ย่อเรื่อง อาฆาต (27 สิงหาคม 2546) โดย Extra
Case study คืนนี้น่าศึกษามาก ๆทีเดียว คงไม่มีอะไรที่จะทำให้เห็นภาพ law of karma ได้ชัดเจนเท่ากับ Case study ซึ่งเป็นเรื่องราวของชีวิตจริงของมนุษย์ ทุก ๆ คนในโลกไม่อาจจะเลี่ยงกฎแห่งกรรมนี้ไปได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติศาสนาเผ่าพันธุ์ใดก็ตาม จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม ทุกชีวิตในโลกนี้จะต้องตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมทั้งสิ้น แม้แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลายซึ่งมีฤทธิ์มีเดช เหาะได้ ทำกิเลสอาสวะหมดสิ้นได้ แม้ภพสุดท้ายท่านก็ยังต้องเผชิญกับกฎแห่งกรรมซึ่งส่งผลให้ในชาติสุดท้ายก่อนที่จะไม่ต้องกลับมาเกิดในภพ 3 นี้อีก กฎแห่งกรรมนี้ ผู้ออกกฎเป็นผู้ที่มีฤทธิ์ มีอานุภาพมาก เรามองไม่เห็นเขา เขาอยู่ในที่ลึกลับมาก ๆ นอกจากวันใดที่เราได้เข้าถึงพระธรรมกาย แล้วได้ศึกษาวิชชาธรรมกาย เราต้องมีธรรมจักขุมีญาณทัศนะ แล้วต้องมีวิชชาธรรมกายจึงจะไปรู้ไปเห็นผู้ออกกฎแห่งกรรมนี้ได้
ในยามต้นที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าบรรลุบุพเพนิวาสานุสติญาณ ท่านระลึกชาติหนหลังได้ว่า พระองค์เคยเกิดเป็นนี่เป็นนั่น มีชื่อนั้นนามสกุลนั้น มีอาชีพอย่างนั้น ในยามที่ 2 ได้บรรลุจุตูปปาตญาณ ท่านเห็นเรื่องราวเกี่ยวกับกฎแห่งกรรมของสรรพสัตว์ด้วยธรรมจักขุของพระธรรมกาย และรู้แจ้งด้วยญาณทัศนะของพระธรรมกาย หลังจากที่ยาม 3 ได้ขจัดกิเลสอาสวะซึ่งเป็นเครื่องมือของผู้ออกแบบกฎแห่งกรรมนี้หมดสิ้นไป หลังจากนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ท่านก็ไปเห็นได้ชัดเจนแจ่มแจ้งยิ่งขึ้น ท่านมีมหากรุณาธิคุณต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายจึงได้มาบอกเล่าให้ฟังว่า เรื่องภพเรื่องชาติ เรื่องนรกสวรรค์ มีจริง ท่านบอกว่าทำอย่างไรไปนรก ทำอย่างไรไปสวรรค์ ทำอย่างไรจะไปในภพไหนใน 31 ภูมิ ในกามภพ รูปภพ อรูปภพ ท่านบอกหมดทุกอย่างด้วยมหากรุณา ไม่ต้องการให้ใครมาชื่นชม เพราะหมดกิเลสแล้ว มีแต่ความปรารถนาดีต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะไม่เจอกันอีกในภพ 3 เพราะพระองค์ต้องเข้าสู่อายตนะนิพพาน
