ถ้าเราเจอเหตุการณ์เช่นนี้
#1
โพสต์เมื่อ 20 June 2006 - 09:19 PM
มีเด็กยากจนผู้หิวโหยเป็นจำนวนมากรอคอยการช่วยเหลือ
พวกเขาต้องการ ปัจจัยสี่ และวงเงินจำนวนนี้ไปเป็นกองทุน
ส่วนกลาง ของ ปัจจัยสี่ทั้งหมด
แต่วงเงินจำนวนนี้เป็นเงินเก็บ หากไม่มีแล้วก็ไม่รู้จะเอาที่ไหน
ไปสร้างองค์พระ แล้วอย่างนี้ถ้าเป็นตัวคุณคุณเลือกทำสิ่งใด
ถึงจะเรียกว่าดี และถูกต้อง เหมาะสมที่สุด
#2
โพสต์เมื่อ 20 June 2006 - 09:30 PM
=> http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=4766
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#3
โพสต์เมื่อ 20 June 2006 - 10:12 PM
ก็คล้ายๆการลงทุนนะครับ การที่เรามีทุนจำนวนหนึ่งจะนำไปลงทุนเราก็พยายามให้เกิดกำไรสูงสุด
เรามีปัจจัยอยู่จำกัด ก็ต้องเลือกทำในสิ่งที่จะเกิดประโยชน์ได้สูงสุดภายในปัจจัยนั้น
แต่ก่อนผมเคยสงสัยว่าทำไมการช่วยชีวิตคนไม่ได้บุญมากที่สุด
หลวงพี่ท่านช่วยตอบให้ว่า ช่วยชีวิตคนนั้นก็ช่วยได้แค่ชาตินี้ชาติเดียวนะ
การนำธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปสู่ใจชาวโลกนั้นช่วยเขาได้ไปทุกๆชาติ
ยิ่งถ้าทำความเห็นของเขาให้ตรงได้แล้ว เป็นการเปิดทางสู่พระนิพพานให้เขาเลยทีเดียว
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#4
โพสต์เมื่อ 20 June 2006 - 11:26 PM
พวกเขาต้องการ ปัจจัยสี่ และวงเงินจำนวนนี้ไปเป็นกองทุน
ส่วนกลาง ของ ปัจจัยสี่ทั้งหมด
ข้อสังเกตุ
จากข้อความนี้ แสดงว่า มีเด็กผู้หิวโหยจำนวนมากใช่มั้ยค่ะ แสดงว่าแม้เราจะให้เงิน 1500 ไปทั้งหมดก็คงไม่พอกับเด็กจำนวนนั้นจริงมั้ยค่ะ
หลักการทำบุญที่จะส่งผลให้เราขึ้นอยู่กับ
1 ผู้ให้
2 สิ่งที่ให้
3 ผู้รับ
และ
1 ความปิติในบุญ ก่อนทำ
2 ขณะทำ
3 หลังทำ
ลองเอาองค์ประกอบที่แจกแจงให้เห็นภาพแล้วน้องลองตัดสินใจเองนะค่ะ ว่าควรจะทำอย่างไร (ถ้าเราอยากทำบุญทั้ง 2 ทางเราก็แบ่งทำได้ แต่จะแบ่งแบบไหนให้ตัวเราปิติที่สุด น้องคงต้งเลือกเองนะค่ะ )
#5
โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 10:28 AM
นั่นคือ อย่าเพียงแค่ให้เงินเขาไปในวันนี้ แล้วจบกัน แล้วพรุ่งนี้เขาจะอยู่อย่างไร แต่ควรหาวิธีช่วยให้เขาทำมาหากิน รู้จักใช้ทรัพย์ เขาจะได้ดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้ในวันต่อๆไป อีกทั้งสอนให้เขารู้จักละความตระหนี่ในใจ ซึ่งเป็นต้นเหตุของความจนอย่างแท้จริง อย่างนี้จะช่วยเขาได้ตลอดไป เพราะเขาไม่ไปพลาดพลั้งเกิดมาจนอีก
