ไม่สบายใจเลยค่ะ เเม้วางอุเบกขาก็ยังกรุ่น ๆ อยู่ในใจ
#1
โพสต์เมื่อ 12 September 2009 - 04:37 PM
ตัวฉันเอง ทำธุรกิจนายหน้าขายบ้าน ที่ดิน คอนโด ทั่ว ๆ ไป
เนื่องจากว่า ได้ทำการสร้างองค์พระไว้ 2 องค์ (ยังจ่ายไม่ครบ) ตอนนี้เริ่มมีปัญหา เกี่ยวกับการเงินค่ะ เลยอยากจะชะลอการจ่ายองค์พระ
เเต่ว่า ป้าที่มีหน้าที่เก็บไม่ยอมค่ะ นัดวัน เอาตังค์ อยู่ เรื่อย ๆ จนตัว ฉันเอง เริ่มเป็นทุกข์ เกี่ยวกับการทำบุญ
ป้ามักจะมี คำพูดต่าง ๆ ประมาณว่า ล็อกบุญ ไว้ให้แล้ว ต้องจ่าย เท่านั้น เท่านี้ ไม่งั้น ไม่ได้
ตัวฉันเอง จึงกล่าวว่า ก็ป้า ค่ะ ตอนนี้ ยังตึงมือ ขออีกสัก เดือนหน้า อะไร ๆ คล่องตัว จะจ่าย สมทบ ดีกว่า
ป้าก็ พยายามพูดอยู่เรื่อย ๆ จนฉันลำบากใจมากขึ้นทุกที ป้ามักจะ ไปรับบุญมาเป็นกอง ใหญ่ ๆ และมา บอกบุญกับฉันเสมอ ๆ
ใจหนึ่งก็ดีค่ะ อยากทำ ชอบทำ แต่ทำทีไร ไม่เคย ได้ ใบอนุโมทนาบุญมาเก็บไว้เลย ค่ะ ไม่มีให้
ตัวป้า เอง ก็ ไม่ได้ ทำงาน ไม่รู้ว่า จะเอา เงิน ไปใช้ เอง หรือเปล่า เพราะมักมีบุญ แปลก ๆ เสมอ
เช่น ตอนบวชพระ 7000 รูป 7000 ตำบล ป้าก็ แจ้งว่า หลวงพ่อ จะเอา โน๊ตบุค เครื่องใหม่
ตัวฉันเอง ก็ร่วมบุญกับป้า เป็นหลักพัน ไป ด้วยใจเลื่อมใส แต่ว่า พอมาเข้าดูดีเอ็มซี หลวงพ่อ พูดว่า ใครมีโน๊ตบุคก็เอามาร่วมบุญกันน่ะลูกน่ะ
หลวงพ่อ ไม่ได้บอกให้ซื้อใหม่นิหน่า แค่ ให้เอาไปร่วมบุญ ( ระแวงกัลยาณมิตร บาปไหมค่ะ )
ตอนนี้ที่อยากจะรู้ก็คือว่า ถ้า เว้นการจ่ายค่าองค์พระไปก่อน จะได้ไหมค่ะ อีกอย่าง ฉัน ไม่สบายใจ เรื่องการที่ต้องมาจ่ายโดยตัวเองไม่พร้อม
รู้สึกเป็นกังวล อยากจะจ่าย เป็นก้อน ทีเดียวจบ (หลังจากนี้ อีกประมาณ เดือนกว่า ๆ ก็จะได้ เงินจากการทำงานแล้วค่ะ )
อีกเรื่องที่เป็นกังวลใจ คือ มีผู้ที่ทำงานก่อสร้างให้กับทางวัด ออกมาเขียนกระทูทิ้งไว้ในอินเตอร์เน็ต มากมายว่า วัด และคุณยาย รวมทั้งหลวงพ่อ
ว่าไปในทางที่ไม่ดี บอกตรง ๆ ตอนนี้ รู้สึกไม่ดี และ ไม่ชอบใจที่ทางวัด ถูกว่ากล่าวอยู่เสมอ ขอบคุณที่อ่านน่ะค่ะ / ยาวไปหน่อย ขอโทษด้วยค่ะ
#2
โพสต์เมื่อ 12 September 2009 - 05:00 PM
ส่วนใครจะว่าวัดอย่างไร ก็ขอให้คิดง่าย ๆ ว่าทุกสังคมมีทั้งคนดีและคนไม่ดี
เราเลือกในส่วนดี เลือกด้วยหัวใจเราที่เห็น จำ คิด รู้ จากสิ่งที่เราได้สัมผัส
ด้วยหัวใจเราเอง ไม่มีใครมาบังคับให้เราหายใจเข้า-ออกได้
และทางออกที่ดีที่สุดคือการทำใจหยุดนิ่งนะคะ
นั่งสมาธิเยอะ ๆ ใจผ่องใส ก็จะเจอแต่สิ่งดี ๆ เองค่ะ
อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
#3
โพสต์เมื่อ 12 September 2009 - 05:02 PM
ยังไงเราก็ทีมเดียวกัน ทีมหลวงพ่อครูไม่ใหญ่ เส้นทางวงบุญนี้ไม่ธรรมดาครับ
เรื่องสร้างองค์พระนั้น ก็แจ้งรหัสหลังไมค์มาครับ ผมจะช่วยเติมให้เต็มให้ ตามกำลัง ยังไงเสีย
ถ้าใครไม่เต็มครูไม่ใหญ่ ท่านก็เติมให้เต็มเองล่ะครับ แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องทำให้เต็มที่เต็มกำลัง ทำแบบก่อนทำใส ระหว่างทำใสสว่าง
และหลังทำก็สว่างไสวใสที่สุด ครับ นะครับ ใจเย็นๆๆ มองบวกไว้ครับ
คิดว่าป้าท่านเป็นผู้มีพระคุณกับเรา ถ้าป้าไม่กระตุ้นเราอาจจะหย่อนก็ได้ครับ
เช่น เมื่ออาทิตย์ต้นเดือนที่ผ่านมานี้เองครับ
ผมก็มีเงินติดตัวประมาณห้าพันบาท กะว่าทำหมดเลย ต้นเดือนนี้
ก็แบ่งทำ อันแรกนำร่องกฐินยาย บุญเศรษฐีถาวร บุญบวชพระเจ็ดพันรูป เจ็ดพันตำบล บุญบูชาข้าวพระ
หมดเงินพอดีไม่เหลือติดตัว กะจะไปกดที่เอทีเอ็มเอาข้างหน้า
กฐินยายกะว่าทำนำร่องไปก่อนห้าร้อย ก็เขียนใบทำบุญไปทำที่ตู้คอนเทนเนอร์ตามปกติ
ที่ช่องยี่สิบกว่านี่แหละ มีป้าท่านหนึ่งท่านก็อายุมากแล้ว ท่านพิมพ์มากฐินยายให้ผมห้าพันบาท
ผมรับใบโมทนาบุญมาดู อ้าวเราทำห้าร้อย แต่ป้าทำไมออกใบโมให้ผมห้าพัน ว๊า..สงสัยยายบอกทำน้อยไป
ผมก็ใสในใสมากขึ้นไปกดเอทีเอ็มกรุงไทย ที่หน้าบ้านยาย มาให้ป้าเพิ่ม โดยไม่ต้องแก้ไขใบอนุโมทนาบุญใหม่
ผมก็ใสยิ่งขึ้นไป ครับ ก็อยากจะให้กำลังใจ จขกท. ให้สู้ต่อไปครับ อย่ากังวล สัมมาอะระหัง ไปทุกๆ ลมหายใจ ครับ
ทุกอย่างจะดีเองครับ ผมก็มีงานอดิเรก ซื้อขายบ้าน ที่ดิน หุ้น ต่างๆครับ นิดหน่อย สองเดือนมานี้ผมก็ขายทาวเฮ้าส์ได้สองหลัง
ก็ได้เงินมาทำบุญ ตามกำลังเต็มกำลังครับ
ใครก็ตามที่มาต่อว่า หลวงพ่อ คุณยาย นั้นก็อย่าไปตำหนิเขา อย่าไปสู้ ให้ทำเป็นตัวอย่าง
เหมือนกับครูไม่ใหญ่ท่านแนะนำว่า ผิดที่เรายังอธิบายให้เขาฟังยังไม่ดี เราต้องอธิบายและทำให้เขาดู และให้เขาเข้าใจ
