ปุชฉา:ปลาสลิดอร่อยตรงไหน!!!!!
#1
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 02:19 PM
บ๊อกๆว่า อร่อยตอนใส่เข้าปากเจ้าค่ะ
#2
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 02:49 PM
ระหว่างพระเดชพระคุณหลวงปู่ และคุณยายอาจารย์
ดังนั้น กระผมจึงไม่ขอออกความเห็น
ขอ "เว้นวรรค"
นะครับคุณจอย
เ พี ย ง พ บ พ า น . . . _ เ พื่ อ ผ่ า น ภ พ
Passing by to meet you.
#3
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 02:50 PM
#4
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 02:55 PM
ระหว่างพระเดชพระคุณหลวงปู่ และคุณยายอาจารย์
ดังนั้น กระผมจึงไม่ขอออกความเห็น
ขอ "เว้นวรรค"
นะครับคุณจอย
นั่นกะแล้วเชียวว่าต้องมีที่มาของคำถาม แบบนี้จะตอบได้ไหมหละครับเนี่ย 555+
#5
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 03:12 PM
ระหว่างพระเดชพระคุณหลวงปู่ และคุณยายอาจารย์
ดังนั้น กระผมจึงไม่ขอออกความเห็น
ขอ "เว้นวรรค"
นะครับคุณจอย
แล้วจะได้คำตอบจากใครล่ะจ๊ะเนี้ย
#6
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 03:17 PM
ใครจะตอบก็ตอบไปเถอะครับ
แต่ "พบพาน"
ขอผ่าน
เว้นวรรค ๆ ๆ
เ พี ย ง พ บ พ า น . . . _ เ พื่ อ ผ่ า น ภ พ
Passing by to meet you.
#7
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 03:47 PM
จริงๆปลาสลิดไม่ได้อร่อยมากมายหรอกมันอร่อยชั่ววูบ พอกินอิ่มแล้วเอาให้กินก็ไม่กิน แต่พอเริ่มย่อย พลังงานหมดเอาใหม่อีกละ อยากกิน หึหึ
-----------------------------------------------------
แทนที่จะตั้งว่าปลาสลิดอร่อยตรงไหน ผมว่า ตั้งคำถามใหม่ดีกว่าว่าปลาสลิดกินยังไงถึงจะไม่ไห้อร่อย กินครั้งเดียวแล้วไม่อยากกินอีกเรยทำไง จะดีกว่ามั๊ยเคิ้ฟ
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.
#8
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 05:02 PM
ดังนั้น คำถาม กับ คำตอบ ข้อนี้ ผมขอผ่านครับ ไม่กล้าตอบ (อาจจะเพราะผมไม่กล้าอาจเอื้อมในคำถามที่มหาปูชนียาจารย์ทั้ง 2 ท่านโต้ตอบกันครับ...รู้สึกตะขิดขะขวงใจครับ เพราะเราเป็นลูกศิษย์ท่าน)
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#9
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 06:08 PM
แต่อยากรู้อ่ะค่ะ ใครพอจะทราบบ้างคะ ว่าท่านตอบยังไง ถือว่าเป็นวิทยาทานจะได้ไหมคะ
ท่านใช้พระธรรมกายไปดูระบบการทำงานของต่อมรับรสอาหารในลิ้นใช่รึเปล่าคะ
อยากไปรู้ไปเห็นความรู้ที่วิทยาศาสตร์ค้นไม่ถึงแบบนั้นบ้างจัง วันๆ คงไม่คิดอยากทำอย่างอื่นนอกจากทำใจหยุดใจนิ่งเป็นแน่แท้ ขอเทิดทูนมหาปูชนียาจารย์ไว้บนเศียรเกล้าค่ะ
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#10
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 06:11 PM
ข้อคิดคือเรื่องที่อยุ่รายรอบตัวเราล้วนเป็นอรรถเป็นธรรมทั้งนั้น อืม ใช่คนนี้ใกล้เคียงสุด
เพราะท่านรับประทานอาหารแต่ละมื้อเพื่อยังอัตภาพกายหยาบให้ดำรงอยู่ได้เนื่องมาจากว่าคุณยายน่ะ ไม่สนใจในรสชาตของอาหารเลย มุ่งแต่จะทำธรรมะให้ละเอียดอย่างเดียว ขอย้ำนะว่าอย่างเดียวจริงๆพอถึงเวลาทานอาหารก็ สักแต่ว่าทานให้อิ่มๆไป เท่านั้นแม้อาหาราสัมผัสกับลิ้น ท่านยังไม่สนใจรสชาตอะไรเลย
ไม่คิดน่ะไม่แแปลก แต่ยิ่งคิดกลับยิ่งแปลกนะเออเพราะฉะนั้นเวลาหลวงปู่ถาม แล้วรู้ว่าคุณยายไม่สามารถตอบได้นี่นะถึงถูกใจยิ่งนักเพราะคุณยายท่านมุ่งไปเอาธรรมะอย่างเดียวอย่างอื่นท่านไม่ใส่ใจ ไม่สนใจเลยทีเดียวนี้จึงเป็นคุณลักษณะพิเศษของผู้ที่จะสามารถศึกษาวิชชาธรรมกายได้อย่างเชี่ยวชาญท่านจึงชอบใจที่ตอบไม่ได้ เห็นไหมว่ามีข้อคิดที่ลึกซึ้ง ละเอียดอ่อนทุกย่างก้าวเสมอพอได้มาเรียนรู้ที่นี่ จึงรู้ชัดว่าครูบาอาจารย์ของเราเป็นต้นแบบได้ทุกเรื่องจริงๆ
รับบุญพิเศษ copy มาตอบเจ้าค่ะ
#11
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 06:29 PM
#12
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 07:57 PM
#13
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 09:54 PM
#14
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 09:57 PM
#15
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 11:59 PM
หึหึ ไปคนละทิศละทางเรย
ผิดงานแล้วม้างหนะ5555
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.
#16
โพสต์เมื่อ 13 May 2006 - 09:41 PM
#17
โพสต์เมื่อ 13 May 2006 - 09:50 PM
ต่อให้ปลาสลิดอร่อยขนาดไหนก็คงไม่สามารถทำให้คนไม่มีลิ้นกินแล้วชมว่าอร่อยได้หรอกครับ
ดังนั้นผู้ที่ฝึกสำรวมในกาย วาจา ใจเป็นอย่างดีย่อมไม่ยินดีแม้ในเบญจกามคุณที่เป็นเลิศนั่นเองครับ
โมทนาสาธุการกับกระทู้นี้ด้วยครับสาธุ
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#18
โพสต์เมื่อ 15 May 2006 - 09:56 AM
เหรอครับ
น่าสนใจมากเลย
แม้ชีวิตนี้ก็ให้ได้
#19
โพสต์เมื่อ 04 March 2007 - 01:36 PM