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านไม่ได้ออกกฎแห่งกรรม แต่ท่านไปเห็นมา เรื่องราวของ Case study จะทำให้เราเข้าใจได้ดีขึ้น เพราะถ้าเราจะพูดเรื่องราวของกฎแห่งกรรมไปเรื่อย ๆ โดยไม่มี Case study มารองรับจะเห็นได้ยาก แล้วเราจะทึ่งในหลาย ๆ เรื่องของ Case study ที่ผ่านมาซึ่งไม่ค่อยจะซ้ำกันเลย เพราะการกระทำของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน การกระทำใด ๆ แม้เพียงเล็กน้อยก็มีผลทั้งสิ้น ไม่ว่าดีหรือชั่ว กระทำทางความคิด ทางกาย ทางวาจา หรือทางใจ ล้วนมีผลทั้งสิ้น แต่เราไม่รู้ว่ามีผล เพราะความไม่รู้และฟังคนที่ไปรู้ไปเห็นมาก็ไม่เชื่อ เพราะคิดว่าเป็นมนุษย์เหมือนกันจะไปรู้ไปเห็นได้อย่างไร เมื่อไม่เชื่อก็เกิดการกระทำขึ้นทางกาย ทางวาจา ทางใจ แล้วจึงมีสิ่งที่รองรับที่เรียกว่าวิบาก เราจะได้ยินคำว่า กิเลส กรรม วิบาก กิเลส คือความโกรธ ความโลภ ความหลง บังคับให้สร้างกรรม แล้วก็มีวิบาก มีผลรองรับเกิดขึ้น การที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปพบไปเห็น ถือว่าเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ และเป็นการค้นพบที่มนุษย์จะได้รับประโยชน์สูงสุด ยิ่งกว่าการค้นพบใด ๆ ของนักวิทยาศาสตร์ของโลกมารวมกัน
เจ้าของเคสเป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา เข้าวัดตั้งแต่ปี 2522 มาอย่างต่อเนื่อง เป็นอาสาสมัครช่วยงานบุญสถาน (งานบุญสถานต้องเป็นงานติดดินทีเดียว) ตั้งแต่ปี 2538 จนถึงปัจจุบัน เปิดบ้านเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมทุกวันพุธ แล้วใช้เป็นศูนย์ถ่ายทอดเสียงโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันทุกวัน จำนวน 20 สาย
ในวัยเด็ก แม่จะผูกพันกับยายทวดมาก (ยายทวดคือแม่ของยาย) ยายทวดบวชเป็นแม่ชีอยู่วัดลำมังคา พอเลิกเรียน แม่จะคอยปรนนิบัติยายทวด และนอนกับยายทวดทุกคืน ก่อนเสียชีวิตยายทวดไม่ทานอาหารเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน แม่กลัวว่ายายทวดจะหิว ยายทวดบอกว่าให้ไปนิมนต์พระมาสวดและเลี้ยงพระทุกวันจะทำให้ยายทวดไม่หิว จึงทำอยู่อย่างนี้เป็นเวลาประมาณ 1 เดือน ยายทวดก็เสียชีวิตโดยหลับไปเลย ในคืนที่ยายทวดเสียชีวิต แม่ก็นอนอยู่ด้วยโดยที่ไม่รู้ว่ายายทวดเสียชีวิตตั้งแต่เมื่อไหร่จนกระทั่งถึงเช้าจึงได้รู้ (นอนเคียงกัน อีกคนหลับแล้วตื่น อีกคนหลับแล้วไม่ตื่น) พอยายทวดเสีย แม่ก็กลับมาอยู่กับตายาย มาทำหน้าที่จัดสำรับให้ตายายไปวัดทุกวันพระ
ยายเป็นหัวหน้าอุโบสถวัดลำต้อยติ่ง ตาเป็นหัวหน้าอุโบสถวัดลำมังคา (เป็นหัวหน้าอุโบสถคนละวัดกัน เพราะอยากเป็นหัวหน้าอุโบสถเหมือนกัน จึงอยู่วัดเดียวกันไม่ได้ แต่ว่าอยู่บ้านเดียวกันได้) 2 วัดนี้อยู่ในเขตหนองจอก ทำอยู่อย่างนี้ตลอดมา