ถึงกระนั้นแล้ว ถ้าเขายังไม่เข้าใจ ก็ทำเหมือนหลวงปู่ท่านทำเป็นตัวอย่างให้ดูแล้วคือ ไม่สู้ ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป ครับ
คาดว่าความไม่สบายใจของ จขกท. กำลังก่อตัว ถ้าไม่ใชธรรมะเข้าระงับ จะกลายเป็นโทสะ ก็จะเป็นอันตรายครับ
เหมือนกับ อสุรินทกภารทวาชพราหมณ์ ได้ทราบว่าพราหมณ์ผู้ร่วมนามสกุลภารทวาชหลายคน ได้จากเรือนไปบวชในสำนักของพระพุทธเจ้าก็โกรธ จึงตรงไปด่าบริภาษพระผู้มีพระภาคถึงพระเวฬุวัน แต่พระผู้มีพระภาคทรงนิ่งเสีย ไม่ได้โต้ตอบ ฝ่ายพราหมณ์เมื่อเป็นพระผู้มีพระภาคทรงนิ่ง ก็ดีใจประกาศว่าเราชนะท่านแล้ว เราชนะท่านแล้ว ?
พุทธดำรัสตอบ
“ชนพาลกล่าวคำหยาบด้วยวาจา ย่อมสำคัญว่าวชนะทีเดียว แต่ความอดกลั้นได้ เป็นความชนะของบัณฑิตผู้รู้แจ้งอยู่ ผู้ใดโกรธ ตอบบุคคลผู้โกรธแล้ว ผู้นั้นเป็นผู้ลามกกว่าบุคคลผู้โกรธแล้ว เพราะการโกรธตอบนั้น บุคคลไม่โกรธตอบบุคคลผู้โกรธแล้ว ย่อมชื่อว่าชนะสงครามอันบุคคลชนะได้โดยยาก ผู้ใดรู้ว่าผู้อื่นโกรธแล้ว เป็นผู้มีสติ สงบอยู่ได้ ผู้นั้นย่อมชื่อว่าประพฤติประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย คือ แก่ตนและแก่ผู้อื่น เมื่อผู้นั้นรักษาประโยชน์ทั้ง ๒ ฝ่าย คือของตนและของผู้อื่น ชนทั้งหลายผู้ไม่ฉลาดในธรรม ย่อมสำคัญบุคคลนั้นว่า เป็นคนเขลา ดังนี้”
อสุรินทกสูตรที่ ๓ ส. สํ. (๖๓๖)
ตบ. ๑๕ : ๒๔๐ ตท. ๑๕ : ๒๒๗
ตอ. K.S. I : ๒๐๔
ท้ายนี้ขอให้กำลังใจ จขกท. สู้ต่อไปครับ
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#4
โพสต์เมื่อ 12 September 2009 - 05:08 PM
ถ้ารู้สึกว่าไม่พร้อมทำและใจหมองอยู่เสียแล้วก็บอกคุณป้าแกไปก่อนว่าตอนนี้หนูยังขัดสนอยู่และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคืออยากให้จิตใจสบาย ๆ ขึ้นกว่านี้อีกนิดเพื่อบุญที่ทำโดยคุณป้าเป็นกัลยาณมิตรด้วยจะได้ได้บุญใส ๆ ร่วมกัน อย่างไรหนูก็มีความตั้งใจทำบุญสร้างองค์พระให้เต็มองค์อยู่แล้วค่ะ . ก็คิดว่าน่าจะรู้สึกสบายใจขึ้นได้และไม่รู้สึกตึงเครียดกันไปทั้งสองฝ่าย ส่วนว่าติดใจเรื่องที่ทำบุญแล้วไม่ได้ใบอนุโมทนาก็ลองถามคุณป้าดูซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วเพราะเหตุผลแต่ละคนไม่เหมือนกันบางคนต้องการนำไปเป็นที่ตรึกระลึกให้นึกถึงเวลามองใบอนุโมทนาทีไรก็มีความสุขได้นึกถึงบุญต่าง ๆ ที่ได้ทำไป แต่บางคนก็นำไปลดหย่อนภาษี ก็แล้วแต่ลองถามคุณป้าแกดู หากยังไม่สบายใจในการทำบุญผ่านคุณป้าแล้วละก็ อาจจะมาร่วมปัจจัยทำบุญได้ด้วยตนเองที่วัดซึ่งทางวัดมีจุดรับปัจจัยอยู่แล้วและรอรับใบอนุโมทนาได้เลยในวันนั้น ยังมีช่องทางอื่นอีกที่สามารถร่วมบุญกับทางวัดได้ขอเพียงแค่คุณหมั่นเข้าวัดทุกอาทิตย์ คุณก็จะรู้และเข้าใจวิธีการทำอย่างไรให้ทำบุญแล้วมีความสุข และมีความสุขเมื่อได้ทำบุญ และยังได้เข้าใจเป้าหมายของหมู่คณะและมโนปณิธานของครูบาอาจารย์ของเรา
สาธุ จ๊ะ
#5
โพสต์เมื่อ 12 September 2009 - 07:59 PM
ตอนแรก ยังไม่แน่ใจเลยว่า จะมีคนมาตอบกระทู้นี้ หรือเปล่า แต่ตอนนี้ สบายใจมาก ๆ เลย ค่ะ
ต่อไปนี้ จะพยายามทำใจให้ใส ๆ ใสที่สุด ไม่มัวแต่ ระแวง แล้วค่ะ
อ่านความคิดเห็นของ คุณเถลิงเกีรติ แล้วรู้สึกดีจังค่ะ ของคนอื่น ๆ ก็ดีค่ะ ขอบคุณมากน่ะค่ะ
ที่หลวงพ่อท่านว่าทุกคนจำเป็นต้องมีกัลยาณมิตร มันดีอย่างนี้นี่เอง ขิอบคุณมากน่ะค่ะ
#6
โพสต์เมื่อ 12 September 2009 - 08:27 PM
เพราะคุณเถลิงเกียรติ์ และ ทุกท่านตอบไว้หมดแล้ว
อนุโมทนากับทุกท่านที่ใจใสใจสูงทุกท่านเลยค่ะ สาธู๊
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ
สุนทรพ่อ
#7
โพสต์เมื่อ 12 September 2009 - 09:38 PM
อนุโมทนาบุญครับ สาธุ สาธุ สาธุ.. จขกท.ใจใส แล้ว
บุญรักษาครับ
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#8
โพสต์เมื่อ 13 September 2009 - 08:06 AM
ถ้าทำแล้วใจหมอง ถวายที่ตู้คอนฯเลยครับ ได้ใบโมฯแน่นอน บุญไม่ตกหล่น
ได้ถึงสิ้นปีครับ แต่ถ้าเกินสิ้นปีก็อดครับ เพราะมีเจ้าภาพใหญ่รอปิดเจดีย์อยู่มาก
ทำบุญให้สบายใจนะครับ ถ้าทำแล้วไม่สบายใจบุญตกหล่น... บอกไปก็ได้ครับ ขอเลขกองถวายหลวงพ่อโดยตรงที่ตู้คอนฯ สาธุฯ
#9
โพสต์เมื่อ 13 September 2009 - 10:05 AM
ขออนุโมทนาบุญกับบุญทุกบุญ ของคุณเถลิงเกียรติด้วยครับ
#10
โพสต์เมื่อ 13 September 2009 - 12:36 PM
แล้วก็ไม่ได้เจอกัน หลายเดือน เจอกันอีกครั้ง เขาพยายามเดินหนีผม
ผมยังสงสัยอยู่นานว่า เขาเอาเงินไปทำบุญ หรือเปล่า หรือ อกุศลเข้าสิงจิต เอาไปใช้เอง
ผมว่า ไม่ควรฝากเงินใครไปทำบุญนะครับ ควรไปทำด้วยตัวเอง
ยิ่งลักษณะ คุณป้า เร่งรัด แบบไม่น่าไว้ใจ และไม่ได้ใบอนุโมทนาบัตร อีก
