ขอขอบคุณคำเเนะนำของกัลยาณมิตรทุกท่าน
นักเลี้ยงปลา..ทำยังไงดี
เริ่มโดย usr20581, Nov 09 2007 08:15 AM
มี 10 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 09 November 2007 - 08:15 AM
คือผมต้องการปรึกษากัลยาณมิตรทุกๆท่านครับ คือว่าผมมีงานอดิเรกคือการเลี้ยงปลาสวยงาม เลี้ยงมานานเเล้วละครับ ประมาณ7ปีเเล้ว คือเป็นปลามังกร หรืออโรวาน่า ซึ่งเป็นปลาที่กินเนื้อ (กุ้งฝอยตลาดที่ตายเเล้ว) เลี้ยงอยู่ตัวเดียว เลี้ยงดูอย่างดี น้ำสะอาด ตู้เลี้ยงขนาดใหญ่ เเละทีนี้คือที่บ้านบอกว่า ไปกักขังมันทำไม ไปปล่อยเถอะ หรือไปขายก็ได้ บ่อยเข้าจนทำให้ผมเกิดการไข้วเขว เเละสงสัย ผมจึงอยากถามว่า มันบาปมากมั้ยครับ เเละควรจะทำอย่างไรดี หรือถ้าผมอยากเลี้ยงจริงๆมีอะไรเเทนกันได้บ้าง ถ้าผมเลี้ยงดูมันด้วยความรัก เเละดูแลมันอย่างดี มันเป็นสิ่งที่ผมชอบจริงๆ เเละขอถามว่า มีกัลยาณมิตรท่านใดเลี้ยงปลา สุนัข เเมว ไว้บ้างครับ ท่านมีความเห็นอย่างไรบ้าง อยากรู้จริงๆนะครับ ผมจะทำยังไงดีละครับ
ขอขอบคุณคำเเนะนำของกัลยาณมิตรทุกท่าน
ขอขอบคุณคำเเนะนำของกัลยาณมิตรทุกท่าน
#2
โพสต์เมื่อ 09 November 2007 - 09:11 AM
ลองเข้าไปดูกระทู้เก่าๆเกี่ยวกับเรื่องนี้นะคะhttp://www.dmc.tv/fo...?showtopic=3655
หรือจะSearchหาเองก็ได้ที่หน้าWeb DCM นี่แหละค่ะ อยู่ทางด้านบนสุดขวามือ จะมีช่องเล็กที่เขียนว่าค้นเว็บ และข้างๆจะมีปุ่มเล็กๆเขียวอยู่สองปุ่ม ให้เลือกที่ปุ่มแรกจะเป็นการค้นหากระทู้เก่าเกี่ยวกับเรื่องที่คุณต้องการจะหาใน Web DMC เสร็จแล้วพิมพ์คำที่คุณต้องการจะหา
อย่างเช่น "เลี้ยงปลา"
หรือจะSearchหาเองก็ได้ที่หน้าWeb DCM นี่แหละค่ะ อยู่ทางด้านบนสุดขวามือ จะมีช่องเล็กที่เขียนว่าค้นเว็บ และข้างๆจะมีปุ่มเล็กๆเขียวอยู่สองปุ่ม ให้เลือกที่ปุ่มแรกจะเป็นการค้นหากระทู้เก่าเกี่ยวกับเรื่องที่คุณต้องการจะหาใน Web DMC เสร็จแล้วพิมพ์คำที่คุณต้องการจะหา
อย่างเช่น "เลี้ยงปลา"
แม้มืดตื้อ..มืดมิด..ก็มีสิทธิ์เข้าถึงธรรม
#3
โพสต์เมื่อ 09 November 2007 - 10:08 AM
ตอบไม่ได้ค่ะแต่รู้ว่าทุกชีวิตต้องการอิสระและคงไม่มีชีวิตไหนถูกกักขังหรอกค่ะ เดาเอานะว่าถึงแม้จะเลียงในตู้แต่มันก็คับแคบไม่เหมือนว่ายอยู่ในมหาสมุทรหรอกค่ะมีพวกพ้องด้วยถึงแม้เขาจะพูดไม่ได้ก็ตามแต่ ลองเอาตัวเราเป็นหลักดูซิเวลาเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องเล็กๆแคบๆและไม่มีพื่นที่ให้ปลูกต้นไม้หรือทำกิจกรรมอย่างอื่นได้เลยที่ทำให้ชีวิตมีความสุกมากว่านี้เลยจะเป้นอย่างไร อย่างเช่นคนอยู่ห้องเช่าทำไมถึงอยากมีบ้านเดี่ยวประมาณนี้นะรู้สึกอึดอัดหรือเปล่า หลักๆก็คือทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติเขาเคยอยู่ที่ไหนก็ควรอยู่ที่นั่นน่ะแหล่ะการเป็นมิตรเป็นเพื่อนกับสัตว์และรู้สึกรักและผูกพันมากแต่สุดท้ายของทุกชีวิต วันหนึ่งก็ต้องตายจากกัน นี้คือสัจธรรมใช่ไหม และเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจากไปฝ่ายที่อยู่ก็คิดถึงเป็นทุกข์อยู่ระยะหนึ่ง และเมื่อเวลาผ่านไปมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดมาแทนความรู้สึกเป็นทุกข์นั้นก็จะเปลี่ยนไปตามกาลเวลาไม่เที่ยงแท้แน่นอนนี้คือสัจธรรม แต่สิ่งที่แน่นอนมั่นคงก็คือสัจธรรมเมื่อเห็นอย่างนี้แล้วเรายังอยากกักขังชีวิตที่เรารักไว้โดยไม่ให้อิสระแก่เขาอย่างนั้นหรือ ปล่อยเขาไปใช้ชีวิตอิสระเพื่อรอภพชาติต่อไปได้เกิดมาเป็นมนุษย์และได้สร้างบารมีน่าจะดีกว่านะ
#4
โพสต์เมื่อ 09 November 2007 - 01:13 PM
ทำอย่างไร ได้อย่างนั้น... ปลูกถั่ว ก็ได้ต้นถั่ว ปลูกแอ๊ปเปิ้ล ก็ได้ต้นแอ๊ปเปิ้ล
ต้องถามตัวคุณเอง ว่าชอบอยู่ที่แคบๆ หรือชอบอยู่ที่กว้างๆ อิสระเสรี
ถ้าปลามันพูดกับเราได้รู้เรื่อง ก็คงจะดีเนอะ จะได้ถามให้รู้กันไปเลยว่าชอบแบบไหน...
ให้รักมากอย่างไร สักวันก็ต้องจากกัน...
#5
โพสต์เมื่อ 09 November 2007 - 06:40 PM
จะเลี้ยงมันไปจนถึงเมื่อไรล่ะครับ ถ้าเราตายก่อนแล้วปลาจะเป็นอย่างไร เราจะห่วงปลามากกว่าชีวิตตัวเองหรือไม่ แล้วถ้าปลาตายก่อนเราจะเสียใจหรือไม่ ตัดใจให้อิสระมันเสียแต่เนิ่น ๆ จะดีกว่าครับ แต่ถ้ายังไม่พบวิธีการปล่อยที่ดี ๆ แล้วก็ควรเลี้ยงไปก่อนครับ ไม่แน่ใจว่าปลาแบบนี้ต้องปล่อยแบบไหนมันจึงจะอยู่รอดนะครับ
#6
โพสต์เมื่อ 09 November 2007 - 07:28 PM
ถ้าเลี้ยงเจ้าตัวนี้มานานเเล้วก้เลี้ยงต่อไปเถอะครับ เเต่ถ้ามันตายเเล้วก็อย่าไปซื้อมาเลี้ยงอีกก็เเล้วกันครับ
เพราะการเลี้ยงสัตว์ จะมีเศษกรรมในการกักขังสัตว์ ภพชาติต่อไปเวลามาเรียนหนังสือก็อาจต้องมาเช่าหออยู่อาศัย
