คณะนักวิจัยได้ศึกษาค้นคว้าพบว่า การมีลางสังหรณ์ เนื่องมาจากสมองของเราได้กักเก็บ ทบทวนและกู้คืนข้อมูลในระดับจิตใต้สำนึกกลับมาได้ ดังนั้น มันจึงเป็นปรากฏการณ์ ทางจิตวิทยาจริงๆ แม้วิทยาศาสตร์ที่แล้วๆมา ออกจะลบหลู่ความคิดในเรื่องลางสังหรณ์
ศาสตราจารย์เกอราร์ด ฮอกินสัน หัวหน้าคณะนักวิจัย ได้อธิบายถึงโอกาสที่คนเรา จะเกิดลางสังหรณ์ว่า “ปกติคนเราจะรู้สึกเกิดความสังหรณ์ เมื่อตอนตกอยู่ภายใต้ ความกดดันอย่างรุนแรง หรืออยู่ในสถานการณ์ซึ่งต้องผจญกับข้อมูลอันท่วมล้น หรืออันตรายรุนแรง ซึ่งการวิเคราะห์ตัดสินใจอย่างมีสติสัมปชัญญะภายใต้สถานการณ์ เช่นนั้นทำยากหรือเป็นไปไม่ได้”
เขายกตัวอย่างให้ฟังว่า อย่างเช่น กรณีนักแข่งรถฟอร์มูล่า วัน ตัดสินใจเหยียบเบรกอย่างแรง ขณะที่รถพุ่งเข้าเลี้ยวโค้งหักศอก โดยไม่รู้ตัว เป็นเพราะสัญชาตญาณโดยแท้ที่ช่วยชีวิตเขาไว้ หากว่าเขาปล่อยให้รถทะยานเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง รถจะต้องตีลังกาบนทางแข่งข้างหน้า “คนขับก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่า เขาตัดสินใจเหยียบเบรกเพราะอะไร แต่มันเป็นแรงที่ข่ม ความปรารถนาที่ต้องการจะเอาชนะการแข่งของเขาลงได้โดยสิ้นเชิง”
ตัวอาจารย์เกอราร์ดเอง มีความเชื่อว่า “เห็นได้อย่างชัดเจนว่า มนุษย์จำเป็นต้องอาศัย ขบวนการการคิดทั้งจิตสำนึกและจิตใต้สำนึกด้วยกัน”.
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ลางสังหรณ์ ช่วยชีวิตพ้นอันตราย
เริ่มโดย kuna, Mar 12 2008 01:56 PM
มี 5 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 12 March 2008 - 01:56 PM
#2
โพสต์เมื่อ 19 March 2008 - 10:32 PM
ขอบคุณครับ
พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์
#3
โพสต์เมื่อ 25 March 2008 - 10:55 PM
เคยมีลางสังหรณ์ว่าจะโดนคุณครูตีตอนที่ลืมทำการบ้าน
#4
โพสต์เมื่อ 01 April 2008 - 01:10 PM
อนุโมทนาด้วยครับ จากบทความนี้ทำให้รู้ว่า ลางสังหรณ์ ก็มีประโยชน์มากและจำเป็นมากสำหรับมนุษย์เราเหมือนกัน
#5
โพสต์เมื่อ 03 April 2008 - 02:41 PM
สาธู
ลูกพระธรรม
#6
โพสต์เมื่อ 16 March 2009 - 06:22 PM
น่าจะเหมือนกัน six th sense ไหมครับเนี่ย