มีหลวงพี่ที่วัดเมตตาให้พระของขวัญผมมาครับ ท่านส่งมาทางไปรยษณีผมยินดีมาก
เพราะเคยคิดว่าอยากได้สักองค์ แต่ผมไม่มีโอกาสไปร่วมบุญที่วัดเลย ส่วนใหญ่จะโอนไปครับ
เท่าที่ทราบมา การรับพระของขวัญต้องรับกับมือผู้พระ ผมอยากทราบต่อว่า
ทำไมต้องรับพระของขวัญกับมือครับ ไม่รับกับมือพระได้หรือไม่ครับ การรับกับมือ กับการไม่ได้รับการมือแตกต่างกันอย่างไรครับ
ขอบพระคุณครับ
ทำไมต้องรับพระของขวัญกับมือครับ
#1
โพสต์เมื่อ 19 December 2016 - 04:56 PM
#2
โพสต์เมื่อ 20 December 2016 - 09:35 AM
ถ้ารับกับมือ ใจจะจดจ่อตั้งมั่นมากกว่า แต่ทั้งนี้ท้ังนั้น คือ อยู่ที่สภาพใจเรา หากเรายังใจให้ปลื้ม ให้ใส ในระหว่างที่ได้รับของ ก็จะยังประโยชน์ไม่แตกต่างกัน แต่การอยู่ในสถานการณ์ที่มารับด้วยตนเอง จะกำหนดใจ หรือ มีความปลื้มปิตีได้มากกว่าค่ะ
#3
โพสต์เมื่อ 29 December 2016 - 12:06 PM
ระหว่าง A.การได้เห็นภาพถ่ายสวยๆในหนังสือ กับ B.การได้ไปสถานที่นั้นแล้วถ่ายภาพนั้นด้วยตัวเอง
แบบไหนน่าจะตรึงตา ตรึงใจ ถึงใจเป็นที่จดจำได้มากกว่ากัน เมื่อเวลาผ่านไปสัก 80 ปี แล้วเราย้อนนึกถึงภาพนี้อีกครั้ง ถามว่า เราจะจดจำภาพไหนได้มากกว่ากัน
สิ่งนี้... (ที่ได้เทียบไว้ข้างต้น) จะมีประโยชน์อะไรต่อเราขนาดนั้น
ท่านอาจสงสัยใช่ไหมครับ เมื่อก่อนผมอาจคิดว่า เป็นเรื่องไร้สาระ คงไม่มาใส่ใจในเรื่องคล้ายๆอย่างนี้ แต่เพราะ เมื่อหลวงพ่อธัมมชโย และครูบาอาจารย์ที่วัดพระธรรมกายได้แนะนำ สั่งสอน ย่อยธรรมะในพระไตรปิฎกออกมาให้ผมได้เรียนรู้ศึกษา กลับพบความสำคัญของ ธรรมชาติชีวิต บางแง่มุมว่า....
1.ก่อนตาย ถ้าใจไปเผลอนึกถึงเรื่องหมอง จะเป็นเหตุให้ไปเกิดในทุคติ ไปไม่ดี
2.ก่อนตาย ถ้าใจไปนึกถึงเรื่องผ่องใส บุญกุศล เรื่องที่เป็นเหตุให้ปลื้มปิติใจในกุศลธรรมความดีที่เคยทำ แน่นอน จะเป็นเหตุให้ไปเกิดใน สุคติภพ ไปดีนั่นเอง
3.ถ้ายังไม่หมดกิเลส ฟันธงว่า เมื่อตายจากชาตินี้ไปแล้วต้องไปเกิดใหม่ทุกรายไม่มียกเว้น
จากทั้ง 3 ข้อ เป็นธรรมชาติชีวิต ที่สำคัญมาก จึงเป็นที่มาว่า ทำไมที่วัดพระธรรมกายจึงมักจะเน้นสอนเรื่องที่สำคัญนี้มากๆ ให้กับคนส่วนใหญ่(ที่ยังไม่หมดกิเลส)เป็นหลัก ให้เตรียมตัวตายให้ถูก ให้ปลอดภัย ให้เรียนรู้ที่จะทำกุศล ด้วยใจที่ ปลื้มปีติมากกกกกกกกๆๆๆ เข้าไว้ จะดีที่สุด ทำไงก็ได้ให้ตัวเอง จดจำฝังใจในเรื่องกุศลธรรมให้มากกกกๆๆๆๆๆๆๆๆที่สุด เพื่อ... เพื่อ?
ก็เพื่อให้ ก่อนตาย นึกถึงความดีได้ง่ายๆ ตรึงตา ตรึงใจในทุกสิ่งที่ตัวเองเคยเกี่ยวข้องเช่น การมารับดวงแก้วหรือพระของขวัญด้วยมือตัวเองกับ พระอาจารย์ฯลฯ เป็นต้น แม้ผ่านไป 80-90 ปีแล้ว ก็ยังจำได้ดี... ตรงนี้แหละ จะเป็นเหตุสำคัญญให้เรา "มีโอกาส" ไปสู่สุคติภูมิ ได้งา่ยนั่นเองครับ
(ขยายความเผื่อว่า ท่านสงสัยว่า ทำไมต้องปลื้มกว่า ต้องปีติกว่า อะไรดีๆที่มัน ดีกว่า... มีดี มีประโยชน์ก็ตรงนี้แหละครับ ประการหนึ่ง)