ทำบุญแต่กังวลใจ
#1
โพสต์เมื่อ 29 June 2010 - 04:14 PM
แถวนครปฐม...แต่ด้วยความที่เราเองทุนทรัพย์น้อย..คนรู้จักก็น้อย แต่มีศรัทธาคิดว่าอยากจะถวาย เลยจัดตั้งเป็นผ้าป่ารวมร่วมเงินเพื่อจัดซื้อพระไตรฏิฏกพร้อมตู้ ตอนนั้นไปโพต์ในเวปไซน์เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาเวปนึ่ง ตอนที่โพสต์เหลือเวลาเพียง 2 อาทิตย์เท่านั่น เงินที่จะซื้อยังขาดอีกมาก ในใจก็มีความกังวลมากกลัวว่าจะทำไม่สำเร้จ....จนวันสุดท้ายได้เงินร่วมทั้งสิ้นเกือบ 40000 บาท สรุปซื้อพระไตรปิฏกและตู้ได้แล้ว ยังมีเงินเหลือทำผ้าป่าสมทบสร้างศาลาอีกจำนวนนึ่ง.... แต่วันที่ถวายรู้สึกมันวุ่นวายมากๆ เลยไม่ค่อยสงบ...มันมีกังวลอยู่ในใจหลายเรื่อง
*** จึงอยากถามพี่ๆว่า...ทำบุญแต่มีกังวลแบบนี้จะมีอานิสงค์เต็ม 100 มั้ยค่ะ...
***ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ....
#2
โพสต์เมื่อ 29 June 2010 - 08:06 PM
บุญส่งผลทั้ง ก่อนทำ ขณะทำ และหลังทำ ถ้าปลื้มมากก็ได้บุญมากค่ะ
#3
โพสต์เมื่อ 29 June 2010 - 09:46 PM
#4
โพสต์เมื่อ 29 June 2010 - 10:21 PM
เล่าเรื่องได้เห็นภาพความตั้งใจจริงมากๆๆๆๆ สาธุๆ ครับ
#5
โพสต์เมื่อ 29 June 2010 - 10:49 PM
ธรรมดาที่การคิดทำบุญใหญ่ที่ทำได้ยากอย่างนี้
ย่อมต้องมีให้คิดให้ทำมาก ยิ่งคนที่เป็นกำลังหลักด้วยแล้ว
อาจดูเหมือนว่าวุ่นวาย(กายหยาบเท่านั้นที่วุ่นวาย)
แต่ใจ(กายที่ละเอียดกว่า)ของคุณตอนนั้น
คงจดจ่ออยู่กับงานบุญตรงหน้า ตั้งใจจะทำไห้สำเร็จ
และด้วยการที่ใจจดจ่อกับภาระกิจนี้
ทำให้บุญนี้ถูกกลั่นในกลางศูนย์โดยที่คุณไม่รู้ตัว
ทำให้บุญนี้สำเร็จเป็นอัศจรรย์ แบบเกินควรเกินคาดอย่างที่เห็น
เพราะฉะนั้นตอนนี้จึงไม่ควรวิตกว่าที่ทำมาได้บุญเท่าไหร่
มากน้อยอย่างไร
แต่ควรทำใจให้ปลื้มในบุญที่ทำได้ยากนี้
แต่เราก็สามารถทำให้สำเร็จได้
เมื่อคุณสามารถบอกบุญมาทำผ้าป่าได้อย่างเกินควรเกินคาด
สำเร็จเป็นอัศจรรย์อย่างนี้
ขอให้มั่นใจเถิดว่าอานิสงค์ของบุญนี้
ย่อมจะอัศจรรย์เกินควรเกินคาดอย่างแน่นอน
ขอให้ผมได้มีส่วนในบุญนี้ด้วยแม้เพียงหนึ่งส่วนสิบหกจะได้ไหมครับ
ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยนะครับ สา...ธุ สา...ธุ สา...ธุ
#6
โพสต์เมื่อ 29 June 2010 - 11:03 PM
ถ้าขณะนี้ไปกังวลแสดงว่า เราไม่ได้ปลื้มหลังจากทำนะครับ
อดีตที่ผ่านไปอย่าไปจำเลยครับ
บุญนี้บุญใหญ่ ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยนะครับสาธุ
เพราะขาดแม้เพียงวันเดียว ใจเราจะหยาบ ทำให้ผังวิตกกังวลได้ช่อง
#7