ยายเคยเป็นสาวชาววังในสมัยรัชกาลที่ 5 ต่อมาชีวิตผกผันต้องออกจากวังมาอยู่กับญาติที่เป็นชาวนา แล้วได้แต่งงานกับตาที่เป็นชาวนา จากดอกฟ้ามาเป็นดอกแก้วให้ตา ยายเป็นคนขยันหมั่นเพียร ใจบุญ รักธรรมะ และรักษาศีลมาตลอด (คนสมัยก่อนรักตัวเองมาก ๆ รักตัวเองไม่เหมือนกับเห็นแก่ตัว รักตัวเองโดยกอบโกยแต่สิ่งดี ๆ ใส่ตัว) จนกระทั่งวันหนึ่งซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา แม่ไปวัดราชบพิธ เมื่อกลับจากวัดราชบพิธมาถึงบ้าน แม่ก็ทราบว่า ในขณะที่กำลังเดินทางกลับจากวัด ยายถูกงูกัดตาย (ถ้าเป็นนักบุญที่อินทรีย์อ่อนจะคิดว่า ไปทำบุญที่วัดมา กลับมาโดนงูกัดตาย บุญทำไมไม่ช่วย เรื่องถูกงูกัดตายเป็นเรื่องหนึ่ง ส่วนบุญจะช่วยอย่างไรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะเป็นสิ่งที่เราทำเอาไว้ ปลูกถั่วต้องเป็นถั่ว ปลูกงาต้องเป็นงา ปลูกถั่วจะไปเป็นงาไม่ได้ ปลูกงาจะไปเป็นถั่วไม่ได้ นอกจากตาถั่ว)
เมื่อยายเสียชีวิตเพราะโดนงูกัดแล้ว ตายิ่งปฏิบัติธรรมมากขึ้น (ไม่ตีโพยตีพายว่า บุญไม่เห็นช่วย ทั้งที่ยายพึ่งกลับจากวัด ไม่เอาแล้ว ฉันไม่ไปวัดบ้าง แต่ตาไม่เป็นแบบนั้น กลับปฏิบัติธรรมมากขึ้น) จนมีความรู้สึกว่า ไม่อยากมีภาระในการดูแลลูกสาว ตามีลูกสาวคนเดียวคือแม่ของเจ้าของเคส จึงหาวิธีแบ่งเบาภาระไปให้พ่อโดยให้แม่แต่งงานกับพ่อ พ่อสุข เครือคล้าย คือพ่อของเจ้าของเคส พ่อรับภาระมาดูแลแทนตาด้วยความรัก แต่ไม่ได้เป็นภาระอะไรเพราะเขารักกัน
เมื่อก่อน ตาเคยเป็นโรคหอบหืดเป็นระยะ แต่พอได้มาปฏิบัติธรรมมากขึ้นหลาย ๆ ปี โรคหอบหืดก็หายไปโดยไม่ต้องกินยา พออายุได้ 75 ปี ตาป่วยเป็นโรคชรา ไม่มีแรง ป่วยอยู่ได้ 2 เดือน ขณะที่ป่วยอยู่ ท่านสอนธรรมะแม่ตลอดเวลา (คนสมัยก่อนในยุคที่เจริญทางจิตใจ) โดยเอาร่างกายของตัวเองเป็นคำสอน เป็นบทเรียน เป็นห้อง lab สอน วันที่จะเสียชีวิต ตาเรียกแม่มาบอกว่า พรุ่งนี้พ่อจะตายแล้ว ให้แม่ไปเอาเงินของตาที่ฝากไว้ที่ธนาคารออมสินไปซื้อของไปทำสังฆทานเพื่อถวายสังฆทานพระ และให้ซื้อผ้าบังสุกุลมาด้วยโดยกำชับว่าให้แม่ทำให้เสร็จทันก่อนเพล (ท่านสั่งดี ไม่มีการสั่งเสียให้ลูก สั่งเรื่องดี ๆ ให้ลูกก่อนตายทั้งสิ้น) แม่ทำตามตาสั่งเสร็จก่อนเพล พอมาถึง ตาก็กล่าวคำอาราธนาศีลกับพระ กล่าวคำถวายสังฆทาน กรวดน้ำ ครบทุกอย่างด้วยตัวเอง หลังจากนั้นตาก็ทำสมาธิ พอ 14.00 น. ก็นิมนต์พระมาชักผ้าบังสุกุลโดยตาเอาผ้าบังสุกุลมาพาดบนตัวท่าน พร้อมกับกล่าวคำถวายผ้าบังสุกุลแล้วกรวดน้ำด้วยตัวท่านเอง เมื่อพระกลับไปแล้ว (ดูวิธีการเดินทางไปสู่ปรโลกของท่าน) ตาก็ทำสมาธิต่อ จนกระทั่ง 16.00 น. จึงบอกลาลูก ๆ โดยที่มีสติสัมปชัญญะดีทุกอย่าง และสั่งให้ไปสร้างโบสถ์ที่วัดลำมังคา (ที่ท่านไปเป็นหัวหน้าอุโบสถ) ให้ด้วย แล้วก็ลา หลังจากนั้นท่านก็เข้าสมาธิจากไปเลย (อย่างนี้ดีไหม นี่ถ้าเข้าถึงพระธรรมกาย ก็ไม่ต้องพูดกันเลย ยิ่งจะดีกว่านี้อีก)
