พระปัจเจกพุทธเจ้าเทวทัต
#1
โพสต์เมื่อ 23 April 2008 - 03:24 PM
อยากทราบว่าท่านได้ บำเพ็ญบารมีอะไรมาบ้างถึงกับจะได้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า เพราะเท่าที่ท่านเจอก็เห็นต่ท่านจองเวรกับพระพุทธเจ้าจนถึงกับทำกรรมหนักๆ หลายอย่างจนธรณีสูบ
ยังไงใครพอจะมีข้อมูลเกี่ยวกับการบำเพ็ญบารมีของท่านก็ช่วยให้ความรู้เป็นวิทยาทานด้วยนะคะ
ขออนุโทนาบุญล่วงหน้าค่ะ
#2
โพสต์เมื่อ 23 April 2008 - 03:42 PM
..แต่เมื่อคราวใดที่เกิดมาแต่ไม่พบกับพระพุทธเจ้า(สมณโคดม) ท่านก็บำเพ็ญเพียรสร้างบารมีอย่างเต็มที่ทุกครั้ง...
ดังนั้นการที่ท่านทราบแต่ว่าพระเทวทัตก่อเวรกับพระพุทธเจ้าใว้มากนั้น ท่านทราบเพียงการมาเกิดในชาตินี้เท่านั้น..
...แต่ชาติอื่นๆท่านก็สร้างบารมีใว้มากมาย ขนาดชาตินี้ยังเหาะได้เลย...แสดงว่าบารมีแก่กล้าใกล้เต็ม
#3
โพสต์เมื่อ 23 April 2008 - 04:05 PM
#4
โพสต์เมื่อ 23 April 2008 - 04:28 PM
#5
โพสต์เมื่อ 23 April 2008 - 04:55 PM
เมื่อคราวใดที่เกิดมาแต่ไม่พบกับพระพุทธเจ้า(สมณโคดม) ท่านก็บำเพ็ญเพียรสร้างบารมีอย่างเต็มที่ทุกครั้ง...
มีเหตุดังนี้ครับ(เท่าที่จำได้นะครับ)
มีชาติหนึ่งได้พบพระปัจเจกพุทธเจ้า และมีจิตเลื่อมใสจึงได้ตั้งความปราถนาว่าจะขอเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์นึงในอนาคตเบื้องหน้าครับ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#6
โพสต์เมื่อ 23 April 2008 - 05:17 PM
#7
โพสต์เมื่อ 23 April 2008 - 05:33 PM
ไม่ใช่การจองเวรเพียงฝ่ายเดียวหรอกครับ ดังเคยตรัสกับพระอานนท์ ว่าเหตุแห่งการห้อพระโลหิตที่พระบาทนั้นเป็นเศษเวร
จากอดีตชาติ ครั้งหนึ่งเมื่อพระพุทธเจ้าของเรา กับ พระเทวฑัต เป็นพี่น้องกัน ได้เกิดมีการแย่งสมบัติฝ่ายผู้เป็นพี่(พระพุทธเจ้า)ได้วางแผนฆ่าน้อง(พระเทวฑัต)โดยผลักศิลามาจากหน้าผามาทับน้องชายเสียชีวิต ทำให้ท่านต้องตกนรกรับทุกข์ทรมานหลายชาติ เนื่องจากผลแห่งการจองเวรกัน ส่วนการสร้างบารมี ก็คือสร้างบารมี30ทัศนั้นเองแต่จะน้อยกว่าการสะสมบุญบารมีของระดับ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
#8
โพสต์เมื่อ 23 April 2008 - 05:42 PM
#9
โพสต์เมื่อ 23 April 2008 - 05:56 PM
#10
โพสต์เมื่อ 23 April 2008 - 05:58 PM
ขอเสริมจากเพื่อนกัลยาณมิตรท่านอื่น นะครับ ว่า
สร้างบารมี สิบทัส เหมือนกับอรหันตสาวก สาวิกา เหมือนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครับ
ต่างกันเพียงแต่ ความทุ่มเท และระยะเวลา ไม่เท่ากัน
ตามคัมภรี์กล่าวไว้ว่า การที่ใครจะตรัสรู้ธรรมด้วยตนเองเป็นพระปัจเจกพุทธะเจ้านั้น
จักต้องสร้างบุุญบารมี ยาวนานถึง
๒ อสงไขย ๑๐๐, ๐๐๐ มหากัป
+ ความปรารถนาว่า ขอตรัสรู้ธรรมด้วยตนเอง เป็นปัจเจกพุทธะ
เพราะความปรารถนาจักสำเร็จได้ก็ด้วย บุญบารมีที่บำเพ็ญไว้ครับ
ดังเช่น
ี้
บุญนิธินั้น อำนวยผลที่น่าปรารถนาทุกอย่างแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
เทวดาและมนุษย์ปรารถนาอิฐผลใดๆ อิฐผลทั้งหมดนั้นๆ ย่อมได้ด้วยบุญนิธินี้
การได้ผิวพรรณวรรณะที่สวยสดงดงาม มีเสียงไพเราะเสนาะโสต มีทรวดทรงดี มีรูปกายที่สมส่วน
ก็เพราะบุญนิธินี้เท่านั้น
การได้เป็นพระราชามหากษัตริย์ เป็นพระเจ้าจักรพรรดิจอมราชัญ หรือเป็นจอมเทพในสวรรค์ทั้งหลาย
อิฐผลทั้งหมดนั้น ย่อมได้ด้วยบุญนิธินี้
การได้บรรรลุปฏิสัมภิทา วิโมกข์ สาวกบารมี ปัจเจกโพธิหรือเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ก็ต้องอาศัยบุญนิธินี่เอง
บุญนิธิ ขุมทรัพย์ข้ามชาติ
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=3791
ส่วนเรื่อง การบรรลุเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าในอนาคต
มีอยู่ใน พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๑ - หน้าที่ 264
ท่านพระอานนท์ อยู่ในที่ลับเร้นอยู่ เกิดความปริวิตกแห่งใจขึ้นอย่างนี้ว่า
ความปรารถนาและอภินีหารของพระพุทธเจ้าทั้งหลายย่อมปรากฏของพระสาวกทั้งหลายก็ปรากฏเหมือนอย่างนั้น แต่ของพระปัจเจกสัมพุทธเจ้าทั้งหลายยังไม่ปรากฏ
ถ้ากระไรเราพึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว ทูลถาม.
ท่านพระอานนท์นั้นจึงออกจากที่เร้น ทูลถามถึงเรื่องราวนั้น
โดยลำดับ. ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงได้ตรัสปุพพโยคาวจรสูตรแก่ท่านพระอานนท์นั้นว่า
ดูก่อนอานนท์ อานิสงส์ ๕ ประการเหล่านี้
คือย่อมทำผู้หยั่งลงในความเพียรอันมีในก่อน
ให้พลันบรรลุพระอรหัตผลในปัจจุบัน ๑
ถ้ายังไม่ให้บรรลุพระอรหัตผลในปัจจุบันเมื่อเป็นเช่นนั้น
ย่อมให้บรรลุพระอรหัตผลในเวลาจะตาย ๑
ถ้าไม่เป็นอย่างนั้น จะเป็นเทวบุตรบรรลุพระอรหัตผล ๑
ถ้าไม่อย่างนั้น จะเป็นขิปปาภิญญาตรัสรู้ได้เร็ว
ในเมื่ออยู่ต่อพระพักตร์พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ๑
ถ้าไม่เป็นอย่างนั้น จะเป็นพระปัจเจกสัมพุทธเจ้าในกาลสุดท้ายภายหลัง
http://dhammahome.co...how.php?id=4412
สนใจเรื่องเกี่ยวกับ พระปัจเจกพุทธเจ้า เชิญที่
พระปัจเจกพุทธเจ้า พุทธะที่ถูกลืม
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=2216
สนใจเรื่องพระเทวทัต เิชิืญที่
อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ยมกวรรคที่ ๑
๑๒. เรื่องพระเทวทัต [๑๒]
http://d71233.u23.ba...a...p;i=11&p=12
อาฆาตพยายาทผูกเวรกันมา ศึกษาได้จากเสรีววาณิชชาดก
http://84000.org/tip...ka.php?i=270003
ในทางกลับกันชาติที่พระเทวทัตไม่ได้เกิดร่วมกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านก็สร้างบุญไว้มาก เพราะหลังใช้กรรมจากอเวจีมหานรก ท่านจะมาแล้วตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า
นักเรียนอนุบาล WISH
#11
โพสต์เมื่อ 23 April 2008 - 06:41 PM
ขออนุโมทนาแก่ผู้ตั้งกระทู้ด้วยค่ะ
สิ่งนี้ทำให้ยิ่งรู้ว่า พวกเราล้วนเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน
แต่ถูกควบคุมให้เราชิงชัง เกลียด และ โกรธกัน.....
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ
สุนทรพ่อ
#12
โพสต์เมื่อ 23 April 2008 - 09:58 PM
#13
โพสต์เมื่อ 24 April 2008 - 08:28 AM
#14
โพสต์เมื่อ 24 April 2008 - 08:34 AM
สาธุ...
#15
โพสต์เมื่อ 24 April 2008 - 09:32 PM
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..