ที่นี้จะช่วยอย่างไร ก็ด้วยการติดต่อมูลนิธิที่ดูแลเด็กเหล่านี้โดยตรงให้ช่วยเขาดีกว่า และควรเลือกมูลนิธิที่ติดจานดาวธรรม เด็กเหล่านี้จะได้รู้ความจริงของชีวิต จะได้ออกแบบชีวิตตัวเอง ไม่ให้ตระหนี่ชาติต่อๆไป จะได้ไม่ต้องยากจนอีก
และเมื่อช่วยเด็กเหล่านี้เรียบร้อยแล้ว เงินที่เรามีจะเอาไปทำอะไร ก็นำไปสร้างองค์พระไงล่ะครับ เมื่อธรรมกายเจดีย์เสร็จสมบูรณ์ ชาวโลกนับล้าน ก็จะได้เรียนรู้วิชาความจริงของชีวิตอย่างถ่องแท้ ทำให้ชาติต่อๆ ไป เขาไม่ต้องเกิดมายากจน เป็นเด็กลำบากลำบน ให้พวกเราต้องไปคอยช่วยเหลือต่อไปอีก ควรช่วยให้เขาได้ความรู้ในการช่วยตัวเองต่อไปจะดีกว่า
เพราะเมื่อเขาช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว ต่อๆ ไป เขาก็จะมาเป็นกำลังร่วมกับเราในการช่วยคนอื่นๆ ด้วยวิธีการที่ถูกต้องต่อไป การช่วยเหลือของเราในครั้งแรกก็จะได้ประโยชน์ในวงกว้างไงล่ะครับ
#6
โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 10:49 AM
ให้เพื่อนๆ เพื่อนที่เรียนด้วยกัน ญาติพี่น้อง ทราบ
สร้างโอกาสให้เพื่อนๆ ได้ทราบ จะได้มีโอกาสช่วยกันทำบุญค่ะ
หรือใครมีความคิดอะไรช่วยได้ดีกว่านี้ก็ดีค่ะ
เรามีเงิน 15,000 บาท
ที่คนอื่นๆ ก็มี
แม้บางคนมีมากกว่านี้ หรือน้อยกว่านี้
เขาจะทำบุญมากหรือทำน้อย ก็แล้วแต่ แต่เขาก็สามารถช่วยกันเติมเต็มได้
ถึงใครเขาไม่ทำบุญ แต่เราก็ยังได้บุญจากการบอกข่าวบุญ ค่ะ
. . . . . . . . . . . . . .
บุญสงเคราะห์โลก ได้บุญระดับหนึ่ง
แต่บุญสร้างองค์พระ ผู้สร้างจะได้บุญมากมหาศาลนับอนันต์
อีกทั้งเป็นการสร้างบุญสถาน ทำให้คนอีกมากมายนับแสนนับล้านคนได้โอกาสมาปฏิบัติธรรม ได้พบความสุขภายใน เป็นการช่วยโลกอย่างทรงคุณค่า
ซึ่งผู้ขวยขวายในบุญ ต้องจับหลักเอาไว้ให้มั่น สะสมเสบียงบุญไว้
#7
โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 11:47 AM
มีเด็กยากจนผู้หิวโหยเป็นจำนวนมากรอคอยการช่วยเหลือ
พวกเขาต้องการ ปัจจัยสี่ และวงเงินจำนวนนี้ไปเป็นกองทุน
ส่วนกลาง ของ ปัจจัยสี่ทั้งหมด
แต่วงเงินจำนวนนี้เป็นเงินเก็บ หากไม่มีแล้วก็ไม่รู้จะเอาที่ไหน
ไปสร้างองค์พระ แล้วอย่างนี้ถ้าเป็นตัวคุณคุณเลือกทำสิ่งใด
ถึงจะเรียกว่าดี และถูกต้อง เหมาะสมที่สุด
องค์พระน่ะ ค่อยๆเติมก็ได้ค่ะ
แต่เด็กๆน่ะ ต้องการจริงๆ
ขาดอาหารก็ตาย
เงินจำนวนนั้น ก็แบ่งไปช่วยด้วยสิคะ
คนอื่นเขาจะได้ไม่ตำหนิเรา และวัด เรื่องค่านิยมการทำทาน
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#8
โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 12:16 PM