ต่อมาแม่สร้างโบสถ์ให้ตาโดยวางรากฐานและสร้างต่อจนเสร็จ แม่ป่วยเป็นโรคเส้นโลหิตโป่งที่ศูนย์รวมประสาท 4 จุด โดยมีเส้นเล็ก ๆ แตกไปแล้ว 1 เส้น แล้วก็เส้นโลหิตแตกอีกเป็นครั้งที่ 2 ไตเป็นพิษอีก แม่ต้องผ่าตัดไตไปหนึ่งข้าง พอปี 2545 ได้มาร่วมบุญตอกเสาเข็มมหาวิหารคุณยายได้ประมาณ 1 เดือน แล้วแม่เส้นโลหิตแตกอีกเป็นครั้งที่ 3 ขณะที่เข้าพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ. พระอาจารย์สมนึก พระอาจารย์ศักดิ์ชายและน้อง ๆ เจ้าหน้าที่ภาค 8 ได้ผลัดกันมาเยี่ยมและให้พรว่าให้โยมป้าหายเร็ว ๆ นะ จะได้มาทันร่วมงานกฐินงานนี้เป็นบุญใหญ่ที่พลาดไม่ได้ ในใจแม่นึกถึงแต่บุญกฐินแล้วท่านก็หาย (กฐิน 2545 ยังขนาดนี้ แล้วกฐิน 2546 ไม่ต้องพูดกันเลย)
คำถาม 1. ทำไมยายทวดจึงไม่ทานอาหารเป็นเวลา 1 เดือนก่อนเสียชีวิต แต่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ แม่มีความผูกพันกับยายทวดอย่างไร จึงต้องนอนอยู่กับร่างของยายทวดจนถึงเช้าโดยไม่รู้ว่ายายทวดเสียชีวิตตั้งแต่เมื่อไหร่
2. ทำไมยายที่เป็นสาวชาววังต้องผกผันมาเป็นสาวชาวนา แล้วแต่งงานกับหนุ่มชาวนา วิบากกรรมใด ท่านถึงถูกงูกัดตาย ทำไมแม่ไม่ได้อยู่ดูใจยาย ขณะที่ยายเสียชีวิต
3. ตามีวิบากกรรมอะไรจึงเป็นโรคหอบหืด เหตุใดก่อนเสียชีวิตจึงไม่มีอาการหอบหืดเลย
4. ยายทวด ยาย ตา ขณะนี้อยู่ภพภูมิไหน บุญที่ท่านทำมาส่งผลให้ท่านอย่างไร ท่านได้รับบุญที่ลูกหลานอุทิศให้หรือไม่
5. ทำไมแม่ต้องตัดไตออก 1 ข้าง ทำไมแม่ถึงเส้นโลหิตแตกถึง 3 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีเส้นโลหิตโป่งอยู่อีก 2 จุดที่พร้อมจะแตกได้อีก อยากทราบว่าจะมีปัญหาอีกหรือไม่ แม่ต้องทำบุญอะไรถึงจะทำให้เส้นโลหิตไม่แตก
คำตอบ ยายทวดไม่หิวก่อนตายเพราะใจท่านมีปีติชุ่มฉ่ำมาก คิดถึงแต่เรื่องธรรมะกับเรื่องบุญ ไม่ได้เป็นโรคหรือมีกรรมอะไรเลย เราคงเคยฟังเรื่องราวในพระไตรปิฎกที่ว่าอยู่ได้ถึง 7 วันด้วยธรรมปีติโดยที่ไม่ต้องรับประทานอาหาร เวลาระลึกนึกถึงพระรัตนตรัย หรือฟังธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ 7 วัน แต่นี่ 1 เดือน ที่ท่านตายเพราะหมดอายุขัย ตายแล้วไปเป็นเทพธิดาอยู่ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี สวรรค์ชั้นที่ 6 เพราะทำทานด้วยจิตที่เลื่อมใสและมีปีติมากในพระรัตนตรัยและในทานกุศล รวมทั้งท่านรักษาศีล 8ในช่วงท้ายของชีวิต ท่านมีวิมานเป็นทองแก้ว ทองที่ใสเหมือนเพชร ประดับด้วยรัตนชาติสวยงามมาก วิมานทองมีหลายระดับ เวลาตายก็มีราชรถทองแก้วและบริวารมากมายมารับท่าน เพราะท่านสั่งสมบุญมาก ชาวสวรรค์อยากได้ไปเป็นสหาย แม่ท่านธาตุตรงกับยายทวดจึงไปนอนอยู่ข้าง