กระผมมีเรื่องสงสัยมากเกิดขึ้นหลายครั้ง คือเมื่อหลับก่อนหลับก็จะภาวนาจนหลับไป ไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหน แล้วก็ฝันเห็นตัวเองไม่รู้ไปไหนมากำลังเดินขึ้นบรรไดกลับเข้ามายังห้องพัก แล้วแลเห็นศาลพระภูมิเจ้าที่ หลังจากนั้น ก็มารู้สึกตัวว่าเราไม่ได้ไปไหนเลยก็นอนอยู่นี่
ส่วนครั้งนี้ ก่อนนอนก็สวดมนต์ และนั่งภาวนา แล้วก็เข้านอนก่อนหลับก็ภาวนาไปจนหลับ ไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหน มารู้สึกตัวว่าหนาวแล้วสังเกตว่าวันนี้บริเวณหน้าต่างด้านนอกห้องมีลมพัดแรงมากเหมือนมีลมพายุ ตัวเองก็มาหลบอยู่ที่ประตู ใกล้กับโต๊ะอ่านหนังสือ แล้วมารู้สึกตัวเองว่าเราไม่ได้ลุกไปไหนนี่ก็นอนอยู่ที่เดิม
ฝันเห็นตัวเองอยู่นอกกายบ่อยๆ
เริ่มโดย คนไร้ค่า, Apr 01 2010 05:03 PM
มี 2 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 01 April 2010 - 05:03 PM
#2
โพสต์เมื่อ 01 April 2010 - 07:36 PM
พลูด่างเอง ก็เคยเป็นค่ะ นอนแบบฝัน ๆ ชอบมองเห็นว่าตัวเอง นอนอยู่บนที่นอน พลูด่าง มองเห้นมาจากมุมห้องด้านบนน่ะค่ะ ก็เคยสงสัยเหมือน
คุณ คนไร้ค่า แต่ก็ไม่กล้า ถามใคร ค่ะ พลูด่าง มารออ่านคำตอบด้วยคนนะคะ
คุณ คนไร้ค่า แต่ก็ไม่กล้า ถามใคร ค่ะ พลูด่าง มารออ่านคำตอบด้วยคนนะคะ
#3
โพสต์เมื่อ 02 April 2010 - 11:47 PM
เห็นไม่มีคนมาตอบ
ก็ขอตอบว่า ไม่ทราบค่ะ ผู้ที่นั่งสมาธิแล้วยังไม่เห็นกายในกาย และเห็นพระธรรมกายในตัว คงไม่มีใครกล้าฟันธงว่าคืออะไร คงได้แต่เพียงคาดเดาเท่านั้น และอาจไม่กล้าเดา..เพราะกลัวว่าอาจเดาผิดแล้วจะเป็นวิบากรรมติดตัว
บางครั้งเราอาจเพียงแค่ฝันไปเท่านั้น แล้วความฝันนั้นสมจริงเสียจนเราไขว้เขว
เหมือนตอนที่เราเด็ก ฝันว่าปวดฉี่ พอฉี่ใส่ที่นอนหลายครั้งเข้า เพราะกลัวกว่ากำลังฝันอยู่ ถึงขนาดตรวจสอบดูว่านี่เป็นห้องน้ำจริงหรือไม่ หันซ้ายขวาดูให้แน่ใจ แต่จนสุดท้าย..ห้องน้ำที่เห็นนั่นก็เป็นความฝันอยู่ดี แต่กลับมีความจริงที่ว่าเราฉี่ใส่ที่นอนอีกแล้ว
เรื่องที่ค้นหาคำตอบแล้ว ไม่ได้ทำให้นั่งสมาธิได้ดีขึ้น ทำใจให้ปล่อยวางได้ง่ายขึ้น ก็อย่าได้ใส่ใจมาก และเอามาเป็นอารมณ์เลยค่ะ บางครั้งที่อยากรู้ ก็เป็นเพียงแค่การตอบสนองตัณหา(คือความอยากรู้) แค่นั้นเอง
ก็ขอตอบว่า ไม่ทราบค่ะ ผู้ที่นั่งสมาธิแล้วยังไม่เห็นกายในกาย และเห็นพระธรรมกายในตัว คงไม่มีใครกล้าฟันธงว่าคืออะไร คงได้แต่เพียงคาดเดาเท่านั้น และอาจไม่กล้าเดา..เพราะกลัวว่าอาจเดาผิดแล้วจะเป็นวิบากรรมติดตัว
บางครั้งเราอาจเพียงแค่ฝันไปเท่านั้น แล้วความฝันนั้นสมจริงเสียจนเราไขว้เขว
เหมือนตอนที่เราเด็ก ฝันว่าปวดฉี่ พอฉี่ใส่ที่นอนหลายครั้งเข้า เพราะกลัวกว่ากำลังฝันอยู่ ถึงขนาดตรวจสอบดูว่านี่เป็นห้องน้ำจริงหรือไม่ หันซ้ายขวาดูให้แน่ใจ แต่จนสุดท้าย..ห้องน้ำที่เห็นนั่นก็เป็นความฝันอยู่ดี แต่กลับมีความจริงที่ว่าเราฉี่ใส่ที่นอนอีกแล้ว
เรื่องที่ค้นหาคำตอบแล้ว ไม่ได้ทำให้นั่งสมาธิได้ดีขึ้น ทำใจให้ปล่อยวางได้ง่ายขึ้น ก็อย่าได้ใส่ใจมาก และเอามาเป็นอารมณ์เลยค่ะ บางครั้งที่อยากรู้ ก็เป็นเพียงแค่การตอบสนองตัณหา(คือความอยากรู้) แค่นั้นเอง
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป