ตัดสินใจอย่างไรดี???
#1
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 12:39 AM
สองปีก่อนบ้านก็โดนไฟไหม้
มีแต่เพียงที่ดินของคุณตาที่ประกาศขายอยู่
แต่ยังขายไม่ได้ ตอนนี้อยากหาปัจจัยมาปิดองค์พระให้ทันเวลา แต่ยังไม่เห็นหนทาง หนทางเดียวที่มีคือประกันชีวิตของผม ถ้าผมกลับตอนนี้ ปัจจัย500,000จะเป็นนของผู้รับตามที่ระบุในกรมธรรม์(พระราชภาวนาวิสุทธิ์) ซึ่งจะมากพอที่จะปิดองค์พระและที่เหลือก็ถวายตามความประสงค์ของหลวงพ่อ ผมจะกลับดีไหมครับ
#2
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 01:35 AM
#4
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 07:55 AM
ผมกลัวและเป็นห่วงจริงๆ ได้พบปะบ่อยๆ ในเว็ป ไม่นึกว่าเจ้าของกระทู้จะมีคิดที่ขนาดนี้
ธรรมดาเวลาใครเจอปัญหาลักษณะทำนองนี้ ผมมักแนะนำว่าอย่าห่างกัลยาณมิตร และครูบาอาจารย์
เชิญ เพื่อนสมาชิกให้กำลังใจและคำแนะนำอันเป็นทางออกที่ดีทั้งทางโลกและทางธรรมกับเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ
เรื่องที่ดินทีอยากจะขายก็ขอบุญหนุนนำให้ขายได้เป็นอัศจรรย์นะครับ
#5
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 08:13 AM
#6
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 08:40 AM
ปลดปล่อยโลกภายนอก เพื่อภาระกิจภายในเถิด อย่าไปกังวล ปิดองค์พระได้หรือไม่ได้นั้นไม่สำคัญเท่าว่าเราตั้งใจเต็มที่แล้ว...
#7
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 09:04 AM
กับข้อคิดเห็นของท่านโพธิ์แก้วค่ะ
ขอให้บุญส่งผลเร็วพลัน คิดสิ่งใดดีแล้วขอให้สมปรารถนาทุก ๆ ประการค่ะ
#8
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 10:10 AM
ถ้าปิดไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ถือว่าเราได้ทำสุดกำลังแล้ว
อย่างน้อยเราก็ไม่ได้นิ่งดูดาย ยังนับว่าเป็นผู้ร่วมสถาปนาผู้หนึ่งเช่นกันครับ
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#9
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 10:41 AM
เชื่อหรือไม่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า คุณจะได้นำมาเล่าด้วยความสนุกสนานว่าคุณผ่านช่วงชีวิตนั้นมาได้อย่างไร
แล้วจะมีน้องๆ หลายๆ คนที่จะเอาคุณเป็นแบบอย่างในการต่อสู้ชีวิต อย่าลืมนะครับทุกคนมีภารกิจที่มาเกิดเพียงแต่จำได้หรือเปล่าแค่นันเอง
เป็นกำลังใจนะครับ ว่าแล้วก็ขอฝากเพลง "อีกนิดนึง" ลองฟังดูนะครับ อาจมีบางท่อนที่โดนใจก็ได้ สู้ๆ นะครับ :-)
#10
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 12:02 PM
สักวันหนึ่งเราทุกคนได้กลับแน่ แต่สิ่งที่น่าคิดคือเราจะได้กลับดุสิตบุรีไปกับหมู่คณะหรือไม่
ตอนนี้เราเข้าถึงดวงธรรม เข้าถึงพระรัตนตรัยภายในหรือยัง
หมู่คณะที่เพิ่งเข้ามาก็เยอะ ไม่ทันการสร้างองค์พระก็มาก ผมเชื่อมั่นว่า หลวงพ่อท่านต้องมีเมตตามีโครงการดีๆ รองรับแน่ (อาจจะมีการสร้างองค์พระขนาดจิ๋วก็ได้) หลวงพ่อท่านไม่ทิ้งลูกๆแน่
ปิดองค์พระไม่ทัน ก็อย่าคิดมากเลยครับ ถ้าพยายามสุดๆ แล้ว
อดทนอีกนิดหนึ่ง ครับ หลวงพ่อท่านบอกว่า ชีวิต เป็นของน้อย สุขก็ชั่วคราว ทุกข์ก็ชั่วคราว แต่ชีวิตหลังความตายยาวนาน สุขก็สุขนาน ทุกข์ก็ทุกข์นาน
ผมเชื่อว่า ระดับท่านตำรวจรักบุญมีอะไรดีๆ เยอะ
ขอให้บุญรักษาครับ
#11
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 01:59 PM
