ความ ลี้ ลับ ที่ ยาก จะ หา คำ ตอบ ได้
ถือเป็นปริศนาแห่งศตวรรษที่ 20 เลยทีเดียว
อาณาบริเวณของสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า
สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าเป็นการลากเส้นสมมุติ
เพื่อกำหนดอาณาบริเวณในน่านน้ำในมหาสมุทรแอตแลนติค
โดยการลากเส้นจากฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา
สู่เกาะเบอร์มิวด้า สู่เปอร์โตริโก
แล้วก็วกกลับมาที่ฟลอริด้าอีกทีนึงเป็นรูปสามเหลี่ยมพอดี
ศัพท์คำว่า "สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า" หรือ "Bermuda Triangle" นี้
มาจากบทความของผู้ชายคนหนึ่งในนิตยารอาร์กอสซี่
บทความชื่อ Vincent H. Gaddis
ซึ่งเขาได้นำเสนอเรื่องราวของเรือและเครื่องบินที่สาบสูญไปอย่างลึกลับ
โดยปราศจากคำอธิบาย ในนิตยสารดังกล่าว เมื่อปี 1964
แต่เขาไม่ได้เป็นคนแรกหรอก เพราะมีอีกเยอะแยะ
ทั้งรัฐและเอกชน ต่างก็พยายามค้นหาเงื่อนงำ และปริศนาที่เกิดขึ้นในที่แห่งนี้
ที่เขาเรียกกันว่า ดินแดนมรณะ..ดินแดนแห่งความอาถรรพ์..ดินแดนแห่งปีศาจเบอร์มิวด้า
.....จนกระทั่งบัดนี้...
ก็ยังไม่มีคำอธิบายใด ๆ ที่ให้ความกระจ่างได้เท่าที่ควร
เรื่องลี้ลับนี้ ได้บังเกิดเริ่มขึ้นตั้งแต่หลังสงครามโลก ครั้งที่สองในปี ค.ศ. 1945
มาจนถึงปัจจุบัน เครื่องบินจำนวนกว่า 100 ลำและเรือ เดินสมุทร จำนวนอีกมากหลาย
ได้หายไปในบรรยากาศ และพื้นทะเลของ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาแห่งนี้
โ ด ย ไ ม่ มี ร่ อ ง ร อ ย
ชีวิตมนุษย์จำนวนนับพัน ในระยะเวลา กว่า 20 ปีที่ผ่านมา
ได้หายไปพร้อมกับ พาหนะโดยไม่มีซากศพ แม้แต่รายเดียว
หรือเศษชิ้นส่วนใด ๆ ของเรือ หรือ เครื่องบินที่หายไปเหลือให้เห็น
การหายสาบสูญของเรือ เครื่องบิน และชีวิตมนุษย์ ในบริเวณดินแดนสามเหลี่ยม- เบอร์มิวดา
ยังคงปรากฏอยู่ต่อไป และมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสูญเสียเหล่านี้
ต่างก็พยายามดำเนินการค้นคว้า หาสาเหตุ
แห่งปรากฏการณ์อันประหลาดและลึกลับนี้อย่างเร่งด่วน
จากบันทึกของกองเรือยามฝังสหรัฐฯ
และบริษัทประกันภัยทางทะเล บริษัทประกันภัยเรือเดินสมุทรและเครื่องบิน
มีสถิติความสูญหาย อย่างผิดปกติในอาณาบริเวณนี้
เป็นบริเวณต้องห้ามและเป็นดินแดนอาถรรพณ์จริงๆ มันอาถรรพณ์อย่างไร?
สิ่งที่ทำให้ย่านทะเลแห่งนี้กลายเป็นดินแดนมรณะ
ซึ่งทำให้นักบินหรือนักเดินเรือต่างพยายามหลีกเลี่ยง
ถ้าไม่จำเป็นก็จะไม่ยอมผ่านเข้าไปในบริเวณนี้อย่างเด็ดขาด
เหตุการณ์ประหลาดๆ อย่างที่ไม่น่าเชื่อ ไม่น่าจะเป็นไปได้
มักจะเกิดขึ้นกับเรือ หรือเครื่องบินที่ผ่านเข้าไปในบริเวณนั้น
นับตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบัน
จากสถิติของบริษัท Lioyd's ov London
ซึ่งเป็นบริษัทรับประกันภัยเรือเดินสมุทร
พบว่านับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1963 ถึง 1973
มีเรือในประกันของบริษัทจำนวน 60 ลำ รวมผู้โดยสาร 900 คน
ได้หายสาบสูญไปในบริเวณน่านน้ำเบอร์มิวด้า
โดยเฉพาะในปี ค.ศ. 1967 มีเรือทะเล เรือพาณิชย์ขนาดใหญ่ได้หายไปอย่างลึกลับ
เป็นจำนวน 15 ลำ ทั้ง 15 ลำไม่มีการส่งสัญญาณ "SOS" หรือส่งวิทยุขอความช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น
สิ่งที่แปลกและน่ากลัวไปกว่านั้น คือ เรือทั้ง 15 ลำ
เป็นเรือขนาดใหญ่ มีอุปกรณ์เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์
ช่วยในการเดินเรือแบบทันสมัยบริบูรณ์ เช่นวิทยุสื่อสาร เรดาร์นำร่องโซน่าร์นำร่อง
การค้นหาได้กระทำกันเป็นเดือนๆ แต่ก็ประสบผลล้มเหลวโดยสิ้นเชิงไม่พบแม้แต่เงา...
