เคยใจหาย ทุกข์ใจอย่างแรง กับปัญหากันบ้างไหมเอ่ย หลบหลีก พักผ่อนตรงใหน
#1
โพสต์เมื่อ 02 July 2006 - 05:06 AM
ช่วงนี้มีเรื่องทุกข์ขเวทนาใจอย่างแรง ก็เขียนมาปรับทุกข์กับผู้ปัญญา ณ ที่นี้ ไม่ได้นำเรื่องร้อนมาน่ะจ้ะ แค่ปรับทุกข์ วันรุ่งขึ้นก็ต้องลุกยิ้มสู้แก้ปัญญาต่อไป
เรื่องมีอยู่ว่า ผมเองเคยได้รับการให้ความอนุเคราะห์กับผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือท่านนึง เพื่อไปลงทุนเล็ก ๆ ด้วยความที่ต่างมีผลประโยชน์ร่วมกัน
เพราะเขาก็ต้องการดึงเราไว้ในการใช้งานระยะยาว เรียกว่าซื้อใจกันน่ล่ะ ด้วยความที่เรามองว่าเขาเป็นผู้มีฐานะดี เงินที่เขาเจียดมาให้โอกาสเล็ก ๆ น้อย ๆ กับเรา เขาคงไม่ลำบากแน่นอน ตอนแรกไม่คิดจะพึ่งพา เพราะเราก็มีเครดิตพอที่จะหยิบยืมเพื่อน ๆ หรือธนาคาร ซึ่งเจ้าของเงินก็เสนอโอกาสดังกล่าว โดยไม่มีภาระผูกพันธ์อะไร
วันหนึ่ง ถึงกำหนดนัดหมาย ซึ่งมีเหตุบังเอิญจริง ๆ มันล่วงช้าไป เพราะสภาพธุรกิจเอย ทำให้ลูกค้าเราต้องเลื่อนชำระเราไปอีก ทำให้เราเองหมุนทรัพย์ไม่ทันท่วงที พลาดท่าไปในการบริหารจัดการ ผมเอง จึงเข้ามาไหว้และชี้แจงเรื่องดังกล่าว กรรมซัดกรรมซาก เจ้าของเงิน
ก็ลำบากที่ว่า บริษัทเขาเริ่มติดหนี้ รายได้สูญหาย พนักงานลาออกไม่เว้น (เพราะรับไม่ได้กับอารมณ์ฉุนเฉียว )แถมรถเขาเองก็ยังโดนขโมยไปอีก เราจึงไปเป็นตัวสูบเลือดในสายตาเขาไปโดยปริยาย ก็เลยโดนต่อว่าต่อขานอย่างแรงโดยเจ้าของเงินดังกล่าว ทั้งหยาบและคาย ซึ่งเราเองก็รู้สึกผิดมาก และช้อกตรงที่ว่า ทำไมเขาจึงหลุดอะไร ๆ มาได้ขนาดนี้ การชี้แจงไม่เป็นผล เพราะเราไม่ใช่คนหยาบกระด้างนั้นเอง เหตุการณ์อึมครึมซีเรียส กว่า 2 ชั่วโมง
ไม่คิดว่าตัวเองต้องอยู่ในสถานะเช่นนี้ จาก ภาพพจน์ที่ทุกคนเอ็นดูเกรงใจ โดนตวาดต่อหน้าผู้คน มันบอกไม่ถูกจริง ๆ ที่เสียดายคือ
เราได้ทำลายโอกาสตัวเองไปหรือเปล่า และรู้สึกถึงการสูญเสียผู้มีอุปการะคุณไป ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ช่วยงานบริษัท ดูแลให้เขามาอย่างดีตลอด ตีหนึ่งตีสอง ถึงรุ่งสาง ก็ทุ่มเทได้ โดยไม่มองถึงเรื่องผลประโยชน์ตัวเองเลย ซึ่ง เราเองก็มีส่วนในการทำระบบข้อมูลให้กับองค์กรเขานั้นเองเดินได้สะดวก และทันสมัย โดยที่ไม่ใช่พนักงาน ค่าแรงก็ไม่ได้คิดซ่ะสูงส่งเกินค่าน้ำใจ