- การให้เด็กกำพร้าให้หายจากความหิวโหย เป็นการประทังชีวิตชั่วครั้งชั่วคราว ยิ่งมีองค์กรดูแลเขาอยู่ ก็สามารถระดมทุนได้ครับ ซึ่งถ้าเราเรียนจบมีเงินเดือนภายหลังเราก็สามารถกลับมาเกื้อกูลเขาได้ ถ้าตอนนี้ไม่มีทุนทรัพย์ แต่เราปรารถนาจะช่วยก็เป็นกัลยามิตรให้เขาได้ ถ้าเขารู้เดียงสาก็ชี้ให้เห็นโทษของความตะหนี่ หรือถ้าชำนาญด้านเกษตร คหกรรม ก็สอนให้เขาปลูกผักสวนครัว หรือ ทำอาหารพึ่งตนเองได้ คือการลงแรงและให้เวลา ให้ความรู้เขา หรือช่วยร่วมธุรการรับบริจาคเป็นไปรษณีย์ส่งมอบให้เขา
- ตัวผมเลือกที่จะสร้างพระธรรมกายประจำตัวมากกว่า เพราะเป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่งกว่า
#9
โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 05:04 PM
กับการไม่สร้างองค์ให้ตนเอง
ไม่บริจาคเงินจำนวนนี้เป็น
ปัจจัยสี่ให้เด็กเหล่านี้
แต่ถ้าจะนำเงินหมื่นห้าจำนวนนี้
รื้อผังจนให้เด็กตาดำๆ ที่หิวโหย
ด้วยการสร้างองค์พระให้พวกเขา
สลักชื่อในนามกลุ่มเด็กยากจน
ส่วนเรื่องปัจจัยสี่ เราก็ไปชวนเพื่อนที่รู้จัก
หรือญาติมิตร มาช่วยร่วมบริจาคอีกแรง
และทำหน้าที่กัลยาณมิตรไปในตัวเสียเลย
#10
โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 06:37 PM
เขาอาจจะได้นิดหน่อย โดยแจ้งให้ทราบแล้ว อนุโมทนาบุญ
จาก case study
พบว่าบุญนั้นมีสองแบบ คือ บุญที่ทำในพุทธศาสนา กับ บุญสงเคราะห์ โลก
บุญในพุทธศาสนานั้น นับจำนวนชาติได้มากมายมหาศาล เป็นอจินไตย
บุญสงเคราะห์โลกนั้นได้ไม่กี่ชาติ
จากกระทู้ที่คุณขุนศึกให้อ่านนะ จะได้ข้อคิดว่า การที่เราจะทำบุญหลากหลายเกินไป
นั้นย่อมจะทำให้ตัวเองเดือดร้อนได้ คือมีจิตคิดสงเคราะห์ไปหมดเมื่อเห็นใครลำบาก
แต่ว่าบุญของเราไม่มากเหมือนในสมัยพุทธกาล
ดังนั้นผลบุญที่ได้จึงไม่พอ อาจทำให้ครอบครัวเดือดร้อนได้
เพราะฉะนั้นควร เลือกทำบุญ หรือ แบ่งทำบุญ ตามกำลังตัวเอง
คุณ sage_072 มีจิตคิดเมตตาอยู่แล้ว ขออนุโมทนาบุญครับ สาธุ
#11
โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 09:15 PM
สถิตชั่วกาลนาน มหาชนนับล้าน
อัญชลีบูชา อู่แห่งทะเลบุญ
อันกว้างใหญ่ นับไม่ถ้วนอสงไขย
........แก่ผู้ได้สถาปนา..........
ความคิดดีมากเลยครับคุณsage_072 รีบเดินหน้าลุยเลยนะ
การสร้างองค์พระเป็นบุญที่หลวงพ่อบอกว่าเร็วแรงที่สุดคือเราได้สละทรัพย์,ได้หล่อกายมหาบุรุษเป็นพุทธบูชาและเป็นที่กราบไหว้บูชาไปนานนับพันๆปี
..............บุญนี้จึงไม่ธรรมดา............