ๆ จนกระทั่งยายทวดตาย ปกติคนแก่ไม่ค่อยมีคนอยากเข้าใกล้ เพราะว่าเห็นเป็นคนแก่ ส่วนมากเขาอยากจะเข้าใกล้คนไม่แก่ แต่คนแก่บางคนใครก็น่าเข้าใกล้ น่าไปลูบเนื้อลูบตัว ยายทวดท่านแก่บุญแก่บารมี ใจท่านเย็น ใจดีเพราะมีธรรมะ ใครอยู่ใกล้ท่านจะเย็นกายเย็นใจ แล้วจะรักท่าน ที่แม่ไปอยู่กับท่านเพราะบารมีธรรมของยายทวด ทั้งทานศีลภาวนาท่านครบถ้วน ใจท่านเย็น เวลาเข้าไปนั่งใกล้ท่านเหมือนไปนั่งใต้ร่มไม้ใหญ่ ๆ มีร่มเงาดก ใจก็สบาย
ยายในอดีตเคยเกิดเป็นสาวชาววังมาก่อน แล้วมีเรื่องไม่ถูกใจกับสาวชาววังคนหนึ่ง จนมีปากมีเสียงกัน ยายในชาตินั้นเลยหาเรื่องแกล้งใส่ความให้สาวชาววังท่านนั้นเสื่อมเสีย แล้วถูกไล่ออกจากวังไป วิบากกรรมนี้ได้ตามมาทันในชาตินี้ทำให้ท่านต้องผกผันชีวิตออกมาจากวัง เพราะวิบากกรรม และงูตัวที่กัดก็คือคู่แค้นในอดีตชาติที่ตนเคยแกล้งไว้ มีวิบากกรรมทำให้มาเกิดเป็นงู คือเกิดเป็นงูมานานแล้ว วิบากกรรมนำให้มาเจอกัน ด้วยกรรมที่เคยทำร่วมกันก็ทำให้งูนั้นเกิดอารมณ์อยากกัดขึ้น มันเป็นงูพิษจึงกัดยายจนตาย เพราะเป็นคู่กรรมที่ตามมาทันกันในชาตินี้ ถ้าชาติใดไม่ทันก็แล้วไป แล้วที่มาเกิดเป็นงูก็เพราะวิบากกรรมของตัวเองที่ทำอะไรบางอย่างเอาไว้ ยายตายแล้วไปเป็นเทพธิดาเพราะบุญที่ท่านเป็นหัวหน้าอุโบสถที่วัดหนึ่ง ท่านมีวิมานทองอยู่ชั้นดาวดึงส์ เฟส 2 พอถูกงูกัดตายก็เหมือนหลับแล้วตื่นขึ้นกลางวิมาน ด้วยบุญที่ทำทานรักษาอุโบสถศีลเสมอและทำภาวนาด้วย วิบากกรรมก็ส่วนวิบากกรรม บุญก็ส่วนบุญ บุญช่วยให้ไปสู่สุคติภพ แต่วิบากกรรมที่ไปทำเขาไว้ ก็ต้องใช้เขา เพราะเป็นผังสำเร็จที่ติดมา
ตาเป็นโรคหอบหืดเพราะกรรมทั้งอดีตและปัจจุบันที่ใช้แรงงานสัตว์จนมันเหนื่อยมาก ใช้วัวใช้ควายเหน็ดเหนื่อยในสังคมเกษตรกร และมาพ้นวิบากกรรมโรคหอบหืดเพราะการปฏิบัติธรรม บุญปัจจุบันมีมาก ก่อนตายท่านมีสติดีมากเพราะปฏิบัติธรรมอย่างสม่ำเสมอ จนกระทั่งท่านรู้วันเวลาตาย ตายอย่างมีสติ สั่งสมบุญก่อน อบรมลูกหลาน แล้วก็เข้าสมาธิไป เพราะท่านได้ฌานอย่างอ่อน ๆ ใจท่านสว่างแต่ยังไม่ถึงดวง แต่เป็นความสว่างที่มั่นคง คือหลับตาแล้วไม่มืด สว่างตลอดเวลาเลย จึงไปเกิดเป็นพรหมปาริสัจชา
ยายทวดไปสวรรค์ชั้น 6 ตาไปเป็นพรหมปาริสัจชาเพราะได้ปฐมฌานอย่างอ่อน ๆ เป็นพรหมชั้นต้น รู้วันตายได้เพราะความสว่างของใจ แต่ท่านไม่เคยบอกใครว่าได้ความสว่างอย่างนี้ ใจละเอียดขนาดนี้ ท่านมีความสุขมาก ท่านรู้วันเวลาตาย ไปอย่างมีสติ มีความสุขตั้งแต่ถอดกายออกไปเลย ด้วยความสว่างทางใจท่านจึงถอดกายออกไปก่อนที่จะถูกถอด ท่านมีวิมานเป็นแก้วสวยกว่าของยายทวด คือเป็นเพชรทั้งหลังสวยงามมาก และตั้งความปรารถนาก่อนที่ท่านจะละโลกว่า ในชาติต่อไปขอให้หมดกิเลส