สำคัญคือ ความซื่อสัตย์ที่เรามี ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เหมือนเพลงนัทมีเรียน่ะเนี่ย รักไม่ช่วยอะไรเลย
ได้ปรึกษา ปรับทุกข์หลาย ๆ คน เข้าทำนองที่ว่า บูชาบุคคลที่ควรบูชา
ก็ได้แต่นั่งสมาธิ แผ่เมตตา ให้ทุกอย่างลงเอยด้วยดี เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ คนก็เปลี่ยนกันได้เนาะ จริง ๆ แล้ว ทุกคนก็รู้ว่าเขาเป็นคนเช่นไร ได้ถูกทักท้วงจากคนสนิท ว่าอย่าไปยุ่งกับเขาเลย แต่ผมก็เข้าใจว่า ความที่เขาเดือดร้อน แต่ยังไม่พร้อมในการให้ และเราก็จัดการไม่ดีด้วย
เพียงแต่เรามองเขาในแง่ดีเสมอ ๆ เหมือนเราเจอโลก ก็มีมุมมองทุก ๆ ครั้งว่าโลกนี้มันสวยงาม มันน่าอยู่ หากมันสกปรกไม่สวยงาม เราเองก็จะช่วยปัดกวาดเช็ดถู ปลูกดอกไม้ ปลูกต้นไม้ ให้มันสวยงามขึ้นมา อาจไม่ได้มาก แต่ก็ทำเต็มกำลังมือ ตามโอกาสอันควร
ตอนนี้ ขาเข่าหมดแรง กระเพาะมีกรดเป็นระยะ ๆ เนื่องจากอาการเครียดโดยไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ได้ห่วงเรื่องเงินทองที่ต้องหา แต่เสียดายความรู้สึกดีที่ผ่านมาจังเลย
1.เราควรเลิกยุ่งกับเขาเลยไหม
ใช้หนี้เขาโดยไว ดอกเบี้ยตามกฏหมาย เพื่อตัดความอุปถัม สาเหตุ หลายความเห็นก็ทำนองว่า เขามีความเป็นพาล และทนงตนเกินไป ชอบตะคอกด่าลูกน้องโดยอารมณ์เกรี้ยวกราด ไม่เหมาะสม ที่เราควรนอบน้อมและนับถือ ที่สำคัญ มีทิฐิสูงมากกับวัดเรา (เคยบอกบุญ)
2. พิสูจน์ตัวเองใหม่
จะเหนื่อยเปล่าไหม เพราะ หลาย ๆ คนก็ตีตนออกห่างนั่นเอง คนสนิทชิดใกล้หนีหายหมดแล้ว
ขอบคุณ ครับที่เสียเวลาอ่าน ตอนนี้อะไร ๆ ก็จืดชืดไปหมด บราซิลทีมโปรด ก็ยังตกรอบฟุตบอลโลกอีก (ผ่อนคลายจ้า)
ขอบคุณมาก ๆ ครับ สุขภาพแข็งแรงทุกท่านครับผม
#2
โพสต์เมื่อ 02 July 2006 - 06:20 AM
อ้าว..มาได้ไงเนี้ย
..............................................