.ฟังเรื่องราวดีๆได้ที่นี่ครับ
#12
โพสต์เมื่อ 22 June 2006 - 11:04 AM
ครั้งหนึ่ง คุณอนันต์ได้มากราบหลวงพ่อ พร้อมกับนำเงินก้อนใหญ่ประมาณ 1 M มาถวายหลวงพ่อ บอกว่า วันนี้วันเกิดแม่ผม ผมเลยมาทำบุญให้แม่
แต่หลวงพ่อไม่รับเงินนั้น บอกว่า ถ้าทำบุญให้แม่ แม่ได้บุญนิดๆ (บุญอุทิศ) แต่ถ้าบอกให้แม่มาทำบุญเอง แม่จะได้บุญเต็มที่ เพราะการทำบุญให้นั้น ตัวแม่ยังไม่ได้สละความตระหนี่ออกจากใจเลย แต่ถ้าแม่ได้ทำเอง นั่นแหละจะได้ชื่อว่า สละความตระหนี่ออกจากใจของแม่เอง บุญที่ได้ก็จะเต็มที่
คุณอนันต์จึงต้องนำเงิน 1M นั้น กลับบ้านไป และไปหาทางคุยกับแม่อีกที
#13
โพสต์เมื่อ 22 June 2006 - 02:35 PM
หน ทาง ยัง อีก ยาว ไกล
ใน การ สร้าง บารมี
ควร สะ สม บุญ ทุก บุญ ติด ตัว ไป
บุญ สง เคราะห์ โลก ก็ จะ มี อา นิ สงส์ ย้อน คืน มา หา เรา ด้วย เหมือน กัน
ถ้า เป็น แอ๊ค นะ
คง ต้อง สร้าง ทั้ง สอง บุญ
บุญ สร้าง องค์ พระ ก็ ไม่ ใช่ บุญ น้อย เลย
คง ให้ ความ สำ คัญ กับ บุญ นี้ มาก หน่อย
แบ่ง อีก บาง ส่วน ไป สง เคราะห์ เขา ด้วย
**********************************
ถ้า จะ สร้าง องค์ พระ ใส่ ชื่อ เด็ก ยาก จน
เขา ได้ บุญ เท่า กับ บุญ กล่าว อนุโมทนา
ไม่ สา มารถ รื้อ ผัง จน ให้ คน เหล่า นั้น ได้
แต่ รื้อ ผัง จน ให้ กับ คน ทำ ตะ หาก ล่ะ จ่ะ
เพราะ เรา เป็น คน ตัด ความ ตะ หนี่ ออก จาก ใจ
จริง มัย คะ
*********************************
แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป
แต่..
เ ป้ า ห ม า ย ไ ม่ เ ป ลี่ ย น แ ป ร
#14
โพสต์เมื่อ 22 June 2006 - 05:06 PM
แล้วบุญเขาจะได้แค่อนุโมทนาไหมค่ะ
หรือเราควรพูดให้เขาปลื้มในบุญนี้
ให้เขาเข้าใจอานิสงส์ของการสร้างพระ
แล้วให้เขานึกถึงบุญสร้างพระนี้ทุกวัน
แล้วจะรื้อผังจนให้เขาได้หรือเปล่าคะ
คืออยากให้เขา กับเราได้บุญเท่ากัน
หากวันนึงมีโอกาศได้สร้างให้เขา
#15
โพสต์เมื่อ 22 June 2006 - 07:53 PM
น่าชื่นชมครับที่มีความปรารถนาดีต่อทุกคน
ความปรารถนาให้เขาเหล่านั้น กับเราได้บุญเท่ากัน คงจะเป็นไปได้ยาก แต่ถ้าปรารถนาให้ทุกคนได้บุญทั่วหน้ากัน เป็นไปได้มากกว่าครับ
การจะรื้อผังจนให้เขาได้ เราต้องมีกำลังภายในสูงมากๆก่อนร่วมกับการเปิดใจ เปิดโอกาสของเขาเหล่านั้นครับ
น่าชื่นใจแทนครับ เพราะเป็นวิสัย-อุปนิสัยของหมู่คณะ ที่ปรารถนาจะรื้อวัฏฏะ
สำหรับผม คนเรา ต้องรักตัวเองไว้ก่อน เมื่อเอาตัวรอดได้ มีกำลังพอก็สามารถเกื้อกูลผู้อื่นควบคู่กันไปได้
#16
โพสต์เมื่อ 22 June 2006 - 08:11 PM
ถ้าคุณ sage_072 ต้องการให้ได้บุญเท่ากับคุณ หรือมากกว่า (รื้อผังจน) ล่ะก็