เเละถ้าเลี้ยงเค้าไม่ดี ก็มีวิบากกรรมอีก เช่นถ้าถึงเวลาให้อาหารเเล้วไม่ได้ให้ เค้าก้จะหิวเเละโกรธได้
บางทีอาจมีเเช่งเราอีก เเถมถ้าตอนใกล้ตายใจไม่ใสนึกถึงสัตวืที่เราเลี้ยงก็อาจทำให้ไม่ได้ไปเกิดในที่สูง
เพราะใจยังผูกพันอยู่
เพราะการเลี้ยงสัตว์ จะมีเศษกรรมในการกักขังสัตว์ ภพชาติต่อไปเวลามาเรียนหนังสือก็อาจต้องมาเช่าหออยู่อาศัย
เเละถ้าเลี้ยงเค้าไม่ดี ก็มีวิบากกรรมอีก เช่นถ้าถึงเวลาให้อาหารเเล้วไม่ได้ให้ เค้าก้จะหิวเเละโกรธได้
บางทีอาจมีเเช่งเราอีก เเถมถ้าตอนใกล้ตายใจไม่ใสนึกถึงสัตวืที่เราเลี้ยงก็อาจทำให้ไม่ได้ไปเกิดในที่สูง
เพราะใจยังผูกพันอยู่
#7
โพสต์เมื่อ 10 November 2007 - 08:23 AM
จากที่ผมไปค้นมา พอจะทราบว่า ปลาอโรวน่าหรือปลามังกรที่เขาขายตามท้องตลาดนั้น เป็นปลาที่เขาเพาะพันธ์ขึ้นมาเพื่อไว้เลี้ยงเป็นปลาสวยงาม ไม่ใช่ปลาที่เกิดเองตามธรรมชาติ จึงไม่แน่ใจว่าหากเอาไปปล่อย มันจะสามารถดำรงค์ชีวิตอยู่รอดได้หรือไม่นะครับ เหมือนปลาทองน่ะครับ อยากให้คุณเจ้าของกระทู้ลองสอบถามจากนักเลี้ยงปลาหลายๆท่านดูก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกเซียนปลาทั้งหลาย ว่าหากเราปล่อยมันไปมันจะสามารถอยู่รอดในธรรมชาติได้หรือไม่ เพราะปลาสวยงามที่เขาเพราะพันธ์ขึ้นมานั้น บางชนิดก็ไม่สามารถที่จะอยู่ตามธรรมชาติได้ เพราะไม่คุ้นกับสภาพแวดล้อมและการหาอาหารจากธรรมชาติ เช่นปลาอโรวน่าของคุณเจ้าของกระทู้ ที่เลี้ยงมาในสะภาพแวดล้อมที่ใสสะอาด หากนำไปปล่อยในที่ธรรมชาติซึ่งในปัจจุบันหาแหล่งนําสะอาดยากเต็มที มันก็มีสิทธิ์ที่จะตายได้เช่นกัน ดังนั้นควรตรวจสอบเรื่องนี้ให้ดีเสียก่อนนะครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#8
โพสต์เมื่อ 10 November 2007 - 06:41 PM
ยากจังเลยเน๊อะ...แต่ถ้าไม่คิดมากก็ไม่น่าจะเป็นไรนะคะ
#9
โพสต์เมื่อ 10 November 2007 - 08:50 PM
ผมได้หักดิบเลิกอาชีพขายปลาสวยงามมาแล้ว 3 ปีกว่า ปลาที่อยู่ในร้านทั้งหมดได้นำไปปล่อยลงคลองหมดเลยครับ
#10
โพสต์เมื่อ 10 November 2007 - 10:16 PM
ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุนักเรียนอนุบาล lee072d
พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์
#11
โพสต์เมื่อ 14 November 2007 - 09:57 AM
ขอบคุณ ความเห็นของทุกท่านครับ