จะเหนื่อยเปล่าไหม เพราะ หลาย ๆ คนก็ตีตนออกห่างนั่นเอง คนสนิทชิดใกล้หนีหายหมดแล้ว
อย่าออกมาเลยนะคะ อะไรมันจะยิ่งแย่ลง เพราะเดี๋ยวก็เข้าข่ายว่าเวลาทุกขืแล้วหนีหาย
เราต้องพิสูจน์ตัวเอง ขอเพียงอดและทน เข้าไว้นะคะ เรานะต่อสู้กับกิเลส ความโลภ
โกรธ หลง ของตนยังไม่พอ เราต้องต่อสู้ของคนอื่นด้วย เมื่อปัญญาเกิดเราจะพบวิธีหยุดเจ้า
ตัวกิเลสเหล่านี้
#3
โพสต์เมื่อ 02 July 2006 - 09:03 AM
ใช้หนี้เขาโดยไว ดอกเบี้ยตามกฏหมาย เพื่อตัดความอุปถัม สาเหตุ หลายความเห็นก็ทำนองว่า เขามีความเป็นพาล และทนงตนเกินไป ชอบตะคอกด่าลูกน้องโดยอารมณ์เกรี้ยวกราด ไม่เหมาะสม ที่เราควรนอบน้อมและนับถือ ที่สำคัญ มีทิฐิสูงมากกับวัดเรา (เคยบอกบุญ)
ดังที่ได้เคยบอกมาแต่ครั้งก่อนแล้วว่า เราสามารถคบคนพาลได้เพียงกรณีเดียว คือ หวังสงเคราะห์ให้เขาหรือเธอได้ดี แต่หากพบว่า ความพยายามและการกระทำของเราไม่เป็นผล หรือเกินกำลังที่เราจะช่วยแล้วล่ะก็ คุณควรวางอุเบกขาเสีย แล้วถอยห่างออกมาเถอะครับ
จะเหนื่อยเปล่าไหม เพราะ หลาย ๆ คนก็ตีตนออกห่างนั่นเอง คนสนิทชิดใกล้หนีหายหมดแล้ว
หากสถานการณ์เป็นเช่นที่คุณกล่าวมา ก็ไม่เอื้ออำนวยต่อการพิสูจน์ตัวเองหรอกครับ และไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดเลย บางครั้งกับคนพาลนี่ หากวางอุเบกขาก็แล้ว ทำตัวเหมือนคนผิงไฟก็แล้ว เขาหรือเธอก็ยังราวีเราอยู่ไม่เลิกรา เราควรลาออกแล้วปล่อยให้เขาหรือเธอเต้นไปคนเดียวเถอะครับ พอเขาหรือเธอเหนื่อยประเดี๋ยวก็หยุดเต้น ทีนี้แหละจะเริ่มได้คิดและเริ่มสำนึกตัวครับ
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#4
โพสต์เมื่อ 02 July 2006 - 02:36 PM
ต้องดูว่า ก่อนหน้านี้ เค้าเป็นคนยังไง...ลักษณะนิสัย(สันดาน)เค้าเป็นยังไง..
เหมือนว่า กำลังเสวยวิบากกรรมอยู่ค่ะ...อะไรมันก็สำแดงออกมาหมด
ต้องเข้าใจว่า คนไม่เคยมีทุกข์เรื่องเงินทอง พอเจอแล้วเจออย่างหนักแล้วหาหนทางไม่ได้
แล้วยิ่งไม่เคยคิดเตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน...
คนจีนนะค่ะ แค่ข้าวคำมื้อเดียวก็มีบุญคุณไปจนตายนะค่ะ.....เหมือนอาเหลียงในลอดลายมังกร(หากจำไม่ผิด)
มีคุณก็ต้องทดแทน...แค้นต้องให้อภัย...ผิดสำนวนจีนไปหน่อย อิอิ
เพราะฉะนั้น การที่คุณทำผ่านมา มันทดแทนบุญคุณที่เค้าช่วยเหลือไปแล้วส่วนหนึ่ง...
แต่ตอนนี้เค้ามีทุกข์ สมควรเหรอที่ เราควรทิ้งเค้าตอนนี้
ลองคิดซิค่ะ ว่าหากเป็นเรา เจอแบบเค้า เคยเป็นอยู่แบบเค้ามา
เราจะมีอาการยังไง จะหนักหรือเบากว่าเค้าก็ได้...
นั่งฝ่ายเดียว ไม่ได้ช่วยอะไรได้มากนัก อิอิ เหมือนเพลงเปล่าค่ะ
ต้องสองฝ่ายร่วมมือร่วมใจกัน...
เป็นเวลาที่ดีที่สุด ที่จะใช้วิชชาที่หลวงพ่อท่านสอนมาแล้วค่ะ
เป็นกัลยาณมิตรให้เค้านะค่ะ...ถึงแม้ว่า เค้าอาจไม่ดีหรืออาจมีอะไรไม่ถูกใจเรา..
ทนค่ะทน...แล้วหาโอกาสพาเค้ามาเลย มาที่วัด โดยไม่ต้องบอกว่า พาไปไหน...
เพียงแต่บอกว่า พักนี้เครียดไปหาที่ปล่อยเครียดกันดีกว่าครับ...เหมือนแกมบังคับ
แต่ต้องทำใจนะค่ะ อะไรก็เกิดขึ้นได้...แล้วแต่เค้าแล้วกัน...อาจจะเปลี่ยนไปในทางดีหรือไม่ดีก็ได้
ถามตัวเองก่อนว่า ช่วยเค้าสุด ๆ แล้วหรือยัง...หากยัง ช่วยเค้าต่อไปค่ะ
หากสุด ๆ แล้ว ทุกวิถีทางจริง ๆ แล้ว...ไม่มีอะไรดีขึ้น...ก็ต้องปล่อยเค้าไปสักพักค่ะ...