จะต้องบอกบุญให้เด็กเหล่านั้นยอมสละทรัพย์สินเท่าที่มี (แม้จะน้อยนิด )หรือเท่าไร
ก็ตาม เพื่อสละความตระหนี่ในใจของเด็ก ๆ เหล่านั้นให้ได้ ร่วมทำบุญกับคุณให้ได้ ถ้า
เด็กคนใดสามารถสละความตระหนี่ ทำได้มากเท่าไร ก็จะได้บุญมากเท่านั้น
ฟังอยู่ยากสักหน่อย เรื่องนี้มีชาดกสนับสนุน คือพระโพธิสัตว์เกิดเป็นมหาทุกขตะ ทั้ง
เนื้อทั้งตัวมี ด้าย กับ เข็ม ผ้าเก่า ๆ แต่ยอมสละทั้งหมดทำบุญกับพระพุทธเจ้าด้วยความศรัทธา
นั้น พระโพธิสัตว์สามารถรื้อผังจนและไปเกิดแต่สุขคติ เท่านั้น จนชาติสุดท้าย
แหล่งอ้างอิง หรือข้อมูลอื่น ๆ จะพยายาม หาเพิ่มให้นะครับ คือ ความจำจะจำละเอียดไม่
ค่อยได้ เรื่องนี้ถ้าใครรู้ช่วยนำเรื่องทั้งหมดมาขยายให้ฟังด้วยนะครับ
และขออนุโมทนาบุญกับความตั้งใจจริง ในการเป็นกัลยาณมิตรให้เด็ก ๆ เหล่านั้น และ
ลองพยายามทำดู ทำได้แค่ไหนก็เป็นบุญแล้วครับ สาธุ สาธุ สาธุ
#17
โพสต์เมื่อ 22 June 2006 - 09:51 PM
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.
#18
โพสต์เมื่อ 23 June 2006 - 08:56 PM
อนุโมทนาบุญกับท่าน ครับ
ลูกพระธรรม
#19
โพสต์เมื่อ 25 June 2006 - 01:13 PM
มีเด็กยากจนผู้หิวโหยเป็นจำนวนมากรอคอยการช่วยเหลือ
พวกเขาต้องการ ปัจจัยสี่ และวงเงินจำนวนนี้ไปเป็นกองทุน
ส่วนกลาง ของ ปัจจัยสี่ทั้งหมด
แต่วงเงินจำนวนนี้เป็นเงินเก็บ หากไม่มีแล้วก็ไม่รู้จะเอาที่ไหน
ไปสร้างองค์พระ แล้วอย่างนี้ถ้าเป็นตัวคุณคุณเลือกทำสิ่งใด
ถึงจะเรียกว่าดี และถูกต้อง เหมาะสมที่สุด
ต้องขออภัยด้วยนะที่พี่ไม่ได้ตอบเราตั้งแต่แรก เพราะต้องตรวจกระทู้มากพอสมควรเลยเอาลิงค์เก่าให้ไปอ่านทบทวนก่อนน่ะครับ สำหรับกรณีนี้พี่ขอเสนอว่า เด็กยากจนกลุ่มนั้น ควรนำปัจจัยที่ได้รับมาสงเคราะห์บำรุงตนเองให้อยู่รอดเสียก่อน เพราะหากไม่พยุงตนเอง ไม่เอาตนเองให้รอด ก็จะไม่มีกายมนุษย์ให้ได้อาศัยไว้สร้างบารมี แต่ถ้าหากพวกเขารู้จักจัดสรรปันส่วนทรัพย์ที่ได้มาอย่างชาญฉลาดตามพุทธวิธีแล้ว เขาก็จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างพอเพียง (ตามแนวทางพระราชดำรัสแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ) บนทางสายกลาง (ตามแนวทางแห่งพุทธดำรัสขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า) และสามารถอาศัยทรัพย์อีกส่วนหนึ่งที่เป็นส่วนแบ่งจากการเจือจุนเจือจานตัวเองไปใช้ในการสั่งสมบุญกุศล อาทิ "การสร้างพระธรรมกายประจำตัว" อันเป็นผลานิสงส์มหาศาลติดตัวไปในภพเบื้องหน้าได้อีกด้วยครับ
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"