ทำยังไงถึงจะลืมคนรักที่ทิ้งเราไปได้ ขอคำแนะนำหน่อยค่า
#31
โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 05:25 PM
#32
โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 05:49 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#33
โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 09:18 PM
พรุ่งนี้จะไปถวายภัตตาหารเพลด้วย จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งค่ะ
#34
โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 09:42 PM
ไม่เจอกับตัวเองมะรู้หรอก แต่ สู้ได้จะ เราอยู่ในโลกนี้ไม่นานหรอก เด๋วต้องกลับบ้านแล้ว อย่าเสียเวลา เลย
#35
โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 11:53 PM
อิอิ
#36
โพสต์เมื่อ 26 September 2006 - 09:09 AM
#37
โพสต์เมื่อ 26 September 2006 - 10:04 AM
#38
โพสต์เมื่อ 26 September 2006 - 11:36 AM
ไม่ต้องเป็นตัวเลือกอย่างนั้นแล้วมั๊ง เลือกปฏิบัติธรรมมีความสุขกว่าเยอะเลยค่ะ
#39
โพสต์เมื่อ 26 September 2006 - 01:25 PM
เพราะเข้าใจว่าคนเราเมื่อมีความผูกพันแล้วมันลืมยาก หรือลืมไม่ลง มันติดอยุ่ในใจเมื่อมีอะไรสะกิด
ขึ้นมาความรุ้สึกนั้น ภาพนั้นก็จะปรากฏขึ้นมาและอารมณ์ ความรู้สึก ต่าง ๆ เช่นมีความสุข มีความกังวล
ความห่วงใย ความรู้สึกที่ดี ๆ ความผูกพัน มันจะติดมา อธิบายตามหลักธรรมะไม่ถูก แต่ว่าบอกตามความ
รู้สึกว่าประมาณนี้ พูดแล้วก็เหมือนเคยผิดหวังในรัก ถูกแล้วครับเคยผิดหวังในรัก หลายครั้งด้วย เลยคิดว่า
ทราบความรู้สึกของเจ้าของกระทู้
พยายามใช้ทำว่า ปลง เสียให้ได้ ปลงเสียตั้งแต่ตอนนี้ ตอนนี้เขาคือแฟนแต่ถ้าแต่งงานแล้วลายเริ่ม
ออกคือเป็นคนเจ้าชู้ตอนนั้นยิ่งเสียใจมากกว่านี้ รู้ตอนนี้ก็ดีแล้ว ศีลไม่สมกัน ทิษฐิไม่สมกัน ปัญญาไม่สมกัน
แรก ๆ อาจจะมองดูว่าดีทุกอย่าง พอแต่งงานไปแล้วต้องมานั่ง ปลง เหมือนหนังเรื่องพ่อไก่แจ้ มี วลีฮิต ทั่วบ้าน
ทั่วเมืองที่สามีเจ้าชุ้ ว่า ปลงเสียเถิดแม่จำเนียร ก็ได้
แต่อย่างไรความรักไม่สมหวังนี่มันทำให้ทุกข์ ก็น่าจะเป็นบาปด้วย เพราะความทุกข์ทั้งหลายเกิดจากบาป
แบบนี้ทำควรทำบุญให้มาก ๆ เพื่อให้มีความสุข บาปสักนิดก็อย่าไปทำ ต้นเหตุแห่งทุกข์ที่ เจ้าของกระทู้ได้
เล่าให้ฟังน่าจะเกิดจาก วิบากกรรมใดกรรมหนึ่งของเจ้าของกระทู้ด้วย
สุดท้ายผมมีวลีเด็ด ที่ได้ยินจากรายการฝันในฝันจากครูไม่ใหญ่ อาจจะผิดเพี้ยนบ้างแต่ก็เป็นแนวนี้
ว่า ในสังสารวัฏนี้ไม่ต้องไปหวังอะไร หรือไปคิดอะไรมากหรอก เพราะมันมีแต่เรื่องที่คาดไม่ถึงทั้งนั้น
วลีเด็ดนี้ลองมองย้อนไปในอดีตในปัจจุบันและอนาคต เป็นความจริงอย่างยิ่ง
#40
โพสต์เมื่อ 27 September 2006 - 01:06 PM
บางครั้งการที่เราได้มีชีวิตคู่ สมหวังในรัก ก็ใช่ว่าจะสุขและอบอุ่นนะ
อย่าคาดหวังว่าเราแต่งงานกับเขาแล้วเราจะสามารถ นำพาบุคคลอันเป็นที่รักมาร่วมสร้างบารมีกับเราได้เลยค่ะ
ปัญหาจะยิ่งมากขึ้นเมื่อเราได้ อยู่เป็นครอบครัว