โพสต์เมื่อ 29 June 2010 - 11:24 PM
#8
โพสต์เมื่อ 30 June 2010 - 09:52 AM
ก่อนที่จะให้ทานเกิดความดีใจ อานิสงส์แห่งบุญย่อมส่งผลในภพชาติหน้า ให้ชีวิตในปฐมวัย (ตั้งแต่เกิดถึงอายุ 25 ปี1) ของผู้นั้นพบแต่ความสมบูรณ์พูนสุขเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งดีงาม
ขณะที่ให้ทาน เกิดความเลื่อมใส อานิสงส์แห่งบุญย่อมส่งผลในภพชาติ หน้า ให้ชีวิตในมัชฌิมวัย (อายุ 26-50 ปี) ของผู้นั้น พบกับความสุข ความสบาย บริบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์สมบัติ
หลังจากที่ให้ทานแล้ว เกิดความเบิกบานใจ ไม่เสียดายทรัพย์ อานิสงส์แห่งบุญย่อมส่งผลในภพชาติหน้า ให้ชีวิตในปัจฉิมวัยของผู้นั้น (อายุ 51 ปี ขึ้นไป) ถึงพร้อมด้วย ความสุข สมหวังในสิ่งอันพึงปรารถนาทุกประการ สามารถใช้ทรัพย์ได้อย่างเบิกบานใจ ไม่เป็นเศรษฐีที่มีความตระหนี่ถี่เหนียว
และเมื่อผู้ใดสามารถรักษาเจตนาให้บริสุทธิ์ครบทั้ง 3 ระยะอย่างนี้ได้ ก็ย่อมได้บุญมาก และมีความสุขสมบูรณ์ไปจนตลอดชีวิต
"บุคคลพึงรีบขวนขวายในความดี พึงห้ามจิตเสียจากบาป
เพราะว่า เมื่อบุคคลทำความดีช้าอยู่ ใจจะยินดีในบาป
-----------
เพิ่มเติมตามเนื้อหาข้างต้นครับ
#9
โพสต์เมื่อ 30 June 2010 - 06:37 PM
บุญนี้สำเร็จแล้ว เต็มร้อย% แต่ภาชนะที่ใส่เปิดรับได้เท่าใด อยู่ที่ใจขุ่นหรือใส ถ้านึกถึงบุญได้เรื่อยๆบ่อยๆ บุญทับทวี ปิติสุขเกิด เหตุนี้ทุกครั้งที่ทำบุญหลวงพ่อจะให้นั่งสมาธิกลั่นกายวาจาใจ ก่อนทำบุญใหญ่ทุกๆครั้ง...
แต่มีเหตุให้กังวล ถ้าจะตัดกังวลก็ตัดที่เหตุ ทำทุกอย่างให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ ชัดเจน ตรงไปตรงมา ใบโมฯหรือพระของขวัญที่พึงมี ก็ออกในนามเจ้าภาพ คำแนะนำเก็บไว้คำนินทาว่าร้ายปล่อยไป
ขออนุโมทนาบุญอีกครั้งครับ
#10
โพสต์เมื่อ 01 July 2010 - 05:19 AM
ส่วนตอนนี้ จขกท พยายามหมั่นนึกถึงบุญที่ได้ทำนะครับ
สาธุุ ครับผม
#11
โพสต์เมื่อ 01 July 2010 - 10:58 AM
คือความกังวลเกิดจาก...ความตั้งใจของเราที่จะทำโครงการ จะสำเร็จรึเปล่า.(ช่วง3-5 วันก่อนถวาย) เพราะตอนนั้นยอดเงินที่ได้ยังไม่ครบค่ะ
และตอนถวายอารมณ์ก็มีขุ่นๆนิดๆ...เนื่องจากวันงานวุ่นวายมาก ( หลงทางหาทางไปวัดไม่ถูก เพราะไปครั้งแรกค่ะ)
และเมื่อกลับจากถวายแล้ว เกิดปิติสุขเป็นอย่างมาก...นึกถึงบุญนี้ตลอด (เพราะตั้งใจว่าขอถวายพระไตรปิฎกเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาสักครั้งในชีวิต และแล้วเราก็ทำสำเร็จนะ...แม้เงินเราจะน้อยแต่โครงการทำบุญใหญ่ครั้งนี้เราก้ยังทำได้...ดีใจจังเลย)