#16
โพสต์เมื่อ 26 April 2008 - 08:53 AM
“ข้าพเจ้าขอนับถือพระพุทธเจ้า ผู้เป็นบุคคลอันล่ำเลิศ ผู้เป็นวิสุทธิเทพยิ่งกว่าเทพยดาทั้งหลาย ผู้ฝึกฝนบุคคลที่ควรฝึกฝน ผู้มีพระจักษุรอบพระองค์ ผู้มีลักษณะแห่งบุญอันคุณด้วย ๑๐๐ ด้วยกระดูกของข้าพระเจ้า ที่ยังมีลมหายใจอยู่อีก”
พระพุทธองค์ทรงตรัสพุทธพยากรณ์แก่พระสาวกว่า เมื่อพระเทวทัตพ้นกรรมจากมหาเวจี นรก จะมีโอกาสสร้างสมบารมี จนสามารถตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า “อัฏฐิสสระ” ในอนาคต
มาวิเคราะห์เจาะลึกกันลงไป ถึงข้อคุณสมบัติของพระเทวทัตอันใดหรือ ? ที่พระพุทธองค์ถึงกับทรงเปล่งพุทธพยากรณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาจากพระโอษฐ์ เมื่อวิเคราะห์แล้ว จะเห็นอย่างแน่แท้ว่า พระเทวทัตมีคุณสมบัติที่จะได้รับคำพยากรณ์ถึง ๔ ข้อ ด้วยกัน คือ
๑. เกิดเป็นมนุษย์ ๒. เป็นบุรุษเพศ ไม่เป็นกระเทย ๓. พบพระพุทธองค์ขณะมีพระชนม์ชีพอยู่ และได้สร้างกุศลต่อหน้าพระพักตร์ ๔. เป็นบรรพชิต หรือ นักบวช
ในคุณสมบัติทั้ง ๔ ข้อนี้ อาจจะมีผู้สงสัยว่า พระเทวทัตสร้างกุศลต่อหน้าพระพักตร์อันใดหรือ ? อย่าลืมว่า ก่อนตาย พระเทวทัตได้เปล่งวาวาขอยึดเอาพระพุทธองค์เป็นสรณะ หรือ ที่พึ่งต่อไป แม้จะไม่ได้เปล่งต่อหน้าพระพักตร์ แต่ก็ถือได้ว่าสร้างกุศล และพระพุทธองค์ทรงรับทราบ และอนุโมทนา จึงเกิดผลานิสงส์ ที่อาจจะส่งผลให้แก่พระเทวทัต ถึงกับมีโอกาสเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลได้ จึงเป็นที่มาของพุทธพยากรณ์ดังกล่าว
ท่านผู้อ่านคิดว่า พระเทวทัต อยากเป็นพระพุทธเจ้าไหม ? เมื่ออ่านพุทธประวัติแล้ว จะทราบว่า พระเทวทัตอยากเป็นพระพุทธเจ้าจนตัวสั่นเชียวแหละครับ แต่การอยากของพระเทวทัตนั้น เป็นไปในทางที่ไม่ชอบ ไม่ถูก ไม่ควร ตั้งตนเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๒ แข่งกับพระสมณโคดม ทำให้เกิดอนันตริยกรรมที่ใหญ่หลวง คือ สังฆเภท ยุยงสงฆ์ให้แตกแยกกัน
พระเทวทัตไม่ได้มีเวรกรรมกับพระพุทธองค์ ในพระชาติสุดท้ายเท่านั้น แต่มีมาหลายภพหลายชาติทีเดียวในขณะที่พระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญพระบารมี ในฐานะพระโพธิสัตว์ และใช่ว่าพระเทวทัตจะเป็นฝ่ายทำร้าย หรือเบียดเบียนพระโพธิสัตว์แต่ถ่ายเดียว ในบางภพบางชาติ พระโพธิสัตว์กลับเป็นฝายเบียดเบียนให้พระเทวทัต ได้รับทุกข์ หรือเสียผลประโยชน์เช่นกัน เวรกรรมที่ผูกพันกันทั้งดีและร้าย ได้และเสีย จึงส่งผลต่อเนื่องมาถึงชาติภพสุดท้ายของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถ้าจะกล่าวว่า พระเทวทัต มีส่วนช่วยในการสร้างพระบารมีของพระโพธิสัตว์ ทำให้พระโพธิสัตว์บรรลุพระโพธิญาณ ก็คงไม่ผิดความจริงนัก และนี่ก็อาจจะเป็นอานิสงส์อีกข้อหนึ่ง ที่ทำให้พระเทวทัต เมื่อพ้นกรรมจากมหาเวจีนรกแล้ว สามารถสร้างบารมีจนได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต แม้จะเป็นได้เพียง พระปัจเจกพุทธเจ้า ก็ตาม
#17
โพสต์เมื่อ 26 April 2008 - 12:02 PM
#18
โพสต์เมื่อ 14 July 2008 - 11:34 PM