ชีวิตเป็นของน้อย ต้องใช้ให้คุ้มค่าค่ะ
หลวงพ่อไม่ได้ต้องการเงินตรงนั้นหรอกค่ะ ท่านต้องการให้ลูก ๆ มาช่วยฟื้นฟูพระพุทธศาสนามากกว่าค่ะ
ถ้าทำอย่างที่ตำรวจรักบุญคิด จะต้องทำให้หลวงพ่อลำบากเสียบุญพาเรากลับดุสิตบุรี สู้เรามาช่วยท่าน และกลับดุสิตได้เองจะสง่างามมากกว่าค่ะ
สู้ สู้ นะคะ
สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ
ลูกพระธัมฯ หลานหลวงปู่ หลานคุณยาย
#12
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 03:23 PM
นี่เหรอที่บอกรักหลวงพ่อ แล้วมาทำกับหลวงพ่อท่านแบบนี้ได้ไง ทำกับหลวงพ่อที่ท่านรักแบบนี้ได้ไง
ไม่ใช่วิสัยของลูกพระธรรมแล้ว ลูกพระธรรมต้องใจสู้มากกว่านี้
ใจสู้เหรอเปล่า
ว่า แต่ให้เวป dmc.ตั้งกองช่วยจขกท.กันดีมั๊ยคะ
#13
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 03:29 PM
#14
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 04:21 PM
#15
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 07:25 PM
#16
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 07:28 PM
ถ้าคำว่า กลับ นี่ หมายถึง การไปทำร้ายตัวเอง เพื่อให้ได้เงินประกันชีวิตล่ะก็ ให้เปลี่ยนความคิดเสียเถิดครับ หลวงพ่อท่านมีข้อแนะนำว่า ใครที่คิดจะทำร้ายตัวเอง ด้วยวิธีการใดๆ ก็แล้วแต่ ให้เปลี่ยนมาใช้วิธีของหลวงพ่อ คือ ไปอธิษฐานจิตตอนหน้าหลวงปู่ฯ ปูอาสนะให้ดี แล้วอธิษฐานว่า จะนั่งให้เข้าถึงพระธรรมกายภายในคืนนี้ ถ้าไม่ได้ตายเถิด แล้วก็ลงมือนั่งลุยเลย เดี๋ยวใจนิ่งก็รู้คำตอบของปัญหาชีวิตเองแหละครับ
แต่ถ้า กลับ นี่ หมายถึง ไปบวชพระแสนรูป ถ้าอย่างนั้นก็ลุยบวชเลยครับ เรื่ององค์พระนี่ก็ปรึกษาพระอาจารย์ก่อนบวช เท่าที่ทราบ ผมเคยได้ยินเจ้าภาพบางท่าน จะช่วยทำบุญปิดองค์พระให้กับพระภิกษุถ้าท่านตั้งใจบวชยาว อย่างนี้ก็มีครับ
#17
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 07:41 PM
ที่อ่านแล้วเข้าใจความหมายจริงๆที่ต้องการสื่อ
#18
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 07:46 PM
#19
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 08:34 PM
...เอาเป็นว่า ถ้าปัญหาตอนนี้คือเงิน ถ้าไม่มีเงิน เราก็ทำบุญได้นี่ครับ ยังมีกายหยาบอยู่ ทำละเอียดได้ นั่งสมาธิได้ ให้ธรรมทานได้ บวชได้ บวชอุทิศชีวิตเพื่อหลวงพ่อก็ยังได้ หรือเป็นอาสาสมัครก็ได้ เป็นอุบาสกรับใช้งานพระศาสนาก็ได้ หรือเป็นอุปฐากก็ได้ ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ ไม่ได้ใช้เงินเลยนะครับ....
....การนำเงินก้อนสุดท้ายมาสร้างบารมี ก็ไม่ได้เป็นเรื่องน่าตกใจ หรือผิดจากความเป็นจริงของโลกใบนี้ เพราะท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ท่านก็ถวายทานพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจนหมดตัวเหมือนกัน ถ้าไม่ได้เทวดาผู้หลงผิดไปตามกลับมาเพื่อขอโทษที่ท่านไล่ไปอยู่ที่อื่นตอนไปบอกให้ท่านเศรษฐีเลิกทำบุญกับพระศาสดาแล้วล่ะก็ ท่านก็หมดหนทางเช่นกัน ...ให้เชื่อให้บุญ และรอให้บุญได้ทำงานของมันก่อน อย่างเพิ่งคิดตัดสินใจอะไรจากความเป็นอยู่ในขณะนี้ นั่นเป็นทางออกของผู้มีปัญญา เป็นทางออกของผู้มีครูบาอาจารย์สอนไว้ดีแล้วนะครับ ..ในเมื่อบารมีสร้างด้วยทรัพย์ไม่ได้ ก็อย่าได้ท้อหรือเสียศรัทธา หรือหมดกำลังใจ ตราบใด..เรายังไม่สิ้นลมหายใจไปเอง ตราบนั้นย่อมมีหนทางให้สู้ต่อ ต้องเชื่อในบุญนะครับ..
...หากการสร้างพระยังไม่สำเร็จเต็มองค์ ไม่ได้หมายความว่าเราเสียสัจจะ หรือ ทำงานพลาดแต่อย่างใด คุณทำเต็มที่เต็มกำลังอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันแล้ว ผลบุญส่งผลในตัวมันแล้ว บังเกิดฉัตรแก้วบนเทวรถแล้ว บุญไม่ได้ทิ้งเราเลย หากองค์พระไม่เสร็จ ระฆังก็ยังไม่ตีหมดเวลาไม่ใช่หรอครับ? ทำไมไม่มองประชาชนทั่วๆไปที่คุณรู้จัก ชวนเขามาร่วมสร้างองค์พระทั้ง 4 กับคุณล่ะ? เขารอจะสร้างพระ รอจะทำบุญใหญ่อยู่ แต่คุณไม่คิดชวนหรือเปิดโอกาสปิดอบายให้คนเหล่านั้นหรอครับ? องค์พระของผม ทั้ง 3 ผมสร้างด้วยเงินของคนรู้จักและไม่รู้จักทั้งสิ้นนะครับ นี่คือความปลื้มและความสำเร็จของผม ใครจะยังไงเราไม่รู้ เราไม่สน แต่เป้าหมายของเราต้องเด่นชัด สำคัญที่สุด และเดินตามเป้าหมายโดยไม่ย่อ ไม่หย่อน ไม่ทิ้งไปแม้เพียงเล็กน้อย นี่แหละคือนักสร้างบารมีผู้ไม่หวั่นต่อพญามารและอุปสรรค ผมว่าคุณก็เป็นได้...
....เงินประกัน เป็นเงินของอนาคต เป็นเงินคนอื่น เขาจะจ่ายเราจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ บริษัทอาจชอร์ตหรือเบี้ยวก็ได้ ซึ่งหลายคนเคยพยายามมองเงินส่วนนั้นเป็นหลัก ซึ่งเป็นการคิดที่ไม่ถูกต้องเลย ผมว่าเรามีเป้าหมายหาเงินจากน้ำพักน้ำแรงเราดีกว่า ได้เท่าไหร่ เอาเท่านั้น ชีวิตเป็นของน้อย แม้นมีน้อย แต่ต้องไม่ใจน้อย ไม่ทันไรก็ต้องตายกันหมดทุกคนอยู่แล้ว ตายแบบปลื้มดีกว่าตายแบบหมอง หมองที่งานไม่เสร็จ หรือหมองที่ตัดสินใจผิด แบบนี้ผมว่าเป็นความพลาดอย่างรุนแรงนะครับ ปัญหาของชีวิต ต้องจบด้วยสมาธิ จบด้วยบุญ บารมีทุกๆบุญที่สร้างกันมาอย่างยากลำบาก ไม่ใช่จบด้วยชีวิต....
...สู้ต่อเถิด นักรบกล้า หมู่คณะเราไม่เคยทอดทิ้งกัน แม้จะอดตายก็ให้ตายไปเลย แต่จะไม่ท้อให้เห็นกัน สู้จนกว่าหลวงพ่อจะยิ้ม และสู้จนกว่าเราจะยิ้มด้วยกัน และพบกันที่วงบุญพิเศษนะครับ..
#20
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 08:56 PM
อย่าลืมกายเนื้อ ทำบุญเพียงเล็กน้อยยังมีอานุภาพมาก
เก็บกายเนื้อไว้นานๆ ทำบุญไปเรื่อยๆ
#21
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 09:28 PM
#22
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 10:02 PM
ที่อ่านแล้วเข้าใจความหมายจริงๆที่ต้องการสื่อ
คุณโพธิ์แก้ว พูดเป็นสองประเด็นคือ บวช กับ ถ้าไม่สบายใจก็เล่าสู่กันฟัง แล้วประเด็นไหนล่ะครับนี่
ก่อนที่คนไข้จะได้รับยาจากหมอ ต้องเล่าอาการให้หมอฟังก่อน จะได้จ่ายยาให้ถูกกับโรค คุณตำรวจอยากได้คำแนะนำที่เหมาะสม ก็เล่าสู่กันฟังให้หมดเปลือกดีไหมครับ เพื่อนๆ ในเวปดีเอ็มซีพร้อมจะให้คำแนะนำและกำลังใจ
อย่าให้คนแก่อย่างลุงบ่าวลุ้นจนตัวโก่งเลย โอ้ย จะเป็นลม ขอไปนั่งสมาธินิดหน่อย แล้วมาตามดูใหม่
แต่เห็นคุณตำรวจล็อกอินเข้ามาก็ดีใจไปเปราะหนึ่ง คนแก่คิดมาก เฉลยมาทีเถอะพ่อคู๊ณ
#23
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 10:07 PM
#24
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 10:08 PM
...
