ไปที่เนื้อหา


- - - - -

สัปปุริสธรรม


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 2 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 *sky noi*

*sky noi*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 05 July 2010 - 09:09 AM

สัปปุริสธรรม

---------------------------------------------------------------------------




พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม 7 ประการ เป็นผู้ควรของคำนับ, เป็นผู้ควรของต้อนรับ, เป็นผู้ควรของทำบุญ, เป็นผู้ควรกระทำอัญชลี, เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ธรรม 7 ประการเป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นธัมมัญญู รู้จักธรรม 1, อัตถัญญู รู้จักอรรถ 1, อัตตัญญู รู้จักตน 1, มัตตัญญู รู้จักประมาณ 1, กาลัญญู รู้จักกาล 1, ปริสัญญู รู้จักบริษัท 1, ปุคคลปโรปรัญญู รู้จักเลือกคบคน 1"

1. ธัมมัญญู คือ ผู้รู้จักธรรม หมายถึงภิกษุผู้ได้ศึกษาคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหมด ซึ่งในปัจจุบันภิกษุจะเป็นธัมมัญญูได้นั้น อย่างน้อยก็ควรต้องอ่านพระไตรปิฎกให้จบทั้งหมดก่อน เพื่อจะได้ทราบว่าพระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนอะไรบ้าง

2. อัตถัญญู คือ ผู้รู้จักอรรถ หมายถึงการรู้เนื้อความ หรือความหมาย ตลอดจนเข้าใจนัยยะต่าง ๆ ในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วสามารถนำมาฝึกหัดปฏิบัติตามจนเกิดผล

3. อัตตัญญู คือ ผู้รู้จักตน หมายถึงการเป็นผู้สามารถประเมินศีลธรรมความดีในตัวเองได้ โดยประเมินผ่านหลักธรรม 6 ประการ คือ ศรัทธา, ศีล, สุตะ, จาคะ, ปัญญา และปฏิภาณ โดย
“ศรัทธา” หมายถึง ความเชื่อมั่นที่เปี่ยมล้นด้วยความมั่นใจจนสิ้นสงสัยในพระปัญญาตรัสสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
“ศีล” หมายถึง ความประพฤติที่ดี และ เรียบร้อย ทางกายและวาจา
“สุตะ” หมายถึง การหมั่นแสวงหาความรู้ทางธรรม
“จาคะ” หมายถึง การสละ ได่แก่ การสละสิ่งของ, สละความสะดวกสบาย และสละอารมณ์ เป็นต้น
“ปัญญา” หมายถึง ความรอบรู้ในความจริงของชีวิต เช่น รู้ว่าชีวิตมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายไป เป็นต้น
“ปฏิภาณ” หมายถึง เชาว์ปัญญาในการกล่าวแก้ หรือการโต้ตอบอย่างฉับพลัน

4. มัตตัญญู คือ ผู้รู้จักประมาณ หมายถึงการรู้จักประมาณในการรับปัจจัย 4 คือไม่รับมากเกินไป ไม่น้อยเกินไป ผู้ที่เป็นมัตตัญญูจึงต้องรู้จักความพอดี พอควร และพอประมาณ

5. กาลัญญู คือ ผู้รู้จักกาล (เวลา) หมายถึงการเป็นผู้รู้ว่าต้องใช้เวลากับภารกิจที่สำคัญที่สุดในแต่ละวัน 4 เรื่องก่อนภารกิจอื่น คือ กาลเรียน, กาลสอบถาม, กาลทำความเพียร และ กาลหลีกออกเร้น
“กาลเรียน” คือ ใช้เวลากับการศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย เพื่อจะนำมาเป็นกรอบในการปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง
“กาลสอบถาม” คือ ใช้เวลากับการซักถามหัวข้อธรรมที่ตนเองสงสัยกับพระอาจารย์หรือผู้รู้
“กาลประกอบความเพียร” คือ ใช้เวลากับการเจริญสมาธิภาวนา
“กาลหลีกออกเร้น” คือ ใช้เวลากับการปลีกตัวจากหมู่คณะ หาที่สงบสงัด ละเว้นจากคลุกคลี เพื่อปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิภาวนาให้ต่อเนื่อง เช่น 7 วัน 15 วัน หรือนานกว่านั้น เป็นต้น
โดยสรุปแล้ว เวลาทั้ง 4 ก็คือ การศึกษาธรรมะในภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ คือการเจริญสมาธิภาวนานั่นเอง

6. ปริสัญญู คือ ผู้รู้จักบริษัทหรือชุมชน หมายถึงการรู้จักธรรมเนียมปฏิบัติอันดีงามในคนกลุ่มต่างๆ 4 กลุ่ม ที่เป็นกลุ่มสำคัญในสังคม ทั้งนี้เพื่อที่จะสามารถปรับตัวและวางตัวได้อย่างเหมาะสมกับบริษัทนั้น หรือสังคมนั้นโดยไม่เสียธรรม กลุ่มคนทั้ง 4 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่ม “กษัตริย์” คือ กลุ่มนักปกครอง หรือผู้บริหารบ้านเมือง
กลุ่ม “พราหมณ์” คือ กลุ่มผู้ที่มีความรู้ หรือผู้นำทางความคิด
กลุ่ม “คฤหบดี” คือ กลุ่มนักธุรกิจ หรือผู้ที่เลี้ยงตนเองได้
กลุ่ม “สมณะ” คือ นักบวชในศาสนาต่าง ๆ

7. ปุคคลปโรปรัญญู คือ ผู้รู้จักบุคคล หมายถึงการรู้จักแยกแยะบุคคล หรือดูคนให้ออก ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะได้ทราบว่าจะสอนธรรม หรือแนะนำบุคคลเหล่านั้นอย่างไร โดยทรงให้แยกแยะบุคคลออกดังนี้

1.ต้องการเห็นพระ หรือไม่ต้องการเห็นพระ
โดยพระองค์จะทรงติเตียนกลุ่มหลัง (พวกที่ไม่ต้องการเห็นพระ) และทรงสรรเสริญกลุ่มแรก (พวกที่ต้องการเห็นพระ) แล้วให้แยกพวกแรกออกไปเป็นอีก 2 กลุ่มอย่างนี้เรื่อยไป คือ

2. ต้องการฟังธรรม หรือไม่ต้องการฟังธรรม พวกต้องการฟังธรรม แยกออกเป็น

3. ตั้งใจฟังธรรม หรือไม่ตั้งใจฟังธรรม พวกตั้งใจฟังธรรม แยกออกเป็น

4. ตั้งใจทรงจำธรรม หรือไม่ทรงจำธรรม พวกตั้งใจทรงจำธรรม แยกออกเป็น

5. พิจารณาธรรมที่ทรงจำไว้ หรือไม่พิจารณาธรรมที่ทรงจำไว้ พวกพิจารณาธรรมที่ทรงจำไว้ แยกออกเป็น

6. ปฏิบัติสมควรแก่ธรรมที่พิจารณาแล้ว หรือไม่ปฏิบัติสมควรแก่ธรรม พวกปฏิบัติสมควรแก่ธรรมที่พิจารณาแล้ว แยกออกเป็น

7. ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ของตนและผู้อื่น หรือปฏิบัติเพื่อประโยชน์ของตน แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น
ในพวกที่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ของตนและผู้อื่น นี้ เป็นพวกที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสรรเสริญว่าดีที่สุด
ผู้ที่เป็นปุคคลปโรปรัญญูจึงต้องมีความเข้าใจธรรมชาติและอัธยาศัยของผู้ฟังแต่ละประเภท เพื่อที่จะได้ทราบว่าควรแนะนำสั่งสอนบุคคลเหล่านั้นอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด

---------------------------------------------------------------------------


#2 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 05 July 2010 - 06:01 PM

แนบไฟล์  Sadhu.gif   22.04K   40 ดาวน์โหลด
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#3 Nee-Sansanee 2

Nee-Sansanee 2
  • Members
  • 893 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 06 July 2010 - 12:11 AM


sky noi

ชื่อนี้ guarantee มีคุณภาพเต็มเสมอ น่าปลื้มในทุก ๆ สิ่งที่แบ่งปัน clear clean cut short/long.

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ ๆ ๆ ติดตามตลอดจ้ะ