อย่างปัญหาที่ไม่น่าเกิด เช่น แย่งกันดูทีวี
........."คุณเป็นผู้โชคดีแล้วค่ะ ".........ที่ไม่ต้อง ทุกข์ของการครองเรือน
#41
โพสต์เมื่อ 27 September 2006 - 04:07 PM
การเป็นฝ่ายถูกทิ้งอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าพิศมัยนัก นอกจากจะทำให้เรากลายเป็นคนไม่มีสังคม หมดความเชื่อมั่น และอาจทำให้อารมณ์บูดสุด ๆ กับชีวิตรักสุดหวือหวากลายเป็นชีวิตสุดเซ็งในชั่วพริบตา แต่คุณสามารถลืมเขาได้ และกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติสุขเท่าที่เราต้องการ ตามวิธีที่เราจะแนะนำดังต่อไปนี้
- ถูกทิ้งอย่างมีศักดิ์ศรี อย่าพยายามทรมานตัวเองด้วยการหาเหตุผลว่าเขาทิ้งคุณทำไม มันไม่ใช่เวลาที่จะมาหาสาเหตุ แม้ว่าช่วงเวลาหลังถูกทิ้งจะมีแต่ความซึมเศร้าที่คุณรู้สึกเหมือนว่ามันจะคงอยู่ตลอดกาลก็ตาม แต่คุณสามารถควบคุมความรู้สึกนั้นได้มากกว่าที่คิด ลินน์ แฮร์ริส ผู้เขียนหนังสือ "He Loved Me , He Loves Me Not" บอกว่า "มันขึ้นอยู่กับตัวคุณเองว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนที่จะเลิกร้องไห้ และกลับไปมีชีวิตปกติ"
- รับมือกับความช็อค อย่าแบกทุกอย่างตามลำพัง คุณต้องการกำลังใจจากเพื่อนสนิท โทรเรียกเพื่อนมาชุมนุมและทำให้เรารู้สึกมีคุณค่ามากขึ้น เมื่อเราซึมซับความจริงที่เกิดขึ้นแล้ว เราคงฝันถึงการแก้เผ็ดร้าย ๆ และมารยาร้อยเล่มเกวียนที่จะใช้กับเขา แต่อย่าไปหาเขาเด็ดขาด ให้คุณเขียนความรู้สึกออกมา มันจะช่วยให้คุณเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นชัดเจนขึ้นและสามารถปล่อยผ่านไป และสิ่งที่คุณต้องเขียนอีกอย่างหนึ่งคือข้อดีของเขาที่ทำให้คุณ ท้ายสุดให้เก็บข้าวของทั้งหมดของเขา รวมทั้งสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เต็มไปด้วยความรู้สึก แล้ววางมันให้พ้นหูพ้นตา เป้าหมายของการทำแบบนี้ไม่ใช่เพื่อลบส่วนหนึ่งของชีวิตคุณ แต่เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นให้คุณคลุ้มคลั่งจนกว่าคุณจะเข้มแข็งขึ้น
- ยอมรับว่าเขาไม่ใช่ตัวจริง ที่แย่ที่สุดอย่างหนึ่งของการเลิกรา คือ การมารู้ว่าคุณทำผิดพลาดไป หญิงสาวที่อกหักทุกคนจะมีทางเลือกอยู่สองทาง คือ ทางแรก คุณยอมรับความจริงว่าเขาไม่ใช่คนที่เหมาะกับคุณ และเริ่มทำใจ น่าจะมีคนที่ดีกว่ารออยู่จริงไหม ? ทางที่สอง คือ คุณยึดติดกับภาพฝันว่าคุณจะต้องได้อยู่ด้วยกันเมื่อเขารู้ตัวว่าสูญเสียแค่ไหนที่ไม่มีคุณ
ความเจ็บปวดจะจางลงอย่างรวดเร็ว ถ้าคุณเข้มแข็งที่จะใช้ชีวิตตามปกติต่อไป ถ้าคุณไม่ยอมรับว่ามันจบแล้ว ความเจ็บปวดนั้นอาจจะยืดเยื้อไปอีกนาน .............
โก หิ นาโถ ปโร สิยา
อตฺตนา หิ สุทนฺเตน
นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ . . . ฯ ๑๖๐ ฯ
เราต้องพึ่งตัวเราเอง
คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
บุคคลผู้ฝึกตนดีแล้ว
ย่อมได้ที่พึ่งที่ได้แสนยาก
Oneself indeed is master of oneself,
Who else could other master be?
With oneself perfectly trained,
One obtains a refuge hard to gain
#42
โพสต์เมื่อ 27 September 2006 - 06:09 PM
รักสิ้นลมปรานเป็นบทประพันธ์
รักไม่แปรผันเป็นนิยาย
รักจนวันตายเป็นนิทาน
รักตลอดกาลเป็นละคร
รักอยู่ทุกตอนเป็นละครน้ำเน่า
รักไม่เคยเก่าเป็นจริงช่วงแรก
รักในความแปลกเป็นคำฮิต
รักด้วยชีวิตเป็นลิเก
รักไม่โลเลเป็นความฝัน
รักเธอนิรันด์เป็นชื่อเพลง
รักนะตัวเองเป็นเด็กอมมือ รักสัตย์ซื่อเป็นคำลวง
รักหมดทรวงเป็นคำติดปาก
รักเธอมากเป็นคำฮอต
รักเดียวตลอดเป็นไปไม่ได้!!!!!
โก หิ นาโถ ปโร สิยา
อตฺตนา หิ สุทนฺเตน
นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ . . . ฯ ๑๖๐ ฯ
เราต้องพึ่งตัวเราเอง
คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
บุคคลผู้ฝึกตนดีแล้ว
ย่อมได้ที่พึ่งที่ได้แสนยาก
Oneself indeed is master of oneself,
Who else could other master be?
With oneself perfectly trained,
One obtains a refuge hard to gain
#43
โพสต์เมื่อ 27 September 2006 - 06:14 PM
การที่เราจะรักใครสักคนนั้น เราต้องรู้จักให้ รู้จักที่จะอภัย และเรียนรู้ตัวตนที่แท้จริงของกันและกัน
ที่สำคัญ คือ การใช้ใจสื่อถึงใจด้วยความจริงใจต่อกันอย่างแท้จริง นั้นก็คือ ต้องหยิบเอา ความบริสุทธิ์ใจออกมาให้คนที่เรารักเห็น แล้วถ่ายทอดลงไปที่การสัมผัสกัน การจับมือกัน การโอบกอดกันที่ส่งผ่านจากความรู้สึกข้างในหัวใจอย่างแท้จริง แล้วคุณจะรับรู้ว่า ความรักนั้นแค่เพียงมีความบริสุทธิ์ใจส่งผ่านถึงกันก็เกินที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดใดๆ มันเป็นความรู้สึกที่เหนือคำบรรยายมากๆ และความรักที่แท้จริงนั้นจะทำให้เรารู้สึกอบอุ่นตลอดเวลาแม้อยู่ห่างไกลกันก็ตาม คุณเชื่อหรือไม่ว่า?
ความรักที่ทุกคนพบเจอทุกวันนี้ นอกจากความรักของพ่อแม่แล้ว อาจไม่มีใครที่เคยสัมผัส ความรักที่แท้จริงได้เลย เพียงเพราะเข้าไม่ถึงจิตใจของกันและกัน ความรักเเบบที่เรียกว่าสามีภรรยากัน สุดท้ายก็ยังมีความขัดแย้งกันอยู่เสมอ จริงอยู่ที่สุขนั้นอยู่คู่กับทุกข์ แต่ถ้าเป็นความรักที่แท้จริงนั้นจะมีแต่ความสุขอยู่ตลอดเวลาไม่จางหายแม้สักนาที ขอกล่าวถึง ความสัมพันธ์แบบลึกซึ้ง ซักนิดว่า จริงๆแล้วมีให้เลือกแค่สองแบบเท่านั้น คือคำว่า ความสัมพันธ์แบบความใคร่ กับ ความสัมพันธ์แบบความรักที่แท้จริง เปรียบเทียบง่ายๆก็คือ ผู้ชายนั้นมักจะมีอารมณ์ได้ง่าย โดยการที่มองเห็นหรือได้สัมผัสและก็สามารถเกิดขึ้นได้แม้กระทั่งแค่รูปภาพ สิ่งนี่แหละที่เรียกว่า เป็นความใคร่
แต่ในอีกมุมหนึ่งก็สามารถเปลี่ยนเป็นความรักที่แท้จริงได้ หากผู้ชายมีความจริงใจที่แท้จริง และได้กลั่นออกมาจากส่วนลึกในหัวใจแล้ว ก็จะกลายเป็นความรู้สึกที่เรียกว่า รักที่แท้จริง เช่นกัน ส่วนผู้หญิงนั้นมักจะมี ความรักเกิดก่อนที่จะยอมมีความสัมพันธ์แบบลึกซึ้งกับคนที่ตนรัก เพราะผู้หญิงโดยส่วนมากต่างต้องการแค่คำว่า จริงใจ เหมือนกันทุกคนฉะนั้น หากต่างฝ่ายต่างมีความจริงใจต่อกันอย่างแท้จริงแล้ว ก็จะกลายเป็นความรักที่แท้จริง
ส่วนคำว่า เจ้าของนั้นเกิดจากความไม่เข้าใจที่ไม่ตรงกัน จะเห็นได้ว่า มีข่าวคราวเกิดขึ้นบอ่ยครั้งเลยทีเดียว แต่ถ้าหากเราสามารถ สื่อถึงจิตใจกันได้แล้ว ก็จะเป็นไปในทางที่เข้าใจเหมือนกันตามมาด้วยเช่นกันและที่สำคัญคือ เราก็จะสามารถ เข้าใจในรักได้อย่างแท้จริง ขอพูดถึงการสื่อสารทางใจนิดหนึ่งว่า สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ ความจริงใจที่ต้องมีต่อกันอย่างแท้จริง