ทุกวันนี้ยังคิดนึกบุญ และคิดถึงกัลยาณมิตรทุกๆท่านที่ช่วยจนโครงการนี้สำเร็จ...บางครั้งยังนึกๆ ว่าพวกเค้าเหล่านั้นทำไมจึงมาร่วมทำบุญกับเรามากขนาดนี้
#12
โพสต์เมื่อ 01 July 2010 - 11:02 AM
ส่วน
ไม่ทราบรายละเอียด
จึงขอตอบรวม ๆ ว่า
คงได้อานิสงส์ ไม่เต็มร้อย ไม่เกินร้อย อย่างที่ควรจะเป็น
หรือ ได้มาก แต่มีอุปสรรคขัดขวาง ตัดรอนบ้าง
ผมคิดว่า
การทำความดี เช่น ทานกุศล หรือชวนคนมาทำความดี นั้น ดี และมีอานิสงส์ มากแน่นอนครับ
ส่วน ความกังวลใจ ใจหมอง ไม่ผ่องใส หรือเสียดาย ใจหมอง น้อยใจ ในภายหลัง นั้น
มันต่างกรรม ต่างวาระ แต่วาระมันใกล้กัน ติดกัน
ดังนั้นวิบากคือ ผลแห่งการระทำความดี คงได้อานิสงส์ น้อยกว่าที่ควรจะเป็น
หรือ ได้มาก แต่มีเรื่องมาขัดขวาง ตัดรอนบ้าง
เช่น
เมื่อได้ทรัพย์ เจอคนดี ๆ เหตุการณ์ดี ๆ โอกาสดี ๆ
แต่ ไม่มีความสุข สดชื่น สมหวัง มากอย่างที่ควรจะเป็น
สาเหตุเพราะ ขณะทำกรรมดี ในวาระนั้น ๆ คุณภาพใจ ใส บริสุทธิ์ไม่เต็มที่
ลองนึกถึงภาพ สายแห่งดวงบุญ ที่มีดวงบุญใส ๆ สลับกับดวงบุญที่ไม่ใส แถมมีดวงหมอง ๆ แทรกเข้ามาอีก
ก็น่าจะพอเข้าใจนะครับ ว่า วิบากของการทำความดีครั้ง นั้น ๆ จะออกมาแบบไหน
ข้อคิด คือ การทำความดี ทุกครั้ง จึงควรมีศิลปะในการบริหาร รักษาใจตนเองและหมู่คณะให้ผ่องใสเต็มที่
ไม่งั้น ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ จากการความดีครั้ง นั้น ๆ อาจมีวิบัติติดมาด้วย
บางเรื่องติดชั่วคราว บางเรื่องแม้ชั่วคราว เช่น รูปสมบัติ แต่ก็อยู่กับเราทั้งชาตินะครับ
สรุปว่า
ทำอย่างไรก็ได้ ใช้กุสโลบายใด ๆก็ได้ ใช้ศิลปะบริหารงานบุญและคน ที่อยู่ในความรับผิดชอบอย่างไรก็ได้
ที่ตนเองและหมู่คณะ ใจใส สะอาด เกลี้ยงเกลาจากกิเลส ใจบริสุทธิ์อยู่ในบุญธาตุให้มากที่สุด
หรือ มีสภาวะใจหมอง จากเหตุใด ๆ เช่น จากการกระทบกระทั่ง ให้น้อยที่สุด
แม้จะยาก เพราะหลาย ๆ งานบุญ เสกลงานใหญ่มาก ๆ
มีคน(มนุษย์ที่ยังไม่หมดกิเลส) ที่ต้องเกี่ยวข้องเยอะมาก
และเครื่องมือมีน้อยมาก
ขอเพียงแต่ เราตั้งใจทำใหดีที่สุด ในศักยภาพของเรา ก็สมควรภาคภูมิใจและน่าสรรเสริญ มากแล้วครับ
#13
โพสต์เมื่อ 01 July 2010 - 11:04 AM
ไฟล์แนบ
#14
โพสต์เมื่อ 01 July 2010 - 11:10 AM
คือวันนั้นมีเจ้าภาพอีกกลุ้มนึ่งเค้ามาร่วมกันหล่อพระ...เราเลยมีโอกาสทำบุญกะเค้าด้วย...โขคดีจริงๆ
ไฟล์แนบ
#15
โพสต์เมื่อ 01 July 2010 - 11:15 AM
จงร่วมอนุโมทนาบุญและ ได้รับเช่นเดียวกับข้าพเจ้าด้วยเถิด...
#16
โพสต์เมื่อ 01 July 2010 - 11:29 PM
#18
โพสต์เมื่อ 03 July 2010 - 02:57 PM