ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 2 คะแนน

ผู้ให้ดวงประทีปโคมไฟ ชื่อว่า ให้จักษุ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 9 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 วัดในดวงใจ

วัดในดวงใจ
  • Members
  • 1199 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 January 2008 - 11:21 PM

มรดกธรรมแห่งพระบรมศาสดา แก่นแท้ของพระพุทธศาสนา...ได้บังเกิดขึ้นในวันนี้

เหตุการณ์ ๔ ประการ ปรากฎพร้อมกันอย่างน่าอัศจรรย์ เรียกว่า “จาตุรงคสันนิบาต”

ตรงกับวันเพ็ญเดือน ๓ ดิถีแห่งมาฆฤกษ์ ณ เวฬุวันมหาวิหาร พุทธสาวก ๑,๒๕๐ รูป ที่ได้ยาตราไปทั่วแค้วนแดนชมพูทวีป ต่างได้กลับมาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย ซึ่งล้วนแต่เป็น เอหิภิกขุอุปสัมปทา และต่างบรรลุธรรมเป็น พระอรหันต์ ผู้ได้ชื่อว่า ชนะแล้วในสมรภูมิชีวิต

ในวันนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงประทาน โอวาทปาฏิโมกข์ ซึ่งถือเป็นหลักการ หรือ หัวใจของพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นแม่บทแก่พระอรหันตสาวกในการปฏิบัติและเผยแผ่ธรรมะให้ขจรขยายออกไป และเป็นการจรรโลงพระพุทธศาสนาให้ดำรงคงอยู่ตราบนานเท่านาน

อุดมการณ์ของชาวพุทธ คือ เป้าหมายชีวิตอันแท้จริงของชาวพุทธ ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา เมื่อปวารณาตนเป็นพุทธมามกะ ขอถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึกด้วยแล้ว ยิ่งต้องตั้งหมายให้เด่นชัด เปรียบเสมือนการวางหางเสือเรือให้ดี ย่อมไปถึงที่หมายได้โดยย่อแล้วมี ๓ ประการ คือ การไม่ทำบาปทั้งปวง การบำเพ็ญกุศลให้ถึงพร้อม และการกลั่นจิตของตนให้ผ่องใส กระทำให้เจริญขึ้นได้ด้วยการบำเพ็ญทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา นั่นเอง

ทุกครั้งเมื่อถึงวันเพ็ญเสวยมาฆฤกษ์ ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่พระจันทร์งดงามที่สุดในรอบปี ชาวพุทธทุกถ้วนหน้าต่างรำลึกถึงความสำคัญของวันนี้เมื่อกว่าสองพันห้าร้อยปีมาแล้ว พร้อมใจกันน้อมบุปผามาลาและดวงประทีปถวายเป็นพุทธบูชา อุปมาเหมือนดวงประทีปแห่งธรรมที่พระพุทธองค์ได้ทรงประทานให้เป็นหนทางสว่างแก่ชาวโลก

การจุดประทีปถวายเป็นพุทธบูชานับเป็นอริยประเพณีที่สืบเนื่องติดต่อกันมานานกว่า ๒,๐๐๐ ปี เพื่อรวมพลังแห่งดวงใจที่เต็มเปี่ยมไปได้ด้วยศรัทธาอันบริสุทธิ์ พลังแห่งความเคารพเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนทั้งหลายให้รวมในเบ้าหลอมเดียวกัน มีศูนย์รวมใจเป็นอย่างเดียวกัน ประหนึ่งว่าได้เข้าเฝ้าอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เหมือนเมื่อครั้งสมัยพุทธกาลในอดีต ดวงประทีปมาฆบูชานับแสนดวง สว่างไสวมองไปไกลสุดสายตาคล้ายดังทะเลเทียน ที่เราจะได้ร่วมกันจุดถวายเป็นพุทธบูชาในวันจันทร์ที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ ณ ลานมหาธรรมกายเจดีย์ ที่กำลังจะมาถึงนั้น ให้เรายังใจให้ชุ่มชื่นเบิกบานในบุญแล้วตั้งจิตอธิษฐานว่า

