นักศึกษาชายหญิงกินอยู่กันก่อนแต่ง
#1
โพสต์เมื่อ 12 May 2008 - 10:44 AM
ในปัจจุบัน การอยู่กินด้วยกันก่อนแต่งงานในระหว่างศึกษาเล่าเรียนของนักศึกษาชายหญิงสามารถพบเห็นได้ทั่วไป แม้จะเป็นนิสิตนักศึกษาของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงก็ตาม พฤติกรรมเหล่านี้ เป็นการสร้างค่านิยมแบบใหม่ในกลุ่มเยาวชน คือ เห็นว่า เป็นเรื่องที่ยอมรับกันได้ในสังคม(เพื่อนๆ) โดยมิได้คำนึงถึงจารีตประเพณี ศีลธรรม หรือการยอมรับของผู้ใหญ่
เมื่อชายหญิงอยู่ด้วยกัน ย่อมเป็นเรื่องยากที่จะไม่มีเพศสัมพันธ์กัน ปัญหาที่ตามมาคือการตั้งครรภ์ การทำแท้ง เรียนไม่จบ
เช่นนี้แล้ว จะสร้างค่านิยมใหม่อย่างไรดี? รวมแสดงความคิดเห็นกันนะ
#2
โพสต์เมื่อ 12 May 2008 - 11:18 AM
หากไม่มีการล่วงละเมิดทางเพศ ก็ไม่ถือว่าเป็นการประพฤติผิดในกาม แต่นะครับแต่ คุณมั่นใจแล้วหรือว่าถ้ายังอยู่ด้วยกันเช่นนี้คุณจะห้ามใจตัวเองได้ คุณเองก็รู้ดีนี่ครับว่ามันเป็นเรื่องยาก แถมคุณเองก็ยังรู้ตัวด้วยว่ายังแพ้ภัยกิเลศอยู่ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาแม้จะน้อยนิด แต่ผมก็มั่นใจว่าผมได้พบเจอมามากพอดู ทั้งกับตัวเองและที่ผมพบเจอมากับคนรอบข้าง แม้แต่ศึกษาในพระไตรปิฎกก็ตาม ผมบอกได้เลยว่า หากคุณยังอยู่ร่วมห้องเดียวกัน เป็นไปได้ยากครับที่คุณทั้งคู่จะประพฤติพรหมจรรย์ได้
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านยังเคยตรัสเป็นชาดก ในสมัยที่ท่านยังเป็นโพธิสัตว์อยู่ฝึกสมาธิจนได้ฌานสามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ยังแพ้ภัยที่เกิดจากกามเพียงแค่ได้พบเห็นเลยนะครับ แล้วนี่คุณอยู่ด้วยกันมันจะเหลือหรือครับจริงป่ะ ถ้าจะให้ดีแยกห้องกันอยู่ดีกว่าครับ หากจะคิดรักษาพรหมจรรย์ ยังไงเสียคุณก็ยังอยู่ที่เดียวกัน เพียงแต่อยู่คนละห้องกันเท่านั้น เวลาเจอกันก็ให้แค่พบปะพูดคุยกันพอหอมปากหอมคอ ไม่ถูกเนื้อต้องตัวกันเลยได้ยิ่งดีครับ แต่คุณเองก็ต้องพูดคุยกับเขาให้เข้าใจก่อนนะครับ จะได้ไม่มีปัญหาน้อยอกน้อยใจตามมาในภายหลัง
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#3
โพสต์เมื่อ 12 May 2008 - 11:59 AM
#4
โพสต์เมื่อ 12 May 2008 - 12:15 PM
#5
โพสต์เมื่อ 12 May 2008 - 11:13 PM
ไม่ต้องไปสร้างค่านิยมใหม่หรอกครับ
ของเก่ามีมานานแล้ว
ช่วยกันทำให้ทั่วโลก
อย่าว่าแต่เรื่องนี้เลยครับ
เรื่องอื่นๆ อีกมากก็จะแก้ไขไปด้วย
คำตอบคือ
ฟื้นฟูศีลธรรมโลกครับ
#6
โพสต์เมื่อ 13 May 2008 - 10:26 AM
ต้องนำวัฒนธรรมและวิถีชาวพุทธดั้งเดิมที่ดีงามกลับมาเท่านั้น
case study ของครูไม่ใหญ่ ถ้าใครได้ดูก็ช่วยได้แยะค่ะ ...ถ้าเค้ายังอยู่ในระดับที่สั่งสอนได้ ยังกลัวบาปกลัวกรรมอยู่
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#7
โพสต์เมื่อ 14 May 2008 - 03:31 PM
#8
โพสต์เมื่อ 16 May 2008 - 08:17 AM
ก็อยู่ที่ว่า จะหาวิธี สกัดจุดอ่อน กันอย่างไร ไม่ให้กำเริบ
"หยุด เป็นตัวสำเร็จ" นั่งธรรมะ ขัดใจ กันเป็นประจำทุกวัน สิคะ
แต่ก่อนจะถึงจุดนี้ ต้องมี สัมมาทิฏฐิ (รู้ดี-รู้ชั่ว รู้ถูก-รู้ผิด รู้บุญ-รู้บาป เข้าใจกฏแห่งกรรม ) เป็นพื้นฐานของทุกๆเรื่องน้อ...