เป็นตัวอย่างได้มาจากบริษัทประภัยของเอกชน
ที่ต้องจ่ายประกันไป จนบริษัทแทบล้มละลาย
นำมาซึ่งความงุนงง ให้แก่ผู้ที่อยู่ข้างหลังอย่างสิ้นหวัง...
อะไรเกิดขึ้นกับเรือเหล่านั้น
ลูกนาวี 900 คนหายไปไหน???
ใครบ้างจะมีคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้
อีกตัวอย่างที่ยกมาให้พิจารณาว่ามันเป็นอาถรรพณ์
หรือเป็นเพียงอุบัติเหตุ ของดินแดนมรณะแห่งนี้
ได้แก่ การหายสาบสูญของฝูงบินขับไล่ทิ้งระเบิดนาวีสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 1945 เครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ TBM ของนาวีสหรัฐฯ
1 ฝูงบิน (5 เครื่อง) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ประจำเครื่อง ทั้งหมด 14 นาย
ได้ออกทำการบินฝึกทิ้งระเบิดเหนือดินแดนเบอร์มิวด้า
ห่างจากฐานทัพฟอร์ทล๊อคเดอร์เดลประมาณ 225 ไมล์...
และแล้ว ฝูงบินทั้ง 5 ลำก็หายสาบสูญ ไม่เหลือแม้แต่เงา ..
นาวีสหรัฐฯ ส่งเครื่องบินผู้ประสบภัยมาร์ติน มารีนเนอร์
แบบ PBM (เป็นเครื่องบินน้ำ 2 เครื่องยนต์)
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ประจำเครื่อง 13 นาย ออกตามหา
...20 นาทีต่อมา ....
PBM ก็หายสาบสูญ โดยขาดการติดต่อ กับหอบังคับการ
และหายไปอย่างลึกลับเช่นกันไม่มีเหลือแม้แต่เงา
มันจะเป็นเหตุบังเอิญ อุบัติเหตุ หรือเป็นดินแดนอาถรรพณ์จริง
แนวโน้มจากสถิติการสูญหายอาจบอกเราได้
นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1800 จนถึงปี ค.ศ.1976
มีเรือและเครื่องบินหายสาบสูญไปในบริเวณ เบอร์มิวด้าแล้ว
เป็นจำนวน 143 ราย รวมชีวิตมนุษย์เท่าที่ทราบแน่นอน
เป็นจำนวน 2,101 คน ที่ต้องสังเวยไปในดินแดนอาถรรพณ์แห่งนี้
อุบัติการณ์ ลึกลับที่ไม่อาจให้คำอธิบายได้
การค้นหาร่องรอยอย่างละเอียดละออ แต่ก็ประสบความ ล้มเหลว
ที่จะพบพยานหลักฐาน ซึ่งจะนำไปสู่การไขปัญหาลึกลับนี้
ในที่สุด กองทัพเรือสหรัฐ ก็ได้เก็บเรื่องเหล่านี ้ไว้เป็นความลับ
ไม่ยอมเปิดเผยหรือให้คำวิจารณ์ใด ๆ แก่ประชาชน
การสาบสูญ ก็ยังคงปรากฏอยู่ต่อไป โดยไม่มีทางป้องกันหรือขัดขวางได้เลย
ค ว า ม ลึ ก ลั บ แ ห่ ง ท้ อ ง ท ะ เ ล
ยั ง ไ ม่ ไ ด้ จ บ ล ง แ ต่ เ พี ย ง เ ท่ า นี้
ยั ง มี ก า ร ก ล่ า ว เ ล่ า ข า น กั น ม า เ รี่ อ ย ๆ
นี้ เ ป็ น เ พี ย ง ส่ ว น ห นึ่ ง เ ท่ า นั้ น..
??????????????????????????????????
++ มัน เป็น บริเวณ ต้อง ห้าม และ เป็น ดิน แดน อาถรรพณ์ จริงๆ หรือ?? แ ล้ ว มั น อ า ถ ร ร พ ณ์ อ ย่ า ง ไ ร?
???????????????????????????????????