชม บุญมายา
สิ่งได้มา ว่างเปล่า เอย........
#27
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 02:27 PM
สงบสุขปลื้มจริงๆ ผู้คนมากมาย
ทุกคน รวมใจเป็นหนึ่ง
ไม่เบื่อหน่าย ไม่ย่อท้อในการสร้างบารมี
แดดแรงกล้าก็สู่
ฝนตกมาก็สู่
ไม่มีใครหนี ในการสร้างบารมี
เด็กเล็ก คนป่วย คนชรา คนแข็งแรง
มีแต่ใบหน้ายิ้มแย้มให้แก่กัน
ทุกคนมีสันติสุขในใจ
คิดทีไรปลื้มทุกที
แปลกใจอีกอย่างค่ะ
สงบสุขเดินรอบนอก
แต่อยู่แนวเดียวกับขบวนรถที่อันเชิญรูปหล่อทองคำหลวงปู่
ฝนจะตกมาเหมือนพรมน้ำมนต์ไม่ตกหนัก
แต่บริเวณอื่นจะตกหนักมาก
เหมือนฝนตกไม่ทั่วฟ้าเลยค่ะ
ขอให้ทุกคนมีสันติสุขในใจค่ะ
ไฟล์แนบ
#28
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 03:24 PM
เป็นอะไรก็ช่างเถอะนะคะ
ถึงอย่างไร..มหาวิหารพระมงคลเทพมุนี
ก็เตือนใจให้เราระลึกถึงพระคุณอันสุดจะประมาณของท่าน
และทำให้นึกถึงบูญทุกบุญที่ได้ทำผ่านมาค่ะ
เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน
#29
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 04:04 PM
ตอนแรกผมคิดว่าเป็นแค่แสงสาดลงมาเฉยๆ แต่พอกลับมาถึงบ้านนึกพิจารณาดูอีกที เอ๋ ธรรมดาถ้าแสงส่องผ่านเมฆลงมา ลำแสงจะยิงเป็นแนวตรงตามช่องว่างของเมฆนี่น่า แต่นี่มันส่องแบบกระจายนี่น่า คือสาดเป็นฐานกว้างลงมาและส่วนที่ส่องผ่านก้อนเมฆเป็นรูปวงกลม ซึ่งลักษณะเหมือนมหาวิหารเป๊ะเลยครับ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#30
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 08:23 PM