ทัศนคติ
#1
โพสต์เมื่อ 31 August 2010 - 07:24 AM
ตอนนี้จำเป็นต้องไปอยู่นอกวัด
วิบากกรรมดูดพวกโรคจิตมากวนเสมอๆ
ขนาดโดนงัดห้องตอนเธอหลับอยู่
แต่มันดันมองไม่เห็นเธอกับของมีค่า
เธอเลิกงานกลับถึงที่พักดึกทุกวัน
ผมจะสอนวิชาต่อสู้ป้องกันตัวให้
เธอดันกลัวจะไปทำคนร้ายเจ็บแล้วติดเศษกรรม
ควรมีแนวคิดกับเรื่องนี้อย่างไร
เห็นด้วยไหมถ้าอุบาสิกาเขตในจะเรียนวิชาป้องกันตัวไว้
เพราะในวัด บางครั้งก็ไม่ปลอดภัยสำหรับสตรี
ลูกสาวหลวงพ่อส่วนใหญ่ก็หน้าตาสวยใส น่ารักทั้งนั้น
#2
โพสต์เมื่อ 31 August 2010 - 07:54 AM
#3
โพสต์เมื่อ 31 August 2010 - 08:37 AM
#4
โพสต์เมื่อ 31 August 2010 - 09:36 AM
ปัญญา + เทคนิค + บุญ มีไว้ไม่เสียหาย ได้ออกกำลังกายด้วย
#5
โพสต์เมื่อ 31 August 2010 - 09:39 AM
ดีว่าบุญยังคุ้มตัว
และอย่าคิดว่าอยู่ใกล้วัด หรืออยู่ในวัดจะปลอดภัยนะ
เพราะวัดมีคนเข้าออกมากมายตลอดวัน
#6
โพสต์เมื่อ 31 August 2010 - 10:28 AM
#7
โพสต์เมื่อ 31 August 2010 - 12:32 PM
#8
โพสต์เมื่อ 31 August 2010 - 02:40 PM
#9
โพสต์เมื่อ 31 August 2010 - 03:06 PM
แต่ถ้าอยู่ข้างนอกวัดฝึกป้องกันตัวเองก็ได้ดีครับ สนับสนุนครับ แต่ถ้าอยู่ข้างในอย่าฝึกเลย เพราะพวกวิชาป้องกันตัว บางคนฝึกแล้ว นอกจากช่วยตัวเองให้พ้นภัยแล้วยังช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงนะครับ แต่บางคนฝึกแล้ว พอเก่งเข้าก็ไม่กลัวใครอันนี้อันตรายครับ
#10
โพสต์เมื่อ 31 August 2010 - 08:22 PM
เรื่อง เห็นด้วย หรือไม่ ,ควรมีหลักสูตรอบรมการฝึกป้องกันตัว หรือไม่ แบบไหน
ควรให้สมาชิกอาศรมอุบาสิกา พิจารณากันเอง ก็ดีครับ
เพราะแต่ละท่าน ย่อมมีทัศนะมุมมอง เห็นความจำเป็น หรือ ไม่ และมีความชอบ ไม่ชอบของตัวเอง
ที่สำคัญ คือ เสียงส่วนใหญ่ในอาศรมอุบาสิกาและอุบาสิกาผู้ใหญ่ คณะกรรมการดูแล
ไม่ใช่เสียงสนับสนุน เห็นด้วย เสียงค้าน ไม่เห็นด้วย ของคนที่อยู่วงนอกแบบเรา นะครับ
เมื่อพูดถึงเรื่อง แรงดึงดูดของวิบากกรรม
อะไร จะต้านทานวิบากอกุศลกรรมเก่า ได้
ก็เน้นที่วิธีนั้น ก็ดีนะครับ
#11
โพสต์เมื่อ 31 August 2010 - 08:33 PM
เราควรยอมสละชีวิตเพื่อรักษาศีส
หรือควรสู้เพื่อรักษาลมหายใจมาสร้างบารมีต่อ
และหากเขาทำร้ายเราไม่ได้เขาก็จะได้บาปน้อยลง
ควรมีแนวคิดเช่นไร
กรณีชายหนุ่มบุกไปข่มขืนพระอรหันต์เถรี
หากพระเถรีขัดขืนหนีรอดได้ วิบากกรรมของชายหนุ่ม
จะน้อยลงหรือไม่
#12
โพสต์เมื่อ 31 August 2010 - 09:19 PM
