โลกุตรฌานสมาบัติ
คือ การเข้าสู่ภาวะสมาธิที่ลุ่มลึก เคลื่อนเข้าสู่ภายในอย่างเรื่อยๆ สามารถกำหนดเวลาที่จะออกจากสมาบัติได้ แล้วก็จะไม่ออกจากสมาบัติจนกว่าเวลานั้นจะมาถึง
เฉพาะผู้ที่หมดกิเลสแล้วเท่านั้น จึงจะสามารถทำได้
เกร็ดเล็กๆ
เริ่มโดย Omena, Jan 13 2006 07:38 AM
มี 7 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 13 January 2006 - 07:38 AM
#2
โพสต์เมื่อ 13 January 2006 - 08:53 AM
อยากทราบประวัติเกี่ยวกับ พระอุปคุตเถระเจ้า ที่เข้าฌานสมาบัติ อยู่ ใจกลางมหาสมุทร รอจนกว่าจะถึงศาสนาของพระศรีอริยเมตรัยสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงจะเข้าสู่ พระนิพพาน
และในอดีต พระบางรูปในประเทศเรา เคยเดินทางออกธุดงค์ ไปในป่าลึก พบพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ นั่งหลับตาทำความเพียรอยู่ตามถ้ำในป่าลึก หลังจากได้กลับจากธุดงค์ก็กลับมาสร้างวัดวาอารามเวลาผ่านไปเป็นสิบๆปี ก็ได้ออกธุดงอีก กลับไปยังสถานที่เดิมๆ ก็ยังพบพระรูปนั้นยังนั่งหลับตาทำความเพียรอยู่เหมือนเดิม บางรูป นั่งจนจอมปลวกเกาะขึ้นท่วม และบางรูป มูลค้างคาวในถ้ำสูงขึ้นมาถึงช่วงเอว ท่านเหล่านั้น ยังคงหลับตานิ่ง ไม่ไหวติง แบบนี้ เรียกว่านิโรธสมาบัติหรือป่าวครับ
และในอดีต พระบางรูปในประเทศเรา เคยเดินทางออกธุดงค์ ไปในป่าลึก พบพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ นั่งหลับตาทำความเพียรอยู่ตามถ้ำในป่าลึก หลังจากได้กลับจากธุดงค์ก็กลับมาสร้างวัดวาอารามเวลาผ่านไปเป็นสิบๆปี ก็ได้ออกธุดงอีก กลับไปยังสถานที่เดิมๆ ก็ยังพบพระรูปนั้นยังนั่งหลับตาทำความเพียรอยู่เหมือนเดิม บางรูป นั่งจนจอมปลวกเกาะขึ้นท่วม และบางรูป มูลค้างคาวในถ้ำสูงขึ้นมาถึงช่วงเอว ท่านเหล่านั้น ยังคงหลับตานิ่ง ไม่ไหวติง แบบนี้ เรียกว่านิโรธสมาบัติหรือป่าวครับ
#3
โพสต์เมื่อ 13 January 2006 - 04:18 PM
นิโรธสมาบัติ กับ สมาธิตัวแข็ง ดูเผินๆ เหมือนคล้ายๆ กันครับ โดยปรกติคนธรรมดา จะดูไม่ออก เพราะไม่รู้ใครเป็นพระอรหันต์ ต้องผู้มีรู้มีญาณ จึงจะทราบครับ
แต่โดยปรกติ จะเป็นอาการของสมาธิตัวแข็ง คือ นั่งสมาธิแล้วนิ่งอยู่ในท่านั้นไม่ขยับเลย ถ้าใครไปจับแขนยกขึ้นยกลง แขนก็จะอยู่อย่างนั้น (ลองนึกภาพเวลาจับหุ่น ยกแขนขึ้นลงไปมา แขนก็จะเป็นอย่างนั้น) สำหรับสมาธิตัวแข็งนั้น ถ้าใครไม่รู้จะเข้าใจว่า ผู้ฝึกนี่สุดยอด แต่ความเป็นจริง ยังไม่อาจหลุดพ้นได้ครับ ผู้ที่ทำสมาธิตัวแข็งนี้ เมื่อละโลก จะเป็นเกิดเป็นพรหมชั้น อสัญญีสัตตา หรือ พรหมลูกฟัก