คราวหลัง ขอบัญชี ธนาคาร อุบาสิกาวัด ผู้ประสานงานภาค แล้วโอนเงินไปทำบุญก็ได้ครับ
ยังมีโอกาสไ้ด้ใบอนุโมทนาบัตร ได้มากกว่าครับ
#11
โพสต์เมื่อ 13 September 2009 - 03:52 PM
ถ้าระแวงก็แนะนำให้ทำด้วยตัวเองโดยไม่ต้องผ่านคุณป้าก็ได้ค่ะ
กัลยาณมิตรบางคนก็ขาดหลักจิตวิทยาค่ะ เข้าใจดีเพราะก็เข้าวัดต่อเนื่องมานานแล้ว
ก็ให้เลือกคนที่เราติดต่อด้วยแล้วใจใสๆนะคะ หรือไม่งั้นก็พูดให้ป้าเข้าใจไปเลยค่ะว่าทำให้เราใจขุ่น
ดิฉันเคยรู้สึกหงุดหงิดใจกับน้องอุบาสิกาท่านนึงในวัดมากๆ .... ก็ใช้วิธี เลิก ติดต่อกับเค้า ๆโทรมาก็ไม่เคยรับสาย
แต่ไม่เคยเลิกมาวัดค่ะ ยังคงมาวัดทุก อาทิตย์ ร่วมบุญทุกบุญ เพียงแต่เราเลือกได้ที่จะไม่ติดต่อกับคนที่ทำให้เราใจขุ่นค่ะ
ตอนหลังน้องอุบาสิกาท่านนั้นคงพอจะเข้าใจ ก็เลยเลิกมายุ่งวุ่นวายด้วยค่ะ เพราะบางที่เค้าเจตนาดี...แต่วิธีการไม่เหมาะสมค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้ ในการสร้างบารมีนะคะ สาธุ ค่ะ
#12
โพสต์เมื่อ 13 September 2009 - 06:38 PM
TVtoto
#13
โพสต์เมื่อ 13 September 2009 - 08:04 PM
- ยังไงก็...วางอย่างนุ่มนวล...ซ่อนความสุข ความสำเร็จ ความปรารถนาไว้ภายในนะครับ
- เห็นด้วยกับคุณ kasaporn ครับ หากมีเวลาทำด้วยตัวเองโดยไม่ต้องผ่านคุณป้าก็ได้...หรือเลือกคนที่เราติดต่อด้วยแล้วใจใสๆสบายๆ...บุญทับทวี
#14
โพสต์เมื่อ 14 September 2009 - 12:16 AM
การทำบุญมีได้หลายลักษณะ ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา
เรื่ององค์พระคงไม่ต้องห่วงยังไงก็เต็มอยู่แล้ว แต่ท่านเจ้าของกระทู้ต้องพยามทำด้วยตนเองอย่างเต็มที่นะครับ คือใจต้องได้ก่อนแล้วปัจจัยก็ค่อยๆหามาครับ เพราะถ้าใจขุ่นโอกาสจะเกิดปัจจัยคงยากนิดนึง ส่วนเรื่องกัลยานมิตรผมว่าก็ทำกับคนที่เราทำแล้วสบายใจดีกว่าครับ เพราะถ้าขุ่นผมว่าไม่ค่อยจะดีกับทั้งเราและเค้าเท่าไหร เอาให้ win-win ทั้งคู่สบายใจกว่าครับ และสุดท้าย อย่าลืมรักษาศีลและเจริญภาวนาให้ได้ทุกวันอย่างให้ขาดนะครับ สำคัญๆ
#15
โพสต์เมื่อ 18 September 2009 - 06:36 PM
หลวงพ่อเลื่อนให้ทำได้จนถึงปีหน้าไม่ใช่หรือค่ะ ถ้าจำไม่ผิด ท่านบอกตอนวันที่ 16/8/52
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป