บทฝึกวิสัยบัณฑิตแบบเป็นทีม
หลวงพ่อมีเรื่องที่จะต้องขอความร่วมมือให้พวกเราทุกคน ช่วยกันรักษาความสะอาดในบริเวณวัด โดยดำเนินรอยตามคำสอนของคุณยายอาจารย์ฯที่เน้นในเรื่องความสะอาดและความเป็นระเบียบ เพื่อเป็นต้นแบบให้กับคนที่มาภายหลัง ที่สำคัญก็คือการร่วมมือกันรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบนั้น ก็คือการฝึกวิสัยบัณฑิตแบบเป็นทีมนั่นเอง ซึ่งมีหลักสำคัญอยู่ ๕ ประการ ดังนี้
๑.ฝึกคนให้มีคุณภาพ
มีความจริงที่ปรากฎชัดเสมอว่า บุคคลมีคุณภาพ หรือมีวิสัยบัณฑิต ทำอะไรก็สำเร็จทุกอย่าง
เมื่อเริ่มลงมือสร้างวัด คุณยายถามหลวงพ่อว่า “เรามีที่ดิน ๑๙๖ ไร่เศษ ต้องใช้เงินสร้างวัดเท่าไหร่จึงจะเสร็จสมบูรณ์”
ตอนนั้นหลวงพ่อยังไม่ได้บวช ได้กราบเรียนคุณยายว่า “เรามีเนื้อที่ ๑๙๖ ไร่ เพราะฉะนั้น ขอหนึ่งร้อยล้านบาท ก็คงจะพอสร้างวัดให้เสร็จได้แล้วตอนนี้ยายมีเงินเท่าไหร่”
คุณยายหยิบเงินในถุงกระดาษมานับ “มีเงินอยู่ ๓๒๐๐ บาท”
“แล้วจะสร้างวัดเสร็จกันหรือยาย” หลวงพ่อถามด้วยความไม่แน่ใจ
“เสร็จ เพราะยายมีบุคคลที่ฝึกตัวเองดีแล้ว” คุณยายพูดให้กำลังใจ
จากนั้นคุณยายก็ถามหลวงพ่อและหมู่คณะว่า
“คุณ ถ้ารัฐบาลหรือเศรษฐี เขาให้เงินคุณมาร้อยล้าน แล้วตั้งใจฝึกคนให้รักการสร้างบารมีเป็นชีวิตจิตใจ คุณคิดว่าหมดเงินไปร้อยล้านแล้ว คุณจะสร้างคนแบบนี้ได้สักกี่คน
หลวงพ่อตอบคุณยายโดยไม่ต้องคิดมากเลย เพราะรู้ฤทธิ์อยู่ว่ากว่าจะเริ่มเป็นคนมาได้ โดนคุณยายเคี่ยวเข็ญโขลกเสียแทบแย่ จึงตอบว่า
“ยาย มันขึ้นอยู่กับการคัดคน ถ้าเราคัดคนเข้ามาฝึกดีล่ะก็ เงินร้อยล้านเบาะๆก็ต้องฝึกได้ ๑๐ คน แต่ถ้าเริ่มต้นคัดคนไม่ดีเข้ามาแม้เสียเงินไปร้อยล้าน อาจจะฝึกไม่ได้เลยสักคน ถ้าคัดได้คนดี ก็อาจคิดแบบเฉลี่ยว่า เงินร้อยล้านฝึกคนได้หนึ่งคน”
คุณยายยิ้มแก้มแทบจะปริเลย บอกว่า “ถ้าอย่างนั้นสร้างวัดสำเร็จ”
“สำเร็จอย่างไรยาย ก็มีเงินอยู่แค่ ๓๒๐๐ บาท”
“ก็คุณยายบอกไม่ใช่หรือว่า คนที่ฝึกตัวดีแล้ว มีค่าตัวร้อยล้านต่อคน ตอนนี้คนที่ฝึกตัวดีแล้ว นั่งอยู่ต่อหน้ายายมีตั้ง ๑๐ กว่าคน เท่ากับว่ายายมีเงินพันกว่าล้านแล้ว”
คำพูดนี้ คุณยายพูดไว้เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๓ ทำให้ได้เห็นว่า การที่จะทำอะไรให้สำเร็จนั้นต้องเริ่มต้นด้วยการฝึกคนให้มีคุณภาพเป็นอันดับแรก
วิสัยบัณฑิต