เป็นลูกพระธัมฯ แล้วสู้ ๆๆๆ นะค่ะ...
#5
โพสต์เมื่อ 02 July 2006 - 07:08 PM
#6
โพสต์เมื่อ 02 July 2006 - 08:10 PM
พี่น้องแตกแยกกันเรื่องเงินทองมามากต่อมากแล้วนะครับ
คุณเองต้องพิจารณาตามมงคลชีวิต ว่า เขาเป็นคนดี หรือ คนพาล
คุณจะคบคนดี หรือ คนพาล ละครับ
เรื่อง เงินทอง เป็นหนี้ ก็ต้องใช้ให้หมดในชาตินี้ นะครับ
ขออีกนิดนะครับ บุญของคุณ คงน้อยไปนิดที่จะรองรับกับธุรกิจขนาดนี้
ต้องหมั่นเติมบุญให้เข้มขึ้นนะครับ
ขอเอาใจช่วยนะครับ
#7
โพสต์เมื่อ 02 July 2006 - 10:12 PM
ช่วงนี้มีเรื่องทุกข์ขเวทนาใจอย่างแรง ก็เขียนมาปรับทุกข์กับผู้ปัญญา ณ ที่นี้
ไม่ได้นำเรื่องร้อนมาน่ะจ้ะ แค่ปรับทุกข์ วันรุ่งขึ้นก็ต้องลุกยิ้มสู้แก้ปัญญาต่อไป
แสดงว่าเบื้องต้นคุณเริ่มเห็นอริยสัจ ๔ แล้ว
ข้อแรกคือเห็นทุกข์ ทุกขอริยสัจ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ทุกขอริยสัจเป็นไฉน แม้ชาติก็เป็นทุกข์ แม้ชราก็เป็นทุกข์
แม้มรณะก็เป็นทุกข์ แม้โสกะ ปริเทวะทุกข์โทมนัสอุปายาส ก็เป็นทุกข์
แม้ความประจวบกับสิ่งไม่เป็นที่รักก็เป็นทุกข์ แม้ความพลัดพรากจากสิ่งที่รักก็เป็นทุกข์
ปรารถนาสิ่งใดไม่ได้ แม้อันนั้นก็เป็นทุกข์ โดยย่อ อุปาทานขันธ์ทั้ง ๕ เป็นทุกข์ ฯ
พระพุทธเจ้าทรงชี้ให้เห็นทุกข์และทางดับทุกข์ไว้แล้วครับ
ใช้หนี้เขาโดยไว ดอกเบี้ยตามกฏหมาย เพื่อตัดความอุปถัม สาเหตุ หลายความเห็นก็ทำนองว่า
เขามีความเป็นพาล และทนงตนเกินไป ชอบตะคอกด่าลูกน้องโดยอารมณ์เกรี้ยวกราด ไม่เหมาะสม
ที่เราควรนอบน้อมและนับถือ ที่สำคัญ มีทิฐิสูงมากกับวัดเรา (เคยบอกบุญ)
อารมณ์คนไม่แน่นอน เมื่อวานร้ายวันนี้ดี ไม่แน่นอน ทิ้งระยะเวลาไปสักพักเขาอาจจะคิดได้และ
ขอโทษเราก็ได้ ไหน ๆ เราก็รู้ทัน กิเลสและมารแล้วก็น่าจะเข้าใจเขาว่าอะไรบีบคั้นเขาให้พูดเช่นนั้น
เขาควรให้อภัยในเรื่องนี้เป็นอภัยทาน และ คุยกับเขาดี ๆ ว่าต้องการเงินคืนหรือไม่ ? ถ้าเขากำลัง
เดือดร้อนก็หามาคืนเขาเสียโดยเร็ว และไม่โกรธเคืองหรือถือสาอะไรกับเขา
จะเหนื่อยเปล่าไหม เพราะ หลาย ๆ คนก็ตีตนออกห่างนั่นเอง คนสนิทชิดใกล้หนีหายหมดแล้ว
ก็แล้วแต่สถานะการณ์ถ้าคุณรับได้และทำใจได้ก็พิสูจณ์ตัวเองใหม่ก็ได้ ถ้าไม่ไหวก็รีบทำตามข้อ ๑
ก็ยังตกรอบฟุตบอลโลกอีก (ผ่อนคลายจ้า)
ไม่เป็นไรครับ บอร์ดนี้มีแต่คนดี ๆ ทั้งนั้น ผมเข้ามาก็หวังมีกัลยาณมิตรที่คอยชี้นำทางให้
โดยอาศัยธรรมะ และประสบการณ์ของแต่ละคน แหมเสียดายผมไปธุระไม่มีเวลาดูบอลเลย
เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ อย่าว่าแต่กับผู้ใหญ่คนอื่น ๆ เลย สามีภรรยา พ่อแม่ลูกกัน ก็ยังบาดหมางกับเพราะเรื่องนี้
#8
โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 12:10 AM
ใช้หนี้เขาโดยไว ดอกเบี้ยตามกฏหมาย
ถ้าหากใช้หนี้เขาได้เร็วที่สุด ยิ่งดี
ตัดปมนี้ออกไป เคลียร์ตรงนี้ไปให้หมด
จะเกี่ยวข้องกับเขาอีกหรือไม่ คงแล้วแต่คุณค่ะ
แต่ว่าคนอื่นๆเขาก็ไม่กล้าอยู่ ไปกันหมดแล้วนะ
แสดงว่าบุคคลคนนี้ไม่น่าอยู่ด้วยหรอกค่ะ
และต่อไป เขาก็อาจพูดจาทำร้ายจิตใจคุณอีกก็ได้
#9
โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 09:04 AM
ใช้หนี้เขาโดยไว ดอกเบี้ยตามกฏหมาย เพื่อตัดความอุปถัม สาเหตุ หลายความเห็นก็ทำนองว่า เขามีความเป็นพาล และทนงตนเกินไป ชอบตะคอกด่าลูกน้องโดยอารมณ์เกรี้ยวกราด ไม่เหมาะสม ที่เราควรนอบน้อมและนับถือ ที่สำคัญ มีทิฐิสูงมากกับวัดเรา (เคยบอกบุญ)
มองว่าก็ดีนะคะ ในส่วนของ
#10
โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 09:46 AM
dmc.tv ก็ช่วยท่านได้ (อีกน่ะแหล่ะ) ไปพณาวัฒน์กันทั้งคู่เลยนะคะ แล้วชีวิตจะสดใสค่ะ
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#11
โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 11:26 AM
ดีมากเลยค่ะ
ขออนุญาตเสริมนิดนึงนะคะ
หมายเหตุ - ควรไปพนาวัฒน์กันคนละรุ่นนะคะ ถ้าไปรุ่นเดียวกัน เจอหน้ากันบ่อยๆ อาจนั่งสมาธิไม่สงบได้ค่ะ
#12
โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 06:11 PM
ยิ่งมีปัญหา ยิ่งต้องทำบุญบ่อยๆถี่ๆ นั่งสมาธิมากๆ เราพิสูจน์ตัวเราเอง ด้วยการไม่ทิ้งบุญ ไม่ทิ้งวัด ไม่ทิ้งการนั่งธรรมะค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้คุณสู้ต่อไป อย่าลืมทำการบ้านของคุณครูไม่ใหญ่ให้ครบทุกข้อ และทุกๆวันนะคะ แล้วอะไรๆจะคลี่คลายไปในทางที่ดีค่ะ
#13
โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 06:27 PM
คิดแล้วจะได้สบายใจ แล้วค่อยๆถอยห่างแบบไม่ให้เขารู้ คิดว่าเราทำดีที่สุดแล้ว
สิ่งที่เขาทำเราห้ามเขาไม่ได้ ต้องห้ามใจที่เราและให้อภัย
#14
โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 08:12 PM
อดทนให้มากๆ
เติมบุญให้กับตนเอง โดยการนั่งสมาธินานๆค่ะ
#15
โพสต์เมื่อ 04 July 2006 - 06:29 AM
แค้ก ๆ ๆ I LOVE YOU THE DMC CLUB.