สิ่งที่ต้องแสวงหา คือ พระรัตนตรัยภายใน
เป้าหมายชีวิต คือ ที่สุดแห่งธรรม
#13
โพสต์เมื่อ 31 August 2010 - 09:21 PM
พระโมคคัลลานะ ท่านก็หนีโจรมาตั้งหลายครั้งครับ สุดท้ายท่านตรวจดูด้วยญาณจึงทราบว่ากรรมที่เคยทุบตีมารดาบิดาจนตาย เศษกรรมยังตามมาส่งผล หนีอย่างไรก็คงไม่พ้นง่ายๆ สุดท้ายปล่อยให้โดนทุบจนร่างกายแตกละเอียด
ผมเข้าใจว่า ท่านก็คงเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกอย่างมันต้องจบ ก็ให้มันจบไป ตรงนี้สำคัญนะครับ หากเราสามารถทำอะไรก็ได้ ให้เหตุการณ์มันดีขึ้นก็ควรทำ เพื่อรักษาตนไปสร้างบารมีในส่วนอื่นๆให้ดีกว่านี้ เป็นประโยชน์กว่านี้ หากถึงเวลาของมันเมื่อไร เราก็พิจารณาแล้ว ว่าบุญเราก็ทำมาเยอะ เราทราบตัวเองดี ก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามนั้นบ้างครับ
เช่นตอนนี้ผมยังไม่พร้อมที่จะสละชีวิตเพื่อสร้างบารมีในกรณีใดๆ แต่ซักวันหนึ่งที่ผมพร้อมแล้ว ถ้ามีเหตุการณ์ถึงแก่ชีวิต หากเป็นไปเพื่อการสร้างบารมีแล้วผมจะเสนอตัวคนแรกเลย ผมจะได้ปรมัตถ์บารมีเต็มๆ
เช่นเดียวกับเรื่องวิบากกรรม ก็ไม่ควรไปอ่อนข้อให้มัน เราต้องหมั่นทำบุญ หรือใช้สติปัญญาโดยธรรมเพื่อตีห่างวิบากกรรม หรือทำให้มันเบาบางลงครับ แต่หากมีญาณที่จะหยั่งรู้ หรือว่าพิจารณาดีแล้วที่จะยอมรับมัน ก็ยอบรับมันบ้างโดยธรรมครับ
ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ
ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ
เราตถาคต คือธรรมกาย
#14
โพสต์เมื่อ 31 August 2010 - 09:58 PM
ส่วนที่ว่าจะตัดสินใจแบบไหน ก็ขึ้นอยู่กับเพศภาวะ และขึ้นอยู่ที่บุญบารมีของบุคคลผู้นั้น ว่าจะตัดสินใจแบบไหน หากเป็นพระโพธิสัตว์ เช่น ภูริทัตนาคราช ย่อมรักษาศีลยิ่งกว่าชีวิต ย่อมไม่ยอมทำร้ายผู้อื่น เพื่อรักษาชีวิตของตน
คงไม่มีใครเคยเห็น พระภิกษุ เรียนวิชา การป้องกันตัว เพื่อเอาไว้ป้องกันโจรผู้ร้าย(แม้ต้องอยู่ถิ่นอันตราย) แต่กลับเรียน วิชาที่เป็นไปเพื่อกำจัดกิเลศ เพื่อความหลุดพ้น
ฉันใด ก็ฉันนั้น อุบาสก อุบาสิกา เขตใน ก็คงคล้ายๆ กัน
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#15
โพสต์เมื่อ 31 August 2010 - 09:59 PM
...ผมว่า อุบาสิกาที่ประสบเหตุทำถูกแล้วครับ ความดี บารมีมีอยู่จริง เป็นของจริง จับต้องได้ สิ่งนี้จะตามคุ้มครอง เหมือนตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ที่รอดมาได้ก็เพราะมีในจุดนี้ และก็มีอุเบกขาคือไม่แก้แค้น ไม่เอาความ อโหสิกรรมคืนไป ...ถ้าคิดสู้ คิดป้องกัน คิดหมองๆ อาจไม่จบแบบนี้นะครับ แรงหญิงหรือจะสู้แรงชายได้ เกิดมามีกรรมมากเกิดเรื่องก็ถือว่าได้ใช้กรรมไปแล้ว ก็ให้ระมัดระวังตัวให้มากขึ้นและทำบุญให้ดีๆ อธิษฐานดีๆ มหาปูชนียาจารย์ และบุญกุศลที่ทำไว้จะปกป้องเอง ใครไม่เชื่อไม่รู้ แต่ผมเชื่อว่าบุญคุ้มครองได้จริงๆ 1000 เปอเซ็นต์
#16
โพสต์เมื่อ 01 September 2010 - 02:25 PM
ในสมัยโบราณรอบวัดโจรชุมมาก
มีข้อสังเกตบางอย่างระหว่างเถรวาทกับมหายานคือ
พระเถรวาทจะใช้พัดเป็นสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายยศ
ส่วนมหายานจะใช้ไม้พลองหรือไม้เท้า
เพราะวัดเถรวาทส่วนใหญ่อยู่ในเขตร้อน
ส่วนวัดมหายานมักอยู่บนภูเขาสูงไม้เท้าจะช่วยประคอง
เวลาเดินปีนป่าย และใช้เป็นไม้คานหามสิ่งของได้ด้วย
#17
โพสต์เมื่อ 01 September 2010 - 05:49 PM
เหตุผลที่หลวงพ่อทัตตะให้อุบาสิกาในวัดหัดวิชาร้องตะโกนให้ดังๆ แทนวิชาการต่อสู้นั้น เหตุผลหลักจริงๆ แล้ว ก็คือ สรรีและพละกำลังของผู้หญิงนั้น ถึงอย่างไรก็น้อยกว่าผู้ชายครับ ความหมายของหลวงพ่อคือ ผู้หญิงนั้น ถ้าไม่จำเป็นอย่าคิดไปสู้กับผู้ชายเลย ควรมองวิธีเอาตัวรอดวิธีอื่นๆ จะดีกว่า เช่น ร้องไห้คนมาช่วย เพราะโอกาสสู้ไม่ได้มีสูงมาก ถึงมากที่สุดครับ การสู้นั้นควรเป็นหนทางสุดท้ายจริงๆ (สำหรับผู้หญิง)
#18
โพสต์เมื่อ 01 September 2010 - 07:29 PM
จะสามารถเอาชนะ หรืออาจสังหารผู้ชายตัวโตๆ
ด้วยมือเปล่าได้
ไม่ได้แนะนำให้ทำร้ายใคร
แต่ถ้าใครมาทำร้ายคุณ ชีวิตของเขา
จะขึ้นกับความเมตตาของคุณ
ถ้าโดนทำร้าย คุณจะเป็นกวางในมือราชสีห์
หรือจะเป็นราชสีห์ที่โดนกวางมาแหย่
แต่ถ้าคิดว่าตัวเองไม่มีวิบากกรรมด้านนี้
วิชานี้ก็ไม่จำเป็น
#19
โพสต์เมื่อ 01 September 2010 - 08:46 PM
#20
โพสต์เมื่อ 01 September 2010 - 08:54 PM
น้อยคนมากๆที่จะรู้จักวิชาเหล่านี้
และคนที่เคยฝึกจนใช้งานได้ก็มีน้อยมากครับ
#21
โพสต์เมื่อ 08 September 2010 - 04:35 PM
1. หาสิ่งไว้ป้องกันตัวเมื่อคับขันหรือจวนตัว ที่ช๊อตไฟฟ้า สเปรย์พริกไทย มีขายทั่วไป แรงผู้หญิงน้อยคนนักที่จะสู้แรงผู้ชายได้ ควรหาตัวช่วยหรือเครื่องทุ่นแรงมาเสริมดีกว่า หรือหาอาวุธปืนมาป้องกันตัว ไม่ใช่เพื่อทำร้ายใคร แต่ใช้ยิงขู่ก็พอ แค่โจรได้ยินเสียงปืนก็วิ่งกระเจิงแล้วครับ