..มหาสมุทรไม่อิ่มด้วยน้ำ ไฟไม่อิ่มด้วยเชื้อ ฉันใด ขอให้ข้าพเจ้าไม่อิ่ม ไม่เบื่อ ในการสร้างบุญบารมี ฉันนั้น

...ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ไม่ประมาทในชีวิต ด้วยตระหนักดีว่า ไฟบรรลัยกัลป์แม้ลุกท่วมโลก ยังไม่ร้ายแรงเท่า ไฟราคะ ไฟโทสะ และไฟโมหะ กิเลสร้ายที่แทรกซึม แทรกซ้อนเข้าไปทำลายดวงใจมนุษย์ทุกขณะจิต

...ความสว่างของดวงประทีป ดับความมืดมิดให้หมดสิ้นไปได้ ฉันใด ขอให้ดวงใจของข้าพเจ้าปรากฎแสงสว่างแห่งดวงปัญญา ดับความมืดมิดของอวิชชาให้หมดสิ้นไปได้ ฉันนั้น

นึกตั้งความปรารถนาควบคู่ไปกับการนึกดวงแก้วกลมใส หรือ องค์พระแก้วใส ให้สว่างไสว ณ ศูนย์กลางกายตลอดเวลา เมื่อใจของเราใส สะอาดบริสุทธิ์ดีแล้ว จึงเหมาะสมเป็นภาชนะรองรับบุญกุศล ซึ่งจะเกิดจากการจุดมาฆประทีปถวายเป็นพุทธบูชาในครั้งนี้ ซึ่งจะมีมหาอานิสงส์ส่งผลให้เรามีความสุขไปทุกภพทุกชาติ มีรัศมีกายที่สว่างไสว ผิวพรรณวรรณะผุดผ่องใส สมดังพุทธพจน์ที่ว่า ทีปโท โหติ จกฺขุโท ผู้ให้ดวงประทีปโคมไฟ ชื่อว่า ให้จักษุ

มาร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในวันนี้ ที่ทรงโชนแสงแห่งธรรมส่องสว่างในดวงใจชนทั้งผอง ให้พ้นจากความมืดมิดแห่งอวิชชา ซึ่งปิดบังอำพรางเป้าหมายชีวิตอันสูงสุด ไม่อาจค้นพบความจริงของโลกและชีวิตมานานนับอสงไขยกัป เปลี่ยนความไม่รู้ ให้เป็น ความรู้ เปิดประตูสู่หนทางพระนิพพานที่ไม่มีวันย้อนกลับมาเวียนว่ายในวังวนแห่งทุกข์อีก ยังใจของมหาชนให้อิ่มเอิบ เบิกบาน ด้วยรสพระธรรม แล้วน้อมนำคำสอนอันประเสริฐเหล่านั้น มาปฏิบัติเพื่อเป็นธรรมนูญของชีวิตตลอดไป

ไฟล์แนบ


พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์

#2 วัดในดวงใจ

วัดในดวงใจ
  • Members
  • 1199 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 January 2008 - 11:28 PM

วันนี้ เป็นวันมาฆบูชามหาสมาคม เป็นวันสำคัญยิ่งวันหนึ่งของโลก และเป็นวันประวัติศาสตร์ของ การเริ่มต้นเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างมีระบบระเบียบ แบบแผน เมื่อราว ๒,๕๐๐ กว่าปีที่ผ่านมา ได้มีการประชุมใหญ่ของพระอรหันต์ ๑,๒๕๐ รูป ในวันที่พระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ เราเรียกการประชุมครั้งนั้นว่า "จาตุรงคสันนิบาต" ซึ่งพระอรหันตสาวกได้มาประชุมพร้อมเพรียงกัน โดยมิได้นัดหมายทางวาจา แต่ต่างก็รู้กันด้วยใจของพระอรหันต์ผู้หมดกิเลส ทรงอภิญญา ท่านสามารถรับรู้ได้ด้วยญาณทัสสนะ ของพระธรรมกายอรหัตผล และพระขีณาสพทุกรูปล้วนเป็น เอหิภิกขุอุปสัมปทา คือผู้ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงประทานการอุปสมบทให้ด้วยพระองค์เอง

ในการประชุมวาระพิเศษครั้งนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นประธาน และทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ ให้กับพระอรหันตสาวก ทั้งหลาย ซึ่งเป็นหลักธรรมคำสอนแม่บทในพระพุทธศาสนา อันจะนำพาชีวิต ของผู้ที่ได้นำคำสอนนี้ไปประพฤติปฏิบัติ ให้บังเกิดความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต กระทั่งทำให้สามารถ บรรลุมรรคผลนิพพานได้

พระพุทธองค์ทรงวางรากฐาน ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา โดยได้ตรัสถึงอุดมการณ์ หลักการ และวิธีการในการเผยแผ่เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อุดมการณ์คือความตั้งใจอันสูงส่ง ที่ต้องยึดมั่นเอาไว้ในใจ เพื่อให้การเผยแผ่บรรลุถึงจุดหมาย อย่างมีประสิทธิผลสูงสุด ซึ่งในเบื้องต้นจะต้องมีขันติ ดังพระดำรัสที่ว่า "ขันตี ปะระมัง ตะโป ตีติกขา" ความอดทน อดกลั้น เป็นตบะธรรมอย่างยิ่ง ต้องอดทนเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย คือนิพพาน เนื่องจากท่านผู้รู้ทั้งหลายกล่าวว่า "นิพพานัง ปะระมัง วะทันติ พุทธา" พระพุทธเจ้าทั้งหลายตรัสว่าพระนิพพานเป็นเยี่ยม และในระหว่างที่มุ่งไปสู่นิพพาน ต้องไม่เบียดเบียนทำร้ายใคร ดังพุทธพจน์ ที่ว่า "นะ หิ ปัพพะชิโต ปะรูปะฆาตี สะมะโณ โหติ ปะรัง วิเหฐะยันโต" บรรพชิตผู้ฆ่าสัตว์อื่น เบียดเบียนสัตว์อื่น ไม่ชื่อว่าสมณะเลย "เอตัง พุทธานะสาสะนัง" นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

ซึ่งการที่จะประพฤติปฏิบัติตามคำสอน จนกระทั่งทำพระนิพพานให้แจ้งได้นั้น จะต้องมีความอดทนเป็นพื้นฐาน ตั้งแต่ต้องอดทนต่อความยากลำบาก อดทนต่อการกระทบกระทั่ง อดทนต่ออำนาจกิเลสที่มาเย้ายวน และอดทนในการฝึกฝนอบรมใจให้หยุดนิ่ง ความอดทนเป็นคุณธรรมเบื้องต้น ที่จะต้องสั่งสมอบรมให้มาก เพื่อก้าวข้ามพ้นวัฏฏะ ไปสู่ฝั่งแห่งพระนิพพาน เพราะท่านผู้รู้ทั้งหลายกล่าวว่า พระนิพพานเป็นเยี่ยม

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ทรงสรรเสริญว่า พระนิพพานเป็นเยี่ยมที่สุด และเป็นเป้าหมายอันสูงสุดของทุกชีวิต ซึ่งการที่จะบรรลุพระนิพพานได้นั้น จะต้องเจริญสมาธิภาวนาให้เข้าถึงพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะภายใน ด้วยการทำใจให้หยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ เมื่อได้เข้าถึงพระรัตนตรัย แล้วจะได้เป็นกัลยาณมิตรให้แก่ชาวโลก และให้พึงสังวรระวังว่า ในขณะที่ไปทำหน้าที่กัลยาณมิตร ไปชักชวนคนมาสร้างความดี อย่าได้ไปเบียดเบียนบังคับใคร เพื่อให้เขามาเชื่อหรือมาตามเรา ให้เขาใช้สติปัญญาใคร่ครวญ ดูด้วยเหตุผลไปตามความเป็นจริง และตัดสินใจเชื่อด้วยตัวเอง ซึ่งบรรพชิตหรือนักสร้างบารมี ที่ดีควรจะทำอย่างนี้ ที่กล่าวมานี้คือคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และที่จะบังเกิดขึ้นในอนาคต พระองค์จะสอนตรงกันหมด