และการที่พร้อมจะเรียนรู้ทำความเข้าใจในจิตใจตนเองอยู่เสมอก่อนที่จะเข้าถึงจิตใจของคนที่คุณรักได้อย่างแท้จริง
#44
โพสต์เมื่อ 27 September 2006 - 06:36 PM
+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่โง่
เเต่ถ้าฟังโปเตโต้ ถึงมีรักเเท้เเต่ก็ดูเเลไม่ได้
+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ตาใส่เเจ่ม
เเต่ถ้าฟังบอดี้เเสลม มักจะโทษว่าความรักทำให้คนตาบอด
+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่เพ้อเจ้อ
เเต่ถ้าฟังพีชเมกเกอร์ จะละเมอถึงเเต่เรื่องบนเตียง
+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ปากเราติดดิสเบรก
เเต่ถ้าฟังเบิร์ด-เสก ถึงอมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ
+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ใจเราชอกช้ำ
เเต่ถ้าฟังไอน้ำ จะชอกช้ำเพราะรักคนมีเจ้าของ
+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่เหงาหงอย
เเต่ถ้าฟังเสนาหอย จะเเอบเหงาคนเดียว
+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่งมงายในความเชื่อเเละศร ัทธา
เเต่ถ้าฟังทาทา มักจะพูดว่า ไอ บีลีฟๆ
+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้รักกันอย่างไม่ต้องนอนละเม อ
เเต่ถ้าฟังไฮเปอร์ มักจะเจอรักแท้ในคืนหลอกลวง
+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ใจไม่เน่าเสีย
เเต่ถ้าฟังนัท มีเรีย มักจะโทษว่า รักไม่ช่วยอะไร
+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้รักกันจนสิ้นชีวิน
เเต่ถ้าฟังเอนโดรฟิน เเล้วจะบอกว่า ถ้าเขามาฉันจะไป
+ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เราไม่คุยโม้
เเต่ถ้าฟังโปเตโต้ จะถูกต่อว่าปากดีนะเรา
+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เรามีสุขเมื่ออยู่ด้วยกัน
เเต่ถ้าฟังน้องพั้นซ์ เพียงเเค่วางมือบนบ่า น้ำตาก็ไหล่
+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เราเจอคนดีเสมอ
เเต่ถ้าฟังไฮเปอร์ มักจะเจอผู้ร้ายคนใหม่
+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เราเข้าใจกัน
เเต่ถ้าฟังน้องพั้นซ์ บอกได้คำเดียวว่า ยิ่งกว่าเสียใจ
+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เรารักกันยิ่งกว่าชีวิน
เเต่ถ้าฟังเอนโดรฟิน จะเป็นได้เเค่เพื่อนสนิท
+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้จิตใจใสเเจ่ม
เเต่ถ้าฟังว่าน วงเเพลม จะตัดพ้อต่อว่า ไม่บอกให้รู้สักเรื่องได้ไหม
+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่เเรด
เเต่ถ้าฟังบิ๊กเเอส มักจะเล่นของสูง
+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่หยิ่งยะโส
เเต่ถ้าฟังติ๊ก ชีโร่ จะโอหังว่า รักไม่ยอมเปลี่ยนเเปลง
+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้จิตใจเปล่งปลั่ง
เเต่ถ้าฟังอาหรั่ง จะคุ้มคลั่งว่า ทำบ้า....ทำบ้าอะไร
+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ดีที่ใจมิใช่เพียงเเค่หน้า ตา
เเต่ถ้าฟังปนัดดา ก็จะรู้เพียงว่า ขอเป็นคนเลวที่รักเธอ
+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ใจไม่สั่นคลอน
เเต่ถ้าฟังสุนทราภรณ์ เเล้วเธอจะรู้สึก!!
+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่เปลืองเเรง
เเต่ถ้าฟังพรศักดิ์ ส่องเเสง จะเปลืองเเรง เพราะ
มีเมียเด็กต้องหมั่นตรวจเช็ค...
+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้สอบผ่านทุกๆ ปี
เเต่ถ้าฟังเเอน สุชาวดี มักจะติดร.วิชาลืม
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์
#45
โพสต์เมื่อ 27 September 2006 - 07:33 PM
โชคดีแล้วที่เลิกกัน เพราะฉันไม่เคยมองคนที่ดีกว่าเขาเลย แต่วันนี้ฉันจะเปิดใจฉันให้เต็มที่กับสิ่งที่ดีที่สุดกับฉันเอง
โชคดีแล้วที่เลิกกัน เพราะจะได้เข้มแข็งจากการต้องหาเลี้ยงชีพด้วยตัวเอง
โชคดีแล้วที่เลิกกัน เพราะไม่ต้องแบ่งปันให้เขาใช้ จะได้มีทรัพย์ไว้ทำบุญสร้างบารมี
โชคดีแล้วที่เลิกกัน เพราะไม่ต้องคอยกังวลเวลาห่างกัน
โชคดีแล้วที่เลิกกัน เพราะไม่ต้องมานั่งตอบคำถามว่าคนนั้นที่คุยกับเธอเป็นใครกัน
โชคดีแล้วที่เลิกกัน เพราะไม่ต้องนั่งร้องไห้ตอนวันครบรอบวันเกิดของตน เหตุจากเขาไปเที่ยวกับหญิงอื่น
โชคดีแล้วที่เลิกกัน เพราะไม่ต้องมานั่งกังวลว่าเขาเสร็จงานเลี้ยงที่บริษัทแล้ว เขาจะไปต่อกันไหมหนอ
โชคดีแล้วที่เลิกกัน เพราะไม่ต้องมานั่งลุ้นว่าเขาจะจำวันครบรอบแต่งงานได้หรือไม่หนอ
โชคดีแล้วที่เลิกกัน เพราะไม่ต้องมานั่งเหนื่อย เตรียมการสารพัดในวันแต่งงาน
โชคดีแล้วที่เลิกกัน เพราะไม่ต้องมาตื่นตอน ตีหนึ่ง ตีสอง เพื่อให้นมลูก
โชคดีแล้วที่เลิกกัน เพราะไม่ต้องมานั่งจัดเสื้อผ้าให้เธอ ให้ลูก ให้ทุกคน ก่อนไปทำงาน
โชคดีแล้วที่เลิกกัน เพราะไม่ต้องมานั่งบอกเราไปยืมเงิน คุณพ่อ คุณแม่ เพื่อนๆ ญาติๆ เวลาเขาเงินขาดมือ
โชคดีแล้วที่เลิกกัน เพราะ...... เพื่อนๆ ช่วยต่อให้หน่อยครับ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
..............ครับ วันข้างหน้าปุถุชนย่อมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตน
..............ครับ ความสุขก็เป็นที่หวังแม้จะเป็นเพียงปุถุชน
..............ครับ ความรัก ทำให้มีสุขอย่างยิ่งเวลามัน
..............ครับ ความรักเมื่อกาลเวลาผ่านไปมันเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าใจของปุถุชนเสียอีก
..............ครับ หากความรักชายหญิงเป็นเช่นนี้พูดให้ตายเพียงแค่รู้ แต่เข้าใจมันจริงๆ ตอนเลิกกัน
สำหรับคุณ NU คุณเพียงต้องการเวลาช่วงหนึ่งเท่านั้นครับ แล้วทุกอย่างจะกลับดีเอง
[quote]..............ครับ ความรัก ทำให้มีสุขอย่างยิ่งเวลามัน [/quote]
ขอแก้ไขเป็น
.........ครับ ความรัก ทำให้มีสุขอย่างยิ่งเวลามันยังอยู่กับเรา
#46
โพสต์เมื่อ 27 September 2006 - 07:39 PM
ตอนนี้เป็นอย่างนี้จริง ๆ ค่ะ ฝันไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าซักวันหนึ่งเขาจะกลับมาเพราะเห็นในความรักที่เรามีต่อเขา
ขอบคุณค่ะทีให้กำลังใจ เลิกร้องไห้มาราธอนแล้ว ( แต่ยังมีบ้างเป็นช่วง ๆ )
#47
โพสต์เมื่อ 27 September 2006 - 08:27 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#48 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 19 July 2011 - 12:13 PM