เวลาตาย ถ้าตายอิริยาบถไหน เช่น ตายตอนยืน เวลาไปเป็นพรหม ก็จะเป็นพรหมที่ยืนตัวแข็งอย่างนั้นแหละ ถ้าตายตอนนั่ง เวลาไปเป็นพรหม ก็จะเป็นพรหมที่นั่งไม่ขยับ จนกว่าจะหมดอายุขัย เลยทีเดียว
และถ้าทำสมาธิไปในแนวนี้ จะไม่เข้าถึงพระธรรมกายครับ (คือไม่หลุดพ้นนั่นเอง)
แต่โดยปรกติ จะเป็นอาการของสมาธิตัวแข็ง คือ นั่งสมาธิแล้วนิ่งอยู่ในท่านั้นไม่ขยับเลย ถ้าใครไปจับแขนยกขึ้นยกลง แขนก็จะอยู่อย่างนั้น (ลองนึกภาพเวลาจับหุ่น ยกแขนขึ้นลงไปมา แขนก็จะเป็นอย่างนั้น) สำหรับสมาธิตัวแข็งนั้น ถ้าใครไม่รู้จะเข้าใจว่า ผู้ฝึกนี่สุดยอด แต่ความเป็นจริง ยังไม่อาจหลุดพ้นได้ครับ ผู้ที่ทำสมาธิตัวแข็งนี้ เมื่อละโลก จะเป็นเกิดเป็นพรหมชั้น อสัญญีสัตตา หรือ พรหมลูกฟัก
เวลาตาย ถ้าตายอิริยาบถไหน เช่น ตายตอนยืน เวลาไปเป็นพรหม ก็จะเป็นพรหมที่ยืนตัวแข็งอย่างนั้นแหละ ถ้าตายตอนนั่ง เวลาไปเป็นพรหม ก็จะเป็นพรหมที่นั่งไม่ขยับ จนกว่าจะหมดอายุขัย เลยทีเดียว
และถ้าทำสมาธิไปในแนวนี้ จะไม่เข้าถึงพระธรรมกายครับ (คือไม่หลุดพ้นนั่นเอง)
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#4
โพสต์เมื่อ 13 January 2006 - 05:56 PM
QUOTE
บางรูป มูลค้างคาวในถ้ำสูงขึ้นมาถึงช่วงเอว ท่านเหล่านั้น ยังคงหลับตานิ่ง ไม่ไหวติง แบบนี้ เรียกว่านิโรธสมาบัติหรือป่าวครับ
อย่างรูปนี้ผมเคยดูผ่านรายการทีวีนานมาแล้วจำช่องไม่ได้ครับ มีจริงๆ ขี้ค้างคาวท่วมถึงเอวเลยครับ ป่านนี้คงถึงอกแล้วหละครับ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าท่านเข้าฌานหรือนิโรธสมาบัติครับ ไม่กล้าวิจารณ์ผู้มีภูมิธรรมสูงกว่าหนะครับ 555
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#5
โพสต์เมื่อ 14 January 2006 - 03:13 AM
ขอตอบเสริมจากพี่หัดฝันนะครับ การที่อสัญญีสัตตาพรหมมีสภาพเป็นเช่นนั้นก็เพราะ พรหมจำพวกนี้ เสวยอารมณ์แห่งองค์ฌาน (ปัญจมฌาน) คือ อุเบกขา แต่เพียงเท่านั้น และจะต้องอยู่ในอิริยาบถดังกล่าวนานถึง ๕oo มหากัปเลยทีเดียว
#6 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 14 January 2006 - 04:22 PM
ผมไม่ทราบครับว่าท่านหล่านั้นเข้านิโรธสมาบัติหรือเปล่า
เท่าที่ทราบหากเรียนรู้จริงๆ
จากสมเร็จสังฆราชสุกไก่เถื่อนผู้สำเร์จการย้ายฐาน7ฐาน
และตั้งจักระพืสดารแบบทิเบตที่ไล่ล่าปราบมารอีกกลุ่มหนี่งแบบมหายาน
ลองไปอ่านดู
การโยกฐานจิตตามส่วนต่างๆร่าวกายแท้จริงเป็นกลยุทธ์