ส่วนตัวผมแต่ก่อนแฟนอยู่ต่างจังหวัดอยู่บ้านพักคนเดียว และอยู่ใกล้ชายแดนอีกต่างหากก็เลยฝึกให้แฟนยิงปืนซะเลย เราไม่ได้อยู่กับเขาตลอดเวลาก็อุ่นใจในระดับหนึ่ง ให้ลูกชายตัวเล็กแต่เสียงดังช่วยดูแลอีกทางหนึ่ง แต่ก็ต้องฝึกซ้อมซะหน่อย เดี๋ยวยิงไปถูกโจรเข้าจะบาปอีก
2. หาเทพบุตรมาเป็นคู่บุญสร้างบารมีร่วมกัน เป็นการช่วยรักษาความปลอดภัยไปในตัว
การร้องให้คนมาช่วยอาจมีข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี คนที่คิดทำร้ายอาจจะตกใจในเสียงแล้วหนีไป
ข้อเสีย คนที่คิดทำร้ายเมื่อได้ยินเสียงร้อง อาจจะยิ่งทำร้ายคนร้องเพื่อที่จะพยายามหยุดต้นเหตุของเสียงที่จะให้คนมาช่วยก็ได้
คนที่ร้องอาจจะได้รับอันตรายเพิ่มขึ้นก็ได้ แล้วแต่คนร้ายจะกลัวเสียงหรือไม่กลัว
ดุจแสงเทียนแสงธรรมนำชีวิต ___ พระอุทิศกายใจทำไมหนอ
ลำพังเพียงพระเองก็สุขพอ ___ ใยต้องรอผองเราเข้าถึงธรรม
#22
โพสต์เมื่อ 09 September 2010 - 12:03 AM
ปืนถ้ากระสุนหมด/ขัดลำก็เสร็จ
ที่ช็อต ถ้าขาดทักษะการเคลื่อนไหว ก็ช็อดเขายากนะ
2.หาคู่ ตัดไปได้เลยครับ เธอจะเป็นลูกสาวหลวงพ่อตลอดชีวิต
(แม้จะอยู่เขตนอกแล้ว)
ไม่จำเป็นต้องสู้ให้ชนะ แต่ถ้าเป็นมวยบ้าง
ก็น่าจะช่วยให้หนีได้ง่ายขึ้น
#23
โพสต์เมื่อ 11 September 2010 - 10:00 PM
-ปืนลูกโม่ไม่น่าจะขัดลำง่ายนะครับใช้ง่ายสำหรับผู้หญิง ถ้าจะมีก็กระสุนด้าน ก็กดนัดต่อไปได้เลย รัวจนหมดโม่ มันคงจะไม่ด้านทุกนัด เอาเสียงข่มไว้ก่อน แต่ก็จำกัดสถานที่ก็ใช้สแตนบายที่บ้านน่าจะเหมาะ
-ส่วนสเปรย์พริกไทย พกได้ทุกที่ครับเล็กกระทัดรัดใส่ในกระเป๋าผู้หญิงสบายเลย รัศมีการฟุ้งกระจายพอสมควร ใช้เพื่อเปิดทางหนีก่อนที่จะถูกประชิดตัวได้
ผมคิดว่าผู้ร้ายเมื่อจะประทุษร้ายใครน้อยนักที่จะไม่มีอาวุธ อย่างน้อยๆก็น่าจะมีมีดซักเล่มแล้ว ผู้หญิงเห็นมีดก็เข่าอ่อนแล้วหละครับ ต้องพยายามอย่าให้ประชิดตัวได้ดีที่สุด ส่วนการต่อสู้ป้องกันตัวถ้ามีติดตัวบ้างก็ดี แต่คงสู้อาวุธมีดไม่ได้ ถ้าไม่มีความชำนาญมากพอ
สุดท้ายก็คงต้องเป็นไปตามวิบากกรรมครับอย่างที่ท่านอื่นยกมา อาจจะถึงคราวตามมาทันแล้วก็ได้ เคยทำมาอย่างไรไม่มีใครหนีพ้น
ปล่อยวางครับ สัตวโลกย่อมเป็นไปตามกรรม
แต่เสียดายจริงๆ เคยอยู่เขตในด้วยไม่น่าจะออกมาเลย
ดุจแสงเทียนแสงธรรมนำชีวิต ___ พระอุทิศกายใจทำไมหนอ
ลำพังเพียงพระเองก็สุขพอ ___ ใยต้องรอผองเราเข้าถึงธรรม
#24
โพสต์เมื่อ 13 September 2010 - 11:29 PM
#25
โพสต์เมื่อ 14 September 2010 - 08:35 AM
ไอคิโด ยังมีการจัดแข่งขัน
และไม่ใช่วิชา
ที่จะทำไห้รังแกคนที่แข็งแรงกว่า
จนถึงตายได้ง่ายๆ
ทายใหม่ ทายใหม่