ทุกท่าน คือ ตา ยาย และยายทวด ได้รับบุญทุกบุญที่อุทิศไปให้ทำให้สภาพของท่านดีขึ้นไปอีก
แม่เส้นโลหิตแตกเพราะวิบากกรรมในอดีตชาติ เป็นชาวบ้านได้ฆ่าสัตว์ทำอาหารเป็นอาจิณกรรม ที่เป็นโรคไตและถูกตัดออกไป 1 ข้างเพราะกรรมในอดีต ท่านเคยเกิดในตระกูลที่มีฐานะได้มีน้องชายคนหนึ่ง ซึ่งมีภรรยาและลูกเล็ก ๆ 1 คน ต่อมาน้องชายและภรรยาตาย ท่านจึงยึดสมบัติของน้องชายมาทั้งหมดเลย แล้วแบ่งให้ลูกของน้องชายไปนิดหน่อยพอให้อยู่ได้ ทั้ง ๆ ที่สมบัตินั้นควรจะตกเป็นของหลาน ทำให้ท่านมีวิบากกรรมเกี่ยวกับเรื่องไต แม่ต้องทำทุกบุญแล้วอุทิศไปให้คนและสัตว์ที่เราเคยไปเบียดเบียนชีวิตหรือทรัพย์สินเขามา หนักก็จะเป็นเบา เบาก็จะหาย ตายก็ไปดี ดีที่สุดก็คือจะต้องปฏิบัติธรรมให้ได้เข้าถึงพระธรรมกาย
อาฆาต (27 สิงหาคม 2546)
เริ่มโดย extra, Apr 08 2007 04:11 PM
มี 6 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 08 April 2007 - 04:11 PM
#2
โพสต์เมื่อ 08 April 2007 - 10:41 PM
ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธู สาธุ สาธุ
#3
โพสต์เมื่อ 09 April 2007 - 12:13 PM
QUOTE
ยายเป็นหัวหน้าอุโบสถวัดลำต้อยติ่ง ตาเป็นหัวหน้าอุโบสถวัดลำมังคา
QUOTE
ยายทวดตายแล้วไปเป็นเทพธิดาอยู่ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี สวรรค์ชั้นที่ 6 มีวิมานเป็นทองแก้ว ทองที่ใสเหมือนเพชร ประดับด้วยรัตนชาติสวยงามมาก วิมานทองมีหลายระดับ เวลาตายก็มีราชรถทองแก้วและบริวารมากมายมารับท่าน เพราะท่านสั่งสมบุญมาก
QUOTE
ตาไปเป็นพรหมปาริสัจชาเพราะได้ปฐมฌานอย่างอ่อน ๆ เป็นพรหมชั้นต้น ท่านมีวิมานเป็นแก้วสวยกว่าของยายทวด คือเป็นเพชรทั้งหลังสวยงามมาก และตั้งความปรารถนาก่อนที่ท่านจะละโลกว่า ในชาติต่อไปขอให้หมดกิเลส
ผมจำได้ว่ามีไม่กี่เคส ที่ไปชั้น 6 ขอกราบอนุโมทนาบุญคุณ Extra, lee072d ด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ
หัวหน้าอุโบสถวัด ต้องทำหน้าที่อะไรบ้าง ใครทราบบ้างครับ
#4
โพสต์เมื่อ 09 April 2007 - 12:29 PM
ดีจังเลย..ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ...สาธุ...
#5
โพสต์เมื่อ 09 April 2007 - 10:56 PM
เป็นเคสที่สุดยอดครับ ทำให้มีกำลังใจและต้องการเข้าถึงปฐมฌาน ปฐมมรรค ในแนวทางพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง อนุโมทนา สาธุ สำหรับธรรมทานครับ
#6
โพสต์เมื่อ 10 April 2007 - 01:21 AM
สาธุครับ อยากให้คนทุกคนรักตัวเองเหมือนคนสมัยก่อนจังครับ รักบุญ
#7
โพสต์เมื่อ 11 December 2008 - 12:42 PM
สาธุ...อนุโมทนาบุญ