สู้กิเลส---การปล่อยเก็บพลังจิตทางตาที่3
สูบพลังจากพระนิพพานเข้าเก็บที่กลางท้อง--เพี่มสมาบัติต่อท่อทะเลบุญสมบัติจักพรรติ
สูบพลังจากดวงดาว---จากธรรมชาติ--เข้าเก็บกลางท้อง--มีชีวิตข้ามกับ
เท่าที่ทราบ
ไม่แน่ชัดนะครับ
ว่าที่คอหอ----หรือท้ายท้อย--จำไม่ได้แน่ชัดจุดนี้แหละ
ที่ปรมัตถ์โพธิสัตว์---อนาคามิ---พระอรหันตื---โพธิสัตว์ปราบมาร
เป็นจุดที่ใช้เข้านิโรธิ
สมเด็จสุกไก่เถื่อนกล่าวไว้ว่าจุดนี้แหละ
เป็นจุดที่ถอนไถ่หลบบาปกรรมทั้งปวง
จุดที่เข้านิโรธใครที่หาพบก็เข้านิโรธได้ทั้งนั้น
เขาเก็บจิตไว้ตรงนี้
ลองไปหาอ่านดูนะครับท่านสอนละเอืยดมาก
วิชชาธรรมกายว่ามากมายแสนพิสดาร
วิชชาสมเด็จสุกพิสดารไปอีก7เท่า
มหายานกับหินยานพบกันที่สมเร็จสุก
จักรตะวัน
เท่าที่ทราบหากเรียนรู้จริงๆ
จากสมเร็จสังฆราชสุกไก่เถื่อนผู้สำเร์จการย้ายฐาน7ฐาน
และตั้งจักระพืสดารแบบทิเบตที่ไล่ล่าปราบมารอีกกลุ่มหนี่งแบบมหายาน
ลองไปอ่านดู
การโยกฐานจิตตามส่วนต่างๆร่าวกายแท้จริงเป็นกลยุทธ์
สู้กิเลส---การปล่อยเก็บพลังจิตทางตาที่3
สูบพลังจากพระนิพพานเข้าเก็บที่กลางท้อง--เพี่มสมาบัติต่อท่อทะเลบุญสมบัติจักพรรติ
สูบพลังจากดวงดาว---จากธรรมชาติ--เข้าเก็บกลางท้อง--มีชีวิตข้ามกับ
เท่าที่ทราบ
ไม่แน่ชัดนะครับ
ว่าที่คอหอ----หรือท้ายท้อย--จำไม่ได้แน่ชัดจุดนี้แหละ
ที่ปรมัตถ์โพธิสัตว์---อนาคามิ---พระอรหันตื---โพธิสัตว์ปราบมาร
เป็นจุดที่ใช้เข้านิโรธิ
สมเด็จสุกไก่เถื่อนกล่าวไว้ว่าจุดนี้แหละ
เป็นจุดที่ถอนไถ่หลบบาปกรรมทั้งปวง
จุดที่เข้านิโรธใครที่หาพบก็เข้านิโรธได้ทั้งนั้น
เขาเก็บจิตไว้ตรงนี้
ลองไปหาอ่านดูนะครับท่านสอนละเอืยดมาก
วิชชาธรรมกายว่ามากมายแสนพิสดาร
วิชชาสมเด็จสุกพิสดารไปอีก7เท่า
มหายานกับหินยานพบกันที่สมเร็จสุก
จักรตะวัน
#7
โพสต์เมื่อ 14 January 2006 - 05:52 PM
ขอรบกวนผู้มาเยือน(จักรตะวัน) ช่วยระบุที่มาของหนังสือได้ไหมครับ??
ผมสนใจแนวนี้มากครับอยากจะอ่านศึกษาเพิ่มเติม ถ้ามีชื่อหนังสือ หรือเวพชื่ออะไร?
รบกวนแจ้งเป็นธรรมทานให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
ผมสนใจแนวนี้มากครับอยากจะอ่านศึกษาเพิ่มเติม ถ้ามีชื่อหนังสือ หรือเวพชื่ออะไร?
รบกวนแจ้งเป็นธรรมทานให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#8
โพสต์เมื่อ 06 February 2007 - 08:42 AM
กราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุ ได้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอสัญญีสัตตาพรหม