ขัดขวางความรัก
#1
โพสต์เมื่อ 26 September 2006 - 02:10 PM
พ่อแม่ขัดขวางลูกไม่ให้ไปรักกับคนที่ไม่เหมาะสม หรือ ดุด่าเฆี่ยนตีบุตรด้วยความหวังดี
จะมีวิบากกรรมหรือไม่ ? ภพชาติหน้าจะถูกขัดขวางเมื่อไปรักใครบ้างหรือเปล่า
กรณีนี้คือคุยดี ๆ แล้วพบว่ายังแอบดื้ออีก
#2
โพสต์เมื่อ 26 September 2006 - 02:49 PM
เคยเจอกับตัวเองเหมือนกัน เวลาที่ตัวเองมีแฟนก็มักถูกคุณพ่อคุณแม่ขัดขวาง วางแผนจะได้แต่งงานกันอยู่แล้วเชียว ก็มีเหตุทำให้ต้องมาเลิกลากันก่อนแต่ง ยังคิดกับตัวเองอยู่เหมือนกันครับว่าทำไมเราต้องมาเจอแบบนี้ไม่สมหวังสิ่งที่ต้องการ อาจเป็นเพราะเมื่อชาติที่แล้วเราไปขัดเขาแบบนี้หรือเปล่า แต่มาคิดดูอีกที ก็ดีเหมือนกัน เราจะได้ถือเพศพรหมจรรย์เสียที ว่าไหมครับ
ประกอบเหตุเช่นไรย่อมได้ผลเช่นนั้น
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#3
โพสต์เมื่อ 26 September 2006 - 02:53 PM
ช่วงวัยรุ่นวัยเด็กจะไม่ค่อยเชื่อฟัง โดยเฉพาะเรื่องนี้ (ตนเองเคยเป็น)
และมองว่าผู้ใหญ่ขัดขวาง ผู้ใหญ่ไม่เข้าใจ
แต่พอไปสักระยะหนึ่ง...เมื่อเจอปัญหา หรือผ่านพ้นวัยไปช่วงหนึ่ง...หรือวัยเป็นแม่คน
จะเข้าใจในสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำ
ดูตัวอย่างแบบ ปุ๊กกี้
ถ้าเป็นเรื่องวิบากกรรมก็คงใช่
"แต่ถูกขัดขวางไม่ให้เจอคนไม่ดี หรือถูกขัดขวางการไปเจอคนดี...กันน๊า"
#4
โพสต์เมื่อ 26 September 2006 - 03:04 PM
ถ้าว่ากันตามหลักธรรมจริงๆ แล้ว พ่อแม่ทำถูกครับ ถูกในที่นี้ คือ ถูกหน้าที่ และถูกธรรม จำได้ไหม.ในสิงคาลกสูตร ทิศเบื้องหน้าคือพ่อแม่ มีหน้าที่ต่อลูก 5 ข้อ และหนึ่งในนั้นก็คือ "หาคู่ครองให้ในสมัยเวลาที่ควร" ถ้าไม่เชื่อฟังกันในกรณีนี้ ถือว่าผิดศีลข้อที่สามนะครับ
#5
โพสต์เมื่อ 26 September 2006 - 04:45 PM
เคยมีเคสคล้ายๆ กันนี้คือ พ่อ มีลูกสาว แล้วไปหลงรักคนใช้ แต่พ่อไม่ชอบห้ามไว้ แต่ลูกสาวไม่เชื่อจนลักลอบเป็นสามีภรรยากัน พ่อโมโหจึงไล่ออกจากบ้านทั้งคู่ ลูกสาวกับลูกเขยจึงผูกเวร
ชาตินี้พ่อมาเกิดเป็นลูกชายบ้าง ส่วนลูกสาวและลูกเขยมาเกิดเป็นพ่อแม่บ้าง สลับกัน และด้วยอำนาจการผูกเวร พ่อแม่จึงดุด่าเฆี่ยนตีลูกชายสารพัดตั้งแต่ยังเด็กทีเดียว และตัดชื่อออกจากกองมรดกครับ
#6
โพสต์เมื่อ 26 September 2006 - 05:59 PM
ก็คงเป็นวิบากกรรม แต่อาจจะเป็นวิบากที่ดี
ส่งผลว่าถ้าชาติหนึ่งใด เรามีความรักแต่ไม่เหมาะสมไม่ถูกต้อง เราจะได้รับการเตือนจากพ่อแม่
ผมว่าดีนะ เป็นซึ่งที่พึงกระทำต่อลูกด้วยความหวังดี และกระทำอย่างมีขอบเขต คือความพอเพียงเหมาะสม
#7
โพสต์เมื่อ 26 September 2006 - 09:10 PM
สำหรับคำพังเพย คำนี้ จริงๆ มันเขียนว่าอย่างไรคะ
เขียนว่า หัวร้างข้างแตก หรือเปล่า ( ปกติเห็นคำพังเพย เวลาต่อคำเสียงจะคล้องกัน )
คุณหัดฝัน ลองเช็คในพจนานุกรมอีกทีนะคะ หากเช็คแล้วนำความรู้มาแบ่งปันกันนะคะ
ขอบพระคุณค่ะ
#8
โพสต์เมื่อ 26 September 2006 - 10:00 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#9
โพสต์เมื่อ 26 September 2006 - 11:25 PM
ถ้าลูกกำลังจะไปในทางที่ไม่ดีก็ต้องขัดขวาง ป้องกันไม่ให้ลูกถลำไปทางเสื่อม ก็เป็นสิทธิ-หน้าที่ของพ่อแม่นะ
แต่การขัดขวางที่ไร้เหตุผลที่ดี หรือทำการสร้างกรรมใหม่ ก็กรรมของใครก็ของคนนั้นล่ะ
#10
โพสต์เมื่อ 27 September 2006 - 01:33 AM
ความทุกข์อย่างหนึ่งของมนุษย์ก็คือความไม่สมหวังผิดหวังนี่หล่ะ รวมถึงเรื่องอกหัก
ด้วย น่าจะเป็นความทุกข์อย่างหนึ่งเพราะว่า บางรายอาจจะถึงกับฆ่าตัวตาย แม้ว่าการครองเรือน
นั้นจะมีข้อเสียหลาย ๆ อย่าง แต่บางคนก็ยังทำใจไม่ได้
อย่างผมเองก็ผิดหวังมาหลาย ๆ ครั้งจนกว่าได้พบกับภรรยาคนปัจจุบัน ก็อกหักมาไม่รู้กี่ครั้ง
แต่ละครั้งก็ทุกข์ไม่น้อย กว่าจะทำใจได้
อย่างเรื่อง พ่อแม่เห็นลูกมีความรัก แต่ว่าเห็นว่า คู่ครองไม่เหมาะสม เช่น นิสัย ความประพฤติ ฐานะ
หรือว่า อยากให้ลูก ๆ เรียนให้จบก่อน อาจจะกีดกันไม่ให้ได้พบกันอีก เช่น ย้ายไปเรียนที่อื่น ดุด่า หรือ
ถ้าไม่เชื่อก็ทำโทษบ้าง หรือหาคนที่เหมาะสมมาให้ เพื่ออนาคตลูก แต่ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งเขาทุกข์เพราะ
ต้องอกหัก ความรู้สึกนี้รุนแรงมากบางคนเสียเวลาไปนานกว่าจะทำใจได้ ถ้าทำใจไม่ได้อาจจะถึงฆ๋าตัวตาย
จากกฏแห่งกรรมเมื่อเราทำอะไรไว้โดยทำให้ผู้อื่นทุกข์ใจ ตัวเองก็ต้องได้รับผลนั้นตอบแทนใน
กรณีที่ อีกฝ่ายทุกข์จริง ๆ หรือจองเวรกัน
แต่ว่าเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่จะดูแลลูกอยู่แล้ว แบบนี้เรียกว่าพ่อแม่ก็ต้องได้รับกรรมไปโดยปริยาย
ทั้ง ๆ ที่หวังดีแท้ ๆ งงจริง ๆ ไม่รู้อะไรผิดอะไรถูก
#11
โพสต์เมื่อ 27 September 2006 - 11:45 AM
ส่วนคุณทศพลครับ การไร้วิบากกรรมอย่างสมบูรณ์ก็ทำได้ครับ โดยการบวชแล้วไปอยู่ป่า เหมือนพระโพธิสัตว์ในเรื่องสุวรรณสามชาดก แต่ในเมื่อคนเรายากจะที่เลี่ยงวิบากกรรมได้ ทั้งเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม ดังนั้น ดีที่สุดคือ ตั้งใจสั่งสมบุญทุกบุญให้เต็มที่เต็มกำลังนั่นแหละ ส่วนบาปกรรมที่หนักๆ เช่น ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ผิดในกาม โกหก ดื่มน้ำเมา ตั้งใจว่า จะไม่กระทำเด็ดขาด ทำได้เช่นนี้ ผมว่า ไม่ต้องกังวลแล้วล่ะครับ
#12
โพสต์เมื่อ 27 September 2006 - 01:28 PM
#13
โพสต์เมื่อ 28 September 2006 - 12:46 AM
ต้องถึงธรรมอย่างเสบย แน่แท้
ให้ทำอย่างที่เคย สอนสั่ง
นั่ง บ่ มีข้อแม้ จักได้ธรรมครอง
สุนทรพ่อ
มาร่วมกันสร้างสันติสุขให้กับโลกกันเถอะ
#14
โพสต์เมื่อ 28 September 2006 - 12:39 PM
ถ้าเราไปขัดขวางลูก ชาติหน้าจะได้มีคนขัดขวางเรา
จะได้ประพฤติพรหมจรรย์ ก็เป็นเรื่องดีนะคะ
-*-