อยากได้กำลังใจค่ะ
#1
โพสต์เมื่อ 27 July 2009 - 12:17 PM
มาแย่งคนรักไป เศร้ามาก อยากได้กำลังใจจากเพื่อนๆ ค่ะ
#2
โพสต์เมื่อ 27 July 2009 - 12:31 PM
ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ ฯล
คุณจะเข้าใจ ธรรมดาโลกและชีวิต มากขึ้น บรรเทา โศกนี้มากขึ้นครับ
อดีต ก็ คือ อดีต
อยู่กับปัจจุบัน เพื่ออนาคต ที่ไร้โศกรัก สิครับ
ลองหาเพลง ชีวิตก็เป็นอย่างนี้ ของคุณ เจินเจิน มาฟังสิครับ
http://www.video4vie...deo.html?...
#3
โพสต์เมื่อ 27 July 2009 - 12:54 PM
น่าเห็นใจอย่างมากค่ะ
นั่งสมาธิเยอะๆนะคะ
เป็นกำลังใจให้หายเศร้าไวไว
"คุณจะรู้ว่าร่างกายแข็งแรงแค่ไหนก็จากความสามารถต้านไข้
หรือความรวดเร็วในการฟื้นไข้
และคุณจะรู้ว่าจิตใจเข้มแข็งขนาดไหน
ก็จากความสามารถต้านความเศร้า
หรือความรวดเร็วในการหายเศร้า "
"คุณจะใช้ชีวิตอย่างไรก็เป็นทุกข์อยู่ดี
แต่โดยแท้ที่จริงแล้ว
คุณไม่จำเป็นต้องเป็นทุกข์ก็ได้ "
ดังตฤณ
กรกฎาคม ๕๒
#5
โพสต์เมื่อ 27 July 2009 - 01:12 PM
#6
โพสต์เมื่อ 27 July 2009 - 01:30 PM
ทุกวันนี้ก็พยายามนั่งสมาธิมากๆ
ตอนนั่งก็ใจนิ่งดี
แต่พอเลิกนั่งซักพัก ก็กลับมาเศร้าเหมือนเดิม
ตอนนี้ก็เอาองค์พระมาตั้งที่โต๊ะทำงาน
พอเศร้าก็มององค์พระ
พยายามฟังเสียงหลวงพ่อนำนั่งสมาธิทั้งวันควบคู่ไปกับการทำงาน
ก็เริ่มรู้สึกดีขึ้นบ้างเล็กน้อยค่ะ
คิดว่าซักวัน (อีกไม่นาน) คงหายเศร้าค่ะ
ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนอีกครั้งนะคะ
#7
โพสต์เมื่อ 27 July 2009 - 03:26 PM
อย่างไรก็ตาม อยากจะฝากถ้อยคำที่หลวงพ่อทัตตะท่านเคยว่าไว้ ไปอ่านทบทวนดูนะครับ
"หาผู้ชายคนรักสักคนน่ะ ไม่ยากหรอก แต่หาพ่อดีๆ ให้ลูกของเราในอนาคตสักคนน่ะสิ ยาก"
จะเห็นว่า ถ้อยคำของหลวงพ่อมีข้อคิดที่น่าสนใจอยู่ 2 ประการ คือ
1. การที่เราจะมีคนรักนั้น อย่าคิดมีแบบรักอย่างเดียว แต่เราต้องมีแบบรับผิดชอบด้วย นั่นคือ คิดเลยไปถึงเยาวชนในวันข้างหน้า ซึ่งเป็นลูกหลานของเราในอนาคต ว่าเราทั้งสองคนเมื่อรักกันแล้ว ได้พร้อมที่จะดูแลเยาวชนลูกหลานที่จะเกิดขึ้นในอนาคตให้เป็นคนดีหรือไม่
หากคำตอบ ตอบออกมาว่า ไม่พร้อม หรือ ไม่เคยคิดถึงเยาวชนในวันข้างหน้าเลย ขอร้องว่า อย่ามีคนรักครับ นั่นคือ หนึ่งในการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวมทีเดียว
2. การที่คนรักของคุณเปลี่ยนใจง่ายขนาดนี้ อาจแสดงให้เห็นว่า เขาอาจไม่พร้อมที่จะเป็นบิดาที่ดี ของลูกหลานคุณในอนาคตก็เป็นได้ ดังนั้น ก็ควรลืมเขาซะ แล้วถ้าอยากหาคนใหม่ ก็ให้ย้อนไปอ่าน โอวาท ของหลวงพ่อทัตตะ แล้วจำให้ขึ้นใจนะครับ
ยกตัวอย่าง บันฑิตในกาลก่อน เวลาคิดจะมีคนรัก เขาจะทดสอบคนรักสารพัด สารเพ หากผ่านการทดสอบได้ ถึงจะดำเนินการขั้นต่อไป (เอ คำพูดนี้ชักเหมือนจดหมายราชการ แฮะ) แ้ม้รุ่นปู่ย่าตายายเราก็เหมือนกัน สมัยผมเรียนหนังสือ อาจารย์จะเล่าให้ฟังว่า เวลาผู้ชายจะเลือกหญิงคู่ครอง เขาไม่ได้ดูที่หน้าตาอย่างเดียว แต่เขาจะดูไปจนกระทั่งกระถางต้นไม้หน้าบ้าน สะอาดเป็นระเบียบดีมั้ย หากไม่สะอาด ไม่เป็นระเบียบ แสดงว่า ลูกสาวบ้านนี้บกพร่องในการจัดการงานบ้านงานเรือน ดังนั้น อย่าเลือกมาเป็นคู่ครอง นี่เขาดูกันขนาดนี้เลยนะครับ
#8
โพสต์เมื่อ 27 July 2009 - 04:15 PM
เพราะตอนนี้ kissy ก็โดนแย่งไปเหมือนกาน
ยังทำใจไม่ค่อยได้
แต่ อดทนไว้ และถ้าเหงา
ก็มาที่นี่ มาหา เพื่อน ๆ
#9
โพสต์เมื่อ 27 July 2009 - 05:08 PM
ที่เหลือก็คือ อยู่กับธรรมะให้มากที่สุด ด้วยดาวธรรมซึ่งมีหลวงพ่ออยู่กับเราทุกวัน ด้วยการสวดมนต์ นั่งสมาธิ
ที่เหลือก็แค่รอให้กาลเวลาผ่านไปสักระยะ
เราจะเยียวยาจิตใจของเราได้ในที่สุด
นึกถึงเรื่องนี้เมื่อไหร่ ให้แทนที่ด้วยธรรมะและพระภายในทันทีนะครับ
ขอให้กลับมาใสๆ โดยเร็วนะครับ
#10
โพสต์เมื่อ 27 July 2009 - 05:31 PM
แล้วประโยคที่ว่า..."คุณจะรู้ว่าจิตใจเข้มแข็งขนาดไหน ก็จากความสามารถต้านความเศร้า หรือความรวดเร็วในการหายเศร้า" ที่คุณ คาฟ้าบ่? แนะนำ
และกำลังใจจากเพื่อนๆ ทุกคน
ก็เริ่มรู้สึกดีขึ้นมากเลยค่ะ
ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนอีกครั้งนะคะ
#11
โพสต์เมื่อ 27 July 2009 - 07:08 PM
#12
โพสต์เมื่อ 27 July 2009 - 08:05 PM
คนอื่นเค้ายังหลงติดในกามอยู่ กรรมเค้ายังไม่หมด
นั่งสมาธิเยอะ ๆ เลยครับเป็นโอกาสดี นั่งวันนี้ก็เข้าถึงเร็วขึ้น นั่งพรุ่งนี้ก็เข้าถึงช้าไปอีก
อาจจะใกล้เข้าถึงธรรมแล้วก็ได้ครับ นั่ง ครับ นั่ง ให้เต็มที่เลย เราเกิดมาเพื่อการนี้