แน่ใจหรือครับว่าที่จะกลับไปมันดีที่สุดแล้ว
#25
โพสต์เมื่อ 22 March 2010 - 07:53 AM
คิดอะไรไม่ออก ให้ออกจากความคิด !!!!!!!!!!!!!!!!!!
แล้วทิ้งทุกอย่าง วางทุกสิ่ง นิ่งอย่างเดียว
นักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาเป็นศิษย์มีครูที่ดีที่สุดในโลกแล้ว
หากฟังคำครู ตรึก ทำความเข้าใจว่าท่านสอนอะไร แล้วนำมาใช้
แก้ปัญหา เหมือนกับว่านี่คือข้อสอบธรรมะ ในวิชชาชีวิต ที่มีผลสอบ
ตามติดตัวเราไปข้ามภพ ข้ามชาติทีเดียว สอบผ่านก็ได้ออกจากคุก
(โลกสาม:กามภพ รูปภพ และอรูปภพ) เร็วขึ้น เมื่อพระชนะมารจริง ๆ
ข้อดีของข้อสอบนี้หรือปัญหานี้คือเราไม่จำเป็นต้องทำคนเดียว เรายังมีกัลยาณมิตร
ที่คอยห่วงใย ให้กำลังใจ ช่วยเหลือกันและกัน หากท่านไม่ปิดตัวเองซึ่งผิดหลักธรรมชาติของการเกิด
มาเป็นคนเพราะคนเป็นสัตว์สังคมที่ต้องพึ่งพาอาศัยกันและกัน ควรจะดูแลกัน ครูของเราถึงได้ประกาศว่า
ท่านจะรื้อสัตว์ขนสัตว์ไปฝั่งพระนิพพานให้หมด แม้นว่าท่านจะต้องไปเป็นคนสุดท้ายก็ตาม..............
ฉะนั้นปัญหามี ก็แก้กันไป ตามหลักวิชาที่ท่านสอนเรานะคะ คุณตำรวจรักบุญก็เคยบวชพระสองชั้นมาแล้ว
ถ้าจำไม่ผิด ภูมิธรรมภูมิรู้ก็มีมาก ข้อสอบนี้แกล้งสมมุติขึ้นมาหรือเปล่าชักสงสัยค่ะ แต่อย่างไรก็ดีขอเอาใจ
ช่วยค่ะ และขออภัยด้วยหากผิดพลาดประการใดๆ
#26
โพสต์เมื่อ 22 March 2010 - 08:16 AM
ลองปรึกษาตัวแทนประกันที่ท่าน ทำประกันไว้สิคะ
#27
โพสต์เมื่อ 22 March 2010 - 10:28 AM
งานพิเศษถ้าเป็นงานที่ใช้เวลา2-3วันแล้วได้เงินก้อนเลยถึงจะแบ่งเวลาไปทำได้ครับ
086-7510074
เรื่องการบวชคงต้องจัดการปัญหาด้านการเงินช่วยทางบ้านก่อน จึงจะลาออกไปบวชได้ครับ
ขอโทษที่ทำให้กังวลครับ
เคยมีหลวงพี่รูปหนึ่งท่านบอกว่า
"เราเป็นลูกพระธัมฯทำอะไรแล้วต้องสำเร็จเสมอ ถ้าทำแล้วล้มเหลวไม่สำเร็จก็ไม่ใช่ลูกพระธัมฯ" ผมอยากทำบุญนี้ให้สำเร็จครับ
#28
โพสต์เมื่อ 22 March 2010 - 11:12 AM
#29
โพสต์เมื่อ 22 March 2010 - 11:36 AM
#30
โพสต์เมื่อ 22 March 2010 - 12:39 PM
๔ องค์ ยังคิดมากขนาดนี้ แล้วคนที่ ขาดอีก ๕๒ องค์ จะทำอย่างไรดี
อนุโมทนา บุญ กับคำแนะนำดีๆทั้งหมด ครับ