นอกจากนี้แล้ว พระพุทธองค์ยังทรงให้หลักการในการเผยแผ่ ซึ่งเป็นหลักวิชชาชีวิตที่สำคัญ ที่จะต้องนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน เริ่มต้นด้วยการละชั่ว ทำดี ทำใจให้ใส ทรงมีพระพุทธดำรัสว่า"สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง" การไม่ทำบาปทั้งปวง "กุสะลัสสูปะสัมปะทา" การบำเพ็ญกุศลให้ถึงพร้อม"สะจิตตะปะริโยทะปะนัง" การทำจิตของตนให้ผ่องแผ้ว "เอตัง พุทธานะสาสะนัง" นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

หลักการนี้เป็นหัวใจสำคัญ ที่พุทธบริษัททั้ง ๔ จะต้องนำไปใช้ในชีวิตจริง และเอาไปแนะนำชาวโลก โดยยึดมั่นหลัก ๓ ประการ คือ ให้เว้นจากความทุจริตทางกาย ทางวาจา และทางใจ ให้ประกอบแต่สุจริตธรรมด้วยกายด้วยวาจา ด้วยใจ และต้องหมั่นทำใจให้ผ่องใสอยู่เสมอ พูดง่ายๆ คือ ให้หักดิบเลิกทำความชั่วทุกชนิด ตั้งใจทำแต่ความดี มีทาน ศีล ภาวนา ประพฤติอ่อนน้อม ขวนขวานในกิจที่ชอบ อุทิศส่วนกุศล อนุโมทนาบุญ ฟังธรรม ให้ธรรมทาน และทำความเห็นให้ตรงต่อหนทางพระนิพพาน โดยเฉพาะบุญละเอียดที่ต้องทำให้มาก คือ ให้หมั่นเจริญสมาธิภาวนาทุกวันอย่าได้ขาด

นอกจากนี้ พระพุทธองค์ทรงให้วิธีการดำเนินชีวิต ที่ถูกต้องสมบูรณ์ เป็นหนทางไปสู่การมีชีวิต ที่บริสุทธิ์บริบูรณ์ ซึ่งมีแนวทางปฏิบัติดังต่อไปนี้คือ "อนูปะวาโท" ไม่ให้ไปว่าร้ายใคร "อนูปะฆาโต" ไม่ให้ไปทำร้ายใคร "ปาฏิโมกเข จะ สังวะโร"ให้สำรวมในศีล ถ้าเป็นบรรพชิตก็สำรวมในพระปาฏิโมกข์ "มัตตัญญุตา จะ ภัตตัสมิง" ให้รู้จักประมาณในการบริโภค "ปันตัญจะ สะยะนาสะนัง" ให้อยู่ในเสนาสนะอันสงัด "อะธิจิตเต จะ อาโยโค" ให้หมั่นประกอบความเพียรในอธิจิต "เอตัง พุทธานะสาสะนัง" นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย พระพุทธโอวาทนี้จะทำให้ผู้ปฏิบัติตาม สามารถล่วงพ้นความทุกข์เข้าถึงความสุขที่แท้จริงได้ และทำให้ก้าวพ้นความเป็นปุถุชน เข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าได้ กระทั่งได้บรรลุพระนิพพานอันเกษม โอวาทปาติโมกข์ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ คือเนติแบบแผนว่า ด้วยการเผยแผ่พระธรรมคำสอน ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อให้เป็นหลักปฏิบัติของมวลมนุษยชาติ ตลอดจนสรรพสัตว์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะมีพระสัมมา สัมพุทธเจ้ามาตรัสรู้กี่พระองค์แล้วก็ตาม ก็ยังคงมีการสืบทอดและให้ยึดหลักการ นี้ไว้เป็นแนวทางในการเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอน

ในวันนี้ เราได้พร้อมใจกันมาทำตามพระพุทธโอวาท มาประพฤติปฏิบัติธรรม เพื่อให้เข้าถึงพระรัตนตรัย ซึ่งเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด ถ้าเราได้เข้าถึงพระรัตนตรัย ก็จะได้ชื่อว่าเป็นชาวพุทธที่แท้จริง เป็นพุทธบุตร พุทธสาวก พุทธสาวิกาที่สมบูรณ์ เป็นผู้ที่จะช่วยกันจรรโลงพระพุทธศาสนา ให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป สิ่งที่เรากำลังปฏิบัติอยู่นี้ เรียกว่าการปฏิบัติบูชา เป็นการบูชาอันสูงสุดแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลาย ซึ่งเป็นทางมาแห่งมหากุศลอันยิ่งใหญ่ของเรา

เมื่อเราปรารถนาบุญใหญ่ และอยากจะให้ชีวิตของเราสมบูรณ์ ก็ต้องทำตามโอวาทของพระพุทธองค์ และปฏิบัติให้เข้าถึงพระธรรมกายให้ได้ เพราะบุญกุศล ความบริสุทธิ์ อานุภาพอันไม่มีประมาณ ล้วนประชุมรวมกันอยู่ในกลางพระธรรมกาย ซึ่งมีอยู่แล้วในตัวของเราและมนุษย์ทุกๆ คนในโลก ถ้าทุกคนทั่วโลกได้เข้าถึงพระธรรมกาย โลกก็จะพบกับสันติสุขที่แท้จริง สันติภาพอันถาวรก็จะบังเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นการปฏิบัติตามหลักโอวาทปาติโมกข์ จึงเเป็นการสร้างสันติสุข ที่แท้จริงให้บังเกิดขึ้นในโลก

ไฟล์แนบ


พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์

#3 suppy001

suppy001
  • Members
  • 2210 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 January 2008 - 05:25 AM

สุดยอด สาธุครับ

#4 บุญเย็น

บุญเย็น
  • Members
  • 812 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:thailand

โพสต์เมื่อ 23 January 2008 - 02:30 AM

สาธุ ๆๆ
นำมอ ตี่ จ่าง อ้วง ผู่ สัก

#5 JaiKaeW

JaiKaeW
  • Members
  • 149 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 January 2009 - 01:06 AM

สาูธุ ค่ะ อ่านแล้วรู้สึกขนลุก ด้วยความปีติเลยค่ะ

#6 AniwatA

AniwatA
  • Members
  • 19 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 April 2009 - 10:54 PM

happy.gif สาธุๆด้วยคับ happy.gif

#7 usr32391

usr32391
  • Members
  • 16 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 December 2009 - 07:25 PM

สาธุครับ

#8 Tree

Tree
  • Members
  • 2076 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 March 2010 - 05:55 AM

สาธุ ครับ

#9 ตะกร้าอีกใบ

ตะกร้าอีกใบ
  • Members
  • 1297 โพสต์

โพสต์เมื่อ 23 May 2010 - 08:41 PM

สาธุ
อย่าขาดการปฏิบัติธรรมแม้แต่เพียงวันเดียว
เพราะขาดแม้เพียงวันเดียว ใจเราจะหยาบ ทำให้ผังวิตกกังวลได้ช่อง

7 ส.ค. 48



#10 prat [email protected]

prat [email protected]
  • Member_Facebook
  • 1 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 September 2016 - 06:26 AM

สาธุ สาธุ สาธุค่ะ