ยืนยันตัวจริงเสียงจริงเจ้าของกรณีศึกษากฎแห่งกรรม
http://video.dmc.tv/programs/life_in_samsara/page5.html
หนังสือเรียนธรรมะ DOU http://book.dou.us/d...ya-book-gl.html
GL 101 จักรวาลวิทยา http://book.dou.us/gl101.html
GL 102 ปรโลกวิทยา http://book.dou.us/gl102.html
GL 203 กฎแห่งกรรม http://book.dou.us/gl203.html
GL 305 ปฏิปทามหาปูชนียาจารย์ http://book.dou.us/gl305.html
#13
โพสต์เมื่อ 27 July 2009 - 08:25 PM
#14
โพสต์เมื่อ 28 July 2009 - 06:37 AM
ไม่ต้องเศร้าหรอกค่ะ คุณยังมีความหมายสำหรับใครๆ อีกเยอะนะคะ
คิดเสียว่า เขาไม่ใช่ของเรา หลวงพ่อบอกว่า แม้แต่กายเรา ยังไม่ใช่ของเราเลย ตายแล้วก็เอาไปไม่ได้
นั่งสมาธิให้มากๆนะคะ แล้วเวลาจะรักษาใจคุณให้ใสสว่างเหมือนเดิม
สู้ๆ ค่ะ
#15
โพสต์เมื่อ 28 July 2009 - 11:56 AM
เลิกนะจ๊ะ!...เลิกคิดถึงคนอื่น...รักตัวเองให้มากๆดีกว่า..
เลิกบุหรี...เหล้า...รัก...ให้หักดิบ...หักดิบไปเลย...
เอาเวลา..มานึกถึงองค์พระที่ศูนย์กลางกายให้ตลอด
ต่อเนื่องดีกว่า...ละทิ้งความสุขเล็น้อย เพื่อไปหาความ
สุขอันไพบูลย์...ความสุขที่แท้จริงของชีวิตดีกว่าค่ะ....
ขอเป็นกำลังใจให้จ๊ะ...
#16
โพสต์เมื่อ 28 July 2009 - 01:06 PM
"แสดงว่า ใกล้จะหมดกรรมแล้วครับ จะได้ประพฤติพรหมจรรย์ได้อย่างเต็มที่ ...
นั่งสมาธิเยอะ ๆ เลยครับเป็นโอกาสดี นั่งวันนี้ก็เข้าถึงเร็วขึ้น นั่งพรุ่งนี้ก็เข้าถึงช้าไปอีก
อาจจะใกล้เข้าถึงธรรมแล้วก็ได้ครับ "
เป็นกำลังใจให้มากเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ
#17
โพสต์เมื่อ 28 July 2009 - 01:15 PM
#18
โพสต์เมื่อ 28 July 2009 - 07:36 PM
ขอเป็นกำลังใจให้อีกหนึ่งเสียงค่ะ. ขอให้อดทนและเข้มแข็งไว้นะคะ. ดูรายการนักเรียนอนุบาลในฝันของหลวงพ่อซิคะจะทำให้รู้สึกปลงได้ค่ะ.
เคยผ่านเหตุการณ์นี้มาแล้วเหมือนกันแต่นับว่าโชคดีที่เป็นนักเรียนอนุบาลในฝันมีหลวงพ่อท่านคอยให้เหตุและผลที่ต้องเป็นแบบนี้เพราะอะไร.
และมีอุบาสิกาเป็นกัลยาณมิตรให้คำแนะนำและกำลังใจที่ดีเสมอมาทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันเลย. ขอให้คุณ nar เข้มแข้งไว้นะคะ ขอเป็นกำลังใจ
ให้อีกหนึ่งเสียงค่ะ.
#19
โพสต์เมื่อ 28 July 2009 - 09:11 PM
เวลาจะรักษาใจเราเองค่ะ
ไม่แน่ว่า อีกสัก ๑ เดือน หรือ ๑ ปี
อาจจะคิดได้ว่าทำไมต้องเสียใจเพราะคน คนนี้ด้วย ไม่เห็นมีค่าพอเลย
ใส่ใจกับครอบครัวเราเองมาก ๆ ดีกว่า
ไม่มีใครรักเราเท่าพ่อ แม่ พี่ น้องของเราหรอกค่ะ
สู้ สู้ นะคะ
สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ
ลูกพระธัมฯ หลานหลวงปู่ หลานคุณยาย
#20
โพสต์เมื่อ 29 July 2009 - 12:03 AM
แสดงว่าคุณเป็นคนจิตใจดีมากๆๆ คนนึ่ง ที่ยังรักให้เกียรติและเรียกคนที่ทำร้ายจิตใจคุณว่ากัลยาณมิตร
ถ้าอยากให้หายจากอาการเศร้าเร็วๆ แนะนำว่าให้ไปปฏิบัติธรรมนอกสถานที่ อย่างน้อย สัก 7 วัน เช่นที่พนาวัฒน์ หรือภูเรือ หรือที่อื่นๆ ที่ชอบ
และำแนะนำเพื่ิมเติมว่า ถ้าอยากหายเศร้าเร็วๆ เพิ่มขึ้นอีก ให้ทำบุญใหญ่ แล้วอธิษฐานจิต(โดยเอาบุญใหญ่ที่เพิ่งทำนั้นแหละ) เช่นว่า...ให้พ้นจากวิบากกรรม ให้หายเศร้า ให้มีจิตใจเข้มแข็ง ให้เห็นโทษของการมีคนรัก ให้เจอมิตรแท้ เป็นต้น
การตั้งจิตอธิษฐานนั้น สำคํญจริงๆ นะคะ นอกจากจะเป็นการวางแผนผังของบุญแล้ว ยังเป็นการย้ำกับตัวเราเองด้วยค่ะ
รับรองว่าได้ผลชัวร์ 100% ค่ะ ยอมลางานเถอะคุ่ะ คุ้มกว่าแยะ
นั่งเศร้าอยู่ ใช่ว่างานที่ทำจะทำออกมาได้ดี
บรรยากาศการปฏิบัติธรรมนอกสถานที่นั้น ทำให้เราลืมเรื่องเศร้าไปเลย ใจก็อยู่ในบุญตลอดเวลา ไม่มีเวลาเศร้า พอจบคอร์ส..กลับมาก็อาจหัวเราะ ยิ้มอย่างสดชื่นได้แล้ว
การนั่งสมาธิ หรือนั่งทำใจอยู่ที่บ้าน ที่ทำงาน เปรียบไปกับคนป่วยก็เหมือนกับยากิน ยาทา กว่าจะหายไข้ก็นาน ในระยะนั้นก็ต้องทนทุกข์ทรมาน ไอจาม เจ็บคอ
แต่ถ้ายอมลงทุน ฉีดยา หรือผ่าตัดไปเลยเอาเนื้อร้ายออกไป ก็จะหายป่วยเร็วขึ้นทันตาเห็น
ฉันใดก็ฉันนั้น จะยอมเศร้านานๆ มากๆ เรื่อยๆ หรือยอมเศร้าน้อยๆ เป๊บๆ แล้วก็หาย หัวเราะได้
ลองยอมให้อิสระกับใจของตัวเองด้วยการปฏิบัติธรรมช่วงยาว ดูซิคะ
ยอมๆ หน่อย จะได้หายเศร้าเร็วๆ
ปล. ชอบกลอนและบาลีของ นรอ.Dd2683 มาก ขออนุญาติ copy นะคะ
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#21
โพสต์เมื่อ 29 July 2009 - 12:46 AM
เวลาที่มีเรื่องเศร้าๆ ผมมักจะไปวัดครับ ไปหาหมู่คณะ ไปช่วยงานบุญ
จะทำให้ใจเรามีความคิดเรื่องบุญเข้ามาแทนครับ
#22
โพสต์เมื่อ 29 July 2009 - 08:39 AM
#23
โพสต์เมื่อ 29 July 